ตอนที่ 6 สายรุ้งในยามเช้า
ตอนที่ 6
สายรุ้งในยามเช้า
“หายไปพร้อมกันสองคนเลยเหรอ” จันทร์จิราหรือไกด์แจนเบิกตาโตเท่าไข่ห่านกับข่าวใหม่ในรุ่งเช้า
“ใช่ แต่เห็นหัวหน้าบอกว่าเสี่ยสั่งให้ผู้ช่วยทำงานแทนทั้งหมด แล้วก็ส่งคนขับรถคนใหม่มาแทน”
“ฉันว่ามันแปลกๆ นะ จู่ๆ คิตตี้ก็หายไปพร้อมกับพี่คนขับรถ แล้วเสี่ยยุทธนาก็ยังสั่งการมาที่หัวหน้าอีก รู้สึกว่าเสี่ยจะใจดีกับสองคนนี้เกินไปแล้ว”
จันทร์จิราเม้มปาก เธอพยายามยั่วยวนนักรบแต่เขาไม่เคยเหลียวแลเธอเลย แล้วไยเขาถึงหันไปสนใจชาครียาซึ่งไม่มีอะไรเทียบเธอได้สักอย่าง หน้าอกหน้าใจเธอก็ใหญ่กว่า สะโพกก็กลมกลึงกว่า อวบอัดกว่าผู้หญิงคนนั้นตั้งเยอะ
“ผู้หญิงใจง่าย!”
“แจน เธอกำลังคิดว่าสองคนนั่นหายไปด้วยกันเหรอ” เพื่อนไกด์คนหนึ่งถาม จันทร์จิราเบ้ปาก
“ไม่คิดอย่างนี้แล้วจะให้คิดอย่างไหน ในเมื่อหายไปพร้อมกัน คงหนีไม่พ้นไปด้วยกันหรอกน่า เชอะ ฉันนึกว่าแม่นั่นจะวางตัวเสมอต้นเสมอปลาย พอเจอผู้ชายหล่อๆ เข้าหน่อยก็ดีแตกซะแล้ว”
“แต่ปกติคิตตี้จะไม่สนใจใครนอกจากงานเท่านั้นนะ” อีกคนค้านเพราะรู้จักชาครียามานานและไม่เห็นว่าเธอจะประพฤติตัวไม่เหมาะสม
“ก็คนมันอยากมีผัวจนตัวสั่น พวกหล่อนจะรู้อะไรกัน ป่านนี้ยัยคิตตี้เสร็จไปไม่รู้กี่ยกแล้ว”
หลายคนได้ฟังคำผรุสวาทนั้นแล้วต้องส่ายหน้าเพราะไม่คิดว่าชาครียาจะเป็นอย่างที่จันทร์จิราพูด แต่หลายคนก็เชื่อคำของจันทร์จิราเพราะความสนิทสนม การแบ่งพรรคแบ่งพวกจึงเริ่มขึ้น และเมื่อได้เวลาเริ่มงานเฮียหมงก็ไม่เห็นชาครียา
“อาคิตตี้ไปไหนเสีย” เขาถามสาวิตรี
“ได้ยินว่าหายไปกับโชเฟอร์รถบัสตั้งแต่เมื่อคืนค่ะ”
เฮียหมงนิ่วหน้า โชเฟอร์รถบัสที่ว่าน่าจะใช่นักรบ ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่นักรบกล่าวอ้างว่าเป็นสามีของชาครียาก็เป็นเรื่องจริงล่ะสิ
“อั๊วะรู้เลี้ยว”
“ตอนนี้ลูกทัวร์ของบัส 4 กำลังมองหาคิตตี้ให้ควั่กค่ะเฮีย”
ชายร่างอ้วนเตี้ยพยักหน้าพอจะเข้าใจ และมีความคิดว่าควรจะต้องออกโรงช่วยชาครียาในงานนี้ ถือเป็นการไถ่โทษที่เขาเกือบจะทำร้ายเธอไปเมื่อคืน เฮียหมงเดินขึ้นเวทีแล้วปรบมือให้ทุกคนฟังทางนี้
“ที่ผมต้องขึ้นเวทีเร็วกว่าปกติ เพราะอยากจะแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า น้องคิตตี้ไม่สบายมาก เมื่อคืนผมก็เลยให้โชเฟอร์พาไปส่งบ้านที่กรุงเทพฯ ทริปนี้ทุกท่านอาจจะไม่ล่ายเห็นอีอีกนะครับ” กล่าวจบเฮียหมงก็ลงจากเวที หวังว่าน้องคิตตี้ได้รู้และยอมยกโทษให้เขา
“เฮีย”
“อั๊วะทำในสิ่งที่สมควรเลี้ยวอาสาวิตรี เมื่อคืนนี้อั๊วะทำผิดกับอีมาก เช้านี้อั๊วะก็อยากจะไถ่โทษล่วยการช่วยเหลืออีแทน” เฮียหมงบอกสาวิตรียิ้มๆ แล้วเดินหนีไปนั่งยังโต๊ะของตน
ชาครียาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เธอมองหาคนที่กกกอดเธออยู่ทั้งคืน เขาน่าจะนอนอยู่ข้างๆ แต่ทำไมมันถึงว่างเปล่า หญิงสาวทะลึ่งตัวขึ้นพรวดหาเสื้อผ้าของตนและเห็นมันถูกใส่ไม้แขวนๆ ไว้อยู่มุมห้อง จะเป็นฝีมือใครไปไม่ได้นอกจากเขา
สิ่งแรกหลังจากตื่นขึ้นมาในตอนเช้าหลังผ่านค่ำคืนอันแสนเร่าร้อนผู้หญิงน่าจะเห็นผู้ชายนอนพักและมีเสื้อผ้าที่ต่างช่วยกันถอดระเกะระกะเกลื่อนพื้นไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมที่เธอเห็นมันช่างต่างจากที่เธอเข้าใจเหลือเกิน เขาเก็บเสื้อผ้าตากให้อย่างเรียบร้อยแล้วหายไปกับแสงสว่างของวันใหม่
...ไปไหน...
หลังจากสวมเสื้อผ้าเสร็จชาครียาก็ออกไปยืนมองหาร่างคุ้นตา ไม่มีเงาของเขา หรือว่า...เขาจากเธอไปแล้ว
“ผู้ชายได้แล้วก็ทิ้ง”
เธอบอกตัวเอง น้ำตาซึมออกมาทางหางตาเล็กน้อยเมื่อตัดใจได้ว่าทุกอย่างมันเป็นความผิดและความต้องการของตัวเอง แล้วจะมาคร่ำครวญหาอะไร เธอใช้หลังมือปาดน้ำตาออกจากหางตาแล้วเดินลงบันไดเตี้ยๆ ตรงไปยังชายหาดที่ทอดตัวอยู่ไม่ไกล
ทะเลในยามเช้าดูเงียบเหงาหรือใจเธอมันเศร้าเกินกว่าจะเห็นว่าสวยงาม ทรายละเอียดใต้เท้าเปล่าเปลือยคล้ายกับนวดให้หายเมื่อยล้า สายลมและแสงแดดอ่อนๆ ทำให้ความรู้สึกดีขึ้นมาเพียงเล็กน้อย มีฝรั่งเดินเกี่ยวก้อยกันเป็นคู่ๆ ผ่านหน้าเธอไป เขาคงเป็นคู่รักที่พากันมาพักผ่อนหรือฮันนีมูนสินะ น่าอิจฉาจริง
หญิงสาวเดินเนือยๆ ให้น้ำทะเลซัดเท้าเลียบชายหาด เดินก้มหน้าก้มตาจนมองไม่เห็นว่ากำลังมีใครบางคนว่ายน้ำเข้าฝั่ง จวบจนร่างสูงวิ่งตามมาขวางหน้า ชาครียาถึงเห็นปลายเท้าใหญ่สะอาดสะอ้านเห็นหน้าแข้งที่มีขนประปราย เห็นกางเกงขาสั้นที่เปียกแนบไปกับลำตัวหนา แล้วต้องหน้าแดงซ่านเมื่อทิ้งสายตามองเป้าตุงๆ ในกางเกงที่เปียกลู่นานกว่าที่อื่น
“อย่ามองมันอย่างนั้น ตอนนี้สถานที่ไม่เอื้ออำนวยหรอกนะ”
ชาครียากะพริบตาแล้วเงยหน้ามองเจ้าของร่างแกร่ง นักรบเนื้อตัวเปียกโชกแก้มของเขาแดงขึ้นเล็กน้อย
“พี่รบ! มะ...มาจากไหน”
“ทะเล ออกกำลังกายในตอนเช้า ร่างกายจะได้ตื่นตัวหลังจากเมื่อคืนใช้แรงไปเยอะ”
“ไปว่ายน้ำมาหรอกเหรอ คิตตี้นึกว่า...”
“อ๊ะๆ อย่าเชียวนะ อย่าดูถูกนักรบแบบนั้น ไม่เคยทิ้งผู้หญิงไว้คนเดียวทั้งที่เพิ่งมีเซ็กซ์กันไปหมาดๆ หรอกนะ”
ชาครียาหน้างอ
“แสดงว่าปกติจะกกกอดไว้ต่อตอนเช้าล่ะสิ” เธอบอกแล้วสะบัดหน้าอย่างมีแง่งอน นักรบยิ้มพอใจกับกิริยาน่ารักนั้น
“เปล่าหรอก ไม่เคยต้องต่อตอนเช้า เสร็จแล้วก็ไปส่งแค่นั้นเอง”
“ฮึ สุภาพบุรุษชะมัด” ว่าเขาแล้วเธอก็เดินทอดน่องไปตามชายหาด แอบอมยิ้มอยู่คนเดียวอย่างดีใจว่าเขาไม่ได้ทิ้งไปไหน แค่มาออกกำลังกายเท่านั้นเอง
“ใจหายหรือเปล่า”
“ใจหาย?” เธอทำหน้าฉงน
“ก็ตื่นมาไม่เห็นพี่”
ชาครียายอมรับด้วยการพยักหน้าแก้มระเรื่อ มือบางถูกคว้าไว้ด้วยมือหนากุมไว้อย่างทะนุถนอมก่อนจะวาบไหวเหมือนไฟช็อตเมื่อนักรบเขี่ยปลายนิ้วหัวแม่มือของตนกับฝ่ามือบอบบาง
“ขอโทษนะที่ไม่ได้ปลุก พี่เกรงใจไม่อยากปลุกเห็นกำลังนอนสบาย”
“ปกติคิตตี้ก็ตื่นเช้านะคะ แต่พี่รบตื่นเช้ากว่า เป็นไงคะออกกำลังกายเหนื่อยไหม”
“ไม่เหนื่อย พี่ว่ายน้ำเป็นปกติอยู่แล้ว”
“พี่รบทำงานอะไรหรือคะ ถ้าไม่ได้ขับรถบัส”
นักรบลอบมองเสี้ยวหน้าคนถามเห็นเธอถามทั้งที่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมอง
“พี่ทำหลายอย่าง แล้วแต่ว่าตอนนั้นจะมีอะไรให้ทำ”
เขาตอบเรื่อยๆ ยังไม่อยากเปิดเผยความเป็นตนให้เธอรู้ในตอนนี้ ผู้หญิงหลายคนรับไม่ได้หากจะมีแฟนเป็นทหาร พวกเธอกลัวความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและมักจะปฏิเสธหากต้องมีอนาคตร่วมกับบุคคลที่เป็นรั้วของชาติ นักรบเข้าใจจิตใจของพวกเธอดี ไม่มีใครยอมรับความสูญเสียได้ง่ายๆ นักหรอก
“รับจ้างหรือคะ”
“ก็ประมาณนั้น” เขาตอบเลี่ยง
“ถึงว่ามีเวลาว่างมาขับรถบัส แล้วนี่ถ้าหยุดหลายวันจะมีเงินกินเงินใช้หรือคะ”
“แล้วถ้าพี่มีแต่ตัวกับหัวใจ คิตตี้จะยอมรับพี่มั้ย” เขาถามกลับ ทำเอาชาครียาต้องหยุดเดิน
“พี่รบคิดว่าคิตตี้จะอยู่กับคนที่มีเงินเท่านั้นหรือคะ” เธอมองเขาอย่างค้นคว้า
“เรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญและเป็นปัจจัยหลักของชีวิตนะ”
“คิตตี้ไม่ได้ต้องการมีเงินมากมาย ไม่ได้อยากได้สามีรวย คิตตี้แค่ต้องการคนที่รักและเข้าใจ พร้อมจะร่วมใช้ชีวิตด้วยกันในทุกรูปแบบ ถ้าพี่รบเห็นคิตตี้หน้าเงินนักล่ะก็อยู่ให้ห่างกันไว้จะดีกว่าค่ะ”
“คิตตี้”
ชาครียาสะบัดมือแล้วเดินหนี เธอเสียความรู้สึกตั้งแต่เขาถามว่าจะยอมรับคนที่มีแต่ตัวกับหัวใจไหม ยอมรับว่าเกิดมาเคยฝันว่าอยากมีทุกอย่าง แต่มันก็เป็นได้แค่ฝันและเธอไม่ได้ตามหาฝันจนไม่เป็นอันทำอะไร การเป็นไกด์นำเที่ยวได้เงินไปเลี้ยงดูแม่และใช้จ่ายในครอบครัวก็เพียงพอแล้ว เพราะเธอยึดมั่นตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถ้าคิดจะมีสามีสักคนก็ขอแค่เขาทำมาหากิน รักและเข้าใจเธอทุกอย่างก็พอแล้ว
คำถามของนักรบเหมือนคำสบประมาท เขาอาจจะเห็นเธอตั้งใจทำงานจนลูกทัวร์ให้ทิปเป็นจำนวนมาก เขาคงคิดว่าเธอทำเพื่อเงินถึงยอมเต้นแร้งเต้นกาหน้าไม่อายทุกครั้ง
“เดี๋ยวสิคิตตี้ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้โกรธ พี่แค่ถามคำถามที่ใครๆ ก็ถามกัน ทำไมต้องงอนกันด้วย”
“พี่รบคงคิดว่าถ้าเฮียหมงหน้าตาดีกว่านี้ คิตตี้คงอยากเป็นเมียเขาสินะคะ”
“ไม่ใช่นะ พี่ไม่เคยคิดอย่างนั้น”
“ไม่ต้องโกหกหรอกค่ะ พี่รบไม่ใช่คนแรกที่คิดแบบนี้” เธอบอก
มันเป็นความจริงที่เจอมากับตัว มีคนเสนอเงินมากมายให้เพื่อแลกกับร่างกายของเธอ แต่ชาครียาปฏิเสธมาตลอดและต่อต้านอย่างเอาเป็นเอาตายหากใครจะล้ำเส้นที่เธอขีดไว้ ยกเว้นเขา นักรบเป็นคนแรกที่เธอยอมให้เพราะใจของเธอมันอ่อนยวบทุกครั้งเพียงแค่เข้าใกล้ เธอไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเขาจะเป็นใคร ทำอะไรอยู่ที่ไหน แต่วันนี้พอเธอถามเขากลับปักหมุดลงบนใจเธอซะอย่างนั้น
ผู้หญิงอย่างเธอไม่คิดจะขายตัวให้ใครหรอกนะ!
“อย่าเหวี่ยงน่ะ พี่บอกแล้วไงว่าไม่ตั้งใจ พี่ขอโทษ”
นักรบไม่เคยต้องตามตื๊อผู้หญิงเลยสักครั้ง อาจเป็นเพราะเขายังไม่ถูกใจใครเท่ากับเธอ ชาครียาเป็นคนแรกที่เขาต้องเอ่ยคำขอโทษทั้งที่ไม่เข้าใจว่าทำอะไรผิด และหากเธอจะไม่ยอมฟังเขาง่ายๆ เขาคงจะหมดความอดทนในไม่ช้า
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ พี่รบไม่ได้ทำอะไรผิด” บอกแต่ยังไม่หยุดเดินจนร่างสูงเข้ามาขวางหน้า
“งั้นก็หยุดแล้วคุยกันดีๆ”
“คิตตี้ปวดหัวค่ะ จะเข้าไปนอนที่ห้อง”
เมื่อเธอยังดื้อดึงจะกลับห้อง เขาก็ต้องพยักหน้าปล่อยให้เธอทำตามความต้องการ ชาครียากลับไปนอนนิ่งอยู่ในบังกะโล เธอแสร้งหลับตาลงเมื่อเขาเข้ามา นักรบมองนิ่งอย่างครุ่นคิดไม่นึกว่าผู้หญิงจะเข้าใจยากแบบนี้มาก่อน พูดกระทบหูหน่อยเดียวเป็นไม่พอใจ
ชาครียาได้ยินเสียงถอนใจจากชายหนุ่มซึ่งตั้งใจจะทำเสียงดังให้ได้ยิน เธอไม่ยอมลืมตาแต่ร่างกายกำลังเกร็งด้วยความหวังว่าเขาจะทอดกายลงกอด ทว่านักรบไม่ได้ทำเช่นนั้น เขาอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดเดิมแล้วออกไปนั่งกินลมชมวิวอยู่นอกชานเงียบๆ เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ได้ แต่ก็ทำเอาหญิงสาวต้องหลับลงในที่สุด
“ไอ้วี กูเองนะ” นักรบกรอกเสียงใส่มือถือ เมื่อเดินห่างออกมาจากบังกะโลแล้วโทรหาเพื่อนรัก
“ว่าไงวะ กูกำลังกลับกอง ท่านตามตัวกูอย่างรีบด่วน”
“มีเรื่องอะไรวะ ไม่เห็นมีใครตามกูเลย”
“ไม่รู้ว่ะ แต่พรรคพวกกูบอกว่าน่าจะเกี่ยวกับเรื่องยา มีข่าววงในแจ้งว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดล็อตใหญ่เข้าไทยวันมะรืนนี้”
“ว่าไงนะ แล้วมันจะเข้ามาทางไหน”
“น่าจะเป็นชายแดนแต่ยังไม่รู้ว่าจังหวัดอะไร แล้วมึงโทรมามีอะไรหรือเปล่า”
“เออ กูจะปรึกษาเรื่องบางอย่าง แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว”
“อ้าวเฮ้ย ทำไมเปลี่ยนใจเร็วขนาดนี้วะ”
“ก็เรื่องที่มึงบอกน่าสนใจกว่า ตอนนี้กูอยู่ในจังหวัดที่ติดชายแดน เดี๋ยวกูจะไปดูสักหน่อย”
“ระวังตัวด้วยนะไอ้รบ กูว่ารอให้เขาเรียกตัวมึงก่อนไม่ดีกว่าหรือ ดีกว่าคิดจะฉายเดี่ยวนะเว้ย”
“ไม่ล่ะ บางทีอาจจะได้อะไรมาบ้าง ไม่ต้องห่วงกูไม่ตายง่ายๆ หรอกไอ้วี แค่นี้นะ”
นักรบเดินกลับเข้าไปในบังกะโล ชาครียายังคงหลับสนิท เขาย่องเข้าไปนั่งลงบนเตียงแล้วทอดตัวลงนอนเคียงตวัดอ้อมแขนรัดร่างบางเข้าหา หญิงสาวลืมตาในทันทีแต่ไม่ต่อต้าน เธอยอมให้เขากอดแถมยังเป็นฝ่ายเบียดร่างเข้าหา ชายหนุ่มกดจมูกลงบนพวงผมแล้วเคลื่อนเข้าหาแก้มนวล
“อย่าโกรธเลยนะ พี่ขอโทษ” เขาบอกซ้ำแล้วดึงร่างสาวให้นอนหงายก่อนจะจูบทับริมฝีปากเนิ่นนานจนพอใจ ดีใจที่เธอไม่ต่อต้านแถมยังให้ความร่วมมือจูบตอบเขาจนหวานไปถึงหัวใจ
ชาครียานอนคิดอยู่หลายนาทีก่อนหลับ คิดเข้าข้างเขาว่าคงพูดออกมาเพราะปากเสีย อย่างที่เคยปะทะกันด้วยวาจาน่าจะทำให้แน่ใจได้บ้างว่าเขาปากพล่อยไปหน่อย พอคิดได้ดังนั้นทำให้เธอสบายใจขึ้นจนผล็อยหลับลงไป ตอนนี้ถูกรบกวนจนตื่น แสงอาทิตย์ส่องจ้าแล้วยังร่างที่เบียดชิดมันทำให้เธอไหวหวั่นได้ไม่น้อย ยิ่งพอเขาคลอเคลียและจูบเธออย่างดื่มด่ำ ก็รู้สึกได้ว่าสิ่งที่หายไปกำลังถูกเติมเต็มให้อีกครั้ง
นักรบยกตัวขึ้นถอดเสื้อที่สวมออกอวดกล้ามเป็นมัดๆ และไรขนประปราย ชาครียามองตาปรอยตั้งแต่ใบหน้าหล่อเหลาเรื่อยลงมาจนถึงอกตึงเครียดแล้วต่ำลงจนถึงขอบกางเกงยีนส์ เธอไม่รู้หรอกว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ เธอมองเขาด้วยสายตาที่หิวโหยไม่ต่างอะไรจากสายตาของนางแมวป่า ชายหนุ่มโน้มตัวลงจูบทับกลีบปากอิ่มนุ่มบดคลึงตามแต่ใจต้องการ ก่อนจะแทรกเรียวลิ้นเข้าไปสำรวจโพรงน้ำหวาน เรือนกายสูงใหญ่ถูกเท้าดันไว้ด้วยสองมือคร่อมร่างนุ่มอย่างเก็บกัก
ชาครียาจูบตอบในแบบที่เขาสอน เธอจดจำทุกอย่างที่เขาสอนเอาไว้จนขึ้นใจ มือบางวาดขึ้นไปเกี่ยวต้นคอหนาลูบไล้ไปมาคล้ายกับนวดคลึงไปในตัว เธอไม่ได้เจนจัดแต่ที่เป็นอยู่นี่คือบทเรียน
“เมื่อคืนชมดาวท่ามกลางสายฝนไปแล้ว ตอนนี้พร้อมหรือยังที่จะไต่สะพานสายรุ้งไปด้วยกันอีกครั้ง”
หญิงสาวหน้าแดงซ่าน “ค่ะ” เธอตอบแล้วรับจูบจากเขาอีกครั้ง เมื่อเรือนกายสูงใหญ่ทาบทับครึ่งๆ มือหนาก็เคล้าคลึงทรวงสล้างแทนการบดเบียด บีบขยำเย้าหยอกความนุ่มละมุนมือ จูบวาบหวามก่อเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่เข้าขากัน เรียวลิ้นตวัดเกี่ยวดื่มด่ำอยู่ในอุ้งปากร้อนชื้น ไรฟันซี่เล็กๆ ถูกลัดเลาะลิ้มเลียทุกซอกทุกมุม กลีบปากอิ่มถูกดูดดึงรุนแรงจะร่างผวา
เสื้อผ้าอาภรณ์ที่ติดกายดูสร้างปัญหาให้กับหัวใจเป็นล้นพ้น จนต้องกระชากออกอย่างรุนแรงเหมือนมันขัดขวางความใกล้ชิดสนิทสนม เสื้อเชิ้ตสีสวยขาดวิ่นอย่างน่าเสียดาย ตามด้วยชุดชันในลายลูกไม้ที่อุตส่าห์สวมใส่แล้วซักอย่างทะนุถนอมก็ขาดแคว่กแบบไม่มีชิ้นดี
สะพานสายรุ้งเส้นที่ว่าทำไมเริ่มจากอาการจาบจ้วงใจร้อนแบบนี้ เหมือนคนทำต้องการจะสร้างตราบาปไว้บนเรือนร่างอันน่าลิ้มลอง ทว่าตราบาปนั้นกลับเป็นความต้องการของเธอเสียด้วย ยิ่งแรงยิ่งชอบยิ่งกระหายอยากได้ ลมหายใจที่ถ่ายทอดออกมาคล้ายคนเหนื่อยหอบผสานกับลมหายใจของคนตัวน้อยที่คอยแต่ผวาไปตามแรงสัมผัส อากัปกิริยาที่เป็นไปตามธรรมชาติดูดดึงให้สติสัมปชัญญะลอยคว้าง ดวงหน้าเรียวสวยแหงนอวดลำคอระหงขาวนวล
นักรบแปลงร่างเป็นท่านเค้าน์แด๊กคูล่าก้มลงดูดชีพจรบนลำคอแรงๆ ใช้ไรฟันคมกริบแกล้งงับให้สาวสวยสะท้านไปถึงทรวง มือใหญ่กอบกุมบีบเคล้นทรวงสล้างและห่อหุ้มประหนึ่งชุดชั้นในคุณภาพดี ปลายนิ้วเขี่ยยอดถันแล้วคีบดึงเรียกเสียงครางแหบโหยได้ไม่ยาก
กางเกงยีนส์รัดรูปแม้จะถอดยากเย็นปานใดแต่ไม่ยากเกินความสามารถของคนที่คิดจะถอดแล้วเหวี่ยงให้พ้นสายตา นิ้วแกร่งเกี่ยวทั้งขอบกางเกงยีนส์และกางเกงชั้นในตัวจิ๋วติดออกมาพร้อมกัน เป็นอาการของคนใจร้อนจนถึงขีดสุด ทั้งที่เมื่อเช้ายังลงไปดับร้อนในทะเล ว่ายวนเรียกฟื้นความกระชุ่มกระชวยมาเป็นชั่วโมง แต่พอได้ใกล้ชิดก็หิวโหยในรสเสน่หาอันมากล้นเสียจนอดทนเนิบช้าไม่ไหว
เพียงไม่นานร่างขาวลออก็เปลือยเปล่าท้าทายแสงแดดอ่อนๆ ในยามสาย เสียงคลื่นซาดสาดม้วนเกลียวเข้าหาฝั่งยิ่งเสริมบรรยากาศให้อ่อนหวาน ทั้งที่ในใจเร่าร้อนเสียเต็มประดา มือเรียวเกี่ยวโน้มต้นคอแกร่งจดจ่อเรียวปากแล้วยกหน้าขึ้นบดคลึงปากร้อนเสียเอง ถึงเขาจะรุนแรงแค่ไหนแต่เหมือนเธอเองจะแรงกว่า
สายรุ้งยังไม่ก่อตัวให้เห็นต่อเมื่อเธอยังไม่รู้สึกวาบหวามทั่วทรวงอก
“พี่รบ เร็วๆ”
นักรบแค่นยิ้ม เขาก็อยากทำให้มันเร็วๆ อยากตอกร่างเข้าหาเธอแบบไม่ยั้ง ถ้าไม่คิดว่าจะทำให้เธอระบมจนต่อยกสองยกสามไม่ไหว
“ชู่ว์!!! ใจเย็นยาหยี รอพี่ด้วย”
“พี่รบ อื้ม...ช้า”
เธอท้วงเมื่อมือใหญ่เวียนวนอยู่กลางหน้าขา แต่ยังไม่ซุกแทรกเข้าหาเสียทีเหมือนเขาตั้งใจจะรออะไรบางอย่าง หรืออยากแกล้งให้เธอขาดใจเล่นกันแน่
“เธอยังแห้ง พี่ต้องรอ”
“อื้ม...พี่รบ!”
แล้วนักรบก็สอดปลายนิ้วเข้าสะกิดเกสรตูมเต่ง สะกิดแล้วสะกิดเล่าไม่ช้าไม่นานเกสรสวยก็คายน้ำหวานอาบปลายนิ้ว ชายหนุ่มกระตุกยิ้มที่มุมปาก สาวเจ้าช่างเร่าร้อนเสียจนเขาแทบกระอักออกมาเป็นเลือด ไม่ใช่เพราะเธอร้อนเกินไปจนรับไม่ไหว แต่เพราะอยากตอบโต้ปฏิกิริยาอันน่ารักให้หนำใจแรงๆ ทว่า...มันกลับมีคำว่า ‘ถ้า’ เกิดขึ้นทุกระยะ
ถ้าเธอรับความต้องการของเขาได้
ถ้าเธอจะไม่เจ็บปวดหลังจากที่เขาทำทุกอย่างตามใจตัวเอง
ถ้าเธอจะไม่คับแคบและเบียดชิดกันขนาดนี้
นิ้วแกร่งค่อนข้างหยาบกร้านทะลวงหาแหล่งน้ำหวานภายในบ่อน้ำอมฤต กลีบกายนุ่มแสนแน่นบีบรัดปลายนิ้วของเขาจนต้องเผยอปากงับริมฝีปากอิ่มหนักๆ ได้ยินเสียงตัวเองคร่ำครวญอยู่ลึกๆ เหมือนเจ็บปวดสาหัส ยิ่งลึกยิ่งเจ็บยิ่งแน่น
“อูย...นี่แค่นิ้ว ถ้าเป็นส่วนอื่นล่ะ”
เขาถอนมือออกจากซอกขาลูบคลึงทรวงงามด้วยน้ำหวานที่ฉ่ำนิ้ว ก่อนจะสอดปลายนิ้วนั้นเข้าไปในอุ้งปาก
“ดูดสิที่รัก ดูดมัน”
ชาครียาทำตามคำสั่งในทันที ทั้งดูดทั้งกลืนจนคนมองตาปรอยหยาดเยิ้ม แล้วร่างสูงก็ถอยห่างอย่างรวดเร็ว ปลดเปลื้องอาภรณ์อันรัดรึงของตนออก ไฟพิศวาสแรงกล้าในแววตาคมสบดวงตาหวานเยิ้มแลเห็นปลายลิ้นสีชมพูลากเลียกลีบปาก ยั่วยวนความกำหนัดจนเนื้อเต้น
นักรบคลอเคลียร่างนุ่มอีกหน ซุกซบใบหน้าลงกลางซอกขาเรียวที่เปิดแยกจากกันจนกว้าง ความงามชุ่มชื้นทำให้เขาต้องกัดปากก่อนจะลากปลายลิ้นเลียกลีบดอกไม้แต่ละกลีบอย่างทะนุถนอม
ชาครียาครางหวีดหวิวจนจับใจความไม่ได้ มือบางจิกทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ใกล้แล้วกระชากรุนแรง เส้นผมที่ตัดสั้นของชายหนุ่มก็ไม่เว้น จิกแล้วดึงทึ้งอย่างทุรนทุราย ร่างนวลบิดเป็นเกลียวกระสับกระส่ายเหมือนถูกไฟลน ดิ้นเร่าอยู่บนเตียงจนผ้าปูที่นอนสีขาวยับย่น คราบเสน่หาเมื่อคืนนี้ยังติดอยู่บนผ้าสีสะอาด แต่ไม่ได้รับการใส่ใจมีเพียงความต้องการที่พลุ่งพล่านและยากที่จะดับให้หลับไหล
แก่นกายแสนผงาดถูกกดเร้นในเวลาต่อมา เข้าหาปากถ้ำทีละนิดๆ แทรกตัวร้อนผ่าวอย่างเชื่องช้าแต่เต็มแน่นไปทุกอณูความรู้สึก ร่างบางเหมือนจะผลิแยกออกจากกันทีละน้อย เรียวขาก็ยิ่งกว้างออกรับการเบียดบดอย่างยินดี จนในที่สุดเธอก็รับเขาไว้เต็มทุกสัดส่วน
“สุดยอด”
คงไม่มีคำไหนเหมาะสมกับความรู้สึกนี้เท่าคำนี้อีกแล้ว ความแกร่งกร้าวถูกกลืนกินจนหมด เหลือเพียงความนุ่มที่อยู่ถัดไป เป็นเพียงความนุ่มที่ถูกกระตุ้นเร้าด้วยไรขนอ่อนในยามขยับ ซาบซ่านชโลมจิตให้ตะคั่นตะขอรือรวดร้าวเสียเต็มประดา
สะโพกสอบพลิ้วไหวในทุกท่วงท่าลีลาบาดจิต เร็วแรงแซงทางโค้งจนหญิงสาวหวีดร้องออกมาไม่ยั้ง แต่กระนั้นทางสายรุ้งก็เพิ่งจะเริ่มทอดผ่าน แสงสีสวยสดยังซีดจัดต้องเร่งเร้าให้มากกว่านี้
ชายหนุ่มพลิกตัวลงนอนหงายคว้าเจ้าเนื้ออุ่นมานอนหงายทับ จัดท่วงท่าให้สอดคล้องแล้วพยุงสะโพกหนั่นแน่นให้นิ่งรอรับการโหมรุกอย่างท้าทาย
ถ้าจะมีใครถามว่าคะแนนรักที่เขาปลุกปั้นให้เธอถึงพริกถึงขิงมากเท่าไหร่ หญิงสาวคงตอบได้รวดเร็วว่าเต็มร้อย นักรบมีลูกล่อลูกชนและจังหวะจะโคนที่รุนแรงเหลือจะกล่าว เห็นเขาแกร่งแข็งกระด้างไปทั้งตัวอย่าคิดว่าจะทื่อตลอดเวลา อย่างตอนนี้เขาพลิกพลิ้วเกินกว่าเธอสำเหนียกได้
“โอย...พี่รบขา ใกล้แล้วค่ะ”
“รอก่อน รอพี่ก่อนคนดี”
เรี่ยวแรงมีเท่าไหร่นักรบใส่ไม่ยั้ง จวบจนเส้นรุ้งมีสีเข้มขึ้นสดใสแล้วนั่นแล ชาครียาถึงหวีดร้องตัวสั่นสะท้านอยู่บนร่างชุ่มเหงื่อ ก่อนคนใต้ร่างจะเกร็งแล้วกระตุกจนเห็นสายธารพวงพุ่งขุ่นเข้มเอ่อนองเต็มพื้น
“แฮ่กๆ” นักรบเองไม่คิดว่าบทรักจะเร่าร้อนได้ปานนี้ เร่าร้อนเสียจนเขาปลดปล่อยอย่างรุนแรง เพราะเธอคนเดียวที่ทำให้เขาสิ้นท่าได้ขนาดนี้
แม่ยอดขมองอิ่ม!!
ชาครียาพลิกตัวลงไปนอนคว่ำอยู่ข้างกายชาย เธอเองก็เหนื่อยไม่ต่างอะไรจากเขา ถึงจะไม่ได้ออกแรงช่วยเหลือเขาเลยสักนิดแต่ทำไมแค่เกร็งรับสัมผัสอันเร่าร้อนถึงเหนื่อยขนาดนี้ก็ไม่รู้
หลังจากความสุขสมผ่านพ้นไป นักรบตระกองกอดชาครียาไว้แนบแน่นเหมือนกำลังคิดอะไรตลอดเวลา อาการนั้นหนีไม่พ้นความสงสัย หญิงสาวปล่อยให้เขานิ่งเงียบอยู่กับความคิดเอาหูแนบฟังจังหวะหัวใจที่เริ่มช้าลงจนเป็นปกติ ตื่นเต้นไม่น้อยที่ได้ฟังเสียงหัวใจของใครสักคนที่มอบใจให้
“เราย้ายไปพักที่อื่นดีไหม” จู่ๆ เขาก็พูดขึ้น
“ทำไมคะ พี่รบเบื่อที่นี่แล้วเหรอ”
“พี่เบื่อทะเล อยากไปนอนบนเขาบ้าง คิตตี้จะไปกับพี่ไหม”
“ไปค่ะ” ชาครียาตอบออกไปโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดให้เนิ่นนาน ความรู้สึกหนึ่งบอกเธอว่าสักวันเขาต้องจากไป เธออยากให้ช่วงเวลาดีๆ นี้อยู่กับตัวให้นานที่สุด
ทว่านักรบไม่ได้ดีใจเลยสักนิด การมีคนติดตามไปด้วยก็เหมือนภาระและจะทำให้เขาพะวงหน้าพะวงหลัง แต่หากทิ้งเธอไว้ตามลำพังหรือส่งเธอกลับบ้าน เขาก็เกรงว่าเธอจะคิดนอกเรื่องไปต่างๆ นานาตามวิสัยของผู้หญิง เวลานี้ยังพอเลือกได้เขาก็จะเลือกคว้าเอาไว้ทั้งสองอย่าง แต่หากเป็นเวลาจริงที่มีชีวิตและผืนแผ่นดินไทยเป็นเดิมพัน เขาจะต้องเลือกสิ่งที่สำคัญที่สุดเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น
ร่างสูงจูบบนขมับชื้นๆ แล้วลุกขึ้นดึงชาครียาให้ลุกขึ้นตาม หญิงสาวคว้าผ้าห่มปิดกายไว้หน้าตาตื่น ก็หน้าต่างของบังกะโลเป็นกระจกมีเพียงม่านบางๆ กั้นไว้ นักรบอมยิ้มลดสายตาลงมองมือบางที่ขยุ้มผ้าห่มไว้แน่น นึกอยากจะดึงออกแล้วลงไปคลุกเคล้ากับเธอบนเตียงอีกสักรอบ แต่เวลาไม่เอื้ออำนวยให้ทำดังใจหมาย เขาจึงต้องตัดใจแล้วตบเบาๆ บนสะโพกกลมกลึงเป็นเชิงหยอกเย้า
“ไปอาบน้ำแล้วแต่งตัวซะ เดี๋ยวจะพาออกไปซื้อเสื้อผ้าไว้เปลี่ยนแล้วเราจะย้ายที่พักกันทันที”
ชาครียาตวัดชายผ้าห่มพันตัวจนเป็นดักแด้ เธอเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความหมายก็เกิดอาการเขินจัด ยิ่งเมื่อลดสายตาลงต่ำก็เห็นความเป็นชายชาตรีไม่ได้สลบไศลเหมือนเดิม เธอก็หันหลังขวับแล้วพึมพำต่อว่าคนหน้าด้าน
“ไม่อายบ้างหรือไง หน้าด้านจัง”
“ถ้าเธอไม่รีบเข้าห้องน้ำ รับรองได้ว่าเราจะไม่ออกไปไหนจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้เช้า”
ชาครียาหน้าตาตื่น เธอหิวข้าวจะแย่แล้วดีที่ท้องไม่ร้องประจานเสียงดัง ไม่งั้นคงต้องพันผ้าไว้ทั้งตัวไม่เว้นแม้แต่หน้า เอาให้เป็นมัมมี่ไปเลย และพอเธอก้าวขาออกร่างก็หมุนติ้วเป็นลูกข่างกลับมาอยู่ในอ้อมแขนกำยำอีกครั้ง
“อุ๊ย!!! ไหนว่าจะให้ไปอาบน้ำไงคะ”
“จะเข้าไปทั้งผ้าห่มผืนใหญ่นี่น่ะเหรอ”
“งั้นในห้องน้ำคงจะมีผ้าเช็ดตัวน่ะค่ะ”
“แก้ผ้าเดินเข้าไปสิ ถ้าต้องห่อตัวเป็นดักแด้แบบนี้มีหวังผ้าห่มเขาเปียกหมด น่าสงสารคนซักออกนะ” ฟังดูเหมือนจะมีเหตุผลดีแฮะ แต่สายตานี่สิไม่น่าไว้ใจเลยจริงๆ
“แต่ว่า...”
นักรบไม่ฟังเสียง เขาดึงมุมผ้าที่เธอขยุ้มไว้แล้วผลักร่างบางให้หมุนไปตามความยาวของผ้าห่ม ชาครียาหลับตาปี๋แต่ก็ยังทรงตัวไว้โชคดีหรือเปล่าที่เธอไม่ได้กระแทกเข้ากับอะไร พอจะหันไปต่อว่าก็เห็นดวงตาวาวหวามมองจ้องมาที่เนื้อตัวขาวๆ และตอนนี้มันก็คงแดงเถือกไปทั้งตัว พวงแก้มถูกแต้มไปด้วยสีแดงกระจายไปทั่วหน้า แทนคำต่อว่าหญิงสาวเม้มปากแล้วรีบก้าวเข้าห้องน้ำปิดประตูลงกลอนซะเลย
ชายหนุ่มถอนใจเฮือกใหญ่ยกผ้าห่มขึ้นมาดมได้กลิ่นหอมจากเนื้อสาวสะพรั่ง หอมเสียจนอย่างเคล้าคลอและร่วมรักกับเธอจนข้ามวันข้ามคืน ถ้าไม่ติดสิ่งที่ตั้งใจจะทำแล้วล่ะก็นักรบจะไม่ลังเลใจเลยสักนิด ตาคมหลุบลงมองหลักฐานแสดงความต้องการที่กำลังอาจหาญผงาดขึ้นให้ประจักษ์ เขาจำต้องกดมือลงบนความร้อนคล้ายจะปลอบให้มันสงบ ก่อนจะสปริงตัวขึ้นนอนค่ำทับอยู่บนเตียงเสียเลย
