ตอนที่ 2 คู่ข้าวใหม่ปลามัน (3)
“ท่านพี่ เร็วอีกเจ้าค่ะ อือ” อู๋ชิวอิ่งไม่ปฏิเสธว่านางเองก็รู้สึกดีมาก แต่งงานคราก่อนนางไม่เคยได้สุขสมมากมายเช่นนี้มาก่อน อาจเพราะนางรู้จักแต่เหนียมอาย จึงคิดว่าเรื่องพวกนี้อย่าได้คิดให้มาก ถึงเวลาสามีเรียกร้อง นางก็แค่ให้เขาทำจนเสร็จสิ้นไม่เอาออกมาคิดมากและพูดให้พร่ำเพรื่อ แต่ตอนนี้เมื่อนางเปิดใจและตอบสนองเขาอย่างเต็มที่ ทั้งยังยอมช่วยเขากระทำก็หลายครั้ง นางกลับพบความสุขสมที่ทำให้ร่างกายอ่อนระทวยได้อย่างสำราญใจ
“หันหลังหน่อย อา น้องหญิง” เสียงเขาเอ่ยแผ่วเบา ทั้งยังหยุดสะโพก จับนางให้อยู่ในท่าคลานเข่า จากนั้นลูบไล้สะโพกขาวนวลเนียนราวก้อนเต้าหู้ของนางสองสามครั้งและแทรกท่อนเนื้อกลับเข้าไปในช่องทางที่เปียกแฉะมากแล้ว
“อา...” อู๋ชิวอิ่งรู้สึกแตกตื่นแล้ว เมื่อเขาใส่ท่อนเนื้อกลับมาทางด้านหลัง นางถึงกับทนไม่ไหว กระตุกตอดสุขสมนำเขาไปก่อนแล้ว ร่องเนื้ออุ่นภายในบีบรัดท่อนเนื้อแข็งขึงของเขา น้ำขาวใส่ไหลหยดลงพื้นเปียกชื้นใต้ร่าง เขาเองก็รับรู้จึงเสยสะโพกเข้าไปในจังหวะช้าๆ ให้นางได้เสพสมอย่างเต็มที่
“น้องหญิงชมชอบท่วงท่านี้กระมัง” เขาโน้มตัวลงมา สองแขนเท้าลงพื้นคร่อมร่างของนางไว้จนนางดูตัวเล็กกระจ่อยไปทันใด แต่นางไม่มีเวลามาคิดเรื่องนั้น นางกำลังขวยอายแต่ก็แสร้งก้มหน้า แต่ภายในกลางกายกลับยังกระตุกอยู่เลย นางห้ามร่างกายไม่ได้แล้ว จึงยอมรับคำพูดเขาไปโดยปริยาย
หลิวเต๋อหมิงยังขยับสะโพกเบาๆ แต่เขาก็ถูกนางตอดรัดจนแทบทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน จมูกเขาดอมดมอยู่หลังต้นคอนางยิ่งสร้างความกระสันให้นางขนกายลุกชัน
“อีกสักครั้งนะ” ว่าแล้วเขาก็เริ่มขยับสะโพกโจนจ้วงอย่างหนักทั้งที่อยู่ในท่วงท่าเดิม สะโพกตอกอัดใส่เนื้อนุ่มไม่ไว้ไมตรีแล้ว เสียงกระแทกดังหนักหน่วงเป็นจังหวะรัวเร็ว สองร่างแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่ง ร่างกายที่เปียกเพราะเพิ่งอาบน้ำกำลังแห้งก็กลับมาเปียกชื้นอีกครั้งเพราะเหงื่อไคลจากการออกแรงขยับกายอย่างหนัก ภายในห้องอาบน้ำจึงอบอวลไปด้วยกลิ่นความกระสันและร้อนอบอ้าวอยู่เล็กน้อย
“น้องหญิง อา น้องหญิง ดีมาก อย่างนั้น ส่ายสะโพกอีกสิ เร็วเข้า” เขาสั่งเสียงเร่งร้อนและแหบพร่า
อู๋ชิวอิ่งถูกสามีกล่อมจนไม่อาจห้ามใจ ช่วยส่ายสะโพกร่อนรับจังหวะกระแทกเดินหน้าของเขาไปด้วย ภายในก็บีบรัดเขาเป็นระยะ เสียงกระแทกดังรัวเร็ว เสียงครางดังอยู่ตลอด
“อือ อา อีกแล้ว ท่านพี่ ข้าจะ ข้า อา...” อู๋ชิวอิ่งหงายหน้าครวญครางเสียงดังคล้ายกรีดร้อง เนื้อตัวสั่นระริกยากจะบังคับ สะโพกถูกกระแทกอย่างหนักจนร่างกายขยับเคลื่อนไปด้านหน้า แต่นางก็จิกนิ้วยันสองแขนเหยียดตรงอย่างไม่หวาดหวั่น
ตับๆ ตับๆ เสียงนี้เร่งเร้าขึ้นอีกแล้ว สะโพกนางถูกบดกระแทกรัวเร็ว จนกระทั่ง เขายืดตัวขึ้น จับสองเอวนางมั่นและกระแทกหนักๆ หลายครั้งพร้อมกับใบหน้าที่แหงนหงาย เขารู้สึกหลังเอวเสียววาบขึ้นมาทันใด จากนั้นจึงปลดปล่อยน้ำกามขาวขุ่นอุ่นจัดใส่ร่องรัก แต่เขากลับไม่หยุดกระแทก น้ำรักเอ่อล้นไหลยืดลงพื้นใต้ร่าง สะโพกกระแทกรัวเร็วอีกหลายครั้ง เสียงดังสนั่นจนพวกสาวใช้เกรงกลัวจริงๆ ว่านายหญิงจะรับไหวหรือไม่
“ท่านพี่ ข้าไม่ไหวแล้ว อา” อู๋ชิวอิ่งถูกเขากระแทกใส่จนสองแขนอ่อนยวบ มีก็แต่สะโพกที่ยังกระดกสูงด้วยสองมือของเขาที่ยังกุมเอวนางไม่ปล่อย ร่องเนื้อร้อนผ่าวและรู้สึกเสียวกระสันอย่างรุนแรง นางตัวเกร็งจนเริ่มสั่น น้ำตาซึมไหล เหงื่อออกเต็มร่างแล้ว
“อีกหน่อย ใกล้แล้วๆ อูย อา” เสียงเขาผสานไปพร้อมกับเสียงคราง อัดสะโพกไม่หยุดยั้ง อีกหลายครั้งหนักหน่วงยิ่งกว่าเก่า จนกระทั่งเขาหยุดกระแทกไปพร้อมกับที่อู๋ชิวอิ่งกรีดร้องเสียงยาวออกมา เขาถึงได้ปลดปล่อยน้ำกามออกมาทั้งหมดผสมไปกับน้ำรักของนางที่มาพร้อมกับน้ำใสไหลรินน้อยๆ จนต้นขาด้านในของนางเปียกลื่น
“แบบนั้น อา โอว” เขาทิ้งกายลงนอนตะแคงทั้งที่ท่อนแข็งขึงยังอยู่ในกายนางและยังอยู่ในห้วงเวลาสุขสม ภายในร่องรักยังตอดรัดไม่หยุด นางก็กายสั่นระริกหลับตาครางเสียงแผ่วหวาน
สองแขนเขากอดนางแน่น ใบหน้าฝังลงยังซอกคอเปียกชื้นของนาง สะโพกบดวนเบาๆ นางก็นอนตะแคงให้เขากอดไปด้วยความเหนื่อยหอบและอ่อนยวบไร้แรงไปทั้งร่าง พื้นใต้ร่างเลอะเทอะอย่างหนักเพราะบทรักที่ถึงอกถึงใจจนไม่อาจความคุมได้
เสียงหอบหายใจเริ่มกลับมาเป็นปกติ แต่หลิวเต๋อหมิงยังขบเม้มริมฝีปากไปทั่วทั้งต้นคอและลาดไหล่ของนาง บางครั้งยังแลบลิ้นออกมาเลียและดูดดึงจนทิ้งรอยแดงเป็นจ้ำบนผิวขาวผ่อง รอยเหล่านั้นเห็นได้ชัดเจนยิ่ง
“ดีหรือไม่?” เขากระซิบชิดใบหูนาง
“เลอะเทอะหมดแล้ว” นางปรือตาขึ้น ทั้งยังอับอายมากที่นางถึงกับปลดปล่อยน้ำหลากออกมาอย่างไม่อาจควบคุม
“ใครจะตำหนิเจ้าได้เล่า แบบนี้สิที่สามีชอบ น้องหญิงไม่ต้องหวั่นเกรงอะไรทั้งนั้น” เขาเองก็ชอบเหมือนกันที่เขาทำให้นางเสียการควบคุม นั่นแสดงว่าเขาทำให้นางพอใจและชมชอบในบทรักเร่าร้อนของตน ภรรยาเช่นนี้เขาชอบมาก นางกับเขาเข้ากันได้ดียิ่ง
เขาถึงกับรู้สึกว่าเขาคงต้องตายอยู่ใต้โบตั๋นดอกงามอย่างนางเสียแล้ว ยิ่งคิดยิ่งกระชับสองแขนกอดร่างนุ่มนิ่มไว้ ริมฝีปากอ้างับติ่งหูเล็กๆ ดูดเม้มแผ่วเบาอย่างรักใคร่
นอนนิ่งๆ กันอยู่พักใหญ่เขาก็ขยับท่อนเนื้อที่สงบลงไปแล้วออกจากกายนาง ความเหนียวเหนอะหนะยังคงอยู่ในกายนาง เขาเลยอุ้มร่างอ่อนแรงของนางขึ้น ก้าวกลับลงไปในถังอาบน้ำอีกครั้งและจัดมวยผมที่คลายตัวของนางให้เข้าที่ ค่อยๆ ลูบไล้เนื้อเย็นลื่นมือกับสบู่หอมจนเกิดฟอง จากนั้นล้างเนื้อล้างตัวเสร็จก็อุ้มนางขึ้นมา ตลอดเวลาที่อยู่ในถังอาบน้ำอู๋ชิวอิ่งนั่งนิ่งให้เขาอาบน้ำให้ ไม่ใช่ว่านางขี้เกียจ แต่นางไม่มีแรงขยับกายแล้ว เขาเองก็รับรู้เพราะวันนี้นางถูกเขาเคี่ยวกรำมาอย่างหนักแล้วจริงๆ
หลังจากเช็ดเนื้อตัวเสร็จเขาอุ้มนางไปสอดร่างใต้ผ้าห่มด้วยกันก่อนส่งเสียงเรียกให้พวกสาวใช้เข้ามาเก็บทำความสะอาดในห้องอาบน้ำ
อู๋ชิวอิ่งยิ่งอายเข้าไปใหญ่ บนพื้นในห้องน้ำนั้นเลอะเทอะมาก แค่ดูก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นางมุดใบหน้าเข้าไปในผ้าห่มนวมสีแดงสด แต่กลับถูกสามีผู้เร่าร้อนดึงผ้าห่มลง จับนางหันหน้ามานอนซบอกเขา ก้มลงมองสองข้างแก้มแดงปลั่งแล้วก็อมยิ้ม
“น้องหญิงเร่าร้อนจนสามีคิดไม่ถึง”
นางยิ่งหน้าแดงเข้าไปใหญ่ แต่ก็ยังตอบคำเขาไป “ท่านพี่เองก็เช่นกัน”
“อือ แค่กับน้องหญิงคนเดียวเท่านั้น”
อู๋ชิวอิ่งไม่ตอบ กลับคิดไปถึงการแต่งงานครั้งก่อน ‘ชาติก่อนไม่ใช่กับข้าคนเดียวสักหน่อย’ เขาทำเรื่องเร่าร้อนกับสตรีไปไม่รู้ตั้งกี่คน หวังว่าครั้งนี้นางจะเปลี่ยนชะตาภรรยาผู้รันทดในครั้งก่อนได้ ชีวิตในชาติที่สองของนางนี้สมควรต้องมีแค่หนึ่งสามีหนึ่งภรรยาอย่างที่นางตั้งใจเอาไว้เท่านั้น
“มีภรรยาเช่นนี้สามียอมตายใต้ชายกระโปรงแล้ว” เขาเริ่มบดเบียดต้นขากับท้องน้อยเปลือยเปล่าของนางอีกครั้ง เจ้าท่อนเนื้อผู้รักดีของเขาก็เริ่มขยับตัวจนกลับมาผงาดง้ำ
“ท่าน!” อู๋ชิวอิ่งยังไม่ทันได้พูด เขากลับจับต้นขานางแยกออก แทรกกายกลับเข้าไปในร่องรักด้วยความรวดเร็วทั้งที่ยังคงนอนหันหน้าเข้าหากัน
‘ไม่ไหวแล้ว นางจะตายอยู่แล้ว เขายังจะ...’ อู๋ชิวอิ่งโอดครวญอยู่ในใจและนางก็ร้องไห้จริงๆ แล้ว เพียงแต่สามีผู้เล่าร้องหาได้ปล่อยนางไปไม่ ยิ่งเห็นนางสะอื้นไห้ เขายิ่งชอบใจ กลั่นแกล้งนางต่อไปอีกครึ่งคืนก็ยังไม่พอใจ จวบจวนนางหมดสติไปจริงๆ เขาเลยหยุดอย่างอิ่มเอมและกอดนางหลับฝันดีตลอดทั้งคืน
