ตอนที่ 5
กริ๊ง... เสียงมือถือของรินดาดังขึ้น เธอหันซ้ายหันขวา เพราะจำไม่ได้แล้วว่าเอาวางไว้ตรงไหน แสงไฟที่กะพริบให้เห็น
ป้องณวัฒน์รีบเดินไปหยิบมาให้
ภาพบนหน้าจอเป็นรูปของเด็กชายที่ถ่ายแนบใบหน้าคู่กับรินดา สายตาของเด็กชาย คิ้วที่ดกเข้มเหมือนๆ กันกับเขา และปากหยักที่ยั่วเย้าเหมือนกับริมฝีปากของป้องณวัฒน์ไม่มีผิด
“หื้อ...” เขาสะดุดตากับเด็กชายคนนี้มาก
รินดาหยิบมือถือมาจากมือของเขา
“อย่ามายุ่งกับของของคนอื่น” รินดาชักตาเข้าใส่ พอเห็นใบหน้าของลูกชายก็ใจเต้น หันไปสบตากับสายตาของป้องณวัฒน์ที่เต็มไปด้วยความสงสัย
“กินอิ่มก็กลับไปได้แล้ว ขอบใจ ครั้งต่อไปไม่ต้องนะคะ ฉันช่วยเหลือตัวเองได้”
เธอหมุนตัวไปที่ระเบียงทันที ได้เวลาที่ต้องคุยกับน้องอินดี้แล้ว ซึ่งเธอจะทำเป็นประจำทุกวัน ป่านนี้ลูกคงคอย เพราะเลยเวลามากว่าห้านาทีแล้ว
“คุณแม่ฮับ...” เด็กน้อยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความดีใจ
รินดายิ้มให้กับตัวเอง เธอมองหางตามาทางในห้องว่าป้องณวัฒน์จับจ้องเธออยู่หรือเปล่า หรือว่าเขาทำอะไรอยู่
“อินดี้ครับ คนเก่งของแม่ ทำการบ้านหรือยังครับ”
“ทำแล้วครับแม่ คุณแม่ครับ ครูนิวชมอินดี้ด้วยครับวันนี้ ครูบอกว่าอินดี้ตัวหนังสือสวย แล้วครูนิวให้ดาวอินดี้ตั้งห้าดวง”
“จริงหรือครับ เก่งจังเลยลูกแม่”
“แม่ฮับ... แม่สัญญากับอินดี้แล้วนะฮับ ว่าปิดเทอมแม่จะพาอินดี้ไปเที่ยวทะเล อินดี้อยากเห็นทะเล”
“เราสัญญากันแล้ว แม่ไม่ลืมหรอก แต่ว่าอินดี้รับปากแม่แล้วนะ ว่าต้องเรียนได้ที่หนึ่ง”
“อินดี้ต้องได้ที่หนึ่งอยู่แล้วฮับแม่” เด็กชายส่งเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข
“แม่ฮับ วันนี้ไม่ต้องเล่านิทานก็ได้ฮับ แต่แม่ต้องเล่าเรื่องที่แม่ทำงานให้อินดี้ฟังดีกว่านะฮับ อินดี้เบื่อนิทานที่แม่เล่าแล้ว”
“งานแม่วันนี้หรือคะ” เธอนึกตาม
ตอนนี้คนต้นเรื่องมายืนเมียงมองเธออยู่ที่ประตู พอหันไปสบตากับป้องณวัฒน์เธอก็ทำคอแข็ง สีหน้าที่ยิ้มแย้มเมื่อครู่เปลี่ยนไปในทันที
“อินดี้ครับ บอกคุณพ่อนะว่าแม่จะกลับวันศุกร์หน้า” เธอเสไปเรื่องอื่น
เด็กน้อยถึงกลับงงๆ ถามแม่กลับ
“คุณแม่ฮับ แล้วพ่อจะกลับลงมาจากสวรรค์แล้วหรือฮับ”
“จ้ะ...” ปากก็บอกลูกไป ที่ใจเต้นแรงกับคำตอบโง่ๆ ของตัวเอง หันหน้าหนีจากสายตาของป้องณวัฒน์ที่มองมา
“อินดี้แม่ยังติดงานอยู่ อินดี้นอนได้แล้วนะครับ”
“แม่ฮับ เดี๋ยวก่อนฮับ อินดี้ขออนุญาตดูการ์ตูนก่อนนอนเรื่องหนึ่งได้ไหมฮับ”
“ได้สิครับลูก กู๊ดไนต์นะ จุ๊บๆ”
เธอจุมพิตพร้อมทำเสียงดังออกไปด้วย แล้วกดวางสาย
“ผมจะกลับแล้วนะ”
“เชิญค่ะ โน่นประตู”
ป้องณวัฒน์กลับออกจากห้องของรินดาไปแบบฉงน คำถามเต็มไปหมดในหัวสมองของเขา เขาหยิบมือถือมาโทรหาเพื่อนที่เปิดสำนักงานนักสืบให้สืบเรื่องราวของรินดาและลูกชายของเธอในทันที
หญิงสาวนั่งลงอย่างอ่อนล้า รู้สึกขาอ่อนแรงไปหมด
“โธ่เอ๊ย...” เธอสบถออกเสียง ก่อนจะแผ่หลาลงไปนอนเต็มเตียง
“ฉันเกลียดคุณ”
“เด็กผู้ชายคนนั้น ลูกของริน อายุเท่าไหร่ ใครเป็นสามี โว้ย...”
ป้องณวัฒน์รู้สึกหงุดหงิดเอามากๆ เขาเดินงุ่นง่านไปมาอยู่ในห้องของตัวเองที่อยู่ห่างออกไปจากห้องพักของเธอไม่กี่ห้อง
ห้องหัวมุมที่ใหญ่ที่สุด และอุปกรณ์ครบที่สุด ทุกอย่างเนรมิตเหมือนเป็นบ้านหลังหนึ่ง ชายหนุ่มทำท่าจะเดินไปเปิดประตูหลายครั้ง แล้วก็กลับมานั่งที่เดิม
กริ๊ง... มือถือของเขาดังขึ้น พอเห็นเป็นชื่อของเพื่อนเลิฟสมัยเรียนที่ยังติดต่อกันอยู่ก็รีบรับสาย
“ไอ้เรย์”
(“อะ... นึกว่านอนแล้ว ว่าไงพ่อนักธุรกิจมือทอง ยุ่งมากเลยนะมึง ไม่ขึ้นมากรุงเทพฯ เลยนะ”)
“ไอ้เรย์...” เขาเรียกชื่อเพื่อนอีกครั้งน้ำเสียงตื่นเต้น
(“อะไรของมึง ก็กูอะดิ เป็นอะไรวะ”)
“มึงจำรินได้ไหม” เขาถามขึ้นมาทันที
(“รินไหน ยายรินเน่ที่มึงควงเมื่อสามเดือนก่อนนะเหรอ”)
“ไม่ใช่ๆ”
(“อ้าว แล้วรินไหน”)
“ก็... ที่มึงท้ากูเมื่อตอนที่เราเรียนปีหนึ่ง ที่ว่ามึงจะแต่งหญิงวิ่งรอบมหาลัย... รินดา”
(“ท้าอะไรกันมึง เชี่ย... มาย้อนความทรงจำกู วันๆ กูงานเยอะยุ่งมาก เรื่องไหนผ่านแล้วผ่านเลยโว้ย”)
“นั่นมันมึงไง นี่กู...”
(“ครับ ไอ้คนเก่ง ความจำดี จะเล่าไหม รินอะไรของมึงเนี่ย สารภาพกูจำไม่ได้ แล้วมันทำไม ยายรินดาทำไม”)
“ฉันเจอเธอ รินดามีลูกแล้ว รินดาแต่งงานกับใครมึงรู้ไหม?”
(“เฮ้ย... เอาจริงๆ ไหม...ไอ้ป้อง กูจำไม่ได้มึง มาให้กูระลึกชาติ มึงก็เล่ามาเลย เนื้อๆ เน้นๆ ใจความหลัก เชี่ย... กูนึกไม่ออก”)
“โอเค ก็ที่กูท้ากับมึง ให้ฟันแล้วทิ้ง ที่กูพาไปนอนที่ห้องไอ้แมน แล้วมีอะไรกัน”
(“หื้อ... ยายเหล็กดัดนะเหรอ”)
“ใช่”
(“ยังไงๆ วะ”) เรย์ทำเสียงตื่นเต้น
“เขามาทำงานกับกู ออกแบบโครงการที่ กูจะรีโนเวตที่หัวหินเนี่ย”
(“แล้วไง...ไอ้ป้อง ยายรินจะฆ่ามึงเหรอ”)
เรย์ถามพร้อมส่งเสียงหัวเราะร่วน เพราะตอนนี้ฟังน้ำเสียงของเพื่อนเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเองเท่าไหร่
“รินก็คงอยากจะฆ่ากูนั่นแหละ แม่งสายตาอาฆาตเอาเรื่องกูมาก” เขาทำเสียงสลด
(“ฮ่าๆฮ่าๆ...”) เรย์หัวเราะดังขึ้นไปอีก
(“แล้วยังไงอีก อิอิ... อุ้ย... หรือว่าพ่อเพลย์บอยกลับลำหรือครับ สำนึกผิด ต่อมความดีเริ่มทำงาน คิดจะมาจริงจังรับผิดชอบกับสาวเวอร์จินที่ได้ฟันแล้วทิ้งเมื่อเจ็ดปีก่อน”)
“ไอ้เชี่ยเรย์ กูซีเรียสนะโว้ย”
(“เออๆ ไม่ต้องด่ากู หยุด...”)
“เฮ้อ...” ป้องณวัฒน์ถอนหายใจออกมาดังๆ
(“ตอนนี้ พอยายเหล็กดัดฟันนั้น มึงฟันแล้วทิ้ง แม่งก็ลาออกไปเลยนะมึง พวกกูตามหาไม่เจอ พอไปถามที่คณะ เพื่อนๆ ของยายเหล็กดัดบอกว่าลาออกไปแล้ว”)
“กู...” ป้องณวัฒน์ถึงกลับพูดไม่ออก
(“ไอ้สัตว์อย่าบอกนะว่ามึงจะ...”)
“กูอยากจะขอโทษริน”
(“ไอ้เชี่ย...มึงจะมาพูดเอาป่านนี้นะหรือวะ”)
(“เฮ้อ... จะว่าไปมึงก็ลองพูดไปสิ เอ๊ะ...เมื่อกี้มึงบอกว่ายาเหล็กนั้นมีลูกมีผัวแล้ว มึงจะไปฟื้นฝอยหาตะเข็บทำไม”) เรย์ถามด้วยความสงสัย
“เออนะ กูรู้อยู่แล้ว แต่กูแค่สงสัย...บางเรื่อง”
(“หื้อ... เรื่อง...อะไรวะ?”)
“ลูกของริน ลูกกูหรือเปล่าน่ะสิ”
(“หา...! ทำไมมึงคิดอย่างงั้น”)
“ไอ้เรย์กูอยากให้มึงได้เห็นหน้าลูก แม่ง... หน้าตาโคตรเหมือนกูตอนเด็กๆ เป๊ะ อย่างกับแกะกันออกมา” เขาสารภาพตามความเป็นจริง ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาคิดแบบนั้น เพียงแค่เห็นหน้าเด็กชายเหมือนจะรู้ว่าเด็กน้อยเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา
(“เฮ้ย... จริงดิ”) เรย์ทำน้ำเสียงตื่นเต้น
“กู...” ป้องณวัฒน์พูดไม่ออกอีกครั้ง
(“ไอ้ป้อง มึงก็ลองไปถามยายเหล็กดัดดูสิ เผื่อได้คำตอบ”)
“เอ้อ... รินเขาจะได้ฟาดกูนะสิ เมื่อกลางวันนี้ก็เล่นงานกูซะอ่วมเลย ทั้งศอก ทั้งเข่า”
(“ฮ่าๆ ฮ่าๆ”) เสียงเรย์หัวเราะดังลั่น
“ไอเรย์หยุดนะมึง หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้เลยมึง มึงนั่นแหละตัวการดีนัก กูต้องมาเสียคนเพราะมึง”
(“เหรอ...”) เรย์ลากเสียงยาวๆ
(“อ๊ะอ๊ะอ๊ะ คนมันเลว มึงกับกูก็เลวพอๆ กันนั่นแหละโว้ย”) เรย์สวนกลับ
(“คุณพ่อป้องจะมีลูกชาย เออ...ดีออก โตจะได้ทันใช้ ไม่ต้องได้เลี้ยงเอง”)
“กูรอคำตอบชัดๆ ก่อน”
(“ยังไงวะ”)
“มึงอย่ารู้เลยนะ แค่นี้แหละ”
(“เดี๋ยวๆ ไอ้ป้อง แล้วถ้าเกิดไม่ใช่ลูกมึง”) คำถามของเรย์ทำให้เขาอึ้งไปเหมือนกัน
(“ยายรินดา เธออาจจะมีผัวแล้ว แต่เอ๊ะ...กูชักสงสัย ตอนนี้ยายเหล็กดัดนั้นสวยมากเลยเหรอ มึงถึงได้มานั่งเพ้อนอนเพ้ออยู่นี่ คิดจะพูดคุยเรื่องความหลังขึ้นมา”)
เรือนร่างและหน้าตาที่สะดุดใจ ทำให้เขาแค่พยักหน้า
(“ไอ้ป้อง...”) เรย์ตะโกนใส่เข้ามาในมือถือ
“กูว่ามึงต้องจำรินไม่ได้ แต่กูจำได้”
(“ก็แน่ละสิ ก็นอนดูกันทุกซอกทุกมุม ไม่จำได้ไง”)
“ไอ้ปากหมา”
(“แฮ่ แฮ่ แฮ่ แค่นี้นะ กูรอฟังผล... กูต้องไปล่ะ นัดน้องวีวี่เอาไว้”
“เอ่อ... เที่ยวจริงนะมึง แก่ๆ แล้ว หยุดได้แล้วมั้ง”
(“ไอ้ป้อง...ทำมาเป็นพูด ถ้ามึงอยู่ที่นี่ ก็มีมึงอีกคนนั่นแหละที่ต้องไปด้วยกัน กูมันคนยังมีไฟโว้ย... ยี่สิบกว่ามาว่าแก่ กูยังสิบแปดโว้ย...อายุสิบแปดทุกวัน”)
“ครับผม พ่อคนหนุ่ม... กูอยากแช่งมึงจริงๆ ให้เจอปังตอเข้าสักวัน”
(“ไอ้เวร... แค่นี้แหละ มึงมากรุงเทพฯ ก็โทรมาละกัน”)
“บาย”
จบการสนทนา ป้องณวัฒน์ก็ทิ้งตัวลงไปนอน นึกไปถึงใบหน้าของสองแม่ลูกที่ปรากฏอยู่หน้าจอมือถือนั้น
‘แล้วถ้าเด็กนั่นเป็นลูกของเรา และรินมีผัวใหม่ โอ๊ย...ไม่โว้ย...’ เขายกหมอนขึ้นมาปิดหน้าตัวเองเสียดื้อๆ
ห้องของรินดา
“บ้าจริงๆ นอนไม่หลับเนี่ย” เธอก็ผุดลุกผุดนั่งอยู่บนเตียง ก่อนจะหยิบหมอนที่นอนหนุนขึ้นมาวางไว้บนตัก แล้วก็เริ่มซุกเข้าไปที่หมอนใบนั้น
“เพราะไอ้สารเลว ไอ้ชั่ว อย่าให้มีโอกาสนะ จะเอาคืนให้หนัก”
“นี่ๆ นี่ๆ ...” เธอกระหน่ำหมัดเข้าใส่หมอนแรงๆ นึกว่าเป็นใบหน้าของป้องณวัฒน์
รุ่งเช้าของวันใหม่
“ทำไมตาเป็นหมีแพนด้าแบบนี้เนี่ย” รินดามองหน้าตัวเองในกระจก ก่อนจะใช้รองพื้นแตะๆ แล้วทาทับด้วยแป้งฝุ่น
“เพราะนาย” เธอว่าค้อนไปถึงป้องณวัฒน์ที่ทำให้เธอนอนไม่หลับทั้งคืน
ก๊อก... ก๊อก... ก๊อก... ก๊อก... มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
เธอหันไปมองที่ประตูบานนั้น มองเสื้อผ้าว่าเรียบร้อยแล้ว
รินดาเดินไปเปิดประตู พอเห็นหน้าคนที่ยืนยิ้มแป้นอยู่ก็แทบกระแทกประตูกลับ เขาเบียดตัวเอง แล้วดันเข้ามาอย่างแรง
“มีมารยาทไหมเนี่ย เจ้าของห้องเขาไม่ได้อนุญาตให้เข้ามาสักหน่อย” เธอว่าให้ พอเห็นท่าทางมึนๆ ของป้องณวัฒน์ และสายตาที่จ้องมองสบตา เธอก็หมุนตัวกลับ
“อรุณสวัสดิ์ ผมมารับคุณไปกินข้าวเช้า”
“ขอบคุณ ไม่ต้อง ฉันไม่กินข้าวเช้า”
“ไม่ได้สิ คุณต้องกินยาแก้อักเสบ เขาให้กินติดต่อกัน ไม่งั้นจะดื้อยา ไม่รู้ด้วยนะ”
“มันใช่เรื่องของคุณไหม”
“ริน เราพูดกันดีๆ ไม่ได้หรือ”
“หึ...” เธอทำเสียงขึ้นจมูก
“ทำไมฉันจะต้องญาติดีกับคนอย่างคุณด้วย อีกอย่างฉันว่า ฉันเป็นแค่คนรับจ้าง คุณจ้างบริษัทเรามาทำงาน ไม่จำเป็นต้องเทกแคร์แบบนี้ก็ได้”
“ผม... เออ...”
เธอสะบัดตัวไปหยิบข้าวของ ตัวเองก็ยังเดินกะเผลกๆ
“ไม่ต้องใส่ส้นสูงก็ได้มั้ง” เขาพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
รินดาฟาดสายตากลับมาทันที
“สู่รู้”
“อึ๋ย...”
ตื๊ด... ตื๊ด... ตื๊ด... มือถือของรินดาดังขึ้น พอเห็นว่าเป็นวิดีโอคอลที่ลูกชายโทรมา ก็หันมามองหน้าป้องณวัฒน์แบบไม่พอใจ
“ฉันว่าคุณออกไปก่อนนะคะ ฉันจะคุยกับสามี แล้วก็ลูก” เธอว่ากระแทกเขา
ป้องณวัฒน์ถึงกลับหน้าจ๋อย
“สามี...”
“ใช่... สามีและลูก” เธอเน้นสองคำหลังอย่างชัดเจน
“โอเค...” เขายกสองมือขึ้นมาระดับอก ก่อนจะถอยหลังไปทางประตู
“เชิญ” เธอผายมืออีกครั้ง แล้วพยักหน้ามองเขาไปด้วย
“โอเค” ป้องณวัฒน์พูดออกเสียง ก่อนจะเปิดประตูออกไป
เขาตรงไปยังลิฟต์และขับรถเข้าไปที่สำนักงานทันที เขานั่งไม่ติดที่นั่ง เปิดผ้าม่านเอาไว้ แล้วคอยชะแง้ว่าเมื่อไหร่รินดาจะมา
