บทที่ 3
ธนัทหันกลับไปมองตามแผ่นหลังเล็ก ๆ ของน้องสาวเพื่อนสนิทอย่างใจหายบอกไม่ถูก ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาที่เขาเข้ามาเรียนในโรงเรียนเตรียมทหารแล้วได้เป็นเพื่อนสนิทกับปานปริญและนั่นทำให้ได้เจอกับปานตะวันเช่นกัน จนตอนนี้เขาเห็นอีกฝ่ายเป็นเหมือนน้องสาวของตัวเองไปเสียแล้ว แต่จะให้ทำอย่างไรได้เมื่อเวลาหมุนไปข้างหน้า มนุษย์ทุกคนก็ต้องเดินไปตามเส้นทางชีวิตของตัวเอง เพราะอย่างน้อยเขาก็ยังติดต่อกับเธอได้เสมอ
เวลาผ่านไปจนกระทั่งปานตะวันขึ้นชั้นปีที่สาม จากเด็กสาวกลายเป็นสาวสะพรั่ง ทำให้ตอนนี้เป็นที่สนใจของรุ่นพี่รุ่นน้องไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ทว่าหัวใจของเธอนั้นมีเจ้าของแล้วจึงไม่เคยหันมองใครเลยสักนิด
วันนี้เป็นวันเกิดของเธออีกทั้งยังเป็นวันสอบวันสุดท้ายของเทอมหนึ่ง เพื่อน ๆ จึงได้โอกาสนัดกันว่าจะไปฉลองสักหน่อยหลังจากหักโหมทำโปรเจคและเตรียมสอบมานานแรมเดือน ระหว่างที่กำลังจะเดินไปยังรถของเพื่อนสนิทก็มีเสียงเตือนข้อความเข้าดังขึ้นเสียก่อน
ติ้ง!
“สอบเป็นไงบ้าง” พี่ธาม พี่ชายหมายเลขสอง
“ระดับปานตะวันทำได้อยู่แล้วค่า” ปานตะวัน
เมื่อพิมพ์ตอบข้อความเพื่อนสนิทพี่ชายที่มักจะถามไถ่เรื่องการเรียนของตัวเองอยู่เสมอเรียบร้อยแล้วก็เก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋าผ้าคู่ใจเช่นเดิม
ตอนนี้ธนัทเป็นเปรียบเหมือนกำลังใจในการเรียนสำหรับปานตะวัน นั่นเพราะเขาอายุมากกว่าเธอและตอนนี้ก็กลายเป็นนายตำรวจไปแล้ว เธอจึงต้องพยายามให้มากเพื่อที่ว่าสักวันหนึ่งจะไปยืนเคียงข้างเขาได้
“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยนะ”
ใบเตย กุณดารูมเมทที่เคยพักอยู่ห้องเดียวกันตอนปีหนึ่ง ปัจจุบันก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทเพราะเรียนคณะและสาขาเดียวกันแอบแซวปานตะวันเบา ๆ ให้ได้ยินกันสองคน จนคนโดนแซวอยากจะฟาดต้นแขนสักทีเนื่องจากว่าเรื่องนี้มีแต่กุณดาเท่านั้นที่รู้
“ก็แค่ถามเรื่องสอบน่า ไป ๆ หิวแล้วเนี่ย”
ปานตะวันตอบเพื่อนเสียงเบา ก่อนจะปลุกเอเนอจี้ตัวเองขึ้นมารีบลากแขนเพื่อนสนิทไปที่รถ
ช่วงนี้พ่อกับแม่ของปานตะวันไปทัวร์เที่ยวต่างประเทศกับเพื่อน ๆ วัยเกษียณ ทำให้ปานตะวันต้องอยู่ที่บ้านคนเดียวดังนั้นวันนี้เลยอยู่ปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ได้โดยไม่ต้องรีบกลับบ้านแต่อย่างใด
ปานตะวันเจ้าของวันเกิดในวันนี้ยอมดื่มแอลกอฮอล์ตามใจเพื่อนสนิทและพี่รหัสที่ชงให้กันแทบไม่พักด้วยความเกรงใจจนตอนนี้เธอเริ่มจะมึนบ้างแล้ว
ครืด ครืด ครืด
แรงสั่นสะเทือนจากโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ขายาว ช่วยให้ปานตะวันที่เกือบจะหลับได้สติขึ้นมา
พี่ธาม
แค่เห็นชื่อที่โชว์บนหน้าจอหัวใจดวงน้อยก็พลันเต้นแรงขึ้นมา รีบกดรับสายทันทีโดยลืมไปว่าตัวเองนั้นนั่งอยู่ในร้านเหล้าที่เสียงดังไม่เบาเลย
“ฮะ ฮัลโหลค่ะ”
เสียงเพลงที่ดังลอดมาตามสาย ทำเอาธนัทที่พึ่งจอดรถหน้าบ้านอีกฝ่ายขมวดคิ้วมุ่น
“อยู่ไหนเนี่ยปาน”
“เอ่อ อยู่ร้านเหล้ากับเพื่อนค่ะ”
ปานตะวันแม้จะได้ยินไม่ชัดนักแต่ก็รับรู้ถึงอารมณ์จากน้ำเสียงของอีกฝ่ายได้จึงรีบลุกเดินออกมาคุยที่ด้านนอกร้าน
“ร้านไหนดื่มด้วยเหรอ”
“ดื่มค่ะ ร้าน… ค่ะ”
“รออยู่นั่นเดี๋ยวพี่ไปรับ”
พูดจบธนัทก็วางสายทันที ปล่อยให้คนฟังที่อยู่อีกด้านได้แต่ยืนมองโทรศัพท์ของตัวเองด้วยความมึนงง พี่ธามจะมารับเธอได้ยังไง เขาทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัด แล้วเขาจะมารับเธอทำไมกันนะ ยืนคิดอยู่สักพักปานตะวันก็เลยเดินกลับเข้าไปหาเพื่อนสนิทของตัวเองบอกว่าพี่ชายจะมารับ
“ให้เราออกไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไร ๆ เราไปได้ สวัสดีค่ะพี่ ๆ ”
ปานตะวันโบกมือให้กับเพื่อนสนิท พลางยกมือไหว้รุ่นพี่ที่อยู่กันตรงนั้น ก่อนจะรีบเดินออกประตูไปด้วยความมึนไม่น้อย
