บท
ตั้งค่า

๒ แม่บ้านชั่วคราว (๔)

ใช้เวลาทั้งวันในการทำความสะอาดบ้านแล้วก็ซักผ้าให้เขา ไม่ได้เหนื่อยเลยสักนิดเพราะห้องไม่ได้รก ใช้เวลาไม่นานงานก็เสร็จจึงต้องเปลี่ยนมาทำอาหารเพื่อคอยใครบางคน อยู่ที่ห้องนี้ได้สามวันจนเริ่มคุ้นชิน ถึงไม่ได้ออกไปข้างนอกแต่ก็ไม่รู้สึกเบื่อเพราะมีหนังสือของเขาอยู่เต็มตู้ให้อ่าน แม้ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่อีกฝ่ายชอบอย่างการเขียนโปรแกรมหรือนิตยสารรถยนต์ก็ตาม ยังดีที่มีหนังสือธุรกิจให้อ่านเพื่อเพิ่มพูนความรู้อยู่บ้าง

ใบหน้าหวานมีรอยยิ้มแต้มอยู่เสมอ ช่วงนี้สีหน้าเปล่งปลั่งเพราะมีความสุขกับชีวิต รู้สึกว่าตัวเองคล้ายแม่บ้านที่รอคอยสามีกลับบ้าน ทำอาหารไว้หลายอย่างทั้งของหวานเพื่อให้เจ้าของห้องได้กิน เนื่องจากไม่รู้เมนูโปรดของเขาจึงทำหลากหลาย อีกทั้งยังทำเพลินรู้ตัวอีกทีอาหารก็แทบล้นโต๊ะแล้ว

เหลือบมองนาฬิกาพบว่าใกล้ถึงเวลาที่เขากำลังจะกลับ นึกตื่นเต้นจนเผลอยิ้มออกมา หยิบโทรศัพท์ของคีตภัทรที่ตอนนี้เป็นของตนออกมาหมายจะโทรถามว่าถึงไหนแล้วก็ต้องชะงัก

เธอไม่ใช่แฟนเขาสักหน่อย มีสิทธิ์อะไรโทรถามกันล่ะ...

หงอยลงเล็กน้อยเมื่อตระหนักถึงความจริงข้อนี้ เธอเป็นแค่ลูกจ้างไม่ใช่แฟนสาวของเขา การโทรถามคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่ สิ่งเดียวที่ทำได้คือรอให้ชายหนุ่มกลับถึงบ้านเอง

“กลับมาแล้วเหรอคะ!” เสียงเปิดประตูทำให้รีบวิ่งไปต้อนรับพร้อมตะโกนถามเสียงดัง ลืมไปเสียสนิทว่าตัวเองเพิ่งทำอาหารเสร็จยังไม่ได้ถอดผ้ากันเปื้อนสีชมพูออกด้วยซ้ำ

คนที่เพิ่งมาถึงสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงดังของหล่อน มองร่างบางที่มีรอยยิ้มหวานประดับบนใบหน้า กลายเป็นว่าเขาเริ่มชินกับการโผล่มาทักทายยามถึงห้องของเธอเสียแล้ว รู้สึกแปลกอยู่เหมือนกันเพราะเคยอยู่คนเดียวมาตลอด

ตอนนี้กลับมีคนอื่นมาอยู่ร่วมห้อง ยอมรับเลยว่าไม่ชินสักนิด...

“อือ ไปเอาผ้ากันเปื้อนมาจากไหน” หล่อนรับถุงใบใหญ่จากเขามาถือไว้แล้วเดินตามอีกฝ่ายเข้ามาในห้อง ก่อนก้มมองหลังได้ยินคำถามจึงพบว่าตัวเองยังคงสวมผ้ากันเปื้อนสีชมพูแสนหวาน โดยเชื่อว่าคงไม่ใช่ของคีตภัทรอย่างแน่นอน

อาจเป็นแม่บ้านที่ซื้อมาไว้ก็ได้ หล่อนจึงนำออกมาซักแล้วใช้เองเสียเลย อย่างไรตำแหน่งตอนนี้ของเธอก็คือแม่บ้านนี่น่า

“เห็นในตู้เก็บจานค่ะเลยเอามาซักแล้วใส่ หนูเพิ่งไปซื้ออาหารสดเลยลองทำเมนูเย็นนี้ให้คุณทาน ไม่รู้ว่าคุณคีนจะชอบหรือเปล่า” ความสดใสของเธอเผื่อแผ่มายังคนที่ทำงานทั้งวันจนถูกสูบพลังให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เหลือบมองร่างบางก่อนพยักหน้ายิ้มให้เธอ แม้ว่าดวงตาจะดูเหนื่อยล้าแค่ไหนก็ตาม

“กินได้หมดแหละ หิวจนจะกินช้างได้ทั้งโขลงอยู่แล้ว” ตอนเที่ยงกินข้าวนิดเดียวทำให้ตอนนี้หิวจนท้องร้อง อุตส่าห์ขับรถรีบกลับคอนโดมิเนียมคิดว่าจะสั่งอาหารกิน ไม่คิดว่าหญิงสาวจะทำอาหารไว้ ได้กลิ่นหอมตั้งแต่เปิดประตูเข้ามาไม่รู้รสชาติจะเป็นอย่างไร

“งั้นหนูจัดอาหารขึ้นโต๊ะเลยนะคะ” เห็นว่าเขาหิวก็ยิ่งกระตือรือร้นมากกว่าเดิม

“ขอฉันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ เหนียวตัวชะมัดเลย” เท้าหนักเดินไปยังประตูห้องนอนแล้วหมุนลูกบิด เธอเห็นอย่างนั้นก็พยักหน้ารับพร้อมตอบกลับเสียงสดใส วางถุงที่เขาถือเข้ามาด้วยไว้ที่โต๊ะยาวหน้าโซฟา

“ค่ะ”

ปลีกตัวเข้ามาตักอาหารใส่จาน ทำเกือบห้าเมนูทั้งที่อยู่กันแค่สองคน ไม่รู้ว่าเขาชอบอะไรเลยทำเยอะไปหน่อย ต้มผัดแกงทอดมีครบหมดทุกอย่าง ระหว่างที่จัดโต๊ะก็แอบชะเง้อมองคนในห้องไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะออกมาตอนไหน

อาหารพร้อมสำหรับเจ้านาย ก่อนที่เธอจะคดข้าวใส่จานมาวางไว้ให้เขา พร้อมกับน้ำเปล่าและน้ำผลไม้คั้นสดที่หล่อนพึงพอใจในรสชาติเป็นอย่างมาก ผลงานวันนี้จะต้องสร้างความประทับใจให้คนได้รับอย่างแน่นอน

หล่อนเชื่อมั่นอย่างนั้น...

“โอ้โห เธอทำเยอะขนาดนี้จะจัดโต๊ะจีนเลี้ยงคนทั้งคอนโดเลยหรือไง” ชุดทำงานถูกเปลี่ยนเป็นชุดลำลองสำหรับใส่อยู่บ้าน ผมที่เคยเซ็ทก็ปล่อยลงทำให้ใบหน้าหล่อดูอ่อนเยาว์ เรียกสายตาชื่นชมจากหญิงสาวได้ไม่ยาก

ชอบมองเขาในรูปลักษณ์สบายแบบนี้ มากกว่าสวมสูทผูกไทที่น่าอึดอัด

แต่ไม่ว่าจะอยู่ในลุคไหน คีตภัทรก็ได้ใจเธอไปครองทั้งหมด เหลือเพียงตนที่ยังเป็นแค่คนแปลกหน้าสำหรับชายหนุ่ม

ถึงเขาจะใจดีแต่ก็ทำเพราะสงสาร ในดวงตาไม่มีความรักฉายออกมาสักนิดจนนึกน้อยใจ ถ้าเธอไม่ใช่เมษาที่เป็นแค่แม่บ้านเขาจะรักหรือเปล่านะ

สลัดความคิดทั้งหมดทิ้งเพื่ออยู่กับปัจจุบัน ร่างหนาเดินมานั่งลงที่ประจำแล้วมองอาหารด้วยความตกตะลึง ไม่คิดว่าตัวเองจะกินคนเดียวหมด แล้วก็ไม่นึกว่าหญิงสาวจะทำกับข้าวเยอะขนาดนี้ เงยหน้ามองแม่ครัวที่ยังคงยิ้มให้กันเหมือนเดิม

“เยอะไปเหรอคะ หนูไม่รู้ว่าคุณชอบกินอะไรเลยทำออกมาเผื่อไว้ก่อนน่ะค่ะ มื้อต่อไปคงไม่ทำเยอะขนาดนี้แล้วค่ะ ลองชิมดูนะคะว่าอร่อยหรือเปล่า” ยืนมองด้วยแววตาลุ้นเป็นครั้งแรกที่ได้ทำอาหารให้อีกฝ่ายรับประทาน ไม่รู้จะถูกปากชายหนุ่มหรือเปล่า ซึ่งเขาก็ตักกับข้าวเข้าปากแล้วพยักหน้าพลางอมยิ้มพึงพอใจ

“อือ อร่อย” เพียงประโยคเดียวก็ทำให้เธอยิ้มกว้าง ความสุขส่งผ่านทางแววตาจนเขาอดยิ้มตามไม่ได้ แต่ก็เลือกจะก้มหน้ากินข้าวต่อด้วยความหิว คิดว่าหญิงสาวจะนั่งลงกินข้าวด้วยกันแต่เธอกลับยืนนิ่งไม่ยอมนั่งสักที

“ยืนทำไมล่ะ นั่งกินด้วยกันสิ ทำเยอะขนาดนี้คงไม่คิดว่าฉันจะกินคนเดียวหมดหรอกนะ” ตอนแรกก็ยืนเก้กังคิดว่าตัวเองควรนั่งดีหรือเปล่า จนเจ้าของห้องบอกเช่นนั้นจึงได้รีบไปตักข้าวใส่จานแล้วนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเขาทันที

“ขอบคุณค่ะ” ทั้งสองลงมือกินข้าวด้วยความหิว

แต่เหมือนหญิงสาวจะกินช้ากว่าเขามาก ชายหนุ่มเติมข้าวสองจานกินจนหมด ส่วนเธอก็กินหมดหนึ่งจานถ้วนที่ตักมาแค่หนึ่งทัพพีเช่นเดียวกัน ร่างสูงถึงกับถอนหายใจส่ายศีรษะในความกินน้อยของอีกฝ่าย

คำว่าหิวของคนเราคงไม่เท่ากัน จะบังคับเธอกินก็กลัวเด็กน้อยร้องไห้ คราวก่อนบังคับไปก็ตาแดงก่ำราวกับถูกเขารังแกอย่างไรอย่างนั้น

ทำอาหารก็อร่อยไม่รู้ทำไมถึงได้กินน้อยนักนะ...

“เฮ้อ อิ่ม...แน่นท้องไปหมดเลย” ลุกจากโต๊ะอาหารก็มานั่งยังโซฟา ถอนหายใจหนักพร้อมจ้องมองโทรทัศน์ที่มืดสนิทด้วยแววตาเหม่อลอย ขณะที่หญิงสาวก็ไปล้างจานและกลับมาเช็ดโต๊ะจนสะอาด ได้กลิ่นน้ำยาทำความสะอาดหอมฟุ้งไปทั่วห้อง

นั่งพักเพียงครู่เดียวก็คิดได้ว่าตอนเช้าได้ทำบางอย่างเอาไว้ จึงรีบเดินไปดูบนหลังตู้ที่เคยวางเงินจำนวนหนึ่งไว้ก่อนออกจากห้อง แต่บัดนี้มันกลับหายไปทำให้ใจของเขาวูบโหวง มองไปทางร่างบางที่กำลังตั้งใจเช็ดโต๊ะไม่ได้มองมาทางนี้สักนิด

ผิดหวัง...ความรู้สึกของเขาบอกแบบนั้น

“เงินของฉันที่วางตรงนี้หายไปไหน” เสียงทุ้มเอ่ยถามแววตาเคร่งเครียดจนหล่อนต้องเงยหน้าจากงานที่ทำ ก่อนวางทุกอย่างเอาไว้แล้วรีบวิ่งไปที่ตู้วางทีวี เปิดลิ้นชักชั้นล่างก่อนหยิบกล่องคุกกี้ออกมา ค่อยเดินมาหาเขาพร้อมยื่นให้ชายหนุ่ม

“อ้อ! เดี๋ยวหนูไปเอามาให้ค่ะ”

คนมองกระพริบตาปริบไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น สมองเบลอไปชั่วขณะเพราะคิดว่าหล่อนเอาเงินของตนไปโดยไม่บอกกล่าว แต่ตอนนี้เหมือนสิ่งที่คิดจะไม่ตรงกับความเป็นจริงเท่าไหร่

“เห็นคุณคีนวางไว้เลยคิดไม่เป็นที่เลยเก็บรวบรวมไว้ให้ค่ะ เอาใส่กล่องคุกกี้จะได้ปลอดภัยไงคะ ตอนเด็กยายของหนูก็ชอบให้เก็บเงินใส่กล่องคุกกี้ไว้เพราะที่บ้านมีกล่องแบบนี้เต็มเลย บางทีก็เอาใส่เข็มกับด้ายหรือไม่ก็พวกซองจดหมายเก่าๆ”

ความจริงใจส่งผ่านน้ำเสียงแววตา ดูออกว่าไม่ได้เป็นการแสดงแต่เธอหมายความตามนั้นจริง กลายเป็นเขาที่นิ่งอึ้งไปเอง

ชายหนุ่มยังไม่ไว้ใจเธอจึงสร้างบททดสอบขึ้นมาด้วยการวางเงินจำนวนหนึ่งไว้ อยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะแอบหยิบไปหรือเปล่า แต่กลายเป็นหล่อนหาวิธีเก็บรักษาเงินไว้ให้อีกต่างหาก เขาจึงทำหน้าไม่ถูกนอกจากผงกศีรษะแล้วเอ่ยขอบคุณ

“ปลอดภัยนะคะปลวกไม่กินด้วย” บอกถึงข้อดีของการใส่เงินไว้ในกระป๋องคุกกี้ เขาได้ยินก็ทำได้แค่ยิ้ม

“ขอบใจ”

“ยินดีค่ะ” เธอกำลังจะเดินไปทำงานต่อกลับถูกเขารั้งเอาไว้ พร้อมยื่นถุงที่ถือเข้ามาในตอนแรกไปตรงหน้าหล่อน

“นี่ชุด...ฉันผ่านร้านเพื่อนก็เลยอุดหนุนเพื่อนน่ะ แต่ไม่รู้จะซื้อให้ใคร...เธอเอาไปใส่ล่ะกัน” รู้ดีว่าเขาก็แค่ปากแข็งเท่านั้น ความจริงก็คงซื้อมาให้เธอใส่นั่นแหละ คิดดังนั้นหัวใจก็พองโตมีความสุขจนเผยยิ้มกว้างออกมา ยกมือไหว้ก่อนรับของจากผู้ใหญ่

“ขอบคุณค่ะ”

เขาจะทำให้เธอตกหลุมรักไปถึงไหน แค่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ปีนขึ้นจากหลุมไม่ไหวแล้ว... 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel