ตอนที่ 2 ฉันไม่ใช่กระเทยนะยะ

ตอนที่ 2

ฉันไม่ใช่กระเทยนะยะ

“นี่คุณ! ถึงคุณจะเป็นโชเฟอร์ชั่วคราว แต่คุณก็รับเงินจากเสี่ยยุทธนาเหมือนฉันนะ ถ้าเสี่ยรู้ว่าคุณไม่รักษาระบบที่วางไว้ เสี่ยต้องไม่พอใจคุณแน่”

“แล้วใครแคร์ ผมเป็นแค่ลูกจ้างชั่วคราว ทำงานไม่กี่วันก็ไปแล้ว”

“แต่ถึงยังไง คุณก็ต้องเคารพกฎระเบียบของเรา”

นักรบนึกนิยมในความรักษาระเบียบแบบแผนของชาครียาไม่น้อย ถ้าเธอเป็นหญิงแท้ก็คงจะดี นึกแล้วก็อดกวาดตามองไปทั่วร่างระหงนั้นไม่ได้ หมอศัลยกรรมสมัยนี้เขาเก่ง ทำผู้ชายให้เป็นผู้หญิงได้อย่างที่แทบจะมองไม่ออก

“เงินเดือนก็ไม่มากนัก แต่เอาไปให้หมอศัลยกรรมถลุงเสียหมด”

“อะ...อะไรนะ คุณพูดเรื่องอะไรน่ะ” ชาครียาไม่รู้จริงๆ ไม่ใช่แสร้งทำเป็นไม่รู้ ก็เถียงกันเรื่องห้องพักอยู่ดีๆ แล้วเปลี่ยนมาเป็นหมอศัลยกรรมได้อย่างไร

“ผู้ชายสมัยนี้ก็กระไร เกิดมาเป็นตัวผู้ดีอยู่แล้ว ยังอยากจะเป็นผู้หญิงให้เสียชาติเกิด” นักรบบอกเรียบๆ แล้วออกเดินไปทางลิฟต์เพื่อจะขึ้นห้องพักของตน

ชาครียาไม่ปล่อยให้ความคับข้องใจผ่านเลยไปได้ง่ายๆ เธอจ้ำอ้าวตามติดเขาไปทันควัน แต่ดูเหมือนผู้ชายตรงหน้าอยากจะหนีหายไปจากเธอมากกว่า ทำไม?

“นี่...เดี๋ยวสิ คุยกันให้รู้เรื่องก่อนนะ”

“ผมไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ” นักรบหันมาบอก พร้อมกับเบ้ปากอย่างเย้ยหยัน ยิ่งทำให้ชาครียางุนงงหนัก เธอทำอะไรผิด ถึงจะไม่เห็นดวงตาเพราะถูกปิดบังด้วยแว่นกันแดด แต่มุมปากที่ลากลึกนั้นมันดูหมิ่นเธอชัดๆ แบบนี้จะปล่อยให้เขาเดินลอยนวลจากไปง่ายๆ ได้ยังไงกัน

“แต่ฉันจะไม่ให้คุณไปไหน ถ้าไม่บอกว่าที่พูดเมื่อกี้หมายความว่ายังไง” เธอเดินมาขวางน้ำ หนำซ้ำยกมือขึ้นเท้าเอวอย่างเอาเรื่อง

กระเทยตรงหน้าคงตัวเล็กมาตั้งแต่เกิด ผู้ชายที่สูงไม่เกิน 160 ซม. จัดว่าเป็นผู้ชายตัวเล็ก แบบนี้สิเล่าคนอื่นถึงมองเห็นเธอเป็นสาวแท้

“ผมไม่ชอบคุยกับกระเทย หนีไป”

“เฮ้ย!! พูดอย่างนี้หาเรื่องกันนี่นา” ชาครียาโวย

“จะคิดยังไงก็ช่าง หลีก”

แม้จะถูกไล่ซ้ำ ชาครียาก็ยังไม่ขยับ เธอเท้าสะเอวตั้งหลักขวางหน้าเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย

“ฉันจะไปบอกเสี่ย”

“เรื่อง?”

“ก็นายพูดจาไม่ให้เกียรติผู้หญิง”

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ผู้หญิงเรอะ ไม่น่าจะใช่ของแท้ล่ะนะ” นักรบหัวเราะร่วม แล้วเขาก็ดึงแว่นออกจากหน้า ทีนี้กวาดตามองไปทั่วร่างเล็กสะโอดสะองของคนที่คิดว่าเป็นสาวประเภทสอง อย่างที่เจ้าตัวเห็นก็ต้องหน้าร้อนผ่าว “นมก็ไม่มี หน้าก็เรียวแหลม สะโพกก็...อืม...ยังไม่ค่อยผายเท่าไหร่ สงสัยไม่พ้นมีดหมออีกหลายครั้งกระมัง เป็นผู้ชายดีๆ ไม่ชอบ”

คราวนี้ชาครียาตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า เธออยากกระทืบเท้าเร่าๆ แล้วกรีดร้องให้สุดเสียง ถ้าไม่ติดว่าที่นี่คือโรงแรม และลูกค้าของบริษัทมากมายที่อยู่ในห้องประชุมนั่นล่ะก็ ไอ้หมอนี่...ตาย!!!

“นาย!!! ไอ้ตาถั่วเอ๊ย! ถึงว่าใส่แว่นกันแดดตลอดแม้จะเข้ามาในโรงแรมแล้ว ก็เพราะมีตาถั่วๆ นี่เอง ทีหลังรู้จักหัดกินนมหรือไม่ก็กินข้าวซะบ้างนะ อย่ากินนักไอ้ถั่วกับหญ้าเนี่ย!”

ต่อว่าต่อขานเขาเสียงสั่น ยังไม่หายยังอยากจะหาอะไรมาแพ่นกระบาลให้หนำใจ ‘อย่าให้อยู่ในที่ลับตาคนเมื่อไหร่เลย คอยดูจะฟาดหัวให้สลบเหมือด หนอย...หาว่าเป็นกระเทยซะได้ คนออกจะสวยเริ่ดขนาดนี้ ชิ!’

ชาครียาเดินลงส้นจากไปอย่างสุดโกรธ พยายามนับหนึ่งถึงร้อยก็แล้ว แต่ไฉนตัวเลขมันถึงได้น้อยนัก กว่าเธอจะเดินไปถึงห้องประชุมซึ่งมีคณะลูกทัวร์กำลังนั่งฟังคำบรรยายจากอาจารย์ท่านหนึ่ง เธอก็รู้สึกคล้ายจะหอบจนตัวโยน แล้วนับต่อจากร้อยไปถึงล้าน

นักรบได้แต่ยืนอึ้งอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งลิฟต์เปิดแล้วปิดลง เขาก็ยังไม่ก้าวเข้าไปเพราะมัวแต่มองตามหลังและโมโหไม่น้อยเมื่อถูกกระเทยเสียงหวานหาว่ากินหญ้าแทนข้าว เกิดมาไม่เคยถูกผู้หญิง...ไม่ใช่สิ ถูกกระเทยด่าว่าเอาขนาดนี้ แม้จะมีบ้างบางครั้งที่เขาเกือบจะถูกทึ้งจากพวกสาวประเภทสองที่มากไปด้วยเขี้ยวเล็บเหมือนเสือโหยเหล่านั้น ไม่มีเสียล่ะไอ้ที่เท้าสะเอวด่าปาวๆ แค่หาว่าตาถั่วนี่ยังไม่มากเท่าหาว่ากินหญ้าแทนข้าว

‘หนอย...นังกระเทยอวดดี เดี๋ยวจะจับอัดถั่วดำเสียให้เข็ด’

แต่แล้วคนคิดก็ต้องชะงัก แล้วด่าตัวเองปาวๆ ว่าเขาไม่ชอบกระเทย แต่ชอบผู้หญิงแท้ 100% ก่อนจะแก้ตัวกับตัวเองไปแบบน้ำขุ่นๆ เหมือนปลาหมอเถือกดิน ว่าจะจับแม่นั่นให้คนอื่นอัดถั่วดำต่างหากคิดแบบฉุนโกรธด้วยสีหน้าที่เข้มขึ้น ผิดปกติจากความเป็นผู้บังคับกองพัน นายทหารจะต้องเยือกเย็นและสุขุมรอบคอบ ต้องไม่ดิ้นตามสิ่งยั่วยุเพราะอาจทำให้สูญเสียได้แม้กระทั่งชีวิต

แต่แบบนี้นักรบก็สุดจะทานทนไหว

แม้ในขณะที่ก้าวเข้าไปยืนในลิฟต์แล้วกดเรียกไปยังชั้นที่ต้องการ เขาก็ยังขบกรามกรอดไม่หาย ด้วยเสียศักดิ์ศรีที่ถูกกระเทยด่าทอ ร่างกายเกร็งเขม็งพยายามข่มใจด้วยการทอดถอนใจอยู่หลายครั้งหลายครา จนมายืนอยู่ภายในห้องพักที่ตัวเองเพิ่งเปิด ถึงได้สลัดความคิดอันน่าอนาถนั้นทิ้งแล้วกดโทรศัพท์ลงไปหาประชาสัมพันธ์เพื่อบอกความต้องการ เป็นโชคดีของเขาเมื่อเรื่องที่ขอถูกจัดการให้อย่างรวดเร็ว ความครื้นเครงเริ่มก่อตัวเมื่อคิดถึงเรื่องบนเตียงซึ่งจะเกิดขึ้นจากนี้ในเวลาไม่นาน

ชาครียาพยายามปลดปล่อยความขุ่นเคืองในอารมณ์ เมื่อได้เวลาเล่นรอบกองไฟ ซึ่งจัดขึ้นที่ชายหาดในเวลาค่อนดึก ลูกทัวร์ที่เคยออกทัวร์พร้อมกับเธอทุกคนก็ส่งเสียงเชียร์อย่างดีใจที่จะได้เห็นการละเล่นของเธอ เพราะทุกครั้งหญิงสาวจะไม่อิดออดหรือสงวนท่าทีแต่อย่างใด เธอร้องเล่นเต้นระบำได้อย่างน่ารัก ใครที่ดูก็จะมีความสุขไปกับเธอ เหมือนเช่นตอนนี้

“เอาล่ะค่ะ คิตตี้ได้ให้สัญญาไว้กับชาวบัส 4 ว่าคืนนี้จะเต้นท่าไก่ย่างให้ดู ใครอยากเห็นคิตตี้เต้น ขอเสียงหน่อยค่ะ”

“ฮิ้ว...” เสียงเชียร์ดังขึ้น คณะทัวร์ยกเว้นไกด์ นั่งล้อมกองไฟแล้วปรบมือให้ชาครียาอย่างเอาใจช่วย

“พี่คนนั้น ได้ทำสัญญาใจกับคิตตี้ไว้ ลุกขึ้นมาเลยค่ะ มามะ มาเต้นด้วยกันเร็ว” ไกด์สาวชี้ไปยังผู้ชายคนที่อยากให้เธอเต้นไก่ย่าง ผู้ชายคนนั้นทำท่าเขินอาย แต่ก็ยอมลุกขึ้นเมื่อเพื่อนพ้องทั้งผลักทั้งดันอยู่ข้างหลัง

ขณะนั้นนักรบก็ลงมาจากห้องพักทั้งที่ยังไม่เสร็จกิจกามบนเตียงกับแม่สาวหัวแดง เพราะหล่อนไม่ทำให้เขาตื่นเต้นเลยสักนิด ทั้งที่เจ้าหล่อนก็ทั้งปลุกทั้งปั่นไปทั่วเนื้อตัวเขา แต่กามดันตายด้านไปชั่วขณะทำให้เขาเซ็งแล้วไล่แม่สาวนั่นกลับ ก่อนจะพาตัวเองลงมาที่นี่อย่างไม่รู้ตัว

เขาเข้าไปนั่งรวมกลุ่มกับโชเฟอร์คนอื่น มองดูชาครียาอย่างไม่วางตา อยากรู้นักว่าแม่กระเทยสาวจะเต้นท่าไก่ย่างแล้วออกมาเป็นไง

“เอาล่ะนะ ทรี...ทู...วัน เอ้า...น้องไก่...” หลังจากนับเสียงร้องเพลงไก่ย่างถูกเผาของนักร้องลูกทุ่งก็ดังขึ้น แล้วชาครียาก็โยกย้ายสะบัดส่ายด้วยท่าเต้นไก่ย่างด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

นักรบส่ายหน้า ผู้หญิงที่ไหนจะเต้นท่าไก่ย่างได้มันส์หยดเท่ากระเทยแบบเธอ เห็นแบบนี้จะไม่ให้เข้าใจว่าเธอเป็นกระเทยแปลงเพศก็กระไรอยู่ ยิ่งเธอส่ายสะโพกกระเด้งหน้ากระเด้งหลัง ทำท่าเหมือนไก่ถูกเสียบไม้ มองยังไง๊ยังไงเขาก็เห็นว่าเธอเป็นกระเทยชัวร์ป้าบ

“ว้า...พี่คนนี้เต้นไม่สะใจคิตตี้เลยอ่ะ ใครอยากมาเต้นย่อยอาหารเย็นกับคิตตี้บ้างคะ”

“จับคู่เต้นใหม่สิ” มีกลุ่มๆ หนึ่งตะโกนออกมาอย่างเสนอแนะ

“จับคู่เต้นเหรอ แล้วจะจับคู่ยังไงดี ช่วยคิดหน่อย”

“ก็ให้ไกด์ทุกคนเต้นกับคู่ของตน” อีกเสียงเสนอ

“เอางั้นเหรอ ให้ไกด์คู่กับไกด์หรือคะ”

“ไม่เอา” อีกเสียงคัดค้าน

“ให้ไกด์ของแต่ละบัสเต้นคู่กับคนขับดีกว่า พวกเราบางคนก็ยังไม่รู้เลยว่าใครขับรถที่เรานั่ง อยากเห็นหน้าโชเฟอร์ใจจะขาด” มีเสียงเสนอแนะ แล้วก็ทำให้ชาครียาเกือบปฏิเสธ ถ้าไม่มีอีกเสียงยุขึ้น

“ใช่ แต่จะให้ออกมายืนโชว์ตัวก็กระไร ให้ออกมาเต้นคู่กับไกด์เลย รถใครรถมันไปเลย”

“ใช่”

ลูกทัวร์ที่นั่งล้อมต่างปรบมือส่งเสียเชียร์ให้ดังสนั่น ชาครียาหันซ้ายหันขวาหวังจะหาตัวช่วย แต่นอกจากจะไม่มีแล้วเพื่อนไกด์ทั้งหลายต่างก็พากันลุกขึ้น หนำซ้ำโชเฟอร์ที่คิดว่าควรจะอายจนไม่กล้าแสดงออก ต่างก็เดินเรียงเข้ามาเหมือนนัดแนะ แล้วแบบนี้จะให้เธอปฏิเสธออกไปได้อย่างไร

ไกด์สาวมองไปรอบๆ หาโชเฟอร์ปากจัดผู้ขับรถบัสคันที่ 4 แอบคิดว่าจะไม่เห็นเขาเพราะคงยังไม่ลงมา แต่แล้วก็ต้องถอนใจดังเฮือกเมื่อร่างสูงนั้นขยับเดินเข้ามาจากมุมๆ หนึ่ง

‘อีตานี่กล้า!! แบบนี้คงต้องจัดหนักให้เสียล่ะมั้ง เล่นกับใครไม่เล่น คิดจะเล่นกับไอ้คิต เอ้ย! คิตตี้ เป็นต้องเจอดี’

“ก็ได้ค่ะ แต่มีข้อแม้ว่าคู่ใครชนะจะต้องแดนซ์กระจาย เพลงไม่หยุดคนก็ห้ามหยุด และถ้าคู่ไหนแพ้จะต้องถูกทำโทษ แต่เอ...จะทำโทษยังไงดีนะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวค่อยคิด เพราะคิตตี้จะต้องไม่แพ้ ฮิ ฮิ ฮิ”

นักรบเข้ามาหยุดยืนข้างๆ เธอได้อย่างไรตัวเขาเองก็ยังมึนๆ เขาคิดแต่จะเดินตามเสียงหวานๆ และเสียงเชียร์ของลูกทัวร์ก็ทำให้เขาก้าวเร็วๆ เข้ามา ที่จริงแล้วเขาไม่ใช่คนใจเสาะหรือขี้อายอะไรทั้งนั้น เพราะความเป็นทหารสอนให้กล้าหาญทำได้ทุกอย่างชนิดไม่เลือก เรื่องเต้นแร้งเต้นกาท่าไหนใช่ว่าเขาจะถนัดซะเมื่อไหร่ แต่เขาก็ทำได้ถ้าใจอยากจะทำ

‘หึ คิดว่าเราไม่กล้าล่ะสิ เธอไม่รู้จักฉันหรอก ยัยไกด์กระเทยเสียงสวย’

“ทุกคนช่วยกันร้องตามเสียงเพลงหน่อยนะคะ เอ้า...น้องไก่...” แล้วเสียงนักร้องลูกทุ่งสาวก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องของลูกทัวร์

ชาครียาเต้นยักย้ายส่ายสะโพกโดยหันหน้าเข้าหาคู่ของตน นั่นก็คือนักรบ โชเฟอร์จำเป็นก็ไม่เบาเธอวาดลวดลายใส่ยังไง เขาก็ส่ายเข้าใส่ไม่ยั้ง เรียกว่างานนี้เต้นกันทรายตลบ ไม่มีใครยอมใครซะล่ะ

“ไก่ย่างถูกเผา เจ้าละจะโดนไม้เสียบ เสียบตูดซ้าย เสียบตูดขวา ร้อนจริงๆ ร้อนจริงๆ ร้อนจริงๆ”

ไกด์สาวและโชเฟอร์หนุ่มตีปีกเป็นน้องไก่ แล้วทำท่าถูกเสียบ เรียกเสียงหัวเราะจากลูกทัวร์ทุกคน แต่ทว่าสายตาของชาครียาและนักรบต่างก็เข่นเขี้ยวใส่กันอย่างไม่ยอมหลบ นักรบอยากจะรู้ว่ายัยไกด์กระเทยจะแน่สักแค่ไหน ส่วนชาครียาก็อยากเห็นโชเฟอร์ปากมอมทำท่ายอมแพ้ แล้วเธอจะดึงเขาเต้นให้ขาอ่อนเลยทีเดียวเชียว

เมื่อเพลงหยุด ผลก็ออกมาว่าคู่บัส 4 อย่างชาครียาและนักรบเป็นฝ่ายชนะ โดยมีลูกทัวร์ทั้งหลายนั่งเป็นกรรมการตัดสิน และผลชนะก็เป็นเพลงแดนซ์สุดฮิตที่หนีไม่พ้นลูกทุ่งเมกะแดนซ์ ในเมื่อเกมจบแต่เพลงยังไม่จบ ทั้งคู่ก็ยังไม่ยอมแพ้ยอมชนะ ฟาดฟันกันด้วยท่าเต้นแอ่นหน้าแอ่นหลัง กระดกสะโพกสะบัดซ้ายขวา แข้งขาก็ซอยถี่ยิบจนกระทั่ง

“ว้าย!!!” ร่างระหงของชาครียาสะดุดก้อนหินที่ฝังอยู่ในเม็ดทราย และแทนที่จะถลาเข้าหาร่างสูงที่เต้นอย่างเมามัน เธอกลับหงายหลังโดยไม่วายเหนี่ยวต้นแขนของนักรบเพื่อยึดเป็นหลัก แต่โชเฟอร์หนุ่มเองก็เสียหลักไปตามแรงดึงของเธอ ทำให้ร่างของเขาล้มทับร่างของเธอ

“โอ๊ะ!!” ลูกทัวร์ต่างตกใจอ้าปากมองภาพนั้นตาค้าง มันเป็นภาพที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิด

นักรบสบตาคนที่คิดว่าเป็นกระเทยเหมือนถูกสะกดให้จับจ้อง แววตาคู่สวยของแม่กระเทยเสียงใสช่างสวยเหมือนดวงตาของผู้หญิงแท้ๆ เขามัวแต่จ้องมองเธอด้วยความเผลอไผลเช่นเดียวกับชาครียา เธอก็สบตาคมและเพ่งพินิจเห็นความหล่อเหลาอย่างที่ใครๆ มักจะเรียกว่า ดาร์ก ทอล แอนด์แฮนซั่ม

“เป็นยังไงบ้าง ลุกขึ้นได้ไหม” เพื่อนไกด์เดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง ตอนนั้นเองนักรบเพิ่งรู้ว่ามือทั้งสองข้างของเขาวางอยู่บนความนุ่มหยุ่นซึ่งมีขนาดเหมาะเจาะกับมือเขาเป๊ะ ความเป็นชายชาตรีทำให้ต้องหลุบตามองสิ่งที่อยู่ในอุ้งมือก่อนจะผวาสปริงตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

ชาครียาพลันลุกขึ้นตามอย่างไม่รอช้า เธอสลัดความเขินอายที่เริ่มกระจายไปทั่วร่างแล้วยิ้มกว้างกึ่งหัวเราะให้ลูกทัวร์เห็น

“เกิดความผิดพลาดทางเทคนิคนิดหน่อยค่ะ ฮิ ฮิ แต่ตอนนี้การเต้นไก่ย่างก็เสร็จลงและคู่ของคิตตี้ก็เป็นฝ่ายชนะ เอ้า...อย่ามัวแต่ตะลึง ปรบมือให้คิตตี้กับโชเฟอร์บัส 4 หน่อยเร็ว”

สิ้นเสียงหวานของคนที่พยายามปกปิดอาการเก้อเขินได้เนียนสนิท เสียงปรบมือก็ดังขึ้น บ้างก็ได้ยินเสียงเป่าปากให้เป็นกำลังใจ ไกด์สาวแอบหวั่นใจว่าจะมีใครเห็นภาพเมื่อครู่นี้แบบชัดเจนแค่ไหน เธอกวาดตามองไปรอบไม่เห็นมีใครยิ้มแปลกๆ ไม่มีใครกำลังกระซิบกระซาบ ไม่มีใครยกมือป้องปากนินทาเธอ แสดงว่าไม่มีใครเห็นภาพลับสุดยอดเมื่อครู่นี้ อาจเป็นเพราะร่างใหญ่ของอีตาโชเฟอร์ปากมอมบังอยู่ เธอจึงรอดตัวจากการถูกครหา

ชาครียากล้ำกลืนความเขินอายด้วยใช้สปิริตเต็มร้อยทำกิจกรรมให้ลูกทัวร์ร่วมสนุกจนถึงเวลาที่กำหนด บรรดาไกด์แต่ละคันรถก็พาลูกทัวร์แยกย้ายไปพักผ่อน ก่อนจะปลีกตัวเข้าห้องพักของตนเอง

คืนนั้นนักรบต้องนอนตาค้างอยู่นาน สัมผัสนุ่มหยุ่นติดสปริงนั่นยังรู้สึกได้เต็มฝ่ามือ เขากำลังสับสนระคนสงสัยว่าการแพทย์สมัยนี้เสริมหน้าอกให้กระเทยได้เหมือนจริงขนาดนี้เชียวหรือ น่าทึ่งเสียนี่กระไร จะว่าไปเขาเองก็เคยบีบหน้าอกที่บรรจุเต็มไปด้วยซิลิโคนมาบ้าง แต่ทำไมของยัยไกด์กระเทยถึงให้ความรู้สึกที่แตกต่าง ที่สำคัญความรู้สึกนั้นก็ทำให้เขาถึงกับอึ้ง ทึ่ง และเสียวซ่านไปทั่วเรือนกายได้ดีทีเดียว

งานนี้ต้องยกนิ้วให้หมอมือมีด วิวัฒนาการทางการแพทย์สมัยนี้เขาดีจริงๆ

“ฮึ ต่อให้รู้สึกดีแค่ไหน ก็ของปลอมเท่านั้นล่ะวะ จะดีสู้ของจริงได้ยังไงโว้ย!” ชายหนุ่มบ่นพึมพำอยู่เพียงลำพังในห้องพักที่ตนเปิดเอง แล้วยกมือก่ายหน้าผากบังคับเปลือกตาให้หลับลง ซึ่งมัน...ทำได้ยากนัก

“โอ๊ย!!! ยัยไกด์กระเทย อย่าทำให้ฉันนอนไม่หลับจะได้มั้ย ฉันอยากนอน!!!” เขาตะโกนอย่างเดือดดาลเมื่อพยายามเท่าไหร่ก็ยังหลับไม่ได้ ก่อนจะนึกสมเพชเวทนาตัวเองที่ติดอกติดใจทรวงอกจอมปลอมนั่น

สุดท้ายนักรบก็ต้องใช้วิธีนอนคว่ำเอาผ้าห่มคลุมร่างให้มันมืดๆ เข้าไว้ แล้วนับแกะตัวที่ 1 ไปเรื่อยจนเสียงนับค่อยๆ เงียบลงช้าๆ ก่อนจะหยุดลง ซึ่งก็กินเวลานานนับชั่วโมงเลยทีเดียว

วันต่อมาชาครียาพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับนักรบ เธอขอบคุณคนจัดตารางที่ทำให้วันนี้ไม่ต้องออกไปแสดงเหมือนเคย แล้วปล่อยให้ไกด์คนอื่นได้ทำหน้าที่ให้ความสำราญนั้นบ้าง วันนี้ก็ถือเป็นวันสบายของเธอจะมีโอกาสได้พักหลังส่งคณะทัวร์ขึ้นห้องโดยใช้เวลาน้อยกว่าคืนแรก

เมื่อเสร็จงานประจำวัน ชาครียาก็หลบความวุ่นวายลงมาจากห้องพักแล้วเดินทอดน่องอยู่ริมชายหาด คืนนี้ท้องฟ้าเปิดให้เห็นดวงดาวสุกสกาวเต็มท้องฟ้า เพียงแค่เงยหน้าขึ้นเธอก็เห็นดาวกลาดเกลื่อนงดงามจนต้องยืนยิ้มอยู่คนเดียวลมทะเลพัดความเย็นขึ้นมาปะทะผิวกายจนต้องกอดอก

“ถ้าเป็นผู้หญิงก็คงไม่กล้ามายืนในที่เปลี่ยวๆ แบบนี้หรอก”

ชาครียาหันหลังขวับเมื่อได้ยินเสียงกระแนะกระแหน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นใคร

“อย่ามายุ่งกับฉันได้มั้ย นายปากมอม!!” เธอแหวแว้ดใส่เขาเสียงลั่น ปล่อยมือลงเท้าสะเอวฉับ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ด้วย เธอจะต่อว่าเขาให้หนำใจไม่ต้องกลัวคนเห็น

“ฉันก็ไม่อยากยุ่งกับเธอเท่าไหร่หรอกนะ แต่มันสงสัย”

“สงสัย! สงสัยอะไร” หญิงสาวถามเสียงสูง

“ก็สงสัยว่า...” นักรบสาวเท้าเข้ามาจนเกือบชิด “ว่าเธอ...เป็นตัวเมียจริงหรือเปล่า”

“ไอ้...ไอ้...ไอ้บ้า!!! นายน่ะสิเป็นตัวผู้หรือเปล่าฮะ ถึงปากมอมเหมือนสัตว์สี่ขาขนาดนี้ ผู้ชายจริงๆ เขาไม่มีนิสัยหยุมหยิมแบบนี้หรอก แต่นี่มันนิสัยตัวเมียไม่ใช่ตัวผู้” ชาครียาไม่ยอมแพ้ ต่อว่าให้เขาสะอึก ขนาดที่ว่าไม่เคยด่าใครแรงขนาดนี้มาก่อนนอกจาก ‘ไอ้โอ’ เด็กข้างบ้าน คนที่ชอบล้อเลียนเธอบ่อยๆ จะด่าจะว่ายังไง ‘ไอ้โอ’ ก็ไม่สำนึก

“หนอย...ไอ้...” นักรบเกือบจะชี้หน้าไกด์สาวด้วยความโกรธ

“ทำไม ไอ้บ้าเอ๊ย มีตาหามีแววไม่ ตาถั่วขนาดนี้ไปหาแว่นใส่ไป๊ เอาที่สั้นเยอะๆ หน่อยก็ดีนะ จะได้มองเห็น”

“ปากจัดขนาดนี้ ผู้หญิงที่ไหนเค้าเป็นกัน เธอ...นายน่ะ ยอมรับมาซะดีๆ ดีกว่าว่าเป็นตุ๊ด”

นักรบพยายามทำให้ชาครียาจนมุม เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่ยอมเชื่อง่ายๆ ว่าเธอเป็นผู้หญิง สายตาคมกริบวาวโรจน์เพราะถูกต่อว่าอย่างรุนแรงทั้งปากมอมเหมือนสัตว์สี่ขา และตาถั่วจนต้องตัดแว่นสายตา แม่ไกด์ปากจัดนี่ต้องถูกสั่งสอนซะบ้างแล้ว

“ไม่ใช่!!! ฉันไม่ใช่ตุ๊ด ฉันเป็นผู้หญิงแท้ร้อยเปอร์เซ็น”

“งั้นก็พิสูจน์สิ” ชายหนุ่มท้า

“เรื่องอะไรฉันต้องพิสูจน์ไปกับนายด้วย นายจะตาถั่วมองเห็นยังไงก็เรื่องของนาย แต่อย่ามายุ่งกับฉัน” ว่าแล้วหญิงสาวก็หมุนตัวจะเดินหนี แต่นักรบไม่ยอม เขากระชากต้นแขนของเธออย่างเร็วและแรงเสียจนเธอหมุนคว้างเสียหลักอยู่ในอ้อมกอดของเขา ซึ่งอ้าออกรับร่างระหงไว้ได้พอดิบพอดี

“ว้าย!!! อุ๊บ”

เสียงอุทานสุดท้ายเกิดจากการฉกวูบของเรียวปากกระด้างที่นาบความร้อนลงมาบนกลีบปากอิ่ม ชาครียาใจหายวาบ ร่างสาวกระตุกในนาทีแรกแต่เมื่อปากร้อนบดคลึงอยู่เหนือปากนุ่ม สัมผัสแรกของชีวิตสาวก็ทำให้เธอแข็งทื่อยืนตัวเกร็งและเม้มปากตามสัญชาตญาณ และพอปลายลิ้นที่ทั้งสากและร้อนวาดเลียไปตามรอยแยกของกลีบปาก ที่สวยดั่งกลีบกุหลาบสีสด จนเจ้าของเผลอตัวแย้มออกเปิดทางให้ลิ้นหนาไม่รอช้าที่จะแทรกตัวเข้าไปดื่มด่ำความหวานในอุ้งปากอิ่มเต็ม

ชาครียาจวนเจียนจะเคลิบเคลิ้มไปกับจูบนั้นอยู่แล้ว ถ้ามือใหญ่ไม่ตะปบลงมาบนทรวงอกซึ่งมันไวต่อความรู้สึกมาก ยิ่งพอปลายนิ้วแตะลงบนยอดอกเจ้าของร่างสวยก็เหมือนจะกระตุกวูบ สติเริ่มกลับมาเต็มที่ก็ตอนที่มือซนๆ นั้นเริ่มขยับบีบคลึง

“อื้ม...” เธอใช้แรงทั้งหมดที่ยังเหลือผลักอกกว้าง แล้วฟาดฝ่ามือใส่ซีกหน้าหล่อๆ นั่นให้หายแค้น “เพียะ!!”

นักรบหน้าหันไปตามแรงตบ ฤทธิ์ของฝ่ามือเธอมีน้ำหนักไม่เบาเลยเล่นเอาเขาหน้าชาไปทั้งแถบ ชายหนุ่มละมือจากต้นแขนแล้วยกขึ้นลูบแก้มที่คงเป็นรอยฝ่ามือแดงอย่างไม่ต้องสงสัย เขามองเธอยืนตัวสั่นใช้สายตาด่าทอเขาอย่างที่พอจะทราบดี แต่ทำไมเขาถึงไม่โกรธก็ไม่รู้กลับรู้สึกสนุกที่เห็นเธอเจ็บแค้น

“ไอ้ชั่วเอ๊ย ไปตายเสียเถอะไป๊!!!”

ชาครียากำหมัดแน่น ก้าวถอยหลังไปทีละก้าว เธอยังมองชายหนุ่มไม่วางตา มองด้วยความเจ็บแค้นที่คล้ายจะอาฆาต ก็ใช่สิ เขาขโมยจูบแรกไปจากเธอยังไม่พอ ซ้ำร้ายยังบีบเคล้นหน้าอกเธออย่างกักขฬะ แบบนี้จะไม่ให้เธออาฆาตแค้นได้ยังไง ถ้าฆ่าได้เธอจะไม่ลังเลเลยให้ตายสิ

“จะมากไปแล้วนะ ยัยกระเทย!”

“แล้วที่นายทำมันเป็นสุภาพบุรุษมากนักเรอะ ไอ้หมาปากมอม ไอ้ผู้ชายกักขฬะ ไอ้คนเฮงซวย”

“นี่...หยุดได้แล้วยัยบ้า คิดว่าฉันพิศวาสกระเทยอย่างเธองั้นเรอะ ก็แค่ฉันลืมตัวไปนิด มันมือไปหน่อย แต่ยอมรับอยู่อย่างนะว่าหมอนี่เก่งชะมัด” นักรบฉีกยิ้มแล้วยักคิ้วหลิ่วตายั่วอารมณ์เธอสุดขีดอย่างสนุกสนาน น่าแปลกที่เขานึกอยากยั่วโมโหเธอ ทั้งที่คิดว่าเธอเป็นกระเทยและเขาก็ไม่ชอบมนุษย์ข้ามเพศนี่เลยสักนิด แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่นึกอยากอยู่ห่างคนตรงหน้า

“นาย!” ชาครียาหันซ้ายหันขวา แล้วก็เห็นกิ่งไม้อยู่บนหาดทรายจึงหยิบขึ้นมา “ขอฟาดปากนายสักหน่อยเถอะ ไอ้ปากมอม”

ร่างระหงปรี่เข้าไปหมายจะใช้กิ่งไม้ในมือฟาดลงบนปากนักรบ แต่เขาก็ไวทายาดหลบฉากแล้วคว้าข้อมือเล็กบิดจนเธอต้องปล่อยไม้

“คิดจะทำร้ายฉันเหรอยัยบ้า ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก”

“ปล่อยนะไอ้หมาบ้า ไอ้คนโรคจิต ปล่อยฉัน”

“ปล่อยให้เธอแพ่นกะบาลฉันรึไง แน่จริงก็ดิ้นให้หลุดสิ” ว่าแล้วก็ตวัดแขนรวบเอวคอดกระชับ

ชาครียาหน้าเสียพยายามดิ้นรนให้หลุดจากวงแขน แต่ยิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งรัดแน่นแล้วยังบิดแขนเธอเสียจนเจ็บไปหมด แต่กระนั้นหญิงสาวก็ไม่ยอมปริปากร้องบอก เจ็บกายไม่เท่าไหร่ เจ็บใจนี่สิมันมากเกินกำลังจะทน

“ปล่อยฉันนะไอ้โรคจิต”

“ไม่”

“ช่วยด้วยค่ะ ช่วย...” เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังขึ้นเพียงแป๊บเดียว อุ้งปากร้อนก็นาบลงมาบนปากที่กำลังตะโกนขอความช่วยเหลือ กลืนกินเสียงร้องของเธอจนหมดสิ้นกลายเป็นเสียงอื้ออึงอยู่ในลำคอระหงเท่านั้น

นักรบจูบเธออีกครั้งและครั้งนี้มันไม่ได้จาบจ้วงรุนแรงอย่างครั้งแรก แต่มันอ่อนหวานที่แฝงความซาบซ่านบาดจิต บั่นทอนเรี่ยวแรงของหญิงสาวได้อย่างชะงัด จนร่างระหงอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟอยู่ในอ้อมแขน จูบหวานที่กำซาบไปถึงดวงจิตเรียกร้องให้เธอต้องจูบตอบอย่างไม่ตั้งใจ เล่นเอาชายหนุ่มต้องครางออกมาอย่างอดไม่ไหว

“อืม...” มือใหญ่ที่รวบรัดร่างนุ่มละมุนเลื่อนลงไปขยำสะโพกอวบ ถึงจะไม่นุ่มหยุ่นเหมือนผู้หญิงที่ผ่านมือชายมาแล้วอย่างที่เคยเจอ แต่ก็หนั่นแน่นกลมกลึงสู้มือดีแท้ สะโพกแบบนี้ไม่น่าจะใช่สะโพกเพรียวๆ ของผู้ชาย หรือถ้าเป็นผู้ชายมีก้นงอนๆ ก็น่าจะแข็งกว่านี้

ชาครียาจิกเล็บลงบนท่อนแขนเพื่อบรรเทาอารมณ์ที่ตีตื้นขึ้นมาทีละนิด อารมณ์ที่เธอไม่รู้จักและมันกำลังหวามไหวอยู่ในทรวงอก แล้วก่อนที่เธอจะทิ้งตัวพิงร่างสูงเต็มกำลัง นักรบก็ผละเรียวปากออกห่างมันทำให้เธอแทบจะผวาถอยห่างจากเขาเช่นกัน

ใบหน้านวลเนียนแดงระเรื่อสะท้อนกับแสงจันทร์ให้คนมองเห็น นับรบไม่อาจถอนสายตาไปจากเธอ หนำซ้ำยังกวาดตามองเรือนร่างของคนที่เขาคิดว่าเป็นสาวประเภทสอง มองให้เต็มตาเพื่อทบทวนความรู้สึก บางสิ่งบางอย่างบอกเขาว่ากำลังเข้าใจเธอผิดถนัด ชาครียาหรือคิตตี้หรือคิต เธอไม่ใช่ผู้ชาย แต่เธอเป็น...ผู้หญิง

“นี่...” ชายหนุ่มอยากจะถาม แต่หญิงสาวกลับไม่อยากตอบเลยสักนิด

“ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว จำไว้อย่างเดียวก็พอ ไม่ว่าฉันจะเป็นอะไรในสายตาคนอย่างนาย นายก็ไม่มีสิทธิ์จะทำอย่างนี้กับฉัน ถ้าไม่เชื่อ ระวังหลังนายไว้ให้ดี ฉันจะหาทางฆ่านายให้ตายคามือเลยคอยดูสิ”

“โอ๊ะ น่ากลัวจริง” นักรบตอบโต้ ดวงตาของเขาปรือลงจากแรงอารมณ์ภายในใจ จับจ้องกลีบปากที่อ้าเผยอเป็นประโยคเดือดดาล

“ไอ้ปากมอม นายสมควรจะกลัวฉันให้มาก เพราะฉันไม่เอานายไว้แน่”

“ไม่เอาจริงๆ น่ะเหรอ ฉันออกจะหล่อขนาดนี้ เธอไม่รู้รึไง กระเทยน่ะเล็งผู้ชายอย่างฉันทั้งนั้น เห็นไม่ได้แทบกระโจนเข้าใส่ยิ่งกว่าเสือโหยอีกนา อย่างเธอก็ไม่น่าหลงหมู่นี่”

“ไอ้...ไอ้หมาโรคจิต” ชาครียากำลังจะเหลืออดเต็มทีแล้ว เธออยากจะตั๊นหน้าไอ้หมอนี่ให้หงายเก๋งและเหยียบให้จมธรณี ถ้าทำได้เธอจะฝังเขาเอาไว้ที่นี่

“อื้ม...นี่เธอคงติดใจจูบของฉันสินะ อ้อ...น่าจะติดใจมือฉันด้วยล่ะสิท่า ถึงมองฉันอย่างนั้น ตานี้หวานเยิ้มเชียว”

“หวานกะผีนายน่ะสิ ปล่อยฉันแล้วไปให้พ้นหน้าฉันซะทีจะได้มั้ย!”

แทนที่นักรบจะปล่อย มือเขายังดันสะโพกมนให้เบียดชิดร่างแกร่งมากขึ้น ชาครียาดิ้นรนอีกครั้งคราวนี้ทั้งเตะแข้ง ทั้งกัดบ่า ชายหนุ่มเจ็บแต่ไม่ปล่อย ยิ่งเธอดิ้นเขาก็ยิ่งรัดแน่นเหมือนงูเหลือม จนอกอวบบดอยู่กับอกกว้าง

“เป็นหมาบ้าไปแล้วหรือไงยัยกระเทยโรคจิต” นักรบเค้นเสียงออกมาอย่างเจ็บปวดหัวไหล่ที่ถูกเธองับอย่างบ้าคลั่ง “ฤทธิ์เยอะขนาดนี้ สงสัยฉันต้องพิสูจน์ให้แน่ใจว่าเธอเป็นอะไรกันแน่”

หญิงสาวยกเท้าสูงแล้วกระทืบลงบนหลังเท้าของชายหนุ่ม ดีที่ยืนอยู่บนพื้นทรายพอถูกกระทืบเท้าก็จมลงไม่เจ็บเท่าที่ควร นักรบก็เลยใช้ขาอีกข้างเกี่ยวขาเรียวสะบัดข้อเท้าทีเดียวทั้งเขาและเธอก็ลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้นทราย

“ว้าย!!” หญิงสาวร้องลั่นอย่างตกใจคิดว่าจะเจ็บตัว ดีหน่อยที่เขาเอาท่อนแขนรับร่างเธอไว้ แต่ร่างใหญ่อยู่เหนือร่างเล็กจนรู้สึกได้ถึงทุกอณูแห่งความเป็นบุรุษเพศ หัวใจของเธอเต้นแรงเป็นกลองรัว ลมหายใจสะดุดกว่าทุกครั้ง

“อยากกัดฉันนักไม่ใช่เหรอ ถ้าเธอกัดฉัน ฉันก็จะกัดเธอบ้าง”

ชาครียาไม่ยอมแพ้ เธอไล่งับบ่าเขาแต่ถูกสกัดด้วยมือใหญ่กดต้นคอเอาไว้ แค่นี้เธอก็ผงกหัวไล่กัดเขาไม่ได้แล้วกลายเป็นผู้ถูกกระทำให้บ้าง เมื่อนักรบซุกหน้าลงกลางอกกัดสาปเสื้อแล้วกระชากด้วยไรฟันจนกระดุมหลุดออกจากรังไป 2 เม็ด เห็นทรวงสาวอะร้าอร่ามยั่วตายั่วใจอยู่ตรงหน้าจนต้องกลืนน้ำลายที่พลันเหนียวขึ้นมาดื้อๆ ทรวงสาวขาวผ่องเบียดอยู่หลังเสื้อชั้นในสีเข้มตัดกับสีผิวขาวผุดผาด ซ้ำยังส่งกลิ่นหอมยั่วยวนใจชายให้ลุ่มหลง

“ซิลิโคลนเดี๋ยวนี้มันนุ่มมือดีจริง”

“อย่านะ!” หญิงสาวครางเสียงหลง เมื่อใบหน้าสากเกลือกกลิ้งอยู่บนนวลเนื้อสร้างความปั่นป่วนไปทั่วร่าง “อา...”

“นุ่มดีจริง เหมือนมากเลยนะเนี่ย”

ใจของนักรบเริ่มสับสนว่าสิ่งที่เขากำลังซุกไซ้อยู่นั้นมันใช่ของจริงหรือของปลอม ของปลอมอะไรจะเหมือนจริงเช่นนี้ แล้วของจริงจะมาอยู่ในร่างกระเทยได้ยังไง อยากแตะต้องไปทั่วร่างนี้ด้วยปากและลิ้นเสียจริง คิดได้ดังนั้นมือหนาก็ผละจากลำคอแล้วเคลื่อนต่ำลงมาแถวหน้าท้อง นวดคลึงพร้อมแลบลิ้นเลียทรวงสล้างอยู่สักพักก็ได้ยินเสียงวูดของเรือหาปลาที่ลอยมาตามลม

หญิงสาวได้สติออกแรงเต็มที่ผลักนักรบจนผงะหงาย เธอมองเขาด้วยสายตาตัดพ้อที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา มือบางกลัดกระดุมเสื้อมือไม้สั่นแล้ววิ่งหนีขึ้นห้องพักอย่างไม่คิดชีวิต ไม่สนใจว่าเขาจะตามมาหรือไม่

เกลียดนัก คนเลว คนฉวยโอกาส คอยดูเถอะอย่าเผลอก็แล้วกัน

นักรบทิ้งตัวลงนอนราบไปบนพื้นทราย กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเธอยังติดอยู่ที่ปลายจมูก เขายังไม่รู้เลยว่าตกลงแล้วเธอเป็นหญิงแท้หรือหญิงเทียม กะจะพิสูจน์ด้วยมือจนละเอียดถี่ถ้วนก็ถูกขัดจังหวะเสียนี่

“ไอ้รบเอ๊ย...มึงอย่าบอกนะว่าติดใจกระเทยเข้าให้แล้ว”