บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 ข้ามีท่านยายเป็นจางกงจู่

หลังจากนอนหลับฝันได้หนึ่งตื่น ข้ารู้สึกตัวเมื่อลืมตาขึ้นมา เผชิญหน้ากับหญิงชราผมขาวโพลนไปทั้งศีรษะ มวยผมของหยิงชราปักปิ่นแบบเรียบง่าย เข้ากับชุดสีขาวแบบเรียบ มีผ้าคาดหน้าผากประดับทับทิมสีแดงเม็ดใหญ่ บ่งบอกว่าหญิงชราผู้นี้มีฐานะสูงศักดิ์ นัยน์ตาของหญิงชราผู้นี้เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา เมื่อมองสบตากับข้าก็กะพริบตา หยาดน้ำตาเหล่านั้นพลันแห้งหายไป

“เย่ว์เอ๋อร์ เจ้าตื่นแล้ว...ยายรบกวนทำให้เจ้าตื่นหรือไม่”

“ไม่..เจ้าค่ะ”

“หลานยาย เจ้า...ในที่สุดก็พูดได้เสียที” เสียงแหบพร่าสั่นเครือน้อยๆ

“ยายมาเยี่ยมเจ้าช้าไปแล้ว อยากจะมาตั้งแต่เมื่อคืนวาน แต่ท่านตาของเจ้าเอ่ยห้ามข้าเอาไว้ วันนี้ช่วงเช้าก็ยุ่งวุ่นวายหลายๆ เรื่อง นี่ป้าสะใภ้ใหญ่ของเจ้าก็มาด้วยนะ เจ้าดีขึ้นมากก็ดีแล้ว”

“เย่ว์เอ๋อร์ ป้าสะใภ้ใหญ่มาเยี่ยมเจ้าแล้ว”

ฟู่เสียนเย่ว์กระพริบตาแล้วคิดในใจว่าท่านป้าสะใภ้ผู้นี้ คงจะเป็นฮูหยินใหญ่จากจวนจงอู่โหว นางเดินขยับกายมาหยุดอยู่ข้างเตียงเพื่อทักทายข้า ข้าทำได้เพียงขยับตัวเพื่อจะลุกขึ้นนั่ง เหลียนฮวาที่คอยเฝ้าข้างเตียงอีกด้านก็รีบขยับตัวมาช่วยประคองข้าลุกขึ้นในทันที

“ช้าๆ เด็กดีไม่ต้องรีบลุก” เสียงท่านยายพูดอย่างห่วงใย อีกทั้งมือสั่นเทาทั้งสองข้างของท่านยายขยับมาช่วยเหลือข้า

“ลุกขึ้นนั่งแล้วเจ้ารู้สึกเวียนหัวหรือไม่ หรือนอนลงไปพักก่อนดี”

“ข้า ม่ายย เวียน” ฟู่เสียนเย่ว์พยายามพูดพร้อมทั้งส่ายหน้าปฎิเสธเบาๆ

“คุณหนูหกมีสีหน้าดีขึ้นแล้วเพคะนางพยายามพูดว่าไม่เวียนศีรษะเพคะจางกงจู่” เหลียนฮวาช่วยตอบแทน

“หิวหรือไม่ เมื่อเช้ากินอะไรได้บ้างไหม” ท่านยายเอ่ยปากถามพรางลูบหัวลูบใบหน้าของข้าอย่างแผ่วเบา

“วันนี้เย่ว์เอ๋อร์ กินอาหารเช้าได้เยอะมากเพคะ นี่ก็หลับไปตั้งแต่ยามสาย ยามบ่ายเพิ่งจะตื่น พระองค์ไม่ต้องกังวลพระทัยเพคะ หม่อนฉันได้สั่งพวกบ่าวใช้ให้ไปอุ่นโจ๊กไก่มาแล้ว ประเดี๋ยวให้กินโจ๊กจะได้ดื่มยาต่อ” ฮูหยินใหญ่จวนตระกูลฟู่ เอ่ยชี้แจงเบาๆ

