บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 : ที่ที่เคยรังเกียจ 1/2

ตอนที่

[2]

ที่ที่เคยรังเกียจ

เรื่องราวมันดำเนินความรุนแรงไปเรื่อย ๆ และในตอนที่ยื้อยุดกันจนล้มลงไปนั้น ศีรษะของอันลู่เพ่ยก็กระแทกกับพื้น ในตอนนั้นเองที่วิญญาณของอีกฝ่ายก็ออกจากร่างไปและกลายเป็นเพ่ยเพ่ยที่เข้ามาแทนที่

อันลู่เพ่ย “…..”

วางแผนมาตั้งนาน ตายง่าย ๆ แบบนี้เลย?

เพ่ยเพ่ยคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ก็ได้แต่ทอดถอนลมหายใจออกมา

เพราะว่าเป็นแบบนี้นางถึงไม่คิดจะอยู่ที่นั่น เพราะเธอจำสายตาของเจิ้งกวนโหวได้ ถ้าเขาฆ่าอันลู่เพ่ยได้เขาทำไปแล้ว และเขารังเกียจอีกฝ่ายมากแค่ไหน ในตอนที่กัดที่แขนตนเองเพื่อที่เรียกสติไม่ให้ไปอันลู่เพ่ยสมดังใจนั่นก็รู้แล้ว

ดังนั้น หากปล่อยให้เขาสติกลับมา และคนอื่นเข้ามาเห็นโดยทั่วกันบอกเลยว่าเธอตายแน่ เป็นเธอที่ต้องตายอีกรอบเพราะตอนนี้เธอก็คือ

อันลู่เพ่ยยังไงเล่า

บรื๋อ คิดแล้วก็ขนลุก

“แม่นาง…เรากำลังจะเข้าไปในตำบลจิ้นจง ท่านจะซื้ออะไรหรือไม่ขอรับ” เสียงของคนบังคับรถม้าเรียกสติเพ่ยเพ่ยให้กลับมา ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องตั้งสติให้เร็วแล้วรีบก้าวเดินไปข้างหน้า ยิ่งอยู่ในยุคโบราณแบบนี้ต้องมีสติทุกลมหายใจ

“ซื้อ ๆ แต่ก่อนอื่นช่วยแวะร้านขายยาให้ข้าที”

เอาละ ตอนนี้นางก็ยังคือเพ่ยเพ่ย แม้จะอยู่ในร่างอันลู่เพ่ย แต่นางก็หาใช่อันลู่เพ่ยคุณหนูผู้ร้ายกาจในจวนเสนาบดีผู้นั้นแล้ว

ดังนั้น ชีวิตนับจากนี้นางจะเป็นคนลิขิตเอง

เพ่ยเพ่ยเข้าร้านขายยาเป็นอันดับแรก เพราะนางเพิ่งมีสัมพันธ์กับคนผู้นั้นมา ไม่อาจปล่อยให้เกิดเหตุไม่คาดฝันเช่นการตั้งครรภ์ขึ้นมาได้ นางจึงรีบซื้อยาเพื่อจะนำไปกินเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์เอาไว้ จากนั้นก็ไปซื้อพวกเครื่องปรุงและวัตถุดิบในการทำอาหาร รวมถึงอาภรณ์ รองเท้า เครื่องนอน เรียกได้ว่าซื้อจนเต็มรถม้าเลยละ ดีที่นางจ้างเขาในราคาที่สูงมาก เขาจึงไม่บ่นอันใด ยินดีรอจนนางซื้อของเสร็จ

เมื่อได้ของจนครบแล้วก็เตรียมออกเดินทางอีกครั้ง จุดหมายที่นางจะไปนั่นก็คือหมู่บ้านจิ้นเฉิง บ้านเดิมของมารดาของอันลู่เพ่ย หรือก็คือที่ที่

อันลู่เพ่ยรังเกียจและไม่คิดจะไปเป็นครั้งที่สอง…

แต่นางมิใช่อันลู่เพ่ย ที่นางคิดจะไปเพราะตอนนี้ที่นั่นคือที่เดียวที่นางคิดออก นอกจากนั้นที่ดินแห่งนั้นยังเป็นชื่อของอันลู่เพ่ยที่ท่านตาท่านยายได้ยกให้ก่อนที่จะจากไป

ด้วยอันลู่เพ่ยเกลียดชังที่นั่น นางจึงคิดว่าหากมีคนมาตามหานางคงไม่คิดว่านางจะไปที่นั่นเป็นแน่ เช่นนั้นที่นั่นนางคงจะอยู่ได้อย่างปลอดภัยและรอดพ้นสายตาของใครหลายคน

รถม้าที่เดินทางมาอย่างยาวนานในที่สุดก็ได้หยุดที่บ้านหลังขนาดกลางหลังหนึ่ง จะเห็นได้ว่าบ้านหลังนี้ดูดีกว่าหลายหลังไม่น้อย นั่นก็เพราะเป็นบ้านของอดีตผู้นำหมู่บ้านนั่นเอง อาจจะทรุดโทรมเล็กน้อยด้วยผู้เป็นเจ้าของจากไปราวสามปีแล้ว แต่จะเห็นได้ว่าไม่มีหญ้าที่ขึ้นจนรกร้างหรือใบไม้ที่เกลื่อนกลาดคงเป็นชาวบ้านที่มาดูแลให้กระมัง

หลังจากที่ขนของทุกอย่างลงจากรถม้าเสร็จเรียบร้อย เพ่ยเพ่ยก็หยิบเงินค่าจ้างส่วนที่เหลือให้กับคนบังคับรถม้าไป แถมยังให้พิเศษเพิ่มกับเขาที่เขายอมรับงานจากสตรีแปลกหน้าที่มาจ้างงานเวลาค่ำมืดเช่นนั้นด้วย

ผู้บังคับรถม้านั้นดีใจยิ่งที่ได้ค่าจ้างก้อนโตเขาขอบคุณและค้อมศีรษะให้กับผู้ว่าจ้างก่อนจะขึ้นรถม้าแล้วขับออกไป

เพ่ยเพ่ยหันกลับมามองของที่กองอยู่ก่อนจะมองไปยังในตัวบ้านแล้วพรูลมหายใจออกมา

คงมีหลายเรื่องที่จะต้องทำไม่น้อย

ยังมิทันได้ทำสิ่งใดหญิงสาวก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นที่ด้านหลัง เมื่อหันกลับไปก็พบว่ามีชาวบ้านหลายคนมาด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ที่หน้าบ้าน

เพ่ยเพ่ยฉีกยิ้มให้กับทุกคนก่อนที่จะเตรียมสาวเท้าออกไปทักทายพวกเขา แต่เมื่อพวกเขาเห็นใบหน้าของผู้ที่มาใหม่แล้วว่าเป็นผู้ใดก็ได้แต่รีบพากันเดินหนีไปคนละทิศละทาง เพ่ยเพ่ยชะงักค้างมือที่เตรียมจะทักทายไว้เช่นนั้นก่อนจะคิดอย่างไม่เข้าใจ

เอาเถอะค่อยนึกอีกทีว่าเกิดอะไรขึ้น

ตอนนี้ควรรีบเข้าไปตรวจดูภายในบ้านว่าเป็นอย่างไร จากนั้นจะได้ไปอาบน้ำให้สบายตัวแล้วค่อยนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ คิดแล้วใบหน้างามก็เผยรอยยิ้มกว้าง เดินตัวปลิวเข้าไปในบ้านทันที

เพ่ยเพ่ยนั้นสบายใจที่ตนหนีเอาตัวรอดมาได้ แต่ทว่าสถานการณ์ในเมืองหลวงนั้นกลับกำลังร้อนระอุ

“นี่นางนอกจากทำเช่นนั้นกับข้าแล้ว ยังขโมยเงินของข้าไปอีกหรือ!!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel