แก้แค้น
บ้านของกู้หลีอยู่ห่างไกลจากชาวบ้านคนอื่นๆบ้านที่ใกล้เขาที่สุดก็คือบ้านของหญิงชราปากกว้างซึ่งบัดนี้ปิดประตูบ้านเงียบจนเหมือนไม่มีคนอยู่ด้านใน
ดังนั้นกว่าจะมีคนรู้และมาช่วยดับไฟบ้านทั้งหลังก็เหลือเพียงเถ้าถ่าน
ต้นยามโหย่วกู้หลีหอบเสบียงอาหารเดินเข้าหมู่บ้านมา เด็กหนุ่มร่างผอมพอเห็นว่าเป็นกู้หลีจึงออกจากที่ซ่อนส่งเสียงเรียกเขาเบาๆ “กู้หลี”
กู้หลีหันขวับไปมองเมื่อเห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มข้างบ้านเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เด็กหนุ่มไม่รอช้าปรี่เข้าไปคว้าข้อมือกู้หลีแล้วเอ่ยว่า “เกิดเรื่องร้ายขึ้นกับมารดาของเจ้า”
กู้หลีที่กำลังจะสะบัดมือของเด็กหนุ่มออกพลันหยุดชะงัก เด็กหนุ่มไม่รอช้ารีบเอ่ยว่า “มารดาของเจ้าถูกวางยาพิษข้าช่วยนางไว้ไม่ทัน”
กู้หลีส่ายหน้าปากก็เอ่ยว่า “ไม่จริง”
เขาไม่รอช้ารีบวิ่งไปบ้านของตนทันที ภาพตรงหน้าทำให้เขาควบคุมสติไม่อยู่ บ้านที่เขาอยู่มาตั้งแต่เกิดถูกไฟเผาทำลายไปจนสิ้น
ชาวบ้านที่มีจิตใจดีพากันปลอบโยนเขา “กู้หลีไม่ต้องห่วงพวกเราจะช่วยกันสร้างบ้านหลังใหม่ให้เจ้า”
กู้หลีไม่เอ่ยอันใดเขาหันมองไปรอบๆเมื่อเห็นเด็กหนุ่มร่างผอมที่วิ่งตามมาจึงปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อของเด็กหนุ่มเอ่ยถามว่า “มารดาของข้าเล่านางอยู่ที่ใด”
เด็กหนุ่มพยายามแกะมือกู้หลีออกจากคอเสื้อของตนปากก็เอ่ยว่า “เจ้าปล่อยข้าก่อน”
กู้หลีปล่อยคอเสื้อของเด็กหนุ่มออกแววตาดุดันจ้องมองเด็กหนุ่มเหมือนกำลังบอกว่าถ้าเจ้ายังชักช้าข้าจะฆ่าเจ้าเดี๋ยวนี้
ทันทีที่สบเข้ากับสายตาดุดันของกู้หลี เด็กหนุ่มก็สาวเท้าวิ่งพลางเอ่ยว่า “เจ้าตามข้ามา”
ในขณะที่เด็กชายรองเท้าฟางวิ่งตามเด็กหนุ่มร่างผอมไป หัวหน้าหมู่บ้านก็เอ่ยกับชาวบ้านว่า “พวกเจ้าแยกย้ายกันกลับบ้านไปก่อนข้าจะคอยดูกู้หลีเองว่าเขามีสิ่งใดให้ช่วยบ้าง”
หัวหน้าหมู่บ้านกวาดสายตามองชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นทั้งหมดแล้วเอ่ยว่า “ถึงแม้กู้หลีจะเป็นผู้บำเพ็ญเพียรเต๋าแต่เขาก็ยังเด็กพรุ่งนี้ส่งตัวแทนครอบครัวละสองคนมาช่วยเขาสร้างบ้านใหม่มีใครไม่เต็มใจไหม“
ชาวบ้านพากันส่ายหน้าชาวบ้านเหล่านี้มีจิตใจดีพวกเขาก็เห็นกู้หลีมาตั้งแต่เกิดจึงเอ็นดูเขาเป็นพิเศษ เมื่อไม่มีใครคัดค้านหัวหน้าหมู่บ้านจึงโบกมือไล่ให้ทุกคนกลับไปส่วนตัวเขาและบุตรชายสองคนเดินไปบ้านของหญิงชราปากกว้าง
ร่างไร้ลมหายใจของสตรีร่างบางถูกกู้หลีกอดเอาไว้แน่นปากก็เอ่ยซ้ำๆว่า ”ท่านแม่ข้ากลับมาแล้วท่านตื่นสิขอรับฮือๆ“
หญิงชราปากกว้าง,เด็กหนุ่มร่างผอม,หัวหน้าหมู่บ้านและบุตรชายทั้งสองพากันเบือนหน้าหนี หญิงชราปากกว้างถึงกับยกมือปาดน้ำตาที่ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
เนิ่นนานพอสมควรกู้หลีจึงเงยหน้าขึ้นเอ่ยถามเสียงเย็นว่า “เกิดอันใดขึ้นกับมารดาของข้ากันแน่”
หญิงชราปากกว้างสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วเอ่ยว่า “ข้ากำลังกวาดลานบ้านก็เห็นยายของเจ้าถือหม้อดินทำท่าลับๆล่อๆเดินมาแต่ไกล ข้าสงสัยจึงหลบอยู่หลังกำแพงก็เห็นนางเดินไปทางบ้านเจ้า หนึ่งเค่อต่อมาป้าสะใภ้สองคนของเจ้าก็เดินผ่านหน้าบ้านข้าด้วยท่าทางลับๆล่อเช่นกัน”
“ข้าอยากรู้ว่าพวกนางมาทำไมทั้งๆที่พวกเจ้าตัดขาดกันนานแล้วจึงชวนเอ้อหลางไปแอบดูอยู่หลังต้นไม้หน้าบ้านเจ้า เมื่อยายกับป้าสะใภ้ของเจ้าเดินออกมาไฟก็ลุกโชนไหม้บ้านเจ้า เอ้อหลางจึงรีบเข้าไปช่วยมารดาของเจ้าออกจากกองไฟมาได้ แต่เมื่อตรวจดูก็พบว่านางสิ้นใจเพราะโดนวางยาพิษเสียแล้ว ข้าคิดว่าพวกมันเผาบ้านเพื่อทำลายหลักฐานเกรงว่าคงกลัวเจ้าไปแก้แค้น”
กู้หลีกัดฟันกรอด หัวหน้าหมู่บ้านตบบ่าเขาเบาๆพลางเอ่ยว่า “ฆ่าคนต้องชดใช้ข้าจะช่วยเจ้าจัดการเรื่องนี้เอง”
กู้หลีเอ่ยเสียงเย็น “ข้าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง“
หัวหน้าหมู่บ้านรีบเอ่ย ”ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ข้ากับชาวบ้านคนอื่นๆจะไปตัดไม้มาปลูกบ้านหลังใหม่ให้เจ้า”
กู้หลีส่ายหน้าเอ่ยว่า “ไม่ต้องขอรับข้าจะใช้ที่นั่นฝังร่างมารดา”
หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้าพลางเอ่ยว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าและชาวบ้านจะช่วยกันเก็บกวาดสถานที่”
กู้หลีนิ่งไม่เอ่ยอันใดหัวหน้าหมู่บ้านจึงคิดเอาเองว่าเขาตกลง ขณะที่หัวหน้าหมู่บ้านจะชวนกู้หลีให้ไปพักที่บ้านกู้หลีก็เอ่ยว่า “ท่านกลับไปเถอะ”
หัวหน้าหมู่บ้านจึงพาบุตรชายทั้งสองกลับไป กู้หลีสบตากับหญิงชราปากกว้างแล้วเอ่ยว่า “ท่านย่าจางพี่เอ้อหลางขอบคุณท่านมากที่ช่วยนำร่างของท่านแม่ออกมาจากกองไฟ“
หญิงชราปากกว้างเอ่ยว่า ”ข้าขอโทษที่เข้าไปช่วยนางช้าถ้าข้าไม่มัวแต่กลัวและเข้าไปเร็วกว่านี้นางก็อาจจะไม่ตาย“
กู้หลีส่ายหน้าเอ่ยว่า “ไม่ใช่ความผิดของท่าน”
เขาลังเลอยู่ชั่วครู่แล้วจึงเอ่ยว่า “ข้าขอฝากมารดาไว้ที่นี่ชั่วคราวก่อนได้หรือไม่เมื่อเสร็จธุระแล้วข้าจะรีบกลับมารับนาง”
หญิงชราปากกว้างพยักหน้าพลางเอ่ย “ข้าจะดูแลร่างของมารดาเจ้าอย่างดีไปทำธุระของเจ้าเถอะอย่าได้กังวล”
…………………………
เด็กชายรองเท้าฟางหยุดยืนอยู่ที่หน้าบ้านตระกูลลี่ เขาหวนนึกถึงเรื่องราวของมารดาก่อนออกเรือนที่ได้รู้มาจากหญิงชราปากกว้างเขาก็ยิ่งโกธรแค้นแทนมารดา
นับตั้งแต่หญิงชราแต่งเข้ามาเป็นภรรยาใหม่ของท่านตา ชีวิตของมารดาเขาก็หาได้มีความสุขอีกต่อไป ทุกๆวันต้องทำงานบ้านสารพัดยามที่ท่านตายังมีชีวิตอยู่ยังได้กินอิ่มท้องบ้าง
แต่ครั้นท่านตาจากไปมารดาของเขานอกจากจะต้องทำงานหนักกว่าเดิมทุกวันจะได้กินเพียงแผ่นแป้งบางๆหนึ่งแผ่นเท่านั้น
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”เสียงหัวเราะที่ดังมาจากในเรือนทำให้กู้หลีได้สติ เขาไม่รอช้ายกเท้าถีบประตูเพียงครั้งเดียวประตูรั้วก็พังครืนล้มลง
เสียงหัวเราะเงียบลงทันที กู้หลีเดินเข้าไปยกเท้าถีบประตูบ้าน โครม ประตูบ้านพังลงทำให้เห็นหญิงชราและสมาชิกในครอบครัวกำลังมองมาที่เขาด้วยความหวาดกลัว
เด็กชายรองเท้าฟางไม่เอ่ยอันใดให้มากความเขากางฝ่ามือออก เปลวไฟโพยพุ่งออกจากฝ่ามือเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างจนมอดไหม้ คนที่คิดจะหนีก็ถูกมืออีกข้างของกู้หลีปล่อยเถาวัลย์ออกมารัดขาไว้ไม่ให้หนีไปไหน
คืนนั้นเพื่อล้างแค้นให้มารดากู้หลีสังหารคนไปห้าชีวิตหัวหน้าหมู่บ้านรวมถึงชาวบ้านคนอื่นๆได้ยินเสียงร้องโหยหวนขอความช่วยเหลือดังขึ้นต่อเนื่องแต่ก็ไม่มีใครกล้าเปิดประตูออกไปช่วยเพราะรู้ดีว่ากู้หลีกำลังแก้แค้นให้มารดา
