ศิษย์ก้นกุฏิ
เพราะความช่วยเหลือของคนในหมู่บ้านเพียงครึ่งวันเศษซากจากการถูกไฟไหม้ก็ถูกกำจัดจนหมดสิ้น รั้วไม้ไผ่ถูกสร้างขึ้นแทนรั้วไม้ผุพังอันเดิม จุดที่บ้านทั้งหลังเคยตั้งอยู่ยามนี้ถูกขุดเป็นหลุมลึกเพื่อทำเป็นสุสาน
กู้หลีนำร่างของมารดาใส่ไปในโลงหลังใหญ่ก่อนที่จะปิดฝาโลงเขาถอดรองเท้าฟางออกจากเท้าของตนเองหลังทำความสะอาดจนมั่นใจแล้วว่าไม่มีเศษหินเศษดินติดพื้นรองเท้าเขาจึงนำมันวางลงไปในโลงข้างเท้าของมารดาปากก็เอ่ยเสียงเบาว่า
“ท่านแม่รองเท้าฟางคู่นี้เปรียบเสมือนตัวแทนข้าเดินไปส่งท่านสู่ภพภูมิใหม่ข้าขอให้ท่านแม่โชคดีไร้สิ้นทุกข์กายทุกข์ใจดั่งชาตินี้“
หัวหน้าหมู่บ้านและชาวบ้านคนอื่นๆช่วยนำโลงศพฝังลงดินเมื่อกลบดินตั้งป้ายชื่อเรียบร้อยกู้หลีจึงเอ่ยเสียงเบาว่า ”เมื่อข้ากลับมาที่นี่อีกครั้งจะนำร่างของท่านพ่อมาฝังไว้ข้างๆท่านนะขอรับ“
กู้หลีโขกศรีษะให้มารดาเสร็จจึงเอ่ยขอบคุณหัวหน้าหมู่บ้านและชาวบ้านทุกคนที่มาช่วยงาน
ประตูรั้วถูกปิดอย่างแน่นหนา หัวหน้าหมู่บ้านมองตามแผ่นหลังของเด็กชายรองเท้าฟางที่บัดนี้หาได้สวมรองเท้าฟางอีกต่อไปเมื่อร่างของเด็กหนุ่มลับจากครรลองสายตาหัวหน้าหมู่บ้านและชาวบ้านจึงแยกย้ายกันจากไป
.......................
ณ.สำนักกระบี่จันทรา
กู้หลียืนเหม่อมองประตูทางเข้าสำนักกระบี่จันทรา เมื่อวานตอนเช้าเขายังมีมารดารอคอยเขากลับบ้านแต่เพียงแค่ไม่กี่ชั่วยามมารดาผู้มีจิตใจดีของเขาก็ไม่อยู่แล้ว
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกเม้มริมฝีปากแน่นยกมือปาดคราบน้ำตาที่หางตาแล้วจึงสาวเท้าก้าวเข้าประตูสำนัก แต่แล้วเขาก็ถูกกระบี่เล่มยาวขวางทางเอาไว้
เจ้าของกระบี่เอ่ยอย่างดุดันว่า “เจ้าหนูที่นี่คือสำนักกระบี่จันทราหาใช่ที่ให้เจ้ามาวิ่งเล่น”
กู้หลีได้ยินดังนั้นเขาขมวดคิ้วพลางเอ่ย “มิใช่ว่าสำนักกระบี่จันทราติดป้ายประกาศเปิดรับลูกศิษย์หรอกหรือตัวข้าผู้นี้จึงตั้งใจจะมาสมัครเข้าสำนักหาได้มาวิ่งเล่นดังคำที่พี่ชายกล่าว”
ศิษย์เฝ้าประตูมองเขาหัวจรดเท้าแค่นเสียงหัวเราะเบาๆแล้วเอ่ยว่า “สำนักกระบี่จันทราใช่ว่าใครอยากจะเข้าก็เข้าได้ง่ายๆข้าเชื่อว่าเจ้าเดินเข้าไปได้ไม่นานก็ต้องถูกไล่ออกมาเจ้ากลับไปตอนนี้เสียเถอะจะได้ไม่ต้องอับอายหากไม่ผ่านการทดสอบ“
กู้หลีกำหมัดแน่นพลางเชิดหน้าเอ่ย “ขอบคุณพี่ชายที่หวังดีแต่ข้าจะเข้าไปด้านในได้โปรดหลีกทางด้วย“
ศิษย์เฝ้าประตูทำท่าฮึดฮัดไม่ยอมหลีกทางให้กู้หลีแต่เมื่อหางตาของเขาเหลือบไปเห็นท่านติงผู้อาวุโสที่เป็นผู้ก่อตั้งสำนักกระบี่จันทรายืนมองอยู่ไม่ไกล ศิษย์เฝ้าประตูจึงรีบเก็บกระบี่หลีกทางให้กู้หลีเข้าไปด้านใน
กู้หลีเดินเข้าไปด้านในสำนักพลางคิดในใจว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ๆศิษย์พี่ผู้นี้ถึงเปลี่ยนใจปล่อยเขาเข้ามาง่ายๆเสียเล่า
กู้หลีเดินมาถึงลานกว้างก็เห็นคนจำนวนมากกำลังต่อแถวเพื่อทำการทดสอบรากวิญญาณ เขาจึงไม่รอช้าไปยืนต่อท้ายแถวเพื่อร่วมทำการทดสอบ
แสงแดดยามเที่ยงวันร้อนจนเหงื่อไหลท่วมกายเสื้อที่สวมใส่เปียกชุ่ม เมื่อมองดูแถวด้านหน้าของตนเหลืออีกประมาณยี่สิบคนจึงจะถึงตน กู้หลีจึงหยิบกระบอกไม้ไผ่ที่บรรจุน้ำจนเต็มกระดกดื่มไปสองสามอึก
เสียงดื่มน้ำของกู้หลีทำให้เด็กสาวที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขาหันกลับมามองพลางกลืนน้ำลาย กู้หลีสังเกตเห็นริมฝีปากเด็กสาวแห้งจนเป็นขุยเขาจึงส่งกระบอกไม้ไผ่ให้นาง
เด็กสาวลังเลเล็กน้อยแล้วจึงรับกระบอกไม้ไผ่ไปดื่มน้ำจนหมด ครั้นพอรู้ตัวว่าดื่มน้ำของผู้อื่นจนหมด หน้านางพลันแดงระเรื่อเอ่ยเสียงเบาว่า ”ขอบคุณ“
กู้หลียิ้มบางรับกระบอกไม้ไผ่มาเก็บไว้โดยไม่พูดอะไร เด็กสาวมองดูแถวที่ค่อยๆสั้นลงจึงเอ่ยว่า ”อีกไม่นานก็จะได้ทดสอบแล้วหวังว่าเราทั้งคู่จะผ่านการทดสอบ“
กู้หลีพยักหน้าในใจคิดว่าถ้าสำนักกระบี่จันทราไม่รับข้าตัวข้านี้ก็จะไปเข้าสำนักอื่นเพราะถึงอย่างไรข้าก็ตัวคนเดียวไปไกลจากที่นี่ก็ไม่เป็นอันใด
”รากวิญญาณดินกับน้ำผ่าน“ เสียงดังกังวานของอาจารย์ผู้ควบคุมการทดสอบเอ่ยขึ้น
เด็กสาวหันมายิ้มให้กู้หลีแล้วเอ่ยโดยไม่ออกเสียงว่า “ขอให้เจ้าผ่านการทดสอบได้เป็นศิษย์สายใน“
กู้หลีวางมือลงบนอาวุธเวทรูปจาน ไม่นานนักแสงสีแดงตามด้วยแสงสีเขียวก็โพยพุ่งขึ้นฟ้า อาจารย์ผู้ทดสอบจึงเอ่ยเสียงดังกังวานว่า ”สองรากวิญญาณไฟกับไม้ผ่าน“
กฎการรับศิษย์ของสำนักกระบี่จันทราไม่มีอันใดมากขอเพียงมีรากวิญญาณก็เข้าสำนักได้เพียงแต่จะได้เป็นศิษย์จิปาถะ,ศิษย์นอก,ศิษย์ในนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของตนเองหรือถ้าโชคดีก็อาจถูกอาจารย์ในสำนักรับเป็นศิษย์ก้นกุฏิ
กู้หลีมีสองรากวิญญาณเขาจึงได้เป็นศิษย์สายใน ขณะที่ศิษย์พี่หน้าคมกำลังจะพาเขาไปยังที่พักของศิษย์สายใน ศิษย์ร่างอ้วนก็ใช้คาถาเหยียบลมวิ่งตามมาดึงมือกู้หลีพลางเอ่ยว่า ”เจ้าโชคดียิ่งนักท่านติงรับเจ้าเป็นศิษย์ก้นกุฏิไปเถอะไปพบท่านติงกับข้า”
กู้หลีไม่รู้ว่าท่านติงคือใครจึงไม่มีอาการตื่นเต้นดีใจผิดกับศิษย์พี่หน้าคมที่ตบบ่าเขาเบาๆด้วยความตื่นเต้นพลางเอ่ยว่า “เจ้าหนูรีบตามศิษย์พี่หวังไปเร็ว“
………………
กู้หลีสบสายตากับท่านติงเมื่อเห็นสายตาอ่อนโยนที่มองตนทำให้เขาน้ำตาคลอเบ้าเมื่อหวนนึกถึงสายตาของบิดายามมองตน เขากลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมามือหยาบกร้านส่งถ้วยน้ำชาให้ท่านติง
ท่านติงรับมายกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบคำหนึ่งแล้วจึงเอ่ยว่า “สองวันนี้เจ้าก็พักก่อนเถอะอีกสักพักจะมีคนนำชุดกับป้ายประจำตัวไปให้”
กู้หลี “ขอรับขอบคุณท่านอาจารย์”
