ตอนที่9
"เพื่อนฉันอยากทำงานน่ะเจ๊ มีงานให้ทำบ้างไหม"
"งานน่ะมีเยอะแยะ แต่สวยๆ แบบนี้จะให้อยู่หลังร้านก็เสียของแย่ สนใจทำงานหน้าร้านไหมล่ะ เดี๋ยวเจ๊สอนงานให้"
"คือ..ธารทำแบบนั้นไม่เป็นหรอกค่ะ" สายธารรีบโบกมือพัลวัน เธอไม่มีความกล้ามากพอจะทำงานแบบที่เพื่อนทำ
"ลองดูก่อนก็ได้ ไม่อยากหรอก สวยๆ แบบหนูธารแค่นั่งเฉยๆ เงินก็ลอยมาแล้ว" เจ๊วีวี่พยายามเป่าหูให้หญิงสาวตรงหน้าเชื่อ หากที่ผับมีคนสวยๆ มาคอยบริการ ลูกค้ารายใหญ่ที่รวยๆ คงพากันมาไม่ขาดสาย
"ก็ได้ค่ะ แต่แค่ลองดูนะคะ"
"เลิศมาก! ส่วนนังจูนนี่แกไปทำงานได้แล้วไป" เจ๊วีวี่ไล่ทุกคนออกไปทำงาน ก่อนที่จะจูงมือสายธารให้เดินตามออกมา
"นั่นเป็นโซนวีไอพี ถ้าโดนแขกโซนนั้นเรียกไปบริการทิปก็จะเยอะ เพราะคนเหล่านั้นเป็นพวกกระเป๋าหนัก"
หญิงสาวถูกลากมาโซนต่างๆ ภายในผับ สิ่งที่เธอคิดว่าน่ากลัวมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดไว้เลย รอบๆ มีบอดี้การ์ดร่างใหญ่คอยดูแลความปลอดภัยของแขกและพนักงานทุกคนเป็นอย่างดี
"ที่นี่เราไม่มีการบังคับนะจ๊ะ ถ้าไม่ยินยอมก็ปฏิเสธได้"
"คะ? หมายถึงเรื่องอะไรคะ" สายธารคิ้วขมวดเกิดความสงสัยทัยควัน
"อธิบายง่ายๆ ก็คือเซ็กซ์นั่นแหละ ถ้าอยากได้เงินเยอะๆ หวังรวยก็นอนกับแขก แต่ถ้าไม่อยากไปต่อก็รับแค่งานที่ผับก็ได้จ้ะ ที่นี่เราไม่มีบังคับอยู่แล้ว" เจ๊วีวี่ไขความกระจ่างให้สายธารได้หายข้องใจ
"แล้วแบบธารจะทำได้เหรอคะ ธารพูดไม่เก่ง เอาใจใครไม่เป็น"
"เรื่องแบบนี้มันก็ต้องฝึกฝนกันไปสิ ไม่ยากหรอก เมื่อก่อนนังจูนนี่หน้าไม่รับแขกเลย แต่ตอนนี้กลายเป็นเบอร์ต้นๆ ของผับไปแล้ว" สายธารยืนฟังนิ่งๆ ไม่โต้ตอบอะไร แต่ไม่นานนักเพื่อนของเธอก็เดินตรงมาหาเธอกับเจ๊วีวี่ด้วยท่าทีรีบร้อน
"ธาร เธอกลับห้องก่อนได้เลยนะ นี่คีย์การ์ดห้อง" เจนจิรายัดคีย์การ์ดห้องใส่มือเธอก่อนจะวิ่งไปหาชายวัยกลางคนที่ยืนล้วงกระเป๋ารออยู่ไม่ไกล
"นังจูนนี่มันแน่จริงๆ ผับเปิดได้ไม่นานก็ได้แขกกระเป๋าหนักไปกินอีกแล้ว"
สายธารมองเพื่อนที่เพิ่งวนกลับมาเจอกันในรอบหลายปีเดินควงแขนชายวัยกลางคนออกจากผับไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เธอไม่ได้นึกรังเกียจเพื่อนแต่อย่างใด กลับนึกเป็นห่วงเสียมากกว่า
"ถ้างั้นธารขอตัวกลับก่อนนะคะ"
"จ้ะ ลองคิดให้ดีๆ นะ ถ้าพร้อมก็มาหาเจ๊ได้"
หญิงสาวกลับคอนโดเพื่อนด้วยใจที่ว้าวุ่น เงินก็อยากได้ งานก็อยากทำ แต่เธอไม่มั่นใจเลยว่าจะทำได้หรือเปล่า แถมวันนี้ก็เพิ่งเจอเรื่องสาหัสมา จิตใจของเธอตอนนี้ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในหัวคิดตีวนกับทุกเรื่องที่เพิ่งเจอมา
"เอาไงดีสายธาร"
ติ๊ง~ ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรต่อ เสียงข้อความแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ที่ถืออยู่ก็ดังขึ้น
[กรุณาชำระค่าเทอมสำหรับปีการศึกษา 25xx ภายในวันที่...]
กำหนดชำระค่าเทอมที่เร่งรัดเข้ามาทำให้สายธารมีทางเลือกไม่มากนัก
"ค่าเทอมก็ยังไม่จ่าย ที่ซุกหัวนอนก็ยังไม่มี" เธอคงรบกวนเพื่อนไปตลอดไม่ได้ แค่เจนจิรามีน้ำใจให้เธออาศัยชั่วคราวก็เกรงใจมากแล้ว
"เอาน่าธาร แกไม่มีทางเลือกมากนักนี่" สายธารตัดสินใจแน่วแน่อีกครั้งกับการจะลองทำงานเป็นเด็กนั่งดริ๊งก์เหมือนที่เพื่อนทำอยู่ แต่เธอก็ไม่กล้ารับงานนอนกับแขก
เมื่อตัดสินใจดีแล้ว สายธารมาหาเจ๊วีวี่เพื่อขอทำงาน ซึ่งแน่นอนว่าเจ๊วีวี่อ้าแขนรับเข้าทำงานอย่างไม่ต้องคิดมาก แต่ก่อนจะได้เริ่มทำสายธารได้ถูกฝึกสอนโดยมืออาชีพอย่างเจ๊วีวี่ ด้วยความเรียนรู้ไวของเธอทำให้สายธารได้ทำงานอย่างจริงจังและได้มีชื่อเรียกในวงการว่า 'ธัญญ่า'
"ไหวแน่นะธาร" เจนจิราถามเพื่อนเพื่อความแน่ใจอีกครั้งก่อนที่สายธารจะเริ่มทำงาน
"อืม ไหวสิ"
"ถ้าอะไรที่ไม่ชอบก็ปฏิเสธได้เลยนะ ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลเรียกการ์ดของร้านได้เลยนะ" เจนจิราย้ำเตือนกับเพื่อนอีกรอบ สายธารได้แต่พยักหน้ารัวๆ ใจสั่นไหวไม่เป็นจังหวะ ตื่นเต้นที่กำลังจะได้ก้าวข้ามกรอบที่เคยขีดเอาไว้
สายธารคนเดิมไม่มีอีกแล้ว ถึงงานนี้จะถูกมองว่าไม่ดี แต่เธอมีตัวเลือกไม่มากถ้าให้ไปเป็นเด็กเสิร์ฟตามร้านอาหารไม่รู้ต้องทำกี่เดือนถึงจะจ่ายค่าเทอมได้ และไหนจะค่ากิน ค่าอยู่ของเธอ ตอนนี้เธอไม่มีที่พึ่งพาที่ไหนนอกจากตัวเธอเอง
"ธัญญ่า มีแขกเรียกแล้ว" เสียงเจ๊วีวี่ตะโกนเรียกชื่อที่ถูกเรียกเฉพาะที่ผับ สายธารจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้องแต่งตัวด้วยท่าทางมั่นใจไม่มีความกังวลแต่อย่างใด
"จะไหวแน่เหรอเจ๊?"
"เจ๊เทรนเองกับมือเชื่อเจ๊สิ" เจ๊วีวี่มั่นใจในฝีมือของตนเองที่เป็นอดีตดาวของผับแห่งนี้ ถึงจะมีร่างเป็นชายแต่จริตจะก้านของเธอไม่แพ้ผู้หญิงแม้แต่นิดเดียว
เจนจิรากับเจ๊วีวี่คอยสอดส่องมองสายธารอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ แต่ไม่คิดเลยว่าคนที่ดูไม่เหมาะกับงานแบบนี้จะเรียนรู้ได้เร็วและบริการแขกได้เป็นกันเองราวกับไม่ใช่คนที่เพิ่งมาทำงานวันแรก
