บท
ตั้งค่า

บทที่ 1. เสือสาวร้ายเดียงสา

บทที่ 1. เสือสาวร้ายเดียงสา

“เขาร้ายกาจขนาดนั้นก็ยังจะรักเขานี่นะ ฉันว่าแกหลงแค่รูปเขารึเปล่ายายวิว” แซมมี่ เพื่อนรักที่เคยเป็นชายหุ่นล่ำที่ตอนนี้กลายเป็นสาวสวยแซบหุ่นอรชรใบหน้าสวยกว่าผู้หญิงบางคนเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งทำตาประหลับปะเหลือกอย่างเอือมระอาเมื่อได้ฟังคำบอกเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มที่วิกานดาหลงรัก

“ฉันไม่ได้หลง ฉันรักเขาจริงๆ รักมานานแล้ว ตั้งแต่แรกพบ..” วิกานดาทำท่าฝันหวานแต่แล้วก็ทำหน้ามุ่ยเมื่อความจริงที่เจอนั้นเธอรู้ดีว่าตนกับธีร์นั้นต่างกันสุดขั้วและไม่มีทางจะรักกันได้ ชีวิตจริงมันไม่ใช่นิยายน้ำเน่าที่เจ้าชายจะมาพบรักกับสาวชาวบ้านทำงานร้านอาหาร... วิกานดายังจำวันที่เขาเรียกไปพบและต่อว่าเรื่องที่เธอทำให้ลูกค้าไม่พอใจ แต่วิกานดาก็ไม่ได้ไปกราบขอโทษลูกค้าอย่างที่เอ่ยปากไว้ เธอไม่รู้ว่าทางร้านจัดการอย่างไรแต่สองแม่ลูกคู่นั้นก็ไม่มาที่ร้านอีกและเธอไม่ถูกเรียกไปต่อว่า

“แต่ก็นะ ฉันก็มีความสุขดีกับการแอบรักเขา ถึงเขาจะเจ้าชู้ นิสัยเสียปากไม่ดี ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าก็เหอะ..”

“โอ๊ยย.. ชะนีนี่ก็แปลก เขาไม่เคยเห็นตัวอยู่ในสายตายังจะละเมอเพ้อพกคิดเป็นเรื่องเป็นราว”

“ตอนนี้แกก็เป็นชะนี แถมแกยังหลงผู้ชายมากกว่าชะนีอย่างฉันอีกนังแซมซั่น”

“ว๊าย นังนี่อย่ามาเรียกแซมมี่ว่าแซมซั่นนะยะ” แซมมี่หรือชื่อเดิม คือ แซม หรือที่เพื่อนๆ มักเรียกว่าแซมซั่น เพราะเมื่อก่อนจะแปลงเพศแซมนั้นร่างสูงใหญ่ดูแข็งแรงล่ำสันเพราะเป็นลูกครึ่งแต่ไม่รู้ว่าครึ่งประเทศอะไรเพราะแม่ของแซมเคยทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวพัทยาก่อนจะกลับบ้านนอกโดยมีแซมติดท้องไปด้วยแต่แซมก็เติบโตมาท่ามกลางความรักของผู้เป็นแม่และยาย

แซมเป็นเด็กดีขยันและเรียนเก่งเป็นขวัญใจของเพื่อนๆ จนเมื่อแซมคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีร่างกายอรชรอ้อนแอ้นและสวยงามอย่างหญิงสาวคนหนึ่ง วิกานดากับแซมมี่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียน ม.ปลาย ก่อนจะย้ายมาเรียนในเมืองและมาเรียนที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน พวกเธออยู่ด้วยกันมาตลอดเหมือนเงาของกันและกันเลยทีเดียว จนเมื่อวิกานดาทำงานด้วยเรียนด้วยและแซมก็เริ่มมีงานในวงการบันเทิง แซมเปลี่ยนชื่อเป็นแซมมี่และได้เป็นนางแบบอย่างที่เคยใฝ่ฝันไว้และก็มีแววไปได้ดีจึงย้ายไปอยู่คอนโดซึ่งอยู่ในตัวเมืองเพื่อความสะดวกในการทำงานแต่ทั้งคู่ก็จะมาเจอกันเสมอๆ ยามที่ว่างจากงานหรือเมื่อต้องการกันและกันเหมือนตอนนี้...

“แซมมี่ฉันรักเขาอยากเป็นของเขา..” วิกานดาเขย่าแขนรักเบาๆ ท่าทางเหมือนเด็กอยากได้ของเล่นแล้วอ้อนจะเอา

“ว๊ายนังนี่ พูดอะไรออกมา แกไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนนะ เกิดอะไรขึ้น..” แซมมี่ตกใจเพราะปกติวิกานดาจะเป็นคนสดใสร่าเริงและเรียบร้อยมากไม่เคยมีวีรกรรมโลดโผนเรื่องผู้ชาย แม้วิกานดาจะเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองแต่กับเรื่องผู้ชายแล้วละก็ วิกานดาแทบไม่เคยสนใจหรือวอแวกับเพศตรงข้ามในลักษณะชู้สาว ผู้ชายที่วิกานดาสนิทสนมด้วยที่สุดก็คงจะเป็น เดโช ลูกพี่ลูกน้องของวิกานดาแต่ตอนนี้เดโชแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว

“ฉันได้ข่าวว่าคุณธีร์เขาจะหมั้นกับคนที่ครอบครัวเขาหาให้ คนรวยเขาก็คงจะแต่งกับคนรวยด้วยกันให้สมหน้าสมตา ส่วนฉันก็ อกหักไง”

“แล้วยังไง..”

“ฉันอยากได้เขา..” วิกานดาพูดออกมาจากใจจริงเลยทีเดียว เธออยากเป็นของธีร์ อยากเป็นผู้หญิงของเขาก่อนที่เขาจะแต่งงาน อาจจะเป็นความคิดบ้าๆ ที่ไร้สาระ ไร้สติ ไร้ความเป็นกุลสตรี แต่เธออยากเป็นของเขาจริงๆ เป็นของผู้ชายที่เธอรัก เพียงคนเดียว..

“โอยยย อีแซมมี่จะบ้าตาย กรี๊ดดดด...” แซมมี่ทำท่าจะล้มทั้งยืนแล้วกรี๊ดออกมาจนวิกานดาตกใจ

“นังบ้า แกกรี๊ดทำไม ดีนะที่ห้องนี้มันเป็นคอนโดส่วนตัวแกเป็นห้องเก็บเสียงบ้างไม่งั้นชาวบ้านคงแตกตื่น” วิกานหน้าตื่นมองซ้ายมองขวาแล้วหันมาทำตาเขียวใส่เพื่อนรัก

“ก็ฉันตกใจนี่หว่าที่แกอยู่ๆ ก็อยากได้ผัวอยู่มาจนจะอายุสามสิบเพิ่งอยากมีผัว”

“ฉันเพิ่งยี่สิบหกย่ะไม่ได้แก่ขนาดนั้น ยังอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ย่ะ”

“นี่แกพูดจริงๆ ใช่ไหม” วิกานดาพยักหน้าเป็นคำตอบ พอเห็นแววตามุ่งมั่นของเพื่อนรักแล้วแซมมี่ก็ได้แต่ถอนใจเบาๆ

“แค่ครั้งเดียวเท่านั้น จริงๆ นะ คืนเดียวครั้งเดียว”

“โอ๊ยยย.. ไม่เคยพบไม่เจอ แล้วหลังจากนั้นล่ะแกจะทำไงต่อละยะ..” แซมมี่เท้าสะเอวมองหน้าเพื่อนรักจริงจัง

“ก็คงลาออกไปหางานใหม่ เพราะหากฉันได้นอนกับเขาแล้วคงมองหน้าเขาไม่ติดแน่ๆ เลยแก เขาอาจจะจำฉันได้และอาจจะไล่ฉันออก ฉันไม่อยากให้เขาเกลียดฉัน..” วิกานดาเสียงอ่อย

“แล้วก็ยังอยากจะทำ...” แม้จะเข้าใจอารมณ์เพื่อนรักแต่ก็อดห่วงไม่ได้

“ก็ฉันรักเขานี่ ฉันอยากเป็นของผู้ชายที่ฉันรัก ความสาวที่ฉันอุตส่าห์เก็บรักษาไว้อยากดีจะมอบให้คุณธีร์เพียงคนเดียว” วิกานดาพูดอย่างมุ่งมั่น แซมมี่กลอกตาไปมาอย่างไม่รู้จะพูดอะไรยอมใจกับความคิดอันแสนมาดมั่นของเพื่อนรัก

“ชะนีคลั่งรักมันเป็นแบบนี้นี่เอง”

“แล้วแกจะช่วยฉันมั้ย”

“ช่วยก็ได้ แต่คิดก่อนว่าจะเข้าถึงตัวเขายังไงเขาถึงจะยอมให้แกลากขึ้นเตียงโดยไม่รู้ว่าแกเป็นเด็กในร้านของเขา..”

“นั่นล่ะคือปัญหาของแก..” วิกานยิ้มร่าด้วยความพอใจ แซมมี่ค้อนเพื่อนตาคว่ำแล้วถอนใจออกมาหนักๆ

“นังวิวเอ๊ยนังวิว หาเหาใส่หัวแท้ๆ แก..”

ธีร์ยิมหวานให้หญิงสาวซึ่งเป็นคู่หมายของตน ดาด้า หรือ ดลยา เป็นหญิงสาวสวยหุ่นดี เจ้าหล่อนเป็นนักธุรกิจสาวหน้าใสเป็นเจ้าของครีมเพื่อผิวขาวยี่ห้อหนึ่งรวมไปถึงอาหารเสริมเพื่อความงามด้วยซึ่งเธอบอกเขาว่าธุรกิจนี้มาแรงมาก สาวไทยนิยมกันมากเพราะใครๆ ก็อยากสวยอยากขาว ธีร์มองว่ามันเป็นเรื่องของรสนิยมและความพึงพอใจของหญิงสาวรวมไปถึงผู้ชายบางคนด้วย บางยี่ห้อในตลาดก็เป็นของปลอมผสมสารอะไรที่มันเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคแต่ดาด้าบอกเขาว่าสินค้าของเธอเป็นสินค้าปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ และเขาเองก็แอบตรวจสอบว่าเธอพูดจริงหรือไม่ก็พบว่าดลยาพูดความจริง จึงอดชื่นชมไม่ได้ว่าดาด้าเป็นหญิงสาวที่สวยและเก่งคนหนึ่ง เหมาะจะเป็นภรรยาของเขาในอนาคตเพราะเธอคงเชิดหน้าชูตาให้กับครอบครัวของเขาได้

เขาชอบผู้หญิงทำมาหากินและขยันขันแข็งไม่เอาแต่งอมืองอเท้าบริการผู้ชายบนเตียงแลกกับเงินเท่านั้น ดาด้าคือผู้หญิงที่มารดาของเขาแนะนำ เธอมีเชื่อสายไทยเกาหลีใต้เหมือนเขา แต่ดาด้าใบหน้าค่อนไปทางเกาหลีมากกว่าซึ่งเขาเห็นสาวๆ รวมไปถึงหนุ่มๆ สมัยนี้ชอบไปศัลยกรรมที่เกาหลีเพราะอยากสวยหล่อเหมือนดารานักร้องเกาหลี และเขาก็มองว่ามันเป็นเรื่องปกติเพราะทุกคนอยากสวยหล่อเขาจึงไม่เคยแอนตี้เรื่องศัลยกรรม แต่ด้วยสายตาคนที่ผ่านผู้หญิงมามากธีร์รู้ว่าดาด้ามีความงามแบบธรรมชาติไม่ได้ผ่านมีดหมอ แต่การแต่งหน้า เมกอัพ เครื่องสำอางทำให้ผู้หญิงสวยได้โดยไม่ต้องศัลยกรรมด้วย

“เราไปที่ไหนกันคะวันนี้” หญิงสาวเดินมาเกาะแขนเขาอย่างสนิทสนม

“ไปที่ผับเพื่อนพี่ไหม วันนี้เห็นว่ามีเมนูใหม่จะนำเสนอ”

“ไม่ไปที่ร้านพี่ธีร์หรือคะ”

“กินอาหารที่ร้านจนเบื่อแล้ว ไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้างดีกว่าหรือดาด้าว่าไง”

“พี่ธีร์ว่ายังไงก็ว่าตามกันค่ะ ตามใจพี่ธีร์”

“จริงหรือเปล่าที่ว่าตามใจพี่..” ธีร์ทำตาพราวพรายหญิงสาวหัวเราะสดใส

“อย่ามาทำเจ้าชู้กับดาด้าเลยค่ะ พี่ธีร์สาวๆ ในสต๊อกเยอะแยะ อย่างดาด้าน่ะไม่ใช่สเป๊กหรอก”

“ก็ไม่แน่นะ สาวในสเป๊กกับแม่ของลูกมันคนละอย่างกัน..” ธีร์ว่าแล้วพาเธอไปที่รถ

“พี่ธีร์พูดเรื่องนี้ก็ดีแล้วค่ะ ดาด้ามีเรื่องจะปรึกษาพอดี..” หญิงสาวยังคงยิ้มหวานให้เขา ธีร์หันมามองสบตาแล้วยิ้มบางๆ ก่อนจะออกรถ...

ธีร์นั่งเงียบอย่างไม่รู้ว่าจะทำอะไรอย่างไรต่อไปเมื่อดลยาเดินออกไปจากห้องรับประทานอาหารแบบเป็นส่วนตัวในผับหรูซึ่งเจ้าของผับก็เป็นเพื่อนของเขาเอง

“ดาด้ามีคนรักแล้วค่ะ และเราก็กำลังจะมีลูกด้วยกัน..” น้ำเสียงของดลยาไม่มีแววล้อเล่นและไม่นานชายคนรักของเธอก็เดินเข้ามาพร้อมกับเอ่ยปากขอร้องเขา..

“ผม โทน เป็นคนรักของดาด้าครับ เรารักกันมานานแล้ว ตั้งแต่ดาด้าเรียน แต่พ่อแม่ของดาด้าไม่ชอบผมเพราะว่าผมไม่ได้ร่ำรวยเหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ที่เข้ามาในชีวิตดาด้า...” แล้วเรื่องราวเหมือนนิยายน้ำเน่าก็ถูกถ่ายทอดออกมาจากปากของทั้งสอง

โทน เป็นหนุ่มบ้านนอกที่เข้ามาเรียนในเมืองกรุง เป็นเด็กวัดแต่ขยันขันแข็งเรียนเก่งและเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย ตกหลุมรักดาวมหาวิทยาลัย ทั้งสองตกหลุมรักกันและแอบปลูกต้นรักกันเงียบๆ แต่พอทางบ้านดลยารู้เรื่องก็พยายามกีดกันทั้งสอง โดยจับแยกดลยาไปเรียนต่อที่เกาหลีใต้ซึ่งเป็นบ้านเกิดของบิดาซึ่งเป็นลูกครึ่งไทยเกาหลีใต้ถึงสองปี แต่ทั้งสองก็ยังแอบติดต่อกันจนดลยาเรียนจบก็ขอกลับมาทำงานที่เมืองไทยเธอก็ริเริ่มทำธุรกิจของตัวเอง ทั้งคู่หวังว่าการทำธุรกิจนี้จะทำให้โทนเป็นที่ยอมรับของครอบครัวเธอ โทนคือเจ้าของแบรนด์ โดยเขาพยายามทำงานเก็บเงินตลอดสองปีที่ถูกจับแยกจากดลยาและเมื่อดลยากลับมาอีกครั้งทั้งคู่ก็ตั้งใจจะสร้างอนาคตร่วมกัน โทนนำที่เก็บไว้มาลงทุนทำธุรกิจนี้โดยมีดลยาเป็นผู้จัดการทางการตลาดให้ โทนไม่ให้ดลยาช่วยลงทุนเลยแม้แต่บาทเดียว เพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริงใจที่มีต่อหญิงสาวที่รัก ดลยาปลาบปลื้มใจกับความรักของโทนเธอจึงรักเขามาก ทั้งสองแอบได้เสียกันและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเงียบๆ และเมื่อทางบ้านเธอรู้ก็จึงพยายามแยกโทนออกจากดลยาอีกครั้งโดยให้เธอเป็นคู่หมายของธีร์เพราะมารดาของดลยากับมารดาของธีร์เป็นเพื่อนรักกัน

ดลยามีคนที่รักอย่างจริงใจ เขาควรจะดีใจกับเธอแม้จะเสียดายผู้หญิงเก่งๆ อย่างดลยาแต่ธีร์ก็นับถือน้ำใจของโทนที่มีต่อดลยาไม่น้อย

“ไอ้ธีร์เอ๊ย เกือบไปแล้วไหมล่ะ เกือบพรากพ่อพรากแม่พรากลูกพรากเมียเขา..” ชายหนุ่มพูดกับตัวเองเบาๆ แล้วก็นึกถึงคำขอร้องของดลยา

“หากพี่ธีร์จะเห็นใจเรา พี่ธีร์ช่วยพูดกับคุณแม่ได้ไหมคะเรื่องของเรา.. และเรื่องของดาด้ากับพี่โทน”

นั่นล่ะคือปัญหาใหญ่ มารดาของดลยานั้นเขารู้กิตติศัพท์ดีทีเดียวเรื่องความถือตัวและเย่อหยิ่ง พอๆ กับมารดาของเขานั่นล่ะ ชายหนุ่มถอนใจออกมาหนักๆ แล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากส่วนที่เป็นร้านอาหารไปที่ผับซึ่งตอนนี่นักท่องราตรีกำลังโยกย้ายไปตามเสียงเพลงบ้างก็กำลังนั่งดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน ที่นี่บรรยากาศดีและค่อนข้างหรูหราเขาเองก็ชอบมาใช้บริการที่นี่บ่อยๆ ใจจริงเขาเองก็อยากเปิดผับแบบนี้แต่มารดาไม่เห็นด้วยอีกอย่างเขาเองก็มีงานมากล้นมือแค่จะหาเวลาพักยังไม่ค่อยจะมีเลย และนั่นล่ะเมื่อเขามีเวลาพักการปลดปล่อยผ่อนลายกับสาวๆ นั่นคือสิ่งที่เขาปรารถนาและชื่นชอบมากเป็นพิเศษ และคืนนี้ธีร์ก็คิดว่าจะหาหญิงสาวสักคนควงกลับไปที่คอนโดเพื่อคลายเครียด...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel