บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 แต่งงานอีกครั้ง (2)

“ใกล้เวลาอะไรหรือ?” อู๋ชิวอิ่งมีสีหน้างุนงงหันมองอู๋เอ๋อ

“คุณหนูนอนมากจนโง่งมไปแล้ว” อู๋ถงสะดุ้งไปทั้งตัวแล้วจับมือเจ้านายไว้

“คุณหนูคงนอนมากไปจริงๆ เมื่อวานก็เหมือนจะกินเยอะไปกระมัง” อู๋เอ๋อโคลงศีรษะคล้ายจนใจอยู่บ้าง นางดึงให้อู๋ชิวอิ่งลุกขึ้นประคองเดินไปทางห้องอาบน้ำที่เตรียมน้ำไว้เต็มถัง มีไอหมอกลอยอยู่เหนือผิวน้ำ ในน้ำมีกลิ่นหอมและกลีบดอกไม้มากมาย

“บ่าวก็บอกแล้วว่าคุณหนูอย่ากินมากไป วันนี้ถ้าตอนนั่งเกี้ยวเจ้าสาวแล้วอยากจะถ่ายขึ้นมาไม่แย่หรือเจ้าคะ อีกสักครู่ต้องขับถ่ายเสียก่อนแล้วจะกินอะไรส่งเดชไม่ได้อีก จะเอาอย่างอู๋ถงกับอู๋ซิวได้อย่างไร”

“เอาล่ะ พี่ก็อย่าเริ่มบ่นคุณหนูเลย รีบอาบน้ำกันเถอะ” อู๋ชิงช่วยอีกฝ่ายจัดการกับชุดนอนของเจ้านายและประคองดรุณีวัยสิบห้าปีเรือนร่างอ้อนแอ้นลงไปในถังอาบน้ำ

อู๋ชิวอิ่งตกตะลึงไปแล้ว สาวใช้พานางไปไหน ให้นางทำอะไร นางล้วนไม่รับรู้แล้ว วันนี้เป็นวันที่นางจะออกเรือน เป็นไปได้อย่างไร นางก้มหน้าลง แหวกกลีบดอกไม้ออก มองเงาใบหน้าอ่อนเยาว์ในน้ำที่ไม่ใคร่ชัดเจนนักแต่ก็ได้เห็นใบหน้าจนนางถึงกับผงะไป

ไม่ใช่ว่านางเป็นสะใภ้สกุลหลิวไปแล้วหรือ ตอนนี้นางต้องอายุยี่สิบสองแล้วสิ ใบหน้าที่ยังคงมีเค้าความอ่อนเยาว์นี้มาได้อย่างไร สาวใช้ทั้งสี่นี้ยังอยู่ดีข้างกายนางด้วย

ก่อนนี้นางถูกภรรยารองของสามีนามเซี่ยหงเอ๋อและแม่สามีวางแผนทำร้ายจนจบชีวิตอยู่บนเตียง แม้กระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตก็ยังไม่ได้เห็นหน้าสามี ก่อนหน้านั้นนางทนทุกข์ทรมานกับร่างกายอ่อนแอมาสามปี คิดไม่ถึงว่าที่นางเป็นเช่นนั้นเพราะเซี่ยหงเอ๋อแอบใส่ยากัดกร่อนให้นางกินทุกวันจนกระทั่งนางค่อยๆ อ่อนแอ ค่อยๆ ตายอย่างทรมาน ก่อนตายนางนึกในใจแค่ว่าขอให้ได้เจอหลิวเต๋อหมิงผู้เป็นสามีอีกครั้ง ขณะนั้นนางมีความคิดอยู่แค่นั้นจริงๆ แค่อยากรู้ว่าถ้าเขาเห็นนางใกล้ตายเขาจะยังหมางเมินใส่นางอยู่อีกหรือไม่

เดิมทีตอนที่นางแต่งเข้าสกุลหลิวไปใหม่ๆ สามีภรรยารักกันหวานชื่น จนกระทั่งมีเรื่องสาวใช้ห้องข้างเข้ามา นางถึงรู้ว่าผู้เป็นสามีมักมาก หลังจากแต่งงานปีที่สองสามีก็เริ่มรับหญิงงามที่มีคนส่งมาให้ ยกฐานะเป็นอนุบ้าง สาวใช้ห้องข้างบ้าง สาวใช้ในห้องหนังสือของเขาก็เป็นหญิงงามที่พร้อมปรนนิบัติทุกเรื่อง จนกระทั่งเมื่อแม่สามีอ้างว่านางแต่งเข้ามาสองปีแต่ไร้ทายาท คนเป็นแม่ร้อนใจยิ่ง จึงให้บุตรชายรับภรรยารองนั่นคือเซี่ยหงเอ๋อ หลานสาวแท้ๆ ที่เกิดจากพี่สาวของนาง นับแต่นั้นมาบ้านก็ไม่สงบอีกเลย สามีหมางเมินนางตั้งแต่นั้นมา เพียงแต่ยังเห็นแก่หน้าสกุลอู๋ของนาง เขาจึงให้นางอยู่ในฐานะภรรยาเอกอยู่คงเดิม ถามไถ่สารทุกข์บ้างตามสมควรอู๋ชิวอิ่งความคิดสับสน ก้มหน้าน้อยๆ อยู่ตลอดยามที่พวกสาวใช้ช่วยกันสระผมและขัดตัวให้ นางครุ่นคิดถึงการกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งอย่างน่าเหลือเชื่อแต่มันก็เป็นไปแล้ว สิ่งที่นางสัมผัสมานั้นนางเชื่อว่าไม่ใช่แค่ความฝันแน่นอน เป็นชีวิตรันทดหลังแต่งงานในชาติก่อนไม่ผิด ตอนนี้นางกลับมาอีกครั้ง ย้อนกลับมาในร่างเดิมในวัยสิบห้าปีและกลับมาในวันแต่งงานของตัวเองด้วย เรื่องราวกำลังจะเดินซ้ำรอยเดิมหรือ ไม่ นางไม่ยอม ในเมื่อสวรรค์ให้นางกลับมาเกิดอีกครั้งหรือนางสามารถฝันเห็นอนาคตหรืออย่างไรก็แล้วแต่ นางจะมีชีวิตที่ดีขึ้นให้ได้ ในเมื่อหนีงานแต่งไม่ทันแล้ว ซ้ำไม่รู้จะหนีอย่างไร จะให้นางไปโวยวายกับท่านพ่อท่านแม่ให้ยกเลิกงานแต่ง แล้วบอกพวกท่านว่านางแต่งให้หลิวเต๋อหมิงไม่ดี นางจะตายตั้งแต่ยังสาวหรือ ใครเขาจะเชื่อ

เช่นนั้นก็มีแค่ทางเดียวแล้ว นั่นคือเป็นฮูหยินของหลิวเต๋อหมิงอีกครั้งเถอะ แต่ครั้งนี้นางจะต้องมัดใจสามีให้จงได้ จะว่าไปแล้วหากไม่มีเรื่องสาวใช้ห้องข้างในครั้งนั้น สามีของนางก็นับว่าดีกับนางไม่น้อย แม้จะหมางเมินกับนางในช่วงหลังๆ แต่ก็ยังดูแล ให้นางกินดีอยู่ดี ให้เกียรติที่คนเป็นภรรยาเอกควรมี ไม่คิดหย่าร้างนางด้วยซ้ำ อาจเพราะนางไม่ได้คลอดบุตรให้เขา มีก็แต่บุตรหญิงชายที่เกิดจากเซี่ยหงเอ๋อเท่านั้น เขาจึงไปคลุกอยู่ที่เรือนของอีกฝ่ายนานเป็นพิเศษ แต่เขาก็แวะเวียนมาเยี่ยมนางบ้างเป็นบางครั้ง

อู๋ชิวอิ่งเงยหน้าขึ้น นางตัดสินใจแล้วว่าตัวเองจะเปลี่ยนแปลง เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ นางต้องเป็นคนใหม่ มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม ใครร้ายมา นางจะร้ายกับคนผู้นั้นยิ่งกว่า ใครอ่อนแอใส่ นางจะอ่อนแอให้ยิ่งกว่า ใครดีมานางจะดีกลับเป็นร้อยเท่า

เห็นเจ้านายยิ้ม อู๋เอ๋อก็ยิ้ม “วันนี้ออกเรือนย่อมสมควรจะแย้มยิ้มมิใช่ขมวดคิ้วจริงๆ นะเจ้าคะ”

“อือ” อู๋ชิวอิ่งขานรับ จากนั้นก็ให้สาวใช้ช่วยอาบน้ำจนเสร็จ

“วันนี้นับว่ามีลางมงคลจริงๆ ตอนค่ำฝนพรำไม่มีท่าจะหยุด พอใกล้เวลาคุณหนูจะออกเรือนฝนก็หยุดไปแล้ว โบราณว่าไว้ฝนตกฟ้าร้องก่อนออกเรือน ขึ้นเกี้ยวฝนหยุดแดดออกนับเป็นลางดี” อู๋เอ๋อเอ่ย ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง

อาบน้ำลงขี้ผึ้งหอมบำรุงผิวเสร็จสตรีนำโชคอาวุโสเข้ามาเกล้าผมให้ มารดายืนยิ้มน้ำตาปริ่มมองดูนางอยู่ใกล้ๆ อู๋ชิวอิ่งคิดถึงมารดายิ่ง ตั้งแต่ออกเรือนก็ต้องจากบ้านในฉางอันไปยังเสียนหยาง นางจึงแทบไม่ได้เจอมารดาเลย เดิมทีสามีนางเป็นคนเมืองหลวง สกุลหลิวมีบุตรหลานเป็นขุนนางในเมืองหลวงหลายคนรวมถึงบิดาและท่านลุงของเขาด้วย แต่บิดาจากไปหลายปีแล้ว ส่วนหลิวเต๋อหมิงนั้นผ่านการสอบเคอจวี่[2]ได้เป็นปั๋งเหยี่ยนด้วยคะแนนที่ไม่ห่างกับจอหงวนนัก คนเป็นจอหงวนได้นั่งตำแหน่งในเมืองหลวง ที่เหลือถูกส่งไปรับราชการต่างเมือง รอสั่งสมประสบการณ์อีกสักหน่อยย่อมได้เลื่อนตำแหน่งและเข้ารับหน้าที่ในเมืองหลวง หลิวเต๋อหมิงก็ไม่ต่างกัน เขาเป็นเจ้าเมืองเสียนหยางตั้งแต่อายุยี่สิบ ชาวบ้านยกย่องนับถือด้วยเพราะเขามีอัธยาศัยดี หน้าตาหล่อเหลารูปงามขยันหมั่นเพียรจนคนชื่นชอบ

.

.

.

[2] เคอจวี่ (科举) เป็นระบบการสอบเข้ารับราชการของจีน ซึ่งประกอบด้วยการสอบสามรอบ 1. เป็นการสอบระดับท้องถิ่น (หมู่บ้าน,ตำบล,อำเภอ,จังหวัด) ผู้ที่สอบผ่านจะเรียกว่า "ซิ่วไฉ" 2. เป็นการสอบคัดเลือกระดับภูมิภาค (มณฑลหรือภาค) ผู้สอบผ่านจะเรียกว่า "จวี่เหริน" 3. ผู้สอบผ่านรอบนี้จะได้รับการขึ้นบัญชีเพื่อรอการเรียกบรรจุเข้ารับราชการ ผู้เข้าสอบรอบนี้ทุกคนจะถูกเรียกว่า "ก่งเซิ่ง" จะได้รับโอกาสให้เข้าสอบรอบสุดท้ายในพระราชวังและผู้สอบผ่านจะเรียกว่า "จิ้นซื่อ" ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดสามอันดับแรก จะมีชื่อเรียกดังนี้ 1."จ้วงหยวน"หรือจอหงวน 2. "ปั๋งเหยี่ยน" 3. "ทั่นฮวา"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel