บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 ชายแดนแคว้นฉีและเว่ย

ตู้ซิวเหยียน เร่งเดินทางไปชายแดนด้วยม้าเร็วโดยไม่หยุดพัก เขาเดินทางไปพร้อมกับทหารคู่ใจ ทหารกลุ่มนี้เป็นกองกำลังเล็กๆ แต่มีวรยุทธขั้นสูง ซึ่งทหารเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนของจวนโหว

สารจากน้องชายของเขา ตู้ซิวเซิง ส่งมาเมื่อสองวันก่อน ในสารแจ้งว่าพบศพสาวใช้ข้างกายของน้องสาวแล้ว สาวใช้พวกนี้ล้วนมีวรยุทธสูงส่ง ปกติสาวใช้เหล่านี้รับใช้และเป็นผู้คุ้มครองน้องสาวของเขาแบบไม่ยอมห่างกายมาโดยตลอด

ตู้ซิวเซิงตรวจพบร่องรอยการต่อสู้เป็นวงกว้าง สุดท้ายเขาพบศพองครักษ์เงาของน้องสาว ทำให้ความหวังที่น้องสาวจะมีชีวิตรอดหมดลง เนื่องจากองครักษ์พวกนี้มีวรยุทธสูงมีฝีมือการต่อสู้ที่เก่งกาจ หากพวกเขาตายนั่นหมายถึงเจ้านายของพวกเขาคงจะไม่รอดแล้ว

ตู้ซิวเซิง จึงส่งสารแจ้งข่าวร้ายกลับจวนตระกูลฟู่เพื่อให้เตรียมจัดพิธีศพ กฏทหารของจวนจงอู่โหว หากผู้ใดโดนจับเป็นเชลยให้สังเวยชีวิตตัวเองทันที เพื่อป้องกันการทรมานในการรีดความลับกองทัพ ถ้าหากน้องสาวของเขาถูกจับ นางย่อมจะทำตามกฏนี้อย่างแน่นอน เหมือนน้องชายของเขา อีกสองคนที่ตายไปก่อนนี้

แต่ตอนนี้ตู้ซิวเหยียนไม่อยากคิดว่าน้องสาวตายไปแล้ว ถ้าหากโดนจับเป็นเชลย เขาไม่อยากให้น้องสาวทำตามกฏนั้น อย่างน้อยนางยังมีชีวิตอยู่ น้องเขยของเขาฟู่ซานหลาง มีวรยุทธเก่งกาจ ยามประมือประลองฝีมือกัน ฟู่ซานหลางทำให้เขาต้องพ่ายแพ้มาโดยตลอด เขาจึงเชื่อว่าน้องเขยน่าจะคุ้มครองน้องสาวได้

ฟู่ซานหลางนับได้ว่ามีฝีมือการต่อสู้สูสีกับน้องรอง แต่ท่านพ่อของเขาเคยเอ่ยชมว่า ฟู่ซานหลางมีฝีมือเหนือกว่าตู้ซิวเซิงอยู่ขั้นหนึ่ง เนื่องจากตู้ซิวเซิงถนัดการใช้แรง แต่ไม่ค่อยมีมันสมอง

ตู้ซิวเหยียนเดินทางหนึ่งคืนและอีกครึ่งวัน เขาจึงมาถึงค่ายกระโจมที่พักชั่วคราวที่น้องชายเขาปักหลักพักรอเขาอยู่ที่นี่ เมื่อเขากระโดดลงจากหลังม้า น้องชายผู้เสมือนหมีดำก็รีบวิ่งมาหาเขาในทันที

“ท่านพี่ ในที่สุดท่านก็มาแล้ว ข้าร้อนใจมากมาย”

“อืม ตอนนี้มีการค้นหาถึงที่ไหนบ้างแล้ว”

“ข้ากระจายกำลังค้นหาไปทั่ว บริเวณขบวนสินสมรสโดนลอบโจมตีห่างจากชายแดนแคว้นเว่ย 80 ลี้ ทหารของข้าพบศพองค์หญิงเว่ยหมิงเย่ว์ และศพของทัวป๋าอ๋อง ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ20 ลี้ คาดว่าตอนลอบโจมตีน่าทั้งสองพระองค์น่าจะพยามหนีกลับแคว้นเว่ย”

“แต่ที่ข้าประหลาดใจ กริชประจำตัวของน้องสาวซิวซยาปักคาอยู่ที่หน้าอกขององค์หญิงแคว้นเว่ยนี่สิ เรื่องนี้ทำให้ข้ารู้สึกกลุ้มใจแต่ไม่กล้าบอกใคร”

“เจ้าทำได้ดีมาก เรื่องนี้เจ้าห้ามพูดกับผู้ใด จงเก็บเรื่องนี้ไว้ ให้เน่าอยู่ในท้องของเจ้า”

“แต่ข้าตรวจร่องรอยพร้อมกับลูกน้องช่วยกันสำรวจซ้ำแล้ว นางใช้กริชนั้นปิดชีพตัวเองตัวเองจริงๆ แต่ข้าคิดว่าเรื่องกริชนี้จะเก็บเอาไว้รอปรึกษากับท่านเสียก่อนน่าจะดีกว่า ข้ากระจายคน ค้นหาน้องสาวและน้องเขยไปทั่ว ในระยะ100 ลี้ แต่ยังไม่มีแม้แต่ร่องรอยของคนทั้งคู่ จิ้นอ๋องทรงแบ่งคนของเขามาช่วยข้าตามหาคนอีกหลายแรงด้วย”

“ตอนนี้ กริชเล่มนั้นอยู่ที่ไหน”

“ข้านำมันมาเก็บไว้ที่ตัวข้าแล้ว ทั้งกริชและปลอกของกริช”

“ดี เจ้าเอามาให้ข้า เดี๋ยวข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง”

“ท่านพี่จะพักผ่อนก่อนดีไหม ไปพักในกระโจมส่วนตัวของข้าก็ได้”

“ไม่ล่ะ เดี๋ยวข้าจะออกตรวจบริเวณพื้นที่ด้วยตนเอง ไม่แน่ว่าคนทั้งคู่อาจจะทำสัญลักษ์อะไรไว้ จิ้นอ๋องล่ะตอนนี้ทรงไปพักอยู่ที่ไหน”

“ตอนนี้ ท่านอ๋องน่าจะทรงอยู่ระหว่างการเดินทางนำขบวนศพองค์หญิงพระองค์นั้น และศพทัวป๋าอ๋องไปส่งที่แคว้นเว่ยแล้ว พระองค์ยืนยันว่าจะไปส่งพระศพด้วยตนเอง ใช้เวลาเดินทาง 7-8 วัน น่าจะถึงเมืองหลวงแคว้นเว่ย”

“อืม พาข้าไปดูแผนที่ก่อน จะได้เริ่มการค้นหา”

สองพี่น้องตระกูลตู้ เดินเข้ากระโจมกลาง นั่งดูแผนที่กันอย่างเคร่งเครียด ระหว่างที่ปรึกษากันอยู่นั้น มีทหารขออนุญาติเข้ากระโจม เพื่อมาส่งสาร

เมื่อ ตู้ซิวเหยียน รับสารจากนายทหาร ก็ส่งสัญญาณให้ทหารนายนั้นจากไป ก่อนจะคลี่จดหมายออกอ่านด้วยความใจเย็น ตรงข้ามกลับผู้เป็นน้องชายที่ลุกลี้ลุกรน อยากจะขออ่านสารด้วยโดยไม่เก็บอาการ

“สารว่าอย่างไรบ้าง สารจากจิ้นอ๋องว่าอย่างไร มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นขอรับท่านพี่” ตู้ซิวเซิง มองคิ้วของพี่ชายที่อ่านสารฉบับนั้นจบกลับขมวดแน่น พับสารอย่างใจเย็นสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะยื่นให้ผู้เป็นน้องชายอ่าน

“ข่าวดี ท่านอ๋องจิ้นรู้แล้วว่าฟู่ซานหลางและตู้ซิวซยา อยู่ที่ใด”

“ข่าวร้าย ทั้งสองคนนั้นอยู่ในมือของท่านอ๋องแปดของแคว้นเว่ย และท่านอ๋องพระองค์นี้ยังเป็นพี่ชายแท้ๆ ขององค์หญิงสิบสี่อีกด้วย”

“แล้วพวกเราจะทำอย่างไรกันดี ท่านพี่ในสารไม่ได้แจ้งว่าทั้งสองคนเป็นอย่างไร ข้ารู้สึกร้อนใจไปหมดแล้ว พวกเราจะยกกองทัพไปตีบุกชิงคน เลยดีไหม”

“ทำแบบนั้นไม่ได้ แค่เรื่องที่องค์หญิงสิบสี่ และทั่วป๋าอ๋อง เสียชีวิตจากการโดนลอบสังหารที่แคว้นฉี ก็กระทบความสัมพันธ์ของแคว้นฉีและเว่ยแล้ว เจ้าคิดว่าเหตุใดท่านอ๋องจิ้นจะต้องเดินทางไปส่งพระศพขององค์หญิงสิบสี่กลับแคว้นเว่ยด้วยตนเอง นั่นก็เพื่อไปแสดงความบริสุทธิ์ใจและแสดงความเสียใจในเรื่องนี้ด้วยความจริงใจอย่างไรละ”

“แล้วพวกเราจะทำอย่างไรต่อไปดี ท่านพี่”

“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ คอยฟังข่าวจากข้า อย่าเคลื่อนไหวกองทัพ แต่เตรียมจัดกองทัพเอาไว้สำหรับพร้อมทำศึกอยู่เสมอ ข้าและกองกำลังของจวนจงอู่โหวจะไปสมทบกับจิ้นอ๋อง”

“ข้า..อยากไปด้วย น้องสาวที่น่าสงสารของข้าไม่รู้ว่านางมีชะตากรรมอย่างไรบ้าง” หากแม้ว่าน้องสาวยังมีชีวิตอยู่ การเป็นหญิงที่ตกอยู่ในเงื้อมือของทหารฝ่ายศัตรู ส่วนใหญ่สตรีเหล่านั้นมักจะมีชะตากรรมที่น่าสังเวช ยิ่งเขานึกภาพที่เหล่านางกำนัลรับใช้ที่ติดตามกับขบวนสมรสนอนตายกันอย่างน่าอนาถ สภาพศพก่อนตายน่าจะโดนย่ำยีอย่างทารุณ ฝ่ามือใหญ่ก็กำแน่น สีหน้าทุกข์ทรมานปนเจ็บปวดใจ

“เจ้าอย่าเพิ่งคิดไปไกล น้องสาวและน้องเขยอาจจะยังมีชีวิตอยู่ก็ได้ เจ้าไปสั่งคนให้เตรียมม้าเร็วให้ข้า 20 ตัว และสั่งคนให้ไปแจ้งกลุ่มทหารที่ติดตามข้า ให้พวกเขาเตรียมพร้อมในการเดินทางต่อ เดี๋ยวข้าขอออกไปคัดเลือกคนที่จะร่วมทางไปกับข้าอีกรอบ”

“ท่านพี่ ท่านเดินทางไม่พักมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว พักสักนิดก่อนดีหรือไม่” ผู้เป็นน้องชายเอ่ยถามผู้เป็นพี่ชายด้วยความเป็นห่วง

“เจ้านอนหลับตาลงหรือไม่”

ตู้ซิวเซิง “...”

คำถามของพี่ชายทำให้ตู้ซิวเซิงหมดคำถาม เขารีบก้าวเท้าเดินออกจากกระโจมกลางเพื่อไปดำเนินการตามคำสั่งของพี่ชายในทันที

ตู้ซิวเหยียน นั่งคิดในใจ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการแบบใด เขาจะต้องพาคนกลับเมืองหลินจือให้ได้ เพื่อท่านพ่อและท่านแม่ ที่สำคัญเพื่อนหลานๆ ของเขา ภาพหลานสาวตัวบอบบางนอนนิ่งสงบอยู่บนเตียงด้วยท่าทางน่าสงสารรบกวนใจเขามากที่สุด

ไม่รู้เป็นเพราะเหตุใดจิตใต้สำนึกของตู้ซิวเหยียนทำให้เขารู้สึกว่า เขาได้สูญเสียหลานสาวคนนั้นไปแล้ว…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel