2
“จุลินทรีย์พวกนี้ทำอะไรพี่ไม่ได้หรอกครับ”
เขายกน้ำขึ้นดื่มอย่างไม่ใส่ใจ เหลือบมองกระดาษทิชชูที่เธอวางไว้บนโต๊ะ ขอบแก้วน้ำดื่มมันก็ดำจริงๆ นั่นแหละ
นี่เขาเพิ่งรู้นะนี่ พนักงานล้างแก้วยังไง ถูหรือเปล่าวะ!
“ความประมาทเป็นหนทางสู่ความตายนะคะพี่ชา”
“ครับ พริ้งไม่กินก๋วยเตี๋ยวด้วยกันเหรอ”
เขาเลิกคิ้วขึ้นถาม จู่ๆ ก็เอ็นดูเธอขึ้นมาเสียไม่ได้ สีหน้าของเธอ แววตาของเธอมันบ่งบอกถึงความใส่ใจและเป็นห่วงเป็นใยเขาเสียเหลือเกิน ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เขาเองก็ไม่เข้าใจเธอเหมือนกัน คนเพิ่งรู้จักกันแท้ๆ
“พริ้งกินไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวท้องเสีย”
เธอพูดแล้วใบหน้าเหยเก เขาหยิบทิชชูสีชมพูขึ้นมาเช็ดช้อนเหมือนหาอะไรทำ
“ตายแล้ว! พี่ชากำลังทำอะไรคะนั่น?”
“เช็ดช้อนครับ”
เขาอยากถามกลับว่าตาบอดเหรอ แต่เขาก็เก็บปากหมาๆ ของตัวเองเอาไว้
“พี่ชารู้ไหมคะ กระดาษทิชชูสีชมพูมันไม่สะอาด พี่ชาต้องสังเกตสิ่งรอบกายบ้างนะคะ”
“ครับ?” เขาเลิกคิ้วทำหน้าสงสัย
“กระดาษดูสีชมพูน่ารักก็จริงค่ะ แต่เขาทำจากกระดาษเอสี่เปื้อนหมึกค่ะ เราต้องใช้กระดาษทิชชูที่มีคุณภาพเช็ดสิ่งที่เราจะทานเข้าปาก ถึงมันจะผ่านขั้นตอนต่างๆ มาแล้ว แต่พี่ดูนั่นสิคะ ฝุ่นเกาะที่กระดาษเต็มเลย ร้านนี้อยู่ริมถนน เขาไม่สนใจจะเอาฝาชีหรืออะไรมาครอบปิดกระดาษทิชชูหรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่จะทำให้ปลอดภัยสำหรับผู้บริโภคเลยนะคะ”
“ครับ”
อาชาใบ้กิน มองหญิงสาวพูดตาปริบๆ เธอไม่ได้พูดรัวเร็ว กลับพูดเสียงนุ่มน่าฟัง แต่ประโยคของเธอทำให้เขาเลิกหิวไปโดยปริยาย
“ได้แล้วครับ”
พนักงานนำหมี่เหลืองแห้งมาวางที่โต๊ะ และน้ำซุปร้อนๆ อีกหนึ่งถ้วย ก่อนเดินไปรับออร์เดอร์ที่โต๊ะอื่นๆ อีก
“พี่ชาคะ”
“ครับ”
เสียงเรียกของเธอทำให้เขาหลอนอย่างไม่น่าเชื่อ ทำท่าจะตักพริกใส่ในชามก๋วยเตี๋ยว
ต้องชะงักค้างกลางอากาศ…
“พี่ชาดูพริกในกระปุกสิคะ มันน่ากลัวมากๆ เลยนะคะ น่าจะมีราผสมอยู่ ถ้าพี่ชากินเข้าไปอาจจะเป็นสารก่อมะเร็งได้นะคะ พวกสารอะฟลาทอกซิน โรคมะเร็งเดี๋ยวนี้น่ากลัวมาก คนที่ป่วยเป็นโรคนี้เจ็บปวดทรมานและตายเร็วกว่าคนเป็นเอดส์อีกนะคะ”
“แค่กๆๆๆ”
อาชาสำลักหูตาแดงไปหมด เขายกน้ำขึ้นดื่มในขณะฟังเธอสาธยายสรรพคุณของเชื้อราในพริก
“น้ำซุปนั่นใช้กระดูกหมูเคี่ยวก็จริง แต่ต้องมีผงชูรสเยอะแน่ๆ การกินผงชูรสเยอะจะทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายเราลดลง กินเยอะๆ ต่อไปจะเป็นโรคไตค่ะ เพราะไตต้องทำงานหนัก โรคความดันโลหินสูง โรคหัวใจ เป็นหมัน เสื่อมสมรรถภาพทางเพศและผมร่วงได้นะคะ”
“เอ่อ... เหรอครับพริ้ง” อาชาใบหน้าเหลอหลา
นี่เขาต้องเสื่อมสมรรถภาพเพศเพราะน้ำซุปถ้วยนี้เชียวหรือ?
“ร้านนี้เขาทำไม่ค่อยสะอาดนะคะ พี่ดูสิ ขวดใส่พริกดองน้ำส้มดองเป็นพลาสติก ซึ่งมีส่วนประกอบของน้ำส้มสายชูอยู่ด้วย แต่ใช้พลาสติกมันจะกัดสีของพลาสติกทำให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ เกิดอันตรายได้ค่ะ และมันก็เป็นสารก่อมะเร็งด้วย”
“ครับ”
อาชาแค่อยากแกล้ง พาเธอมากินร้านแบบนี้ แต่กลายเป็นว่าเขานั่งทำตาปริบๆ มองเธอพูดเสียงนิ่มๆ ไม่หยุดปาก
“พวกผงชูรสเป็นสารสังเคราะห์ มันเกิดอันตรายต่อร่างกายนะคะ ถ้าเรากินอะไรไม่ระวังต่อไปเราจะป่วยได้นะคะ”
เธอวกกลับไปที่ผงชูรสอีกครั้ง
“ลูกชิ้นนั่นเด้งได้ มันต้องมีส่วนผสมของสารบอแรกซ์แน่ๆ เลยค่ะพี่ชา มันอาจจะกรอบอร่อย แต่เคลือบไปด้วยสารพิษ เด้งดึ๋งแบบนั้นอันตรายนะคะ เผลอๆ อาจจะมีสารกันบูดปนเปื้อนอยู่ด้วยค่ะ”
“เมื่อกี้พี่ชายังไม่ได้ล้างมือเลยนะคะ เวลาจะกินอะไรเราต้องล้างมือก่อนค่ะ เพราะมือของเราเป็นแหล่งเชื้อโรค”
“พริ้งครับ พี่ว่าเราไปกันเถอะ”
อาชาเห็นหน้าคนที่นั่งอยู่โต๊ะรอบข้างและแม่ค้าที่มองเขม็งมาทางเขากับเธอ ทำให้เขาเสียวสันหลังวาบ
“พี่ชาไม่กินเหรอคะ”
เธอรู้สึกผิดที่พูดเยอะไป ทำให้เขากินอะไรไม่ลง สีหน้าของเธอทำให้เขายิ้มอ่อน...
“พริ้งครับ พูดเสียขนาดนี้จะให้พี่กินลงเหรอครับ”
