บทที่ 1 เปิดศึก (1)
เจ้าของร่างสูงรูดเนกไทลงแล้ววางพาดไว้บนพนักโซฟาที่พี่ชายนั่งทำงานอยู่หน้าจอโน้ตบุ๊ก พลางพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้น
“ไงดอกเตอร์”
“อ้าวเจ้ากรด กลับมาเร็วนี่หว่า กินอะไรมายัง ฉันทำกับข้าวไว้ให้ ไปกินสิ” ดอกเตอร์วัยสี่สิบห้ากระรัตคุยกับน้องชายโดยไม่ละสายตาไปจากหน้าจอโน้ตบุ๊ก และเขายังรัวนิ้วมือกับแป้นพิมพ์อย่างติดพัน
“พักเหนื่อยก่อนสิ ว่าแต่พี่เถอะป่านนี้ยังไม่เลิกงานอีกเหรอ?” ไม่ถามอย่างเดียว ทรงกรดยังขยับตัวมาใกล้ เท้าแขนที่พนักโซฟา สายตาคมมองหน้าจอที่ปรากฏโปรแกรมพิมพ์ซึ่งมีแต่ตัวอักษรภาษาอังกฤษ
“กำลังออกข้อสอบให้นักศึกษาอยู่”
“พี่ยังเหมือนเดิมเลยนะ ทำงานหนักไม่เคยเปลี่ยน”
ดร.ทรงศักดิ์ละสายตาจากหน้าจอ แล้วเงยหน้ามองน้องชายที่ยืนอยู่ด้านหลัง “หัวไปโดนอะไรมา?”
คนถูกถามเอามือขยี้ศีรษะ ฝุ่นแป้งที่ติดศีรษะก็ฟุ้งขึ้นมา แล้วคนที่เป็นภูมิแพ้ก็จามเสียงดังลั่นบ้าน
“ไปสะบัดที่อื่นสิวะ ฮัดเช่ย!”
“โทษทีดอกเตอร์”
ดร.ทรงศักดิ์หยิบเอากระดาษทิชชูมาสั่งน้ำมูก “ชุบแป้งมาเชียว ไปทำอะไรมาเนี่ย?”
“เล่นสงกรานต์” ทรงกรดตอบเล่น ๆ
“สงกรานต์ปลายปีเนี่ยนะ?”
ทรงกรดหัวเราะ “โดนสาวเอาแป้งสาดใส่น่ะ ด้วยข้อหาหล่อเกินไป”
“เออ สมน้ำหน้า”
“ซะงั้น ไม่สงสารผมบ้างหรือไง?”
“สงสารทำไม น่าหมั่นไส้อย่างนายต้องซ้ำนั่นแหละถูกแล้ว” ดร.ทรงศักดิ์บอกยิ้ม ๆ “ไปอาบน้ำสิ จะได้กินข้าว วันนี้มีของชอบของนายด้วยนะ”
“ครับ” ทรงกรดอมยิ้ม
พี่ชายของเขาน่ารักเสมอ ก็ตั้งแต่พ่อแม่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ตกหน้าผา ทรงศักดิ์ก็ทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อและแม่เพื่อดูแลเขาเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
ช่วงเวลาที่พ่อกับแม่เสียชีวิต พี่ชายของเขายังเรียนมหา’ลัยปีสุดท้าย จำได้ว่าทรงศักดิ์ต้องทำงานพิเศษควบคู่ไปด้วยกันจนแทบไม่ได้พัก ซ้ำยังต้องดูแลเขา เพราะตอนนั้นเขาอายุแค่เก้าขวบเท่านั้น
แน่นอนว่าเขารักพี่ชายคนนี้มาก ทั้งรักและเคารพเลยทีเดียว
“พี่เองก็อย่าหักโหมให้มากนักล่ะ ทำทั้งงานนอกบ้าน แล้วก็งานบ้านอีก ทำไมเรื่องทำอาหารไม่ยกให้เป็นหน้าที่ของเมียพี่บ้างล่ะ?”
ดร.ทรงศักดิ์ส่ายหน้า “ไม่อยากกินไข่ดาวไหม้”
“ดอกเตอร์ ผมถามจริง ๆ”
ดร.ทรงศักดิ์มองหน้าน้องชาย “ไม่อยากรบกวนยัยกลิ่นน่ะ รายนั้นแค่เรียนหนังสือกับทำงานพิเศษก็หนักเอาเรื่องแล้วนะ”
คนฟังนิ่วหน้า นึกคันปากอยากบอกพี่ชายเหลือเกินว่ามันไม่น่าจะเป็นแบบนั้น เท่าที่เห็นกลิ่นจันทร์แทบไม่ไปมหา’ลัยเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งยังมีเวลาเที่ยวเตร่เที่ยวไปหาผู้ชายคนอื่น
“พี่เลี้ยงเมียยังกับเลี้ยงลูกเลย ตามใจมากไประวังเถอะจะเสียใจทีหลังนะ”
ดร.ทรงศักดิ์อมยิ้ม “จะเอาอะไรกับเด็กที่เพิ่งจะโตวะเจ้ากรด ยัยกลิ่นยังวัยรุ่นอยู่ บังคับมากไปก็ไม่ดีนะ”
“วัยรุ่นที่ไหน นั่นล่ะบรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่งั้นจะแต่งงานได้เหรอ”
“จะยังไงยัยกลิ่นก็ยังดูเป็นเด็กในสายตาของฉัน” ทรงศักดิ์บอกหน้านิ่ง
“ก็เป็นซะแบบนี้ ใจดีมากไประวังเมียจะไม่อยู่ในโอวาทนะ”
ดร.ทรงศักดิ์อมยิ้ม วางโน้ตบุ๊กลงบนโต๊ะแล้วบิดขี้เกียจ “ยุ่งแต่เรื่องของฉัน แล้วนายล่ะเมื่อไหร่จะมีเมีย?”
คนถูกถามไหวไหล่ “ผมยังไม่รีบ ว่าแต่พี่เถอะเมื่อไหร่ถึงจะมีหลานให้ผมอุ้มล่ะ?”
“ฉันไม่เคยคิดเรื่องนั้นเลยว่ะ”
“ก็ดีนะที่พี่ยังไม่คิดมีลูกตอนนี้”
ดร.ทรงศักดิ์นิ่วหน้า พลางถอดแว่นสายตาออก “ตกลงแกอยากให้ฉันมีลูก หรือไม่มีลูกวะ?”
ทรงกรดยิ้มแคร่น ๆ “มีก็ดี แต่เมียพี่ยังเรียนอยู่ ยังไงก็มีตอนนี้ไม่ได้ไม่ใช่เหรอ”
ผู้เป็นพี่ชายอมยิ้ม ยังไม่ทันได้บอกน้องชายถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกลิ่นจันทร์ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน ดร.ทรงศักดิ์กดรับสายทันที
“ว่าไงกลิ่น”
“ดอกเตอร์ กลิ่นทำกระเป๋าสตางค์หาย ดอกเตอร์ช่วยมารับกลิ่นหน่อยสิคะ”
“ตอนนี้อยู่ไหน?”
กลิ่นจันทร์บอกตำแหน่ง
“โอเค รออยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวไปรับ” บอกจบชายหนุ่มก็วางสาย แต่แล้วโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เป็นเรื่องงาน และเขาต้องเร่งส่งไฟล์ที่ยังทำไม่เสร็จอย่างเร่งด่วนซะด้วยสิ
“งานเข้าแล้วเจ้ากรด”
“มีอะไรเหรอ?”
“อาจารย์ที่มหา’ลัย ให้ส่งไฟล์ข้อสอบไปให้ ฉันต้องไปรับยัยกลิ่นตอนนี้ด้วยสิ เฮ้อ...” คนงานล้นมือทำหน้าหนักใจ
“ให้ผมช่วยไหม?”
