เพลิงปรารถนายั่วหัวใจ

52.0K · จบแล้ว
วรัมพร หงสรถ
51
บท
5.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

(ภาคต่อเล่ห์สวาทล่ามหัวใจ แต่อ่านแยกได้ ไม่งงค่ะ) “ท่านประธาน!” คนตกงานเรียกด้วยสีหน้าตกใจ ดวงตากลมสวยเบิกโต ทว่าจะลุกหนีไปตอนนี้ก็ไม่ทันเมื่อมือของท่านประธานกดให้นั่งอยู่กับที่ “กลัวผมเหรอ” เขาถามด้วยรอยยิ้มเล็กๆ อยากจะถอยห่างหญิงสาวเพื่อไม่ให้เจ้าตัวหวาดกลัว แต่เขาถอยไม่ได้ เธอเหมือนแรงดึงดูดให้เขาเข้าหา “ปละ...เปล่า เปล่าค่ะ” ปากบอกเปล่าแต่ใจจริงกลัวจนใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม “เปล่าก็ดี เราจะได้มาคุยเรื่องงานใหม่กัน” เสียงทุ้มห้าวหยุดไปครู่หนึ่งเพื่อดูท่าทีของหญิงสาวก่อนจะพูดต่อ “ผมต้องการให้คุณมาเป็นนางบำเรอของผมหนึ่งปี แลกกับเงินสามล้าน โดยที่ผมจะจ่ายให้คุณก่อนครึ่งหนึ่งทันทีที่คุณตกลงจะเป็นนางบำเรอให้ผม ส่วนหน้าที่ของนางบำเรอ หลักๆ เลยก็เรื่องบนเตียง ส่วนเรื่องอื่น ถ้าผมต้องการ ผมจะบอกคุณเอง” “อะไรนะคะ!” เพลิงปรารถนายั่วหัวใจ เคยตีพิมพ์มาแล้วในชื่อ เพลิงสวาทนางบำเรอ ภายใต้นามปากา ธิชาร์ โดยสำนักพิมพ์ Siriaksorn Book เมื่อปี 2559 เมื่อหมดสัญญา นักเขียนจึงนำมาปรับปรุงเนื้อหาบางส่วน และวางจำหน่ายในรูปแบบ e-book ในชื่อ เพลิงปรารถนายั่วหัวใจ

นิยายรักนิยายปัจจุบันประธานพลิกชีวิตคนรับใช้จอมมารรักแรกพบเศรษฐี

ตอนที่ 1

ตอนที่ 1

“นังริน! แกจะอ่านไปทำไมนักหนาไอ้พวกหนังสือหนังสือหาเนี่ย” เสียงเกรี้ยวกราดของมารดาทำให้คนที่ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือเพิ่มพูนความรู้รีบวางหนังสือลง ก่อนจะหันไปทางมารดา ที่ได้เห็นสีหน้าของท่านแล้วเธอก็เดาได้ทันทีว่าเล่นเสียมา และคงเสียหมดหนักตัก

“แม่กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ” ริน หรือ รินนภัส เฟื่องรัตน์ ในวัยยี่สิบสี่ถามผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มและไม่คิดโกรธเคืองท่าน ทีเล่นเสียมาเมื่อไหร่ก็จะมาระบายลงกับเธอทุกครั้ง

“ไม่กลับมาแล้วแกจะเห็นฉันยืนหัวโด่อยู่นี่หรือไง แล้วนี่นังรส น้องแกอยู่ไหน” ถามไปแล้วก็มองหาลูกสาวสุดที่รัก ที่ตนจะฝากผีฝากไข้เอาไว้ยามแก่เฒ่า เพราะส่งให้เรียนมหาลัยดีๆ จะได้มีงานทำที่ดีมาเลี้ยงดูตน

“เอ่อ...” รินนภัสอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบมารดาอย่างไร เพราะตั้งแต่น้องสาวออกไปเรียนจนตอนนี้ก็เกือบจะเที่ยงคืนแล้วก็ยังไม่กลับเข้าบ้าน ที่เธอก็โทรหาน้องสาวแล้ว แต่น้องสาวไม่รับโทรศัพท์ เธอเลยไม่รู้ว่าตอนนี้น้องสาวกำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน หรือบ้างทีอาจกำลังเดินทางกลับบ้าน

“แกจะเอออาทำไมนังริน!” ผู้เป็นแม่ตวาดด้วยอารมณ์หงุดหงิด

“น้องยังไม่กลับเข้าบ้านเลยแม่”

“ก็แล้วทำไมมันยังไม่กลับบ้าน” คนเป็นแม่ย้อนถามไป ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าลูกสาวคนเล็กกว่าจะกลับเข้าบ้านได้ก็เกือบเที่ยงคืนของทุกวัน โดยที่ลูกสาวคนเล็กก็บอกว่าต้องไปทำรายงาน ต้องไปติวหนังสือกับเพื่อน แต่ถึงจะรู้สาเหตุที่ทำให้ลูกสาวคนรองกลับบ้านดึกดื่นแทบทุกวัน ทว่าคนเป็นแม่ก็ยังอดห่วงไม่ได้ เลยต้องถามหาทุกครั้งที่กลับเข้าบ้าน แล้วไม่ได้เห็นหน้าลูกสาวคนเล็ก

“น้องก็คงออกไปติวหนังสือบ้านเพื่อนเหมือนทุกวันนั่นแหละจ้ะ” รินนภัสตอบไปอย่างที่น้องสาวเคยบอกมารดาทุกครั้งเวลากลับบ้านดึก แต่ทั้งเธอและมารดาไม่รู้เลยว่าบ้านเพื่อนที่ว่าอยู่ที่ไหน

“แต่นี่มันจะเที่ยงคืนอยู่แล้ว ทำไมน้องแกมันยังไม่กลับ”

“รินไม่รู้หรอกแม่”

“แกเป็นพี่ประสาอะไร ถามอะไรไปก็ไม่รู้สักอย่าง!”