ตอนที่8
"ธารมาลาค่ะคุณพะ..คุณท่าน" สายธารก้มลงกราบที่เท้าของคนที่เธอเรียกท่านว่าพ่อมาตลอด แต่พอรู้ความจริงเธอจึงไม่กล้าเอ่ยคำว่าพ่อได้อีก
"ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะ" เธอส่งรอยยิ้มแสนเศร้าให้กับท่านเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากกัน แต่ท่านสุธีกลับเมินหน้าหนีไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอ
กระเป๋าเสื้อผ้าขนาดกลางถูกลากออกไปจนพ้นบ้านหลังใหญ่ที่อยู่มาตลอดยี่สิบสองปี สายธารหันมองบ้านที่คิดอบอุ่นแล้วเดินลากกระเป๋าเสื้อผ้าจากไปท่ามกลางความมืดที่เริ่มปกคลุม
หญิงสาวร่างเล็กไร้ที่พึ่ง ไม่มีญาติที่ไหน ไม่รู้จักใครจุดหมายปลายทางของเธอคืออะไรก็ยังไม่รู้ เงินติดตัวมีพอแค่ค่าห้องเพียงแค่หนึ่งถึงสองคืนเท่านั้น ชีวิตเธอคงจบแล้วสินะ
"เฮ้อ! เอาไงล่ะที่นี่ ฆ่าตัวตายเลยดีไหม อยู่ไปก็ไร้ประโยชน์อยู่แล้วนี่" คำพูดที่เหมือนไม่ได้คิดอะไร แต่สีหน้าของเธอไร้ความรู้สึกไปหมดแล้ว
"ธาร! นั่นธารใช่ไหม" เสียงคุ้นหูที่ไม่ได้ยินนานหลายปีทำให้สายธารหันไปมองตามเสียง
"จูนเหรอ?" สายธารมองคนตรงหน้าที่แต่งชุดเดรสรัดรูปจนเห็นเอวคอดกิ่ว กระโปรงสั้นเพียงแค่คืบ แถมใบหน้ายังถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางสีจัด
"ใช่เราเอง จำเราได้ใช่ไหม ไม่ได้เจอกันตั้งนาน"
"จูนสบายดีเหรอ" สายธารเอ่ยถามคนตรงหน้าที่เป็นเพื่อนสมัยมัธยมที่ตั้งแต่เรียนจบมาก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย
"ก็เรื่อยๆ แหละ แล้วนี่ธารเก็บกระเป๋าจะไปไหน ไปเที่ยวมาเหรอ" จูนหรือเจนจิราถามกลับด้วยความอยากรู้
"เปล่าหรอก เรากำลังหาที่อยู่ใหม่น่ะ จูนพอจะมีที่แนะนำบ้างไหม ขอแบบถูกๆ นะ พอดีเราไม่ค่อยมีเงินน่ะ" สายธารสิ่งรอยยิ้มเจื่อนๆ ให้เพื่อนที่เจอกันอย่างบังเอิญ
ผลสุดท้ายสายธารก็ต้องมาอยู่กับเจนจิราชั่วคราวเพราะเงินที่เธอมีไม่สามารถหาที่พักให้เธอได้ในคืนนี้ เธอจึงต้องรบกวนเพื่อนไปโดยไม่มีทางเลือก
"ขอโทษนะจูนที่ต้องให้ลำบากไปด้วยเลย"
"ไม่เป็นไรหรอก ตอนเรียนธารก็ช่วยเราไว้หลายอย่างไม่งั้นเราก็คงเรียนไม่จบมอหกหรอก" เจนจิรายังจำสายธารได้เพราะตอนมัธยมได้เพื่อนคนนี้ช่วยเอาไว้หลายเรื่อง ทั้งการบ้าน ทั้งช่วยติวให้ก่อนสอบ
"ขอบคุณนะ"
"อืม ธารตามสบายเลยนะ ถ้าหิวในตู้เย็นมีข้าวอยู่อุ่นกินเลยนะ เราน่าจะกลับเกือบๆ เช้านู้นแหละ" เจนจิราพูดพลางสวมรองเท้าส้นสูงเตรียมทำท่าจะออกจากห้อง
"แล้วนั่นเธอจะไปไหนล่ะ มันดึกแล้วนะ" สายธารเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเสื้อผ้าของเพื่อนช่างวาบหวิวเหลือเกิน
"ทำงานน่ะสิ"
"เธอทำงานอะไรเหรอเจน บอกฉันบ้างสิ" สายธารที่ตอนนี้แทบไม่มีเงินติดตัวจึงอยากหางานทำ เธอเห็นเพื่อนแต่งตัวดีใส่ของแบรนด์เนมก็เดาได้ว่ารายได้น่าจะเยอะพอตัว
"ถ้าเราบอกธารไป ธารอย่ารังเกียจเรานะ" เจนจิราก้มหน้าสลดกลัวถ้าหากว่าพูดอาชีพของตัวเองไปเพื่อนจะรับไม่ได้ ครอบครัวของสายธารค่อนข้างร่ำรวยคงไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้
"ทำไมเราต้องรังเกียจด้วยล่ะ ทุกงานก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันหมด"
"เราเป็นเด็กนั่งดริ๊งก์อยู่ที่ผับน่ะ"
"แล้วได้เงินดีหรือเปล่า? มันอันตรายไหม" สายธารถามด้วยความสงสัย เธอถูกปลูกฝังมาว่างานกลางคืนคืองานที่อันตราย แต่ตอนนี้อะไรที่ทำแล้วได้เงินเธอก็อยากลอง
"แล้วแต่แขกจะให้ทิปน่ะ ถ้าเอาใจเก่งๆ ก็ได้ทิปเยอะ"
"งั้นเหรอ แล้วที่ผับมีงานอื่นให้ทำอีกไหม ฉันอยากหางานทำ" สายธารเอ่ยถามเพื่อน อย่างเธอคงเป็นเหมือนเพื่อนไม่ได้ เธอพูดเอาใจใครไม่เก่ง
"น่าจะมีนะ ว่าแต่ทำไมเธอถึงหางานทำล่ะ ที่บ้านเธอก็รวยไม่ใช่เหรอ"
"เราโดนไล่ออกจากบ้านแล้วน่ะ เรื่องมันยาวนิดหน่อย แต่ตอนนี้เราต้องหางานทำเพื่อหาเงิน" หญิงสาวระบายรอยยิ้มเศร้า ทำให้อีกคนรู้สึกได้ถึงปัญหาของเพื่อน
"งั้นไปด้วยกันสิ เดี๋ยวเราถามเจ๊ที่ทำงานให้ว่ารับพนักงานเพิ่มหรือเปล่า"
"ขอบใจนะจูน ถ้าไม่ได้เธอฉันแย่แน่ๆ" สายธารกุมมือเพื่อนแน่น ใบหน้าสวยเผยยิ้มอย่างมีความหวัง
[ผับxx]
สายธารตามเพื่อนมาถึงผับ เธอเพิ่งจะเคยมาที่แบบนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต สายตาสวยสอดส่องมองซ้ายมองขวาด้วยความแคลงใจไปหมดทุกอย่าง
"ทางนี้ธาร ตามมาสิเดี๋ยวหลงหรอก" เจนจิราจูงมือเพื่อนให้ตามเข้าไปในห้องแต่งตัวด้านหลังของผับหรู
"อ้าว! นังจูนนี่โผล่หัวมาได้สักทีนะยะ ขาประจำแกมารอตั้งนานแล้ว"
ทันทีที่เข้ามาเสียงทุ้มของใครบางคนก็เอ่ยทักเจนจิราทันที สายธารเงยหน้ามองคนตรงหน้าที่ถึงจะร่างกายเป็นผู้ชาย แต่การแต่งการรวมถึงกิริยาเหมือนผู้หญิงทุกระเบียดนิ้ว
"รู้แล้วค่ะเจ๊วีวี่"
"แล้วนั่นใคร เด็กใหม่เหรอ?" คนที่ถูกเรียกว่าเจ๊วีวี่เดินเข้ามาจับตัวสายธารหมุนซ้ายที ขวาทีเพื่อเช็กดูให้มั่นใจ
"เพื่อนจูนเองชื่อสายธาร ธารนี่เจ๊วีวี่ ตัวเต็งของผับนี้"
"สวัสดีค่ะ" สายธารรีบยกมือไหว้คนตรงหน้าทันทีที่เพื่อนแนะนำให้รู้จัก
"ตัวเต็งอะไรยะ! ฉันน่ะหลีกทางให้เด็กๆ นานแล้วย่ะ" เจ๊วีวี่ทำท่าม้วนผมของตัวเองพลางบิดซ้าย บิดขวาทำทีเขินอาย
