บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

"นี่พี คุณอย่ามาเดินหนีฉันนะ" เสียงกรเกตดังมาตั้งแต่ยังไม่เห็นตัว บรรดาสาวใช้และคนงานแจกกระเจิงกันไปคนละทิศทางเมื่อสองสามีภรรยาก้าวเข้ามาในบ้าน

"ผมไม่ได้เดินหนี แต่ผมไม่อยากทะเลาะ ผมบอกแล้วไงไม่มีอะไรทำไมคุณไม่ฟังผมบ้าง"

"ฟังเหรอ คุณอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ คุณชอบมันใช่ไหม" เสียงของกรเกตดังลั่นบ้าน เธอตวาดเขาอย่างเหลืออดกับพฤติกรรมที่พีรพลทำมันต่อหน้าต่อตาเธอเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

"คุณพูดเรื่องอะไร อย่ามาหาเรื่องนะ นั่นลูกค้าพูดจาให้มันดีๆหน่อย" พีรพลยกมือเสยผมลวกๆ ไม่ชอบเลยจริงๆเวลาที่กรเกตเสียงดังใส่แบบนี้ มันหงุดหงิด

"ฉันเห็นนะ คุณมองมันตาเชื่อม แล้วมันก็ให้ท่าคุณด้วย นี่ ฉันบอกเลยนะถ้าคุณคิดจะนอกใจฉัน คุณไม่ตายดีแน่" กรเกตฟาดมือที่ท่อนแขนสามีหายครั้งพร้อมขู่อาฆาต พีรพลทำได้แค่ยกมือป้องกันมือเล็กเอาไว้

"อะไรของคุณเนี่ย เขาเป็นลูกค้า ผมไม่ได้คิดอะไร ไว้ใจกันบ้างได้ไหม" พีรพลตะโกนกลับ เขาก็แค่มองหรือเปล่า ไม่ได้ทำอะไรแบบที่กรเกตกล่าวหาเลยสักนิด

"ไว้ใจเหรอ ให้ฉันไว้ใจคนเจ้าเล่ห์แบบคุณเหรอ เหอะ! คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่านิสัยคุณเป็นยังไง เจอผู้หญิงสวยหน่อยไม่ได้เลยนะ"

"อะไรคุณ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย" พีรพลยังแก้ตัวไม่หยุด

"คนอย่างคุณ มันเลี้ยงไม่เชื่อง ถ้าไม่มีฉัน คุณจะยังมีหน้ามีตาทางสังคมไหม จำเอาไว้นะ คุณติดหนี้บุญคุณฉัน อย่าทำให้ฉันต้องผิดหวังหรือเสียใจ ไม่อย่างนั้น ฉันจะทำให้คุณกับครอบครัวไม่เหลืออะไรเลย" กรเกตเหลือกตา พูดจาย้ำเตือนสถานะของพีรพล นั่นทำให้เขานิ่งอึ้งไป

เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก กรเกตจึงหมุนตัวเดินออกไปจากตรงนั้นด้วยอาการหัวเสีย ส่วนพีรพลก็เสยผมตัวเองลวกๆแล้วเดินไปอีกทาง

ในมุมหนึ่งของบ้าน ใครบางคนเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ได้ยินทุกคำที่ทั้งสองคนคุยกัน เขาพาตัวเองออกมาจากที่หลบซ่อนทันทีที่ทั้งสองแยกย้ายกันไป

ชายหนุ่มร่างสูงที่เพิ่งกลับเข้ามาในบ้านก่อนหน้าคู่สามีภรรยาเพียงไม่กี่นาทีคือคฑากร ลูกชายคนโตของบ้านโยธินพิพัฒน์

เขาตั้งใจว่าจะรอคุยกับกรเกตเรื่องโครงการใหม่ที่กรเกตดูแลแต่ได้ยินเสียงทะเลาะกันใหญ่โตก็เลยหลบไปอีกมุมหนึ่งก่อน ทำให้ได้รู้ว่า น้องสาวกับน้องเขยไม่ค่อยลงรอยกันเสียเท่าไหร่ จากที่ได้ยิน คงไม่พ้นเรื่องผู้หญิง

คฑากรรับรู้ว่าน้องเขยเป็นผู้ชายเจ้าชู้ และไม่เอาไหน เขาเคยคัดค้านเรื่องที่ทั้งสองจะแต่งงานกัน แต่ตอนนั้นเขายังอยู่ที่ต่างประเทศ กรเกตหัวรั้นและมั่นใจมากเกินไปและพ่อกับแม่ก็ตามใจทำให้ทั้งสองแต่งงานกัน โดยที่เขาเองก็พูดอะไรไม่ได้

พีรพลกับกรเกตแต่งงานกันมาสองปี แต่ก็ยังไม่มีลูก มีเรื่องให้ต้องระหองระแหงกันเรื่อยมา เขาเองก็เพิ่งเคยเจอกับตัวเองมาหลายครั้ง หลังจากกลับมาไทยได้เกือบหนึ่งปี

"ตาล" คฑากรเรียกแม่บ้านคนหนึ่งเอาไว้เมื่อเธอกำลังจะเดินผ่านไป

"ค่ะคุณกร"

"ขอของว่างที่ห้องหนังสือหน่อยนะ แล้วก็เรียกคุณเกตให้ฉันด้วย" เขาบอกเสียงเรียบก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปทางปีกขวาของตัวตึก

ชายหนุ่มพาตัวเองไปนั่งลงที่โต๊ะขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้องหนังสือ โดยปกติ พ่อของเขาจะนั่งทำงานที่นี่ และตอนนี้ เขาก็ใช้มันแทนพ่อมานานกว่าปี

ไม่นานนักคนที่เขาอยากเจอก็เดินเข้ามาหา

"พี่กร" เสียงเรียกจากน้องสาวทำให้เขาคลี่ยิ้ม น้ำเสียงออดอ้อนอันเป็นเอกลักษณ์ของกรเกตที่มีสำหรับเขาที่เป็นพี่ชายมาตลอดยี่สิบเจ็ดปี

"เป็นอะไรหื้ม หน้าบูดเชียว" เขาเอ่ยทักท้วงใบหน้าบูดบึ้งของน้องทันทีที่สบตากัน

"ไม่มีอะไรหรอกค่ะเหนื่อยเรื่องงานนิดหน่อย พี่กรมีอะไรหรือเปล่าคะ เห็นตาลบอกว่าพี่กรเรียก" กรเกตเดินเข้ามาโน้มตัวโอบกอดพี่ชายเอาไว้เหมือนอยากจะชาร์ตพลัง

"อื้อ พี่ว่าจะถามเรื่องโครงการใหม่ ไปถึงไหนแล้ว" เขายื่นมือไปลูบแขนน้องเบาๆ

"เห้อ! โครงการนี้ทำเอาเหนื่อยเลยค่ะ" กรเกตพาตัวเองมานั่งลงฝั่งตรงข้าม

"มีอะไรให้พี่ช่วยไหม" เขารู้ว่าน้องอาจจะเจอปัญหาเพราะว่าต้องรับผิดชอบโครงการใหญ่ แม้ว่ากรเกตจะเก่งแค่ไหนก็ตาม แต่การทำอะไรเกินตัวก็อาจไม่เป็นผลดี

"ที่จริงก็มีบ้างค่ะ แต่เกตคิดว่าเอาอยู่ ไม่อยากรบกวนพี่กรค่ะ" กรเกตรู้ว่าพี่ชายมีงานมากพออยู่แล้วในสาขาใหญ่ เธอก็ไม่อยากเอาปัญหาไปเพิ่มให้

"พี่ช่วยได้นะ ถ้าเราอยากปรึกษา" เขาพูดเปิดทาง นั่นทำให้กรเกตคลี่ยิ้มออกมา

"เกตรู้ค่ะ พี่กรเป็นห่วงเกตใช่ไหมล่ะ แต่ว่าเกตก็อยากลองทำด้วยตัวเองก่อน ถ้ามันไม่ไหวหรือติดขัดอะไร เกตจะบอกพี่กรคนแรกเลยค่ะ" กรเกตลุกขึ้นมากอดพี่ชายเอาไว้แน่น

"โอเค แล้วกับนายพีล่ะ มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า" พอถามถึงสามี กรเกตก็ถอนหายใจแรงออกมา

"เห้อ! เรื่องเดิมๆค่ะพี่กร วันนี้นัดคุยกับลูกค้าที่เขาจะมาร่วมลงทุนแล้วก็เปิดร้านกับเรา คุณพีนี่มองตาเชื่อมเลยค่ะ ทางนั้นก็บริหารเสน่ห์เหลือเกิน" บ่นออกมาเบาๆแล้วเดินกลับไปนั่งที่เดิม

"ใครเหรอ พี่รู้จักไหม" เขาเลิกคิ้วกับข้อมูลใหม่

"ไม่น่าจะรู้จักนะคะ เพราะว่าเพิ่งมาจากอเมริกา แต่ว่าเป็นลูกครึ่งค่ะ ไม่รู้ว่าพี่กรเคยเจอหรือเปล่า"

"เหรอ ชื่ออะไรล่ะ" เขาเองก็ไปเรียนและทำงานที่อเมริกาอยู่หลายปี มีคนไทยที่รู้จักอยู่มากพอดู

"ลินซี่ค่ะ อ่อ เกตมีรูปนะคะ" กรเกตพูดพลางหยิบโทรศัพท์มาเปิดรูปถ่ายให้พี่ชายดู

คฑากรย่นคิ้ว ชื่อว่าคุ้นแล้ว พอน้องยื่นโทรศัพท์มา ก็ยิ่งคุ้นมากขึ้น ทำให้รู้ว่าเป็นคนที่กำลังตามหาอยู่ และเธอไม่ได้ไปไหนไกล แต่อยู่ใกล้เขาแค่นี้เอง

"ลินซี่เหรอ"

"พี่กรรู้จักไหมคะ" กรเกตรีบถาม เธอเห็นสีหน้าพี่ชายแปรเปบี่ยนจากงุนงงเป็นคลี่ยิ้มออกมาบางๆ

คฑากรไม่ได้ตอบคำถาม เขาเพียงคิดในใจเท่านั้น

'รู้จักสิ รู้จักดีเลยแหละ ลินซี่ ลลิน แมคเครเกอร์ ในที่สุด ผมก็หาคุณเจอเสียทีนะ'

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel