บทที่ 2. พยาบาลหรือสาวใช้ส่วนตัว?
ในที่สุด ธีรดลก็เข้ามาทำงานบริหารงานในเมืองไทย แทนพี่ชายที่ต้องไปรับหน้าที่ดูแลงานแทนเขาที่อิตาลีช่วงที่เขาป่วย และวาสิฏฐีก็ต้องมาด้วย หญิงสาวมองร่างสูงใหญ่ในสูทสีเทาเข้มดูทรงสง่า แม้ว่าเขาจะเดินเองได้แล้ว แต่ก็ยังมีอาการเดินกะเผลกอยู่เล็กน้อยทำให้ก้าวย่างไม่ค่อยมั่นคงนัก วาสิฏฐีคอยประคองเขาอยู่ห่างๆ เมื่อร่างสูงสง่าของธีรดลปรากฏตัวขึ้น ก็สร้างความตื่นตะลึงให้แต่ผู้พบเห็นตัวจริงเสียงจริงของเขาไม่น้อย เพราะส่วนมากแล้วธีรดลใช้ชีวิตอยู่อิตาลีและไม่ค่อยได้ปรากฎตัวที่เมืองไทยมากนัก อีกทั้งไม่เคยมาก้าวก่ายงานของธีรเทพผู้เป็นพี่ชายคนโต เพราะทั้งสามพี่น้องนั้นมีหน้าที่การงานที่ตนต้องรับผิดชอบของตัวเอง แต่เมื่อใครคนใดคนหนึ่งต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นอย่างเช่นที่ธีรดลประสบอุบัติเหตุพี่ชายทั้งสองก็พร้อมจะมาช่วยรับผิดชอบงานแทนได้ และน้อยคนจะได้เห็นโฉมหน้าของเขา
“วา.. มานี่หน่อย”
เสียงเข้มๆ ดังขึ้นทำให้หญิงสาวที่กำลังอ่านหนังสืออยู่สะดุ้ง บราวนี่แสนอร่อยในมือที่กำลังจะส่งเข้าปากร่วงมือทันที พร้อมกับหันไปมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่าเขาจะเรียกเธอด้วยชื่อเล่นแบบนี้ ปกติเรียกเสียเต็มยศ
“คะ มะ มี มีอะไรคะ”
“ทำไมต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย แล้วนั่นกินขนมยังไงหกเลอะเทอะพื้นห้องทำงานฉันหมดแล้ว”
“เอ๊ะ เอ่อ.. ขะ ขอโทษค่ะ” หญิงสาวได้สติลนลานลุกขึ้นปัดเสื้อผ้าที่มีเศษขนมติดอยู่ทั้งยังมองหาอะไรมาจัดการขนมที่ตกอยู่บนพื้นพรมห้องทำงานอันโอ่อ่าของเขา ทั้งยังลืมเรื่องที่เขาเรียกเธอด้วย หญิงสาวหันซ้ายหันขวาทำอะไรไม่ถูก จู่ๆ ก็รู้สึกงงจนทำอะไรไม่ถูกทั้งที่ปกติเธอเป็นคนที่คิดและทำอะไรรวดเร็วคล่องแคล่ว
“มัวยืนทำอะไรอยู่”
“ก็… เอ่อ..”
“มานี่”
“แต่ว่า..”
“ฉันปวดขา มานวดให้หน่อย” เขาบอกพลางจ้องหน้าเธอเขม็ง
“แล้ว..” เธอชี้ไปที่ขนมที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น
“ฉันโทร. เรียกแม่บ้านมาจัดการแล้ว เธอมานี่”
เขากวักมือเรียกทำหน้ารำคาญเธอเสียอีก วาสิฏฐีเดินเร็วๆ ไปหาเขาด้วยความห่วงใย
“คุณบอกว่าปวดขา”
“ใช่.. วันนี้ยืนนานกว่าทุกวัน ทั้งยังเดินตรวจเยี่ยมแผนกด้วย”
เขาบอกพลางลุกขึ้น หญิงสาวจึงเดินไปประคองเขามานั่งที่โซฟารับรองตัวใหญ่หนานุ่มน่านั่งน่านอน แล้วจับขาแข็งแรงที่ซ่อนอยู่ในกางเกงเนื้อดีวางบนตักของตนอย่างอ่อนโยน ค่อยๆ พับขากางเกงของเขาขึ้นมาไว้ที่หัวเข่า สีหน้าเป็นกังวลโดยไม่รู้ว่าถูกดวงตาคมจับจ้องอยู่เงียบๆ
“วาก็บอกแล้วว่าให้นั่งวีลแชร์ไปก่อน และอย่าเพิ่งเดินเยอะ”
บ่นไปแต่มือเรียวแสนอบอุ่นก็ค่อยๆ นวดคลึงไปด้วย ซ้ำยังแทนตัวเองอย่างสนิทสนมด้วยความลืมตัว ธีรดลลอบยิ้มพอใจแต่ก็แสร้งทำหน้าขึงขังเมื่อเธอยังบ่นเขาไม่หยุด
“แบบนี้เมื่อไหร่จะหายเป็นปกติกัน”
“ทำไม เธออยากเลิกดูแลคนไข้หล่อๆ อย่างฉันแล้วหรือไง บอกไว้ก่อนนะว่า หาคนไข้หล่อๆ เท่ๆ และรวยมากอย่างฉันยากกว่างมเข็มในมหาสมุทร”
“วาจะอยากงมเข็มในมหาสมุทรไปทำไงกัน ร้านขายของชำ หรือร้านขายอุปกรณ์ตัดเย็บก็ทั่วไปก็มีเข็มขาย สมัยนี้เขาไม่ไปงมเข็มกันให้เมื่อยหรอก ซื้อเอาที่ไหนก็มีขาย สั่งออนไลน์ยังได้เลย”
หญิงสาวยอกย้อนกลับมาทำให้ธีรดลหน้าตึงหมั่นไส้ยายคนจอมกวนนี้นัก
“เฮ้อออ.. ฉันเบื่อจะคุยกับเธอแล้ว”
“งั้นคุณพักเถอะค่ะ เดี๋ยวตอนกลับวาจะให้ พี่แฮรี่ เอาวีลแชร์ขึ้นมา”
“แต่ฉันไม่ได้อยากนั่งวีลแชร์แล้วนะ ฉันเดินได้แล้ว อยากเดินเอง เธอนี่ยังไงนะ ตะก่อนคะยั้นคะยอให้ฉันเดิน พอฉันเดินก็จะให้นั่งวีลแชร์”
“ก็วันนี้คุณธีมปวดขา อีกอย่างคุณธีมก็ควรพักขาบ้างค่ะ เดินจนปวดขาแบบนี้ไม่ดีเท่าไร”
เธอบอกเขาอย่างใจเย็น มองใบหน้าหล่อเหลาของคนเอาแต่ใจแล้วส่ายหน้ายิ้มๆ ต่อให้เขาจะดูเหมือนหายเป็นปกติแล้ว แต่ความเอาแต่ใจซ้ำยังเผด็จการ ทุกอย่างต้องได้ดังใจก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“ไม่รู้ล่ะฉันจะเดิน ไม่ยอมนั่งวีลแชร์ให้คนมองด้วยแววตาสมเพชเวทนาอีกแน่ๆ”
“ไม่มีใครมองแบบนั้นหรอกค่ะ”
“ทำไมจะไม่มี เธอจำไม่ได้เหรอ ตอนไปโรงพยาบาลครั้งก่อนๆ น่ะมีคนพูดถึงฉันยังไง” วาสิฏฐีถอนใจเบาๆ
จำได้สิ ทำไมเธอจะจำไม่ได้ หลายครั้งที่ต้องพาเขาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล แน่นอนว่าภาพชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาโดดเด่นที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ และต้องมีคนช่วยประคองเดินเป็นภาพที่เรียกความสนใจต่อผู้พบเห็นไม่น้อย หลากหลายถ้อยคำที่แว่วเข้าหูมาทำให้ธีรดลไม่อยากออกจากบ้าน ไม่อยากไปโรงพยาบาล
และแรงกดดันทุกอย่างก็ทำให้เขากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์และขี้โมโห วันไปโรงพยาบาลนี่คือเป็นเหมือนวันโลกาวินาศเลยก็ว่าได้ ไม่มีใครเอาเขาอยู่ ไม่มีใครต่อกรกับเขาได้ มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่อยู่ต่อสู้กับอารมณ์ของเขาได้ และสุดท้ายก็มีเพียงเธอคนเดียวที่สามารถพาเขาไปถึงโรงพยาบาลได้อย่างเรียบร้อยราบรื่น
แต่นั่นก็ต้องแลกกับการใช้พลังงานอันมหาศาลเลยในการสู้รบกับคนเจ้าอารมณ์ ทุกคนสงสัยว่าเธอใช้ไม้ตายอะไรที่ทำให้ธีรดลยอมจำนน แต่เธอไม่สามารถบอกใครได้ เพราะมันคือ ความลับ..
พลันแก้มสาวก็ห่อร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะรีบปัดความรู้สึกนั้นออกไป...
