บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5.

ประตูเปิดออกเจ้าของห้องนั่งนิ่งบนเก้าอี้นวม วงหน้าคมเข้มหล่อเหลาเรียบเฉยเย็นชานัก ดวงตาสีนิลดำขลับวาวระยับเหมือนประกายเพชรจ้องมองผู้มาเยือนนิ่ง

นลินดาชะงักงัน... รู้สึกคุ้นตาเหลือเกิน ราวกับไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นแววตาแบบนี้

แต่...เคยเห็นที่ไหนกันหนอ...

เงาร่างของใครบางคนวาบเข้ามาซ้อนทับร่างตรงหน้า รอยยิ้มอ่อนหวานตรึงตรา... ก่อนจะพร่าพรายเลือนหายไปเมื่อกะพริบตา

หัวใจวิบไหว เต้นรัวแรง คลื่นความอบอุ่นแผ่ซ่านห่มคลุมหัวใจทีละน้อย... ร่างกายเบาหวิวเหมือนปุยนุ่นโดนลมพัดปลิว

อ่อนละเอียด...หวานละมุน...ในทุกอณูของวิญญาณ ความรู้สึกบอกตัวเองว่าใช่... เจอแล้ว...

อาการนิ่งงันราวกับต้องมนต์ของสตรีร่างบางตรงหน้า ทำให้ริมฝีปากบางเฉียบยกขอบคล้ายสตรีเป็นสีแดงระเรื่อแย้มเล็กน้อยมองเห็นไรฟันขาวสะอาด เรียวคิ้วดกหนาบนจมูกเป็นสันโด่งงามเลิกขึ้นในทำนองขบขัน

“อะแฮ่ม... นี่คือคุณรวินท์ เจ้าของสปาแห่งนี้ค่ะ”เลขาสาวกระแอมดังๆ พลางแนะนำให้ผู้มาสัมภาษณ์รู้จักเจ้าของห้อง

“เอ่อ...สะ...สวัสดีค่ะ”

นลินดาได้สติเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก มือเรียวบางยกขึ้นพนมมือไหว้อีกฝ่ายทันที พร้อมส่งยิ้มอ่อนๆให้อย่างขัดเขิน แก้มนวลร้อนวาบเจือสีกลีบกุหลาบ ดวงตาคู่สวยหรุบลงมองพื้นไม่กล้าสบตาคมกริบที่ทอดมองมา หัวใจยังไม่หยุดเต้นรัว

รวินท์มองหญิงสาวตรงหน้าอย่างพินิจ ใบหน้าเรียวได้รูปรับกับริมฝีปากอิ่มเคลือบลิปสติกสีชมพูอ่อน ดวงตากลมโตแต้มแต่งด้วยเครื่องสำอางบางๆมีแววสดใส ผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มถูกรวบไว้ด้านหลัง เผยให้เห็นช่วงคองามระหง รูปร่างของเจ้าหล่อนบอบบางเพรียวอย่างกับนางแบบหลุดออกมาจากหนังสือแฟชั่น ยามมองใบหน้าอ่อนใสนั้น ความรู้สึกบางอย่างวาบเข้ามาในสมอง ดวงตาคู่นั้นช่างเจนตาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน หากหาคำตอบไม่ได้ ว่า..ที่ไหน หัวใจวาบไหวอย่างที่ไม่เคยเป็น รวินท์สะกดความรู้สึกนั้นให้อยู่แต่ภายใน ไม่ให้ผ่านออกมาให้ใครสัมผัสได้

“เชิญนั่งก่อนสิ”เจ้าของสปาผายมือไปยังเก้าอี้ สายตาไม่ละจากวงหน้าอ่อนใส

“ขอบคุณค่ะ”นลินดานั่งลงตรงกันข้าม “ดิฉันจะมาสมัครเป็นเทอราปิสค่ะ”

หลังจากตั้งสติได้แล้ว หญิงสาวพยายามระงับความตื่นเต้นให้ลดน้อยลง ดวงตาคู่สวยมองใบหน้าเจ้าของสปาหนุ่ม ก่อนจะเบนสายตาหลบเมื่อเห็นสายตาของอีกฝ่ายจ้องมา

รวินท์หยิบเอกสารการสมัครงานมาตรวจดูอีกครั้ง พลางตั้งข้อสังเกตในใจ หญิงสาวคนนี้เจาะจงตำแหน่งเทอราปิสตำแหน่งเดียวเลยหรือไง รูปร่างหน้าตาแบบนี้เหมาะจะเป็นรีเซฟชั่นคอยต้อนรับลูกค้ามากกว่า เจ้าของสปากราดสายตาไปทั่วร่างบางอย่างใช้ความคิด ก่อนจะเอ่ยถามว่า

“คิดยังไงถึงมาสมัครเป็นเทอราปิส”

“ดิฉันอยากเป็นเทอราปิสค่ะ”นลินดาตอบเสียงดังฟังชัด

เป็นคำตอบแบบกำปั้นทุบดินที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา ทำเอาคนถามส่ายหน้า นี่เจ้าหล่อนไม่คิดจะหาคำตอบที่ฟังดูเข้าท่ากว่านี้ มาตอบเขาบ้างหรือยังไง เจ้าของสปาหนุ่มถอนหายใจยาว จ้องหน้าหญิงสาวนิ่งน้ำเสียงจริงจัง

“เทอราปิสไม่ใช่งานที่ใครอยากทำก็ทำได้ รู้ไหมเป็นเทอราปิสน่ะเหนื่อยนะ”

“ดิฉันทำได้ค่ะ”นลินดายืนยันน้ำเสียงหนักแน่น

“คุณไม่เหมาะที่จะเป็นเทอราปิสหรอก รูปร่างหน้าตาอย่างคุณ เหมาะจะเป็นรีเซฟชั่นมากกว่า เท่าที่ดูวุฒิการศึกษาของคุณ ผมว่าคุณทำงานในตำแหน่งนี้ได้”

เสียงที่เอ่ยราวกับไม่มั่นใจในความสามารถ แววตาคมทอดมาคล้ายจะประเมินศักยภาพของหญิงสาวในที ทำให้คนถูกมองรู้สึกหน้าร้อน กับสายตากึ่งสบประมาทของอีกฝ่าย

“ดิฉันเรียนนวดมาแล้วค่ะ มั่นใจว่ามีความสามารถทำงานเป็นเทอราปิสได้ค่ะ”คำตอบเน้นหนักราวกับจะยืนยันให้น่าเชื่อถือ ดวงตากลมจ้องตาอีกฝ่ายไม่หลบ

“มั่นใจขนาดนั้นเชี้ยว...”เจ้าของสปาลากเสียง ริมฝีปากแย้มนิดๆราวกับขบขันเต็มทน

น้ำเสียงแกมเยาะกับดวงตาหยันจ้องมา ทำให้คนฟังอารมณ์พุ่งปรี๊ด อาการหลงรูปคนหล่อละลายหายวับไปเหมือนน้ำค้างโดนแดด สิ่งที่นลินดาทนไม่ได้คือการถูกดูถูกดูแคลน ทั้งที่อีกฝ่ายยังไม่ทันได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของเธอเลย

“ถ้าคุณอยากทดสอบฝีมือ ดิฉันพร้อมค่ะ ตอนนี้ก็ยังได้”หญิงสาวขึ้นเสียงดังอย่างลืมตัว ใบหน้างามเชิดดวงตาเป็นประกายกล้า ไหล่ตั้งตรงพร้อมต่อกรกับอีกฝ่ายเต็มที่

“อืม... เอางั้นเลยเหรอ”

เจ้าของสปาอมยิ้ม มือหนาลูบคางไปมาพยายามกลั้นหัวเราะ มองท่าทางของหญิงสาวตัวเล็กอย่างเอ็นดู เขาคงต้องลองฤทธิ์แม่พริกขี้หนูเม็ดนี้ดูสักหน่อย ว่าจะมีพิษสงร้ายกาจอย่างที่เจ้าตัวอวดอ้างหรือเปล่า

“คุณน้ำช่วยจัดห้องให้หน่อยนะ ผมจะทดสอบฝีมือคนสมัครงานหน่อย”

เขาหันไปสั่งเลขาสาว ก่อนจะหันกลับมามองหน้าคนมาสมัครงาน ดวงตาคมเข้มทอดมองนิ่ง ทำเอาคนถูกจ้องร้อนๆหนาวๆวูบวาบ แต่ใจทำใจแข็งไม่ยอมหลบตาอีกฝ่ายกลัวเขาหาว่าแหย

“แต่ถ้าคุณทดสอบไม่ผ่าน คุณต้องเปลี่ยนตำแหน่งเป็นรีเซฟชั่นแทน โอเคมั้ย”เจ้าของสปายื่นข้อเสนอใหม่

“ฉันต้องได้ทำงานเป็นเทอราปิสคอยดูสิ! ”นลินดายืนยันความต้องการเดิม ไม่ยอมรับข้อเสนอที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้

ระหว่างที่รอเรียกตัวไปทดสอบ นลินดามองหน้าเพื่อนสนิท หน้าตาไม่สู้ดี เหงื่อเม็ดเล็กๆไหลซึมเต็มหน้าผาก จนต้องหยิบกระดาษซับมันมาซับยิกๆ

“ฉันจะทำได้ไหมดาว นี่เป็นครั้งแรกนะที่ฉันต้องนวดคนอื่น นอกจากพวกเรากันเอง”นลินดารู้สึกกังวลขึ้นมา ทั้งที่เมื่อครู่มั่นอกมั่นใจนักหนา พอถึงเวลาเข้าจริงๆ ใจเจ้ากรรม

กับฝ่อเหี่ยว ไม่ฮึกเหิมเหมือนกับที่อวดอ้างต่อเจ้าของสปาหนุ่ม

“ซีเรียสไปได้ จะนวดใครก็เหมือนๆกันนั่นแหละ อย่าตื่นเต้นจนนวดผิดๆถูกๆล่ะ เสียชื่ออาจารย์หมด”เนตรดาวปลอบใจ

“ฉันยังปอดๆอยู่ดี ไม่รู้วิชาที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมาสองเดือนนี่ จะใช้ได้ผลหรือเปล่า”

น้ำเสียงคนพูดยังไม่คลายกังวล จนคนฟังชักจะรำคาญ ตลอดสองเดือนที่ผ่านมานลินดาฝึกฝนการนวดมาอย่างหนัก ฝีไม้ลายมือในการนวดของเพื่อนสาวเข้าขั้น แม้ไม่เก่งกาจเท่าคนที่มีประสบการณ์มานานปี แต่ใช่จะแย่จนทำให้ขาดความมั่นใจ

“อะ...ลองนวดแขนฉันดูหน่อย” เนตรดาวยื่นแขนให้เพื่อนทดสอบฝีมือ เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้อีกฝ่าย

นลินดาประคองแขนไว้ด้วยมือซ้าย นิ้วมือขวาออกแรงกดๆ คลึงๆตามแนวเส้นจนทั่วแขนตามที่ได้เรียนมา ครู่หนึ่งเจ้าของแขนพยักหน้าให้ คนนวดจึงปล่อยมือ

“เป็นไงมั่ง ใช้ได้หรือเปล่า”ดวงตากลมโตมองหน้าเพื่อน แววตาหวั่นๆ น้ำเสียงอ่อนเบา

“อือ...แรงดี นวดโดนทุกเส้น”เนตรดาวพยักหน้าหงึกๆ “เวลาทดสอบ ทำให้ได้อย่างนี้นะ อย่าให้เสียชื่อล่ะ”

นลินดาสีหน้าดีขึ้น มือบางกำแน่น เอาเถอะเป็นไงเป็นกัน... ลองดูสิว่า เธอจะทำได้หรือเปล่า อุตส่าห์ลงทุนไปเรียนนวดมาจนนิ้วแทบหัก จะตกม้าตายตอนจบให้มันรู้ไป หญิงสาวฮึดสู้

นลินดาทดสอบฝีมือกับเจ้าของสปาหนุ่มอย่างทุลักทุเล รวินท์นอนสบายให้หญิงสาวนวดเขาทั้งตัวร่วมชั่วโมง ขณะที่เนตรดาวซึ่งทดสอบฝีมืออยู่อีกห้องกับเทรนเนอร์ของสปา ใช้เวลาทดสอบฝีมือแค่ยี่สิบนาที

รวินท์นอนคว่ำหน้ากับหมอนนุ่ม ในขณะที่นลินดากำลังนั่งคุกเข่าใช้มือนวดหลังให้เขาอยู่อย่างอดทน นิ้วโป้งทำหน้าที่กดไล่ไปตามเส้นสายบริเวณแผ่นหลัง

“อื้อ...ตรงนั้นแหละเน้นๆหน่อย มีแรงรึเปล่า”พอนวดมาถึงจุดที่ปวดเมื่อย รวินท์ก็จะส่งเสียงร้องให้หญิงสาวลงน้ำหนักแรงๆ

เทอราปิสมือใหม่ขบฟันแน่น เอาความโมโหเป็นแรงขับให้ตัวเองมีแรงฮึดสู้ สายตาวาวๆมองคนทดสอบที่นอนหลับตาพริ้ม ครางอืออาท่าทางสบายอารมณ์ อย่างหมั่นไส้

“ลุกขึ้นนั่งได้แล้วค่ะ ฉันจะนวดไหล่ให้”เมื่อนวดทั่วบริเวณแล้วนลินดาจึงรามือจากแผ่นหลังกว้าง

“ยังไม่หายเมื่อยเลย”

รวินท์ไม่ยอมลุกง่ายๆ เขาบิดตัวไปมาราวกับเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเต็มประดา กว่าจะยอมลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิก็ร่วมห้านาที นลินดามองเจ้าของสปาด้วยสายตาขุ่นเขียว หากไม่เพราะเธอจำเป็นต้องมาทำงานที่นี่ หญิงสาวคงไม่อดทนถึงขนาดนี้ อาจระงับอารมณ์ไม่อยู่จัดการเขาจนเขียวไปทั้งตัว ไม่ปล่อยให้นอนพร่ำบงการให้ทำนู่นทำนี่แบบนี้หรอก

“ยังเมื่อยตรงไหนอยู่คะ ฉันจะจัดการให้”นลินดากัดฟันพูดเสียงเรียบ บังคับไม่ให้มือเลื่อนไปบีบคอคนชอบออกคำสั่ง

“ตรงเอวกับตรงหลัง”รวินท์ขยับตัวไปมา มือชี้ดะไปเรื่อย “และก็...อืม...ลืมไปแล้ว นวดๆไปเหอะ”

นลินดาเริ่มหมดความอดทน หญิงสาวยิ้มเหี้ยมจ้องมองแผ่นหลังหนากำยำ ของคนที่นั่งหลับตาพริ้ม ก่อนจะงัดไม้ตายที่เก็บไว้ออกมาใช้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel