๓ ระหว่างเราแสนห่างไกล (๔)
เพียงแค่ประโยคเดียวก็ทำให้ร่างสูงยิ้มกว้าง ตั้งใจขับรถเพื่อไปส่งเพื่อนของตนให้ถึงมือคนที่หล่อนรัก ระหว่างทางก็เปิดเพลงฟังแล้วให้เธอระบายความในใจ ถึงเขาจะเจ็บแต่แค่เห็นเธอกลับมายิ้มได้อีกครั้งก็ถือเป็นความสุขแล้ว
ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงครึ่งก็ขับรถมาถึงจุดหมาย ก่อนหน้านี้เขาโทรถามเลขานุการของพี่ชายแล้ว จึงทราบว่าอีกฝ่ายมาดูงานอยู่โรงแรมในเครือ จอดรถไว้ยังช่องวีไอพีก่อนพาเธอเดินเข้ามาด้านใน ไม่รู้ว่ากวินอยู่ที่ไหน
“คีน แยม...มาได้ยังไง” กระทั่งได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยเรียก จึงหันไปมองพบกับผู้บริหารรูปหล่อสวมชุดไปรเวทเดินเข้ามาหา สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจที่เห็นน้องชายกับคู่หมั้นของตัวเองโผล่มาที่นี่ คิดว่าทั้งสองควรจะลองชุดแต่งงานไม่ใช่หรือไง
คีตภัทรไม่รอช้ารีบเดินเข้ามาหาพี่ชาย สองมือล้วงกระเป๋าทำหน้าคล้ายกับกำลังเบื่อ ก่อนจะผลักเพื่อนสนิทของตัวเองเข้าไปใกล้กวิน ทำให้คนที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับถลาจนท่านรองประธานต้องรับว่าที่เจ้าสาวของตัวเองเอาไว้
“พาคู่หมั้นของพี่มาส่งครับผม” ยิ้มให้คนอายุมากกว่าเล็กน้อย
กวินค่อยผละออกจากร่างแบบบาง แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าทำไมน้องชายจึงทำเช่นนี้ ทั้งที่เขาเปิดโอกาสให้อยู่ด้วยกันสองคนแล้วแท้ๆ คีตภัทรน่าจะดีใจมากกว่าไม่ใช่เหรอ แต่ยังไม่ทันจะถามอะไร ก็ถูกอีกฝ่ายตอบกลับมาเสียก่อน
“งานแต่งใครคนนั้นก็ต้องไปลองชุดเองสิ พี่จะให้ผมทำแทนได้ยังไงล่ะ...ไปก่อนนะ ฝากเพื่อนผมด้วย” พูดจบก็หันหลังให้คนทั้งสอง เดินไปยังรถยนต์ของตัวเองโดยมีเสียงหวานตะโกนบอก พอหันไปมองก็เห็นแววตาของหล่อนเจือคำขอบคุณ
“ขับรถกลับดีๆ นะคีน”
“อือ”
สำหรับคนแอบรักอย่างเขา เพียงแค่นี้ก็พอแล้ว...
ระหว่างทางขับรถกลับมายังที่พักของตัวเองก็นั่งคิดตลอดเวลาว่าทำถูกไหม เขาทราบว่างานของพี่ชายไม่ได้เร่งด่วน จึงรู้ในทันทีกวินกำลังหลีกทางให้น้อง ทั้งที่ไม่ควรทำเช่นนี้เพราะจะยิ่งทำให้มีคนเจ็บถึงสอง
คนแรกก็คือกุลิสราที่เสียใจ ส่วนคนที่สองก็คือเขาต้องช้ำใจ เฝ้ามองคนที่ตัวเองรักร้องไห้ แล้วแบบนี้ตนจะทนอยู่เฉยได้อย่างไร เพราะรู้ดีว่ารอยยิ้มของเธอไม่ได้เกิดจากตน จึงต้องเดินทางไปหาคนที่ทำให้หญิงสาวยิ้มได้ ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่ชายของตัวเอง
“มันถูกแล้ว มันถูกแล้วไอ้คีน...” ย้ำกับตัวเองอยู่แบบนั้นจนถึงหน้ามินิมาร์ทขนาดกลางใกล้กับคนโดมิเนียม เขาไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปข้างในพร้อมซื้อเครื่องดื่มที่ชอบมาด้วย ยื่นบัตรให้พนักงานก่อนเดินกลับมาขึ้นรถ มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยเครื่องดื่มที่คิดว่าจะช่วยให้ความหน่วงในอกคลายลงบ้าง
กดลิฟต์ขึ้นมายังห้องพักของตัวเอง เพียงแค่ประตูเปิดก็มีเสียงสดใสร้องตะโกนออกมา พร้อมหญิงสาวที่วิ่งมาหาด้วยรอยยิ้มหวาน เหมือนหัวใจได้รับการเยียวยาโดยไม่รู้ตัว เขาเผลอยิ้มกับภาพตรงหน้าก่อนเมษาจะหยิบถุงในมือของเขาไปถือไว้เอง
“คุณคีนกลับมาแล้ว!” อยู่คนเดียวมานาน เพิ่งรู้ว่าการมีคนรอคอยกลับบ้านมันทำให้มีความสุขแบบนี้เอง
“เอ่อ ทำไมซื้อเบียร์มาเยอะขนาดนี้ล่ะคะ จะจัดปาร์ตี้เหรอ” มองของในถุงเพื่อจะจัดเข้าตู้เย็น เห็นว่ามีแต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ชะงัก เธอมาอยู่ที่นี่ครบสัปดาห์แล้วยังไม่เคยเห็นชายหนุ่มมีแขกมาเยี่ยมเยือนเลยสักครั้ง
หรือว่าคราวนี้จะมีการนัดรวมตัวกัน...
นึกกังวลขึ้นมาทันทีเพราะไม่อยากพบเจอใคร ก่อนพรูลมหายใจโล่งอกเมื่อได้ยินว่าชายหนุ่มไม่ได้จะจัดงานเลี้ยงแต่อย่างใด เพียงแค่ซื้อมาติดตู้เย็นเอาไว้ก็เท่านั้น
“เปล่า แค่เอามาแช่ไว้ดื่มแก้เหนื่อยน่ะ ฝากแช่ตู้เย็นหน่อยแล้วกัน” สลัดความคิดเรื่องคนตรงหน้าออก เขารู้ดีถึงเส้นแบ่งระหว่างความสัมพันธ์ ให้หญิงสาวอยู่ที่นี่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น ไม่รู้ประวัติหล่อนด้วยซ้ำแล้วก็ไม่คิดจะค้นหา
เพราะอย่างไรอีกไม่นานเมษาก็ต้องออกไปอยู่ดี
เขาไม่คิดจะรั้งเธอไว้เพราะหัวใจมีเพียงกุลิสราคนเดียว
“แช่หมดเลยเหรอคะ”
“ใช่” พยักหน้าก่อนเดินไปยังห้องนอนของตัวเอง เตรียมเปิดประตูเพื่อเข้าไปพักผ่อนทั้งยังต้องการความเป็นส่วนตัว กลับถูกเธอรั้งเอาไว้ด้วยประโยคธรรมดา เพราะได้เตรียมอาหารไว้สำหรับเจ้าของห้องแล้ว คิดว่าอีกฝ่ายน่าจะชอบ
“แล้วคุณจะทานอาหารเย็นเลยหรือเปล่า หนูตั้งโต๊ะไว้แล้วนะคะ” รอคอยคำตอบอย่างมีความหวัง แม้จะเห็นแววตาของเขาที่หม่นหมองกว่าทุกวันก็พยายามมองข้าม เธออยากเป็นรอยยิ้มและความสุขให้แก่คีตภัทร
“ไม่ล่ะ ฉันไม่หิว เธอกินคนเดียวเลย” ปฏิเสธจบก็เปิดประตูเข้าไปในห้องนอน ปิดลงเสียงเบาปล่อยให้หญิงสาวยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“ค่ะ” ทำได้เพียงรับคำก่อนนำเครื่องดื่มไปแช่ไว้ในตู้เย็น ในใจก็นึกสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีกฝ่าย
ก่อนออกจากห้องไปก็เห็นว่าเขาเหมือนมีเรื่องในใจ ยิ่งเข้ามาก็หนักกว่าเดิม แทบไม่มีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าคม
“เป็นอะไรของเขา หน้าตาดูเศร้าๆ” เหลียวมองประตูห้องนอนของเขาอีกครั้ง นั่งจับกระป๋องเบียร์ใส่ตู้จนหมดแล้วค่อยเดินมาเก็บอาหารใส่ตู้เย็น เผื่อเขาอยากกินตอนกลางคืนจะได้เอาออกมาอุ่นได้ ยังคงเงี่ยหูฟังหวังได้ยินเสียงของเขาเล็ดลอดออกมาบ้าง
แต่ทุกอย่างกลับเงียบกริบ...
