บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 บทนำ 2

ชายหนุ่มหัวเราะหึกับตนเอง นี่เขาจะต้องจนตรอกจนต้องให้พลังงานไม่มีตัวตนช่วยเชียวหรือ เขาที่ผ่านการศึกษาในประเทศที่ยึดหลักวิทยาศาสตร์เป็นหัวหอกในการพัฒนาชาติ กลับมาหวังพึ่งสิ่งที่มองไม่เห็น จะน่าขำเกินไปละชีวิตนี้

ระหว่างจมอยู่ในภวังค์เรื่องเก่า ฝนห่าใหญ่ก็เทลงมา ทำเขาเปียกปอนดังจะเยาะเย้ยและลงโทษ

...หนาวกาย ไม่เท่าหนาวใจ ขอดูหลังคาบ้าน มองหน้าต่างห้องเธอหน่อยเถิด อยากประทับไว้ในความทรงจำ ก่อนจะกลับไปเดียวดายในเรือนพักคนงานท้ายสวน ไม่มีใครรังเกียจเขา แต่ก็ไม่มีคนเข้าข้าง เชียร์ส่งให้เขาได้เป็นคู่เคียงเรียงหมอนกับลูกสาวเจ้านาย ทุกคนแอบเฝ้ามองเขา รอเห็นวันที่จะเดินคอตกออกจากไร่ แต่ขาก็ไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่าย ๆ

การได้หัวใจเธอกลับมาเป็นหนึ่งในเรื่องที่เขาต้องใช้ความอดทนอันมากล้นในชีวิต ขอแค่ได้พิสูจน์ตัวเอง ว่าเขารักเธอขนาดไหน แม้ไม่หวังว่าจะลบล้างความเลวที่ตนทำไป แต่อย่างน้อยก็ขอโอกาสให้เปิดใจกับเขา ถึงตอนนั้นเขาจะไม่ทำพลาด ...ให้เธอเสียใจอีกแล้ว

เธอแง้มผ้าม่านแอบดูคนเปียกปอนที่ยังยืนนิ่ง กล้าเหลือเกิน ไม่กลัวฟ้าผ่าหรืออย่างไรนะ ถ้าตายขึ้นมาละก็ จะไม่เก็บศพ จะฝังให้เป็นปุ๋ยคอกที่ท้ายไร่เสียเลย

ผู้ชายอะไร ดื้อด้านไม่ต่างกับวัวกับควาย ทำผิดแล้วยังมาตาใสขอโอกาส อยากหนีให้ไกลเหมือนกัน แต่ติดห่วงพ่อกับแม่ ทั้งสองดูแก่ไปถนัดใจหลังเกิดเรื่องวุ่น ๆ ขึ้น ชีวิตเหมือนจะราบเรียบ...แต่ไม่สนิท เพราะตัวป่วนที่ยืนตากฝนอยู่นั่นประไร

ดีเหมือนกัน ตากฝนแล้วจะได้ป่วย พ่อแม่เขาจะได้มารับลูกชายกลับไปเสียที คนนิสัยไม่ดี เจ้าคิด เจ้าแค้น จอมวางแผน โกหกหน้าตาย และเป็นที่รวมความเลวร้ายต่าง ๆ ในสากลโลก ให้ตายเธอก็ไม่ยอมรับเขากลับเข้ามาในชีวิต ให้มาเป็นคนครอบครองหัวใจอีกแล้ว

ยอมอยู่เป็นโสด ขึ้นคาน ทึนทึก หรืออะไรก็แล้วแต่ที่คนจะสรรหามาเรียกสาวผู้ครองตัวเป็นโสดจนแก่ เพราะให้หัวใจ ให้ความรักแล้วเป็นเช่นนี้อย่างไรเล่า เวลาเจ็บมันเกินบรรยาย

มากกว่าเจ็บแผล มากกว่าเจ็บกาย คือปวดในหัวใจ คนเราควักมันออกมาทายา มาซ่อมแซมไม่ได้เสียด้วย มันจึงเป็นอวัยวะอันแสนบอบบางที่คนควรต้องทนุถนอม แต่ก็เห็นหาเรื่องกระโดดใส่ความรักบ้าง เอาไปไว้ในมือคนใจโลเลบ้าง จนเขาทำช้ำจนหนำใจแล้วจึงส่งคืน อย่างที่เธอเป็นอยู่นี่อย่างไรเล่า

ยืนตัวแห้งอยู่ในบ้านดี ๆ ใจเจ้ากรรมกลับลอยนอกชายคาไปหาเขา พลอยเปียกปอนไปด้วย

ไม่เอาล่ะ...เธอส่ายศีรษะ ปล่อยมือจากม่าน ลงไปนอนตุบบนเตียง หลับตา เอาหมอนปิดหู เรียกใจที่ลอยกลับมา

อย่าไปสน

อย่าใจอ่อนกับเขาเชียว

อย่าต้องไปอยู่ในจุดที่เสียน้ำตาอีก

เสียงในสมองเธอพร่ำบอกว่า...อย่า...อย่า ทว่าใจอันแสนอ่อนไหวกลับยังเปียกปอนฝน อยู่กับคนนอกชายคาอยู่ดี

“น้องเทียน กลับกับพี่ไหม”

หนุ่มอวบอ้วนผิวขาวเป็นไข่ปอกตาเล็กหยีแทบจะเป็นเส้นดำพาดผ่านบนหน้าถามสาวน้อยหน้าแฉล้มมัดผมหางม้าสูงในชุดนักเรียนม.ปลาย

“มอเตอร์ไซด์น้องเดี๋ยวพี่ให้ม่อนกับไม้ขับกลับไปให้” เขาพยักหน้าไปทางแฝดคนสนิทที่พยักหน้าหงึก ๆ

“ให้น้องสาวน้องเทียนนั่งรถกลับไปด้วยก็ได้”

สาวน้อยผมสั้นติ่งหูในชุดนักเรียนม.ต้นมองหน้าพี่สาวสลับกับคนชวน

“ไม่เอาหรอกค่ะพี่พอล เทียนเกรงใจ อีกอย่างคนเขาจะมองไม่ดี”

เทียนกัลยาภัคส่งยิ้มที่บรรจงที่สุดให้เขา ...แบบไม่ตัดรอนให้เสียน้ำใจ ขณะเดียวกันก็ไว้เชิงแสดงให้เขารู้ว่าจะไม่ได้กินเธอง่าย ๆ เสียหรอก

“ใครจะมองไม่ดี พี่แค่ไปส่งน้องเทียนเพราะเป็นห่วง เย็น ๆ อย่างนี้ ขับมอเตอร์ไซด์ไปสองคนอันตราย น้องเทียนตัวนิ๊ดเดียว เกิดมีผู้ร้ายดักระหว่างทางล่ะ พี่เป็นห่วง”

กิริฎาอดไม่ได้ที่จะปล่อยขำกิ๊กออกมา เพราะพอเจตน์ยกนิ้วขึ้นจีบ ตายิ่งเล็กหยีเข้าไปใหญ่ ทำให้เธอนึกถึงรูปแป๊ะยิ้มแบบที่คนจีนชอบ

“ไม่เป็นไรค่ะพี่พอล เทียนโทรบอกแล้ว เดี๋ยวพ่อจะมารอรับหน้าไร่ ถ้ากลับช้าเดี๋ยวพ่อจะมาตามเอง” พี่สาวเอานายบุญเพียรผู้เป็นพ่อมาอ้าง

“แต่วันนี้พ่อบุญเพียรกับแม่เกษรจะไปงานเลี้ยงต้อนรับนายอำเภอใหม่นี่ ที่เสี่ยกับเจ๊สั่งร้านจัดกระเช้าดอกไม้ใหญ่ไม่ใช่เหรอ กระเช้าละตั้งเป็นพัน” ม่อนหนุ่มหุ่นไซซ์เดียวกับเจ้านายย้อนความ

“นั่นแหละ ฉันถึงต้องรีบกลับไปบ้าน ลาละนะคะพี่พอล”

ในเมื่อรู้ทันกันขนาดนี้เทียนกัลยาภัคจึงรีบตัดบท ชิ่งขึ้นมอเตอไซด์คันกลางเก่ากลางใหม่ สตาร์ทรถ กิริฎาก็รู้งานกระโดดขึ้นคร่อมมอเตอไซด์เกาะเอวพี่สาวแน่น

“น้องเทียน...”

พอเจตน์เอื้อมมือคว้าพอดีกับที่รถสองพี่น้องแล่นออกจากลานจอดรถ

“แห้ว”

ม่อนตัวอ้วน ไม้ตัวผอมครางพร้อมกัน

“เหมือนทุกวัน”

“พวกมึงอ่ะพูดดีไป ทำไมไม่คิดช่วยหาวิธีให้น้องเทียนยอมกลับบ้านกับกูบ้าง เจาะยางงี้ เอามอเตอไซด์ไปซ่อนก็ได้”

ลูกพี่หันมาโวยใส่ลูกไล่ตั้งแต่เด็กทั้งสอง

“หาเรื่องให้ไปฝ่ายปกครองแล้วไหมล่ะคุณพอล พวกผมยังอยากเรียนจบพร้อมกันนะคร๊าบ”

ม่อนผู้ช่างเจรจายกมือขึ้นประนมเหนือหัว โดยมีไม้ผู้พูดน้อยพยักหน้าเห็นด้วย

“ไม่ได้เรื่อง”

หนุ่มตี๋แต่ชื่อเล่นฝรั่งพึมพำแบบเซ็ง ๆ

“แต่วันนี้ขนมญี่ปุ่นที่สั่งจากร้านในกรุงเทพฯจะมาส่งใช่เหรอ”

ม่อนเปลี่ยนเรื่อง รู้ว่าเจ้านายโปรดปรานอะไร

“ไปกินขนมให้ใจร่ม ๆ กันดีกว่าครับ”

“พวกมึงนี่ หาแต่เรื่องให้กูอ้วน”

พอเจตน์ค่อยอารมณ์ดีขึ้นหน่อย

“หุ่นขนาดคุณพอลนี่แหละกำลังพอดี แบบอาเสี่ยมีสง่าราศี”

“กูอยากหุ่นดี ไม่อยากอ้วนเป็นหมูตอนแบบนี้”

ตอนเด็ก ๆ เขาผอมมาก ไม่ชอบกินอาหาร มารดาพาไปหาหมอทั้งแผนไทย แผนจีน แผนปัจจุบัน จนสุดท้ายไปจบที่ลงที่แผนกจิตเวชเด็กและวัยรุ่น หลังจากได้รับคำปรึกษาที่ถูกทาง เขาก็กลับมากินอาหารได้ ซึ่งอาจจะมากเกินไปสักหน่อย จนหุ่นอวบระยะสุดท้ายเช่นนี้

ยามใดที่พอเจตน์กินอาหารน้อย มารดาเป็นต้องน้ำตารื้น หน้าเศร้าปากสั่น รีบให้คนโทรนัดจิตแพทย์ประจำตัวให้ทันที เขาจึงต้องรีบยัดอาหารเข้าปาก ด้วยไม่อยากคุยกับจิตแพทย์ พอเจตน์ไม่ชอบการที่ต้องมาเล่าเรื่องส่วนตัวให้ใครที่ไม่ใช่คนในครอบครัวฟัง แม้เขาจะแอบไปสมัครฟิตเนสก็ไม่อาจรอดหูรอดตาเจ๊จินตนาผู้เป็นแม่ไปได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel