บทที่ 2
อกหักเรื่องเล็ก
“โธ่! เรื่องอกหัก มันก็เป็นเรื่องขี้ปะติ๋ว ขี้คร้าน ถ้าลูกออกไปทำงานแล้วเจอผู้หญิงอื่น ๆ อีกมากมาย ลูกก็จะลืมหนูหลันฮวาได้”
“แต่ไม่มีใครเหมือนเธอ” เขามีสีหน้าแสนเศร้า
“เอาแบบนี้ไหม จินไปอยู่ที่เมืองไทย ไปพักผ่อน อยู่กับพี่บาส ไปดูแลพี่บาสแทนแม่ มีข่าวส่งมาไม่ค่อยดี แม่เป็นห่วงพี่บาสด้วย” น้ำเสียงของแม่เริ่มเปลี่ยนไป
“พี่บาสเป็นอะไรหรือครับแม่”
เขาเลิกสนใจเรื่องของตัวเอง หันไปสนใจพี่ชายต่างบิดาที่แม่เอ่ยถึง
“พี่รังสีส่งข่าวมาหาแม่ บอกกับแม่ว่า พี่บาสกำลังปิดบังอาการป่วยของตัวเอง”
“ป่วย” สิ่งที่เขาได้รับรู้ทำให้จินเหอตกใจไม่ใช่น้อย
“ใช่ ปรกติแม่ก็ไม่ได้คุยกับพี่บาสมากหรอกนะ แต่จะคุยกับพี่รังสีมากกว่า ระหว่างแม่กับพี่บาส มันก็เหมือนมีกำแพงอะไรกั้นอยู่ ตอนที่แม่จากพี่บาสมา พี่เขายังเล็ก เขายังไม่เข้าใจหรอกว่า ที่แม่ต้องเลิกกับพ่อของพี่บาสเพราะอะไร พอพี่บาสโต แม่ก็มีความรู้สึกว่า แม่ไม่ต้องอธิบายให้พี่บาสเข้าใจเหตุผลของแม่ก็ได้ แต่ก็นั่นแหละ มันกลายเป็นความห่างเหินไปโดยปริยาย” ท่าทางของท่านดูหนักใจ
“แม่ครับ ถ้าแม่เป็นห่วงพี่บาสจริง ๆ แม่ทำไมไม่คาดคั้นเอาความจริงกับพี่บาส ว่าเขาป่วยเป็นอะไร”
“บาสนะเหรอจะบอกแม่ ไม่มีทางหรอก” นางเหนื่อยอ่อนใจ
“แล้วป้ารังสี แกไม่รู้จริง ๆ หรือว่าป้ารังสีรู้ แต่ว่าป้าปิดบัง”
“ป้ารังสีก็คงไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ แต่จิน แม่น่ะเป็นห่วงพี่บาสเขาจริง ๆ นะ แม่อยากให้จินไปดูพี่บาสแทนแม่หน่อย อย่างน้อย ๆ ก็ให้แม่สบายใจขึ้น ใครกันที่จะไม่รักลูกของตัวเอง เพียงแต่แม่ไม่ได้มีโอกาสได้ดูแลพี่บาสก็เท่านั้นเอง” นางหายใจยาว ๆ
จินเหอมองหน้าแม่อย่างเห็นอกเห็นใจ เขามักเป็นคนที่ต้องนั่งฟังเรื่องราวความอึดอัดในหัวใจของแม่เสมอ
“ถ้าจินยังไม่อยากทำงาน จินอยากพัก แม่จะคุยกับเตี่ยให้ แล้วจินไปอยู่ที่เมืองไทยกับพี่บาสนะลูก”
“ถ้าเตี่ยอนุญาต และอีกอย่าง แม่ผมจะติดต่อกับป้ารังสีได้ยังไง”
จู่ ๆ เขาก็ขอเบอร์โทร. ของป้ารังสีขึ้นมา
“นี่” ผู้เป็นแม่ยื่นมือถือของตัวเองให้ จินเหอจัดการแอดไลน์ของป้ารังสีลงไปในมือถือของตัวเอง
คุณนายยกมือขึ้นมาลูบหัวของลูกชาย พลางเอ่ย
“กินก่อนไป ดูสิโทรมลงไปมาก จินถ้าผู้หญิงไม่รักลูก ขอให้ลูกรู้เอาไว้ว่าแม่รักลูกสุดหัวใจ” คุณเหมยหลินหอมแก้มลูกชายของตัวเอง พลางหันไปเลื่อนอาหารมาตรงหน้าของเขา
“ถ้าเรารักตัวเราเองเป็น เราก็รักคนอื่นได้”
“ครับแม่ แม่หยุดพูดเรื่องของผมเสียที ผมคิดว่าผมทำใจได้แล้ว” พูดไปพร้อมกับกินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย
“เอาอะไรอีกไหมล่ะ แม่จะให้ป้าลู่ทำให้”
“ผมอยากกินหมี่ผัด”
“ได้สิ ใส่ไก่ไหม”
“ใส่ไก่ครับ ใส่ไข่ด้วยครับ”
มารดาได้ยินคำตอบถึงกับยิ้มกว้างอย่างดีใจ ลูกชายคนเก่าของนางกลับมาแล้ว คุณเหมยหลินรีบลุกขึ้น แล้วเดินไปเข้าครัว
จินเหอที่กำลังนั่งรอ ยกมือถือขึ้นมาแล้วส่งข้อความหาป้ารังสีในทันที
(ผมชื่อปานนที เป็นน้องชายของพี่บาส เป็นลูกชายของแม่เหมยหลิน) เขาแนะนำตัวสั้น ๆ
เพียงไม่นาน
(ป้าดีใจจังค่ะ ทำไมคุณปานนทีเขียนภาษาไทย อ่านภาษาไทยได้)
(ผมไม่ได้เขียนและอ่านได้คล่องแคล่วอย่างเดียวนะครับ ผมยังพูดไทยได้ชัดเจนมาก ๆ ด้วย)
(อยากได้ยินเสียงของคุณปานนทีจังเลยค่ะ)
(ป้าเรียกผมว่า จิน ก็ได้ครับ)
(ค่ะคุณจิน)
ในตอนนั้น คุณเหมยหลินเดินกลับเข้ามาพร้อมจานผลไม้
จินเหอรีบส่งข้อความไปให้ป้ารังสี
(แค่นี้ก่อนนะครับ อีกสักสองชั่วโมงผมจะโทร. หาป้า)
(ค่ะ)
“ผลไม้รวม ส่วนหมี่ผัดรอสักประเดี๋ยวนะลูกนะ”
“ครับแม่”
ที่ห้องนอนของจินเหอ
เสียงมือถือของป้ารังสีดังขึ้น นางรีบกดรับ จินเหอโทร.หาทางไลน์เป็นแบบวิดีโอคอล
“สวัสดีครับป้า”
(“สวัสดีค่ะ”) หน้าตาสดใสและยิ้มแย้ม
(“หน้าตาดีเหมือนกับคุณบาสเลยนะคะ”)
“ป้าอยู่กับพี่บาสมานานแล้วหรือครับ” ที่ถามเพราะเขาไม่เคยรู้จักหรือว่าเห็นป้ารังสีมาก่อน
(“ค่ะ ป้าก็เลี้ยงคุณบาสมาตั้งแต่แบเบาะนั่นแหละ เลี้ยงคู่กับลูกชายของป้าน่ะค่ะ”)
“ป้าคงจะรักพี่บาสมาก”
(“รักสิคะ ป้ารักคุณบาสเหมือนลูกแท้ ๆ ของป้าคนหนึ่ง”)
พอนางได้เอ่ยถึงบารมี สีหน้าที่ยิ้มแย้มก็สลดลงไป ดวงตาของป้ารังสีมีน้ำตาคลอขึ้นมา
“มีเรื่องอะไรกันแน่ครับป้า” จินเหอเข้าเรื่อง เขาไม่อยากเสียเวลา มีอะไรบางอย่างทำให้เขานึกเป็นห่วงพี่ชายตั้งแต่แม่ของเขาเอ่ยถึง อาจจะเป็นความผูกพันทางสายเลือด แม้จะไม่เคยได้อยู่ด้วยกัน จินเหอได้เจอกับบารมีเพียงสองครั้งเท่านั้น ตอนอายุสิบห้าปี กับสามปีที่ผ่านมา
(“ป้ารู้ว่า คุณบาสไม่สบาย และไปที่โรงพยาบาลบ่อย แต่ถามแล้วก็เอาแต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นอะไรค่ะ”) ในน้ำเสียงยังคงฟังดูเป็นกังวล
(“แล้วอีกอย่างวันนี้ ยายบัวจันทร์พาหลานสาวมาหาคุณ บาสถึงที่นี่ แล้ว... อ่า... ป้าแอบฟังค่ะ”) สารภาพออกไปตามความเป็นจริง
“สองป้าหลานนั้นมาทำอะไรกันครับ”
(“มาเป็นแม่พันธุ์ค่ะ”)
“อะไรนะครับ แม่พันธุ์หมายถึงอะไร”
(“คะ คือ...”) ป้ารังสีอึกอัก ยังคิดว่าจะพูดดีไหม
“ป้าเล่ามาเถอะครับ”
(“ที่ป้าจับใจความได้ คุณบาสจะให้หลานยายบัวจันทร์ท้องลูกของคุณบาสค่ะ โดยที่ไม่ต้องมีอะไรกัน เหมือนกับจ้างมาเป็นแม่อุ้มบุญ โดยแลกกับหนี้สินที่ยายบัวจันทร์ที่หยิบยืมไปจากคุณบาสทั้งหมด”)
“เรื่องบ้าอะไรกัน”
(“ก็นั่นนะสิคะ ป้าห่วงอยู่เรื่องเดียว ทำไมสาวสวยอย่างน้องหยิกจะต้องเอาตัวเข้าแลก มาเป็นแม่คน ทั้งที่ยังมีโอกาสมีความรักและหาสามีดี ๆ ได้ ถ้าคุณได้เห็นเธอจะต้องตกใจแน่ล่ะค่ะ เพราะน้องหยิกเธอสวยมาก”)
“เพราะเงินและสมบัติมากมายของพี่บาสล่ะมั้งครับ” จินเหอรู้สึกหัวเสียขึ้นมาดื้อ ๆ เขามีประสบการณ์ที่ไม่ดีมาหมาด ๆ คนรักมาตัดสินใจหนีเขาไปวิวาห์กับคนอื่น
