บทที่แปด พันปีมิลืมเลือน
บรรยากาศภายในตำหนักนั้นเป็นไปอย่างธรรมชาติ.... ลั้วเจินนางดีดพิณอย่างบรรจงใจและตั้งใจ
“เพลงนี้?” เกาหยวนเอ่ยขึ้น เพลงนี้จะว่าคุ้นก็คุ้นจะว่าไม่คุ้นก็ไม่คุ้น หากแต่มันติดอยู่ในใจของเขา
“พันปีมิลืมเลือน” ลั้วเจินนางละมือออกจากสายพิณ ก่อนที่จะเอ่ยตอบกลับเกาหยวนไป
“พันปีมิลืมเลือน? ชื่อนี้?” เกาหยวนเอ่ยถามนางขึ้นมาอีก
“เป็นเพลงพื้นบ้านของชนชาวฮั่นแต่หม่อมชั้นมาใส่ทำนองใหม่ดั่งชาวทุ่งหญ้าเพคะ” ลั้วเจินนางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลแววตานางอบอุ่นและส่อแววหวานยิ่ง
“อ้อ? ถึงว่าคุ้นนัก ผสมผสานกันแล้วไพเราะยิ่ง เราชอบ” เกาจ้านเอ่ยชมนาง
“ขอบพระทัยเพคะ”
“เจ้าเต้นรำเป็นหรือไม่? ระบำแบบชาวทุ่งหญ้า เราได้ยินมาว่าระบำรอบกองไฟของชาวทุ่งหญ้างดงามและแปลกตายิ่ง?” เกาหยวนถามเชิงอยากให้นางเต้นระบำให้เขาดู
“เพคะ หากพระองค์ปรารถนาหม่อมชั้นจะเต้นระบำนั้นถวาย.... หากแต่ว่า?”
“แต่ว่า? “
“หม่อมชั้นขอประทานอนุญาตจากพระองค์ไปหยิบขลุ่ยด้านหลังสักครู่” ลั้วเจินก้มหน้า
“ขลุ่ย? “
“เพคะระบำทุ่งหญ้า หม่อมชั้นถนัดที่สุดก็คือร่ายรำไปพร้อมกับเป่าขลุ่ยนี้
“เต้นระบำพร้อมกับเป่าขลุ่ย? ตกลงเราอนุญาต แต่อย่านานนักหละ” เกาหยวนเอ่ยหยอกเย้านางด้วยใบหน้าจิ้งจอกนั้น รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แสนกลนั้น
....
ในเวลาที่ลั้วเจินหันหลังไป.... จากที่ใบหน้ายิ้มนั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งเฉย เขามองด้านหลังนางอย่างพินิจ นางช่างเตรียมตัวมาเพื่อเอาอกเอาใจเขาเสียจริง ผสมผสานแนวคิดของฮั่นกับชนทุ่งหญ้า? สตรีผู้นี้ดูท่าจะมาเพื่อมอมเมาเขาโดยเฉพาะ เกาหยวนยิ้มมุมปาก
ผ่านไปครู่หนึ่ง
ลั้วเจินนนางไม่เพียงไปหยิบขลุ่ยหยกขาว ขลุ่ยชิ้นนี้ประดับลวดลายวิจิตรมาเท่านั้นนางยังไม่เปลี่ยนอาภรณ์สำหรับเต้นระบำมาเสียด้วย ชุดที่นางสวม เป็นกางเกงสีขาวที่ปักลวดลายงดงาม เสื้อตัวบนที่นางสวมเป็นสีขาวมุกสวมอาภรณ์นี้ปกปิดนางเพียงครึ่งตัวด้านบน ยังคงเผยให้เห็นลำตัวขอดกิ่วขาวเนียนน่ามองนั้น..... ช่างเป็นชุดที่ยั่วยุอารมณ์บุรุษได้ไม่น้อย
นางเกล้าผมขึ้นทั้งศรีษะปล่อยละไว้ซึ่งปลายผมที่ยาวสลวยดำคลับ ยังมิพ้นมีผ้าผืนสีขาวปิดบังใบหน้านางอยู่เช่นเคย
“หม่อมชั้นพร้อมแล้วเพคะ” ลั้วเจินเอ่ย
“อ้อ.... “เกาหยวนผายมือให้นางเชิญแสดง
จากนั้นลั้วเจินนางก็ได้เริ่มบรรเลงเพลงขลุ่ยที่สนุกสนาน.... พร้อมกับร่ายรำ ไปพร้อมกันเป็นภาพของสตรีที่สดใสยิ่งนัก มีไม่น้อยที่เกาหยวนเผลอตัวเผลอใจไปกับภาพของสตรีตรงหน้า หากแต่ก็ดึงกลับมาได้
แต่จนแล้วจนรอดก็มาตกม้าตายเพราะไม้เด็ดของนางลั้วเจินนางหมุนกายไปรอบ.....ๆ ๆ รอบแล้วรอบเล่า จนเมื่อมาหยุดหมุนพร้อมกับนั่งลงบนตักของเกาหยวน.... พร้อมกับเป็นทำนองที่ค่อนข้างจะชวนฝันพอควร
ดวงตาราวกับลูกแมวตัวน้อยๆ ที่ยอมแล้วทุกสิ่ง.... แมวน้อยที่เป็นของเขา ดวงตากลมโตนั้นจ้องเข้าไปในนัยน์ตาของเดาหยวนอย่างลึกซึ้ง
'จำข้าได้หรือไม่? สตรีที่รักท่านจนนางถูกฝั่งทั้งเป็น.... แต่ตัวข้าพันปีก็มิลืมเลือน' ลัั้วเจินยามนา
มองจ้องลึกไปที่ดวงตาของเกาหยวนยามนี้นางเจ็บปวดใจยิ่งนัก
โปรดติดตามตอนต่อไป
