ตอนที่4
งานแต่งงานสุดแสนอลังการณ์ของบุตรสาวคนโตของท่านสุธีถูกจัดขึ้นอย่างฐานะ ฝ่ายเจ้าบ่าวเองก็ไม่น้อยหน้า ถึงจะไม่ได้รวยเทียบเท่ากับฝ่ายเจ้าสาวแต่ก็จัดเตรียมทุกอย่างไม่ให้เสียชื่อ
สายธารถูกสั่งห้ามไม่ให้ไปร่วมงาน เพราะผู้เป็นพ่อไม่ต้องการให้ใครเจอเธอ น้อยคนนักที่จะรู้ว่าประธานอย่างท่านสุธีมีลูกสาวสามคน เธอจึงทำได้แค่ร่วมยินดีกับพี่สาวจากระยะไกล
"ป้า..ป้าว่าคุณธารใช่ลูกคุณท่านจริงๆ หรือเปล่า" แม่บ้านวัยกลางคนเพิ่งมาทำงานได้ไม่นานนึกสงสัยในความสัมพันธ์ของพ่อลูกที่ดูไม่ลงรอยกันเท่าไร
"ถามอะไรของเอ็งนังเปีย"
หญิงสาวที่ถูกลืมกลายเป็นหัวข้อสนทนาของเหล่าแม่บ้านที่พากันข้องใจเรื่องของสายธารกับท่านสุธีที่ดูอย่างไรก็ไม่เหมือนพ่อลูกกันเลยสักนิด แถมท่านสุธียังไม่เคยใส่ใจดูแลลูกสาวคนสุดท้องเลยสักครั้ง
"ป้าอยู่มานานป้าต้องรู้สิ เล่ามานะป้า"
"ไม่รู้หรอก เรื่องของเจ้านายข้าไม่ยุ่ง ไม่รู้อะไรทั้งนั้น" แม่บ้านอาวุโสที่อยู่มาเนิ่นนานหลายสิบปีลุกขึ้นเดินหนีไม่ยอมเล่าให้ใครฟัง
สายธารเดินผ่านห้องครัวได้ยินที่เหล่าแม่บ้านคุยกันแล้วอดคิดตามไม่ได้ เธอเป็นลูกของพ่อจริงหรือเปล่า ทำไมท่านถึงไม่เคยรักหรือใส่ใจเธอเลย แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งชวนให้น่าเศร้าใจ ถ้าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ ท่านคงไม่ส่งเสียเธอจนถึงทุกวันนี้
"อ้าว! คุณธารมาทำอะไรตรงนี้คะ" แม่บ้านวัยกลางคนเอ่ยถามสายธารที่ยืนนิ่งอยู่หน้าห้องครัว
"ธารหิวน่ะค่ะ เลยลงมาหาอะไรรองท้องก่อนอ่านหนังสือ"
"งั้นเดี๋ยวฉันให้นังนุ่นยกขนมขึ้นไปให้นะคะ"
"ไม่เอา ฉันขี้เกียจคุณเขาหิวก็ให้ยกไปเองสิ" เสียงตะโกนตอบกลับทันควันของแม่บ้านสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ
"ไม่เป็นไรค่ะน้าเปีย เดี๋ยวธารถือไปเองได้ค่ะ" สายธารยืนรอของว่างแล้วยกขึ้นห้องด้วยตัวเอง เธอไม่กล้าออกคำสั่งกับใครเพราะรู้ตัวว่าไม่ใช่ที่รักของทุกคน
"นับวันสีหน้าคุณธารยิ่งหม่นหมองขึ้นทุกที ฉันไม่เคยคุณธารยิ้มเลยนะป้า"
"เจอแบบนี้เป็นเอ็งจะยิ้มออกไหมล่ะ" แม่บ้านอาวุโสเห็นใจสายธาร แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้กลัวจะทำเกินหน้าที่ของตัวเองเกินไป
สายธารอ่านหนังสือสอบจนหลับไปโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้สมาชิกในครอบครัวของเธอได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน สามีของพี่สาวคนโตได้ย้ายเข้ามาในบ้านอย่างเป็นทางการหลังจากสิ้นสุดงานแต่งงาน
หญิงสาวรีบตื่นแต่เช้าเตรียมไปเรียนเหมือนอย่างทุกวัน แต่ที่เปลี่ยนไปคือเธอรู้สึกถึงสายตาของพี่เขยที่จ้องมองเธอทันทีเธอเดินออกจากห้องนอน
"จะไปเรียนแล้วเหรอครับน้องธาร"
"ค่ะ" สายธารตอบรับสั้นๆ แล้วรีบจ้ำอ้าวหนีพี่เขยหมาดๆ ที่กำลังจะก้าวมาหาเธอ
"ให้พี่ไปส่งไหมครับ" ตณกฤษยังคงก้าวตามเธอติดๆ
"ไม่ต้องค่ะ"
"ทำไมเมื่อวานถึงไม่ไปงานแต่งของพี่ล่ะครับ"
"ธารต้องอ่านหนังสือสอบค่ะ" หญิงสาวตอบปัดๆ เพื่อให้เขาเลิกสงสัยเสียที แต่คนตรงหน้ากลับมองเธอในชุดนักศึกษาตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาที่สื่อความหมายถึงเรื่องอย่างว่า
"คุณต้นคะ คุณไม่ควรทำแบบนี้นะคะ คุณแต่งงานกับพี่ฝนแล้วนะคะ" เสียงหวานเอ่ยเตือนสติให้เขารู้ตัวว่าที่เขาทำมันผิด สายตาที่เขามองมานั่นไม่ได้มองเธอเป็นน้องสาวภรรยา แต่เป็นสายตาของคนเจ้าชู้
"เรียกคุณแล้วดูห่างเหินกันจัง ยังไงพี่ก็เป็นพี่เขยของน้องธารนะครับ"
"ถ้าคุณยังเป็นแบบนี้ธารจะบอกพี่ฝนนะคะ" สายธารพูดขู่ แต่อีกคนกลับหัวเราะร่าไม่ได้เกรงกลัวเธอเลยสักนิด
"ฮ่าๆ บอกสายฝน บอกเรื่องอะไรล่ะครับ คิดว่าระหว่างพี่กับน้องธาร สายฝนจะเลือกเชื่อใครมากกว่ากัน" เขารู้ว่าสายธารไม่ใช่คนที่ทุกคนให้สำคัญ ไม่ว่าเธอจะพูดหรือออกความเห็นเรื่องใดก็ไม่มีใครสนใจเธอ นั่นยิ่งส่งผลดีให้เขาได้ทำสิ่งอยากทำได้อย่างตามใจโดยไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น
หญิงสาวกำหมัดแน่น คนรักของพี่สาวช่างร้ายกาจเหลือเกิน เขารู้ว่าเธอเป็นลูกที่พ่อไม่สนใจ เป็นน้องที่พี่ๆ ไม่เคยแลมอง คงไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอเป็นแน่ สิ่งเดียวที่สายธารทำได้คือการอยู่ห่างจากพี่เขยแสนน่ากลัวคนนี้
บนโต๊ะอาหารครอบครัวอบอุ่นอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา สมาชิกใหม่ของบ้านได้ถือวิสาสะนั่งแทนที่ของสายธารโดยไม่มีใครทักท้วง คนที่ถูกแย่งที่ประจำจึงต้องพาตัวเองไปนั่งเก้าอี้ตัวสุดท้ายที่เหลือโล่งไว้
"ทานเยอะๆ นะคะต้น" สายฝนตักอาหารใส่จานให้คนรักที่เพิ่งแต่งงานกัน
"แล้วจะไปฮันนีมูนกันที่ไหนล่ะลูก" ท่านสุธีเอ่ยถามลูกสาวคนโตกับคนรักของลูก
"ฝนอยากไปบาหลีค่ะ ต้นเขาก็ตามใจให้ฝนเลือกค่ะพ่อ"
"ดีๆ เรื่องเงินไม่มีปัญหานะเดี๋ยวพ่อจัดการให้เอง"
"พ่อคะ รุ้งก็อยากไปเที่ยวบ้างค่ะ สิ้นเดือนนี้รุ้งนัดไปเที่ยวเกาหลีกับเพื่อน" สายรุ้งเห็นพี่สาวถูกตามใจจึงเร่งทำคะแนนลูกสาวสุดที่รักกับผู้เป็นพ่อบ้าง
"เอาสิลูก ไปพักผ่อนบ้างก็ดี"
"ขอบคุณค่ะ" สองพี่น้องยิ้มร่าที่พ่อเห็นดีเห็นงามไปด้วย แต่ลูกสาวคนเล็กทำได้แค่นั่งเขี่ยข้าวในจานไปมาไม่กล้ามีเสียงในวงสนทนา
"สายธาร!"
"คะ..คุณพ่อ" เสียงหวานรีบขานรับทันทีที่ผู้เป็นพ่อเรียกเสียงดัง
"อีกนานไหมกว่าแกจะเรียนจบ"
"ไม่ค่ะ อีกแค่ปีเดียวก็จบแล้วค่ะ" สายธารตอบอย่างยิ้มๆ ดีใจที่อย่างน้อยๆ ท่านก็ยังอยากรู้เรื่องของเธอ
"ก็ดี ฉันจะได้เลิกสงเสียแกสักที เปลืองจะแย่ เรียนจบมาจะมีงานทำหรือเปล่าก็ไม่รู้" สิ่งที่ผู้เป็นพ่อพูดต่อทำเอาสายธารก้มหน้าสลด ท่านไม่เคยเป็นห่วงจิตใจของเธอเลยสักนิด
ชายหนุ่มสมาชิกใหม่นั่งมองหญิงสาวร่างเล็กด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ใบหน้าสวย นัยน์ตาเศร้าของสายธารชวนให้เขามีอารมณ์ไม่น้อย คงจะดีถ้าได้ยินเสียงหวานๆ ของเธอมาครางใต้ร่าง
"ธารอิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ" สายธารลุกจากโต๊ะอาหารโดยไม่มีใครสนใจเธอสักคน ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานชวนให้คนที่เหมือนส่วนเกินพาลน้อยใจ
"ยังไม่ชินหรือไง" เธอหันมองสีหน้าของผู้เป็นพ่อกับพี่สาวที่กำลังยิ้มแย้มแล้วได้แต่ปลอบใจตัวเองให้คุ้นชินกับสถานะการณ์เช่นนี้เสียที ต่อให้เธอหายตัวไปก็ไม่มีใครคิดอยากจะออกตามหาเธอหรอก ทุกคนอาจจะดีใจถ้าเธอไม่อยู่ที่นี่
