EP 06 จำคำพูดเอาไว้
ตลอดเวลาที่ผู้ใหญ่สองฝ่ายพากันคุยเรื่องแผนงานในการเปิดตัวเครื่องเพชรชุดต่อไป คนโปรดก็เอาแต่จ้องร่างบางจนเธอเริ่มประหม่าและก้มหน้าก้มตากินของหวานไม่หยุดปาก
ปริ้นเซสคือผู้หญิงคนเดียวกันกับคืนนั้นเมื่อสองเดือนก่อน คืนที่เขามีอะไรกับผู้หญิงคนหนึ่งโดยไม่ทันรู้ตัวว่าได้ป้องกันหรือเปล่า เมื่อนึกถึงตอนนี้ สายตาของร่างแกร่งก็มองต่ำไปที่ท้องของเธอ
"อย่ากินเยอะนะลูก ของหวานมันไม่ดีกับคนท้อง" ดนัยเอ่ยเตือนลูกของตัวเองด้วยความเป็นห่วง ตอนแรกเขาตกใจไม่น้อยเมื่อจู่ ๆ ลูกสาวก็เดินมาบอกว่าท้อง ที่ตกใจยิ่งกว่าคือปริ้นเซสให้คำตอบไม่ได้ว่าพ่อของเด็กคือใคร
"โอเคค่ะ งั้นหนูขอออกไปสูดอากาศข้างนอกหน่อยนะคะ" เธออยู่ไม่ได้แน่หากถูกกดดันด้วยสายตาแบบนี้ ไม่เพียงแค่เขาที่จำได้ เธอเองก็จำได้เหมือนกัน หากถามว่าทำไมเธอไม่เรียกร้องเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มเป็นพ่อของเด็ก
อาจจะเพราะคำถามของเขาที่ยังตรึงในหัวเธอว่าเธอใช้ลูกคุณหนูในคืนนั้นรึเปล่า อีกประโยคคือที่เขากำชับนักหนาว่าจะไม่มีการรับผิดชอบใด ๆ เกิดขึ้น เรื่องนั้นปริ้นเซสจำได้ดี เธอเป็นคนร้องขอให้เขาทำมัน จะโทษเขาได้ยังไง
"เดี๋ยวไปพร้อมพี่ก็ได้ พี่อยากไปสูดอากาศพอดี" เธอถึงกับใจสั่น ยิ่งหนีเหมือนเขาจะยิ่งตาม สุดท้ายก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะพ่อของเธอเห็นดีเห็นงามที่จะให้เขาออกมาเป็นเพื่อนเนื่องจากกลัวว่าลูกสาวจะไม่ทันระวังและเกิดล้มเข้า
"ท้องกี่เดือนแล้ว" คนโปรดเอ่ยถามหลังจากที่อยู่กับสองคน น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเมื่อตรงนี้ไม่มีผู้ใหญ่ มันเรียบนิ่งจนอีกฝ่ายถึงกับกลัว
"สะ..สองค่ะ" เธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับอีกคนเวลาตอบ
"จำฉันได้?"
"จำได้เรื่องอะไรเหรอคะ?" ปริ้นเซสทำใจดีสู้เสือ เพื่อหวังว่าจะรอดตัวจากการจับผิดของอีกคนได้
"จำไม่ได้แล้วกลัวอะไร?" คนโปรดดูออกว่าเธอรู้แน่ ๆ เรื่องคืนนั้นว่าเป็นเขาไม่งั้นเธอจะกลัวเขาทำไม
"ปริ้นไม่ได้กลัว" เธอสบสายตาเขาตอนที่พูดออกไป แต่แล้วก็ต้องเป็นฝ่ายหลบเสียเอง เมื่อเขาจ้องกลับอย่างไม่ยอมแพ้
"งั้นเหรอ ไม่ได้กลัวเหรอ?" ร่างแกร่งเดินหน้าเข้าอีกฝ่ายเหมือนกำลังจะคุกคาม ก่อนจะยกแขนสองข้างกั้นตัวของเธอเอาไว้
"หลบนะคุณคนโปรด" ปริ้นเซสพูดเสียงแข็ง เธอไม่ใช่คนประเภทที่จะยอมใคร ที่ยอมในตอนแรกเพียงเพราะไม่อยากจะคุยกับเขาหรือรู้จักไปมากกว่านี้
"ไปบอกพ่อของเธอว่าฉันจะไปสู่ขอ"
"คุณจะบ้าหรือไง เราสองคนไม่ได้รู้จักกัน!" ร่างบางโวยวายออกมาเสียงดัง โชคดีที่ตรงนี้ไม่มีใคร ไม่งั้นแน่นอนว่าคงเป็นจุดสนใจของคนอื่นแน่ ๆ
"ใช่ เราสองคนไม่รู้จักกัน แต่เด็กในท้องไม่ได้มีสายเลือดของเธอคนเดียว เขามีเลือดของฉันด้วย!" คนโปรดเริ่มระงับอารมณ์ไม่อยู่ เขาไม่ชอบให้ใครขึ้นเสียง การถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจนั่นทำให้อีกฝ่ายไม่ชอบการกระทำของความอวดดี
“ลูกเป็นของปริ้นคนเดียว”
“ถ้าฉันไม่เอาเธอคืนนั้น เธอจะมีลูกได้ไงว่ะ โง่หรือไง?!” ร่างแกร่งเผลอตัวบีบแขนของหญิงสาวอย่างแรง จนเธอเบ้หน้าเพราะความเจ็บปวด
“ไม่ต้องมารับผิดชอบ ปริ้นไม่ต้องการ!”
“งั้นมาดูกัน ว่าพ่อเธอจะยอมแบบนั้นด้วยมั้ย” เขาหมุนตัวเตรียมจะเดินกลับเข้าไปในงานเพื่อบอกความจริงกับผู้ใหญ่ด้านใน แต่ดูเหมือนว่าร่างบางไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้
“อย่านะคุณโปรด” เธอคว้าแขนของชายหนุ่มเอาไว้ พร้อมน้ำตาที่คลอด้วยความกลัว
“ฉันให้เวลาเธอสองอาทิตย์ บอกความจริงกับพ่อเธอแล้วฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างที่เกิดเอง” คนโปรดสะบัดแขนของเธอออกก่อนกระชับสูทและเดินกลับเข้าไปในงานโดยไม่สนผู้หญิงที่ร้องไห้อยู่เลย
“ไอโปรด นั่น..” เดินยังไม่ถึงประตู นำทัพก็ออกมาดักเพื่อนชาย เขาได้ยินทุกอย่างที่คนโปรดคุยกับเธอ
“อืม ผู้หญิงคืนนั้น มันท้อง โง่หรือไงว่ะไม่แดกยาคุมเนี่ย” เขาหัวเสียมาก แต่จะให้ใจร้ายทำไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับเรื่องที่เกิด คนโปรดทำไม่ได้
เพราะหากเขาไม่รับความผิดที่ตัวเองทำ เธอต้องแบกรับทุกอย่างไว้เพียงคนเดียว ไหนจะอุ้มท้องและแรงกดดันหากมีใครรู้ว่าเธอท้องไม่มีพ่อ ต่อให้เขาไม่ได้รัก แต่เขารู้ว่าควรทำยังไง
“มึงจะทำยังไง?”
“กูเลือกได้เหรอ มีทางออกไหนบ้างนอกจากรับผิดชอบสิ่งที่เกิด” สีหน้าที่ไม่สู้ดีของเพื่อน ใบหน้าที่ซีดเซียว ทำเอานำทัพเห็นใจ
“มึงจะรับผิดชอบแบบไหน?”
“แต่งงาน”
“มึงบ้าไปแล้วไอโปรด!” นำทัพไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ของชายหนุ่ม
“ทำไม?”
“มึงไม่ได้รักเธอ แต่งไปวันหนึ่งก็ต้องหย่ากัน คิดบ้างว่าผลมันกระทบกับเด็ก” คนโปรดคิดตามที่เพื่อนพูด แต่ไม่ได้คิดจะยกเลิกสิ่งที่ทำ
“รักไม่รักก็ช่างมัน รู้แค่ลูกกูต้องมีพ่อและแม่ครบ เรื่องหย่าแน่นอนว่ากูไม่หย่า” เขาอาจจะเห็นแก่ตัว แต่ถ้ามันคือทางเลือกที่ดีให้กับเด็กที่กำลังจะเกิด ต่อให้ต้องทำมากกว่านี้ชายหนุ่มก็จะทำมัน
“ครอบครัวที่สมบูรณ์มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการมีพ่อแม่อย่างเดียวนะไอโปรด ความรักก็สำคัญมึงรู้ใช่มั้ย ดูอย่างคู่ของดิสนีย์กับสามีเขาสิ” ร่างแกร่งชะงักเมื่อได้ยินชื่อคนที่เขารักหมดหัวใจ
“อยู่ ๆ ไปเดี๋ยวก็รัก” เขาตอบเพื่อนส่ง ๆ เพราะไม่อยากให้นำทัพเซ้าซี้ไปมากกว่านี้
“มึงคิดว่ามึงจะรักเขาลงเหรอ ใจทั้งใจมึงยังมีแต่ดิสนีย์อยู่เลย และต่อให้วันหนึ่งมึงเปลี่ยนไป ผู้หญิงคนนั้นเขาจะรับได้มั้ยที่ก่อนหน้ามึงจะรักเธอจริง มึงยังมีแต่อีกคนในความคิด?”
“มันจะคิดยังไงก็เรื่องของมัน เรื่องวันนั้นมันยังไม่เกิด กูจะรักมันก่อน หรือมันจะรักกูก่อน ไม่รู้ว่าที่ปล่อยท้องอยากจะจับกูรึเปล่า” คนโปรดคิดไม่ตก เพราะคนเราโตจนเรียนจบแล้ว ไม่รู้หรือไงว่ามีอะไรกับคนแปลกหน้าก็ควรป้องกัน
“จำคำพูดของมึงวันนี้ให้ดี อย่าให้กูเห็นซมซานเพราะคำว่าเรื่องของมันในวันนี้ก็แล้วกัน” นำทัพถอนหายใจก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป ปล่อยให้คนโปรดทบทวนตัวเองเผื่อว่าเขาจะเปลี่ยนใจ