“เรามาถึงจวนตระกูลฟู่ ทักทายฮูหยินผู้เฒ่าของพวกเจ้าแล้ว ก็บุกมาเยี่ยมเสียนเย่ว์เลย จึงยังไม่ได้พบกับอวิ๋นเชอร์”

“อวิ๋นเชอร์รู้ความแล้วเพคะ จึงไปช่วยงานอยู่ที่เรือนหน้า ประเดี๋ยวหม่อมฉันจะพาพระองค์ไปพักผ่อนที่เรือนรับรอง แล้วจะให้คนไปตามเขามาพบจางกงจู่ นะเพคะ”

“อื้มดี เราไปพักผ่อนที่เรือนรับรองเลยดีกว่า เย่ว์เอ๋อร์จะได้กินโจ๊กและดื่มยาด้วยความสบายใจ ไม่ต้องแตกตื่นเช่นนี้”

“เพคะ จางกงจู่”

“พูดกับเราธรรมดาเถอะ เราไม่ชอบธรรมเนียมอะไรมากมายนัก ในยามนี้เราคงจะต้องมารบกวนพวกเจ้าที่จวนตระกูลฟู่แห่งนี้อยู่บ่อยๆ แล้ว เพราะเราไม่อาจจะปล่อยวางเรื่อง ... อื้ม เดี๋ยวพวกเราไปคุยกันที่เรือนรับรองน่าจะดีกว่า”

“เย่ว์เอ๋อร์ ยายไปพักผ่อนอยู่ที่เรือนรับรองก่อน ยามเย็นยายจะมาเยี่ยมเจ้าอีกที”

ฮูหยินใหญ่จวนจงอู่โหวรีบเข้ามาประคองจางกงจู่ลุกขึ้นยืน สาวใช้คนสนิท ยื่นไม้เท้ามังกรสีทองให้จากกงจู่อย่างรู้งาน

“เชิญเสด็จทางนี้เพคะ เดี๋ยวหม่อนฉันนำทางไปพักผ่อนเพคะ”

“อืม รบกวนเจ้าแล้ว”

เมื่อทุกคนเดินออกไป เสียงไม้เท้ามังกรกระแทกพื้นดังกึกๆ ก่อนจะค่อยๆ เบาเสียงลง แสดงว่าพวกนางจากไปไกลแล้ว เถาฮวาจึงค่อยลำเรียงอาหารมาที่โต๊ะข้างเตียง นางจะป้อนข้า แต่ข้าส่ายหน้าปฏิเสธ เพราะอยากลุกนั่งกินเอง แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร พวกนางก็ตั้งโต๊ะสำรับบนเตียง อย่างรู้งานจนข้าได้แต่นึกชื่นชมในใจ เก่งเกินไปแล้ว รู้ใจข้าไปเสียทุกอย่าง มิน่าฟู่เสียนเย่ว์ไม่จำเป็นจะต้องพูดอะไรก็อยู่ได้อย่างสบาย

ระหว่างกินโจ๊ก ข้าก็นึกทบทวนเรื่องราวในชีวิตที่แล้วอักครั้ง ด้วยความที่ข้ารู้สึกประทับใจในตัวตู้ซิวซยา จึงใช้ให้นางกำนัลไปสืบข่าวของนางและประวัติครอบครัวนางมาอย่างละเอียด ข้าจึงได้รู้เรื่องราวมากมาย

ท่านยายของข้า จางกงจู่พระองค์นี้ มีพระนามว่าเซียวจื่อเหยียน เป็นพระธิดาองค์เล็กของเซียวเฟิงตี้ฮ่องเต้พระองค์ก่อน และมีศักดิ์เป็นเสด็จอาของเซียวเกาตี้ฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน พระประวัติของจางกงจู่พระองค์นี้ไม่ธรรมดา ทรงเลือกสละฐานันดรศักดิ์ เพื่อแต่งงานกับนายทหารองครักษ์โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านห้ามปราม หลังจากแต่งงานแล้วย้ายออกจากวังแบบไม่อาลัยยศตำแหน่งแล้ว ในภายหลังนายทหารผู้นั้นเข้าร่วมกองทัพต่อสู้รบทัพจับศึกมากมาย ได้รับชัยชนะในศึกยิ่งใหญ่หลายครั้ง จนคว้าตำแหน่งแม่ทัพใหญ่และสร้างเกียรติยศให้แก่พระนางด้วยตำแหน่งฮูหยินจงอู่โหว ซึ่งเป็นตำแหน่งของท่านหญิงขั้นหนึ่ง

หลังจากเซียวเกาตี้ได้รับความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากจวนจงอู่โหว จนได้ขึ้นครองราช จึงแต่งตั้งคืนบรรดาศักดิ์จางกงจู่ให้แก่พระนาง ซึ่งพระนางรับไว้แค่ตำแหน่ง เป็นคำเรียกขาน แต่ไม่ขอรับจวนองค์หญิงและพื้นที่ศักดินา รวมไปถึงบรรดาศักดิ์นี้ให้สิ้นสุดลงที่พระนางเท่านั้น ไม่มีสืบทอดให้แก่ทายาท

จวนจงอู่โหวนับเป็นตระกูลใหญ่ของเมืองหลินจือ ตู้หลินหลาน จงอู่โหว เป็นขุนศึกที่ทำสงครามไม่เคยพ่ายแพ้ เขานำทัพเองคราใดรบชนะทุกครั้ง ด้านความรัก ยึดมั่นในรักกับจางกงจู่มาก ไม่มีหญิงอื่นมารบกวนให้จางกงจู่ต้องเหนื่อยพระทัย ทั้งสองคนครองรักกันแบบหวานชื่น มีบุตรร่วมกัน 5 คน ชาย 4 คน หญิง1 คน

บุตรชายคนโต ตู้ซิวเหยียน ซื่อจื่อจวนโหวดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าราชองครักษ์รับคำสั่งโดยตรงจากฮ่องเต้ บุตรชายคนรอง ตู้ซิวเซิง ดำรงตำแหน่งแม่ทัพพิชิตชายแดนเหนือ บุตรชายคนที่สามและคนที่สี่เสียชีวิตในสงครามแย่งชิงดินแดน ส่วนบุตรสาวคนที่5 ตู้ซิวซยา นางเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวที่ได้รับความรักจากครอบครัวดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพพิชิตชายแดนตะวันออก และในยามนี้นางถือได้ว่าเป็นท่านแม่ของข้า ‘ฟู่เสียนเย่ว์’

เรื่องเล่าของจางกงจู่เซียวจื่อเหยียนและท่านแม่ทัพตู้หลินซาน สร้างความประทับใจต่อข้ามาก เรื่องเล่าที่ข้าเคยฟังเหมือนเรื่องไกลตัว ไม่นึกเลยว่าในยามนี้พวกเขาจะกลายมาเป็นท่านตาและท่านยายของข้า

วันนี้จางกงจู่ทรงเสด็จมาจวนตระกูลฟู่แห่งนี้ด้วยตัวของพระนางเอง คงจะมาเรื่องงานพิธีศพ ของบุตรสาวและบุตรเขยสินะ เมื่อข้าคิดถึงพวกเขาที่ตายไปแล้ว ความโศกเศร้าเริ่มเข้าครอบคลุมจิตใจอีกครั้ง เป็นเพราะข้าอยู่ในร่างนี้กระมังทำให้ข้ารู้สึกปวดใจราวกับข้าเสียพ่อกับแม่ไปจริงๆ ดีนะที่ยามนี้ข้ากินโจ๊กหมดชามก่อน ไม่อยากนั้นข้าคงกินอะไรไม่ลง T^T

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel