เด็ดหัวใจนายพิจิก

136.0K · จบแล้ว
เฌอเลียร์
98
บท
5.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ผมจะปล่อยพิษ(รัก)เข้าสู่ใจคุณ (พระเอกร้าย)

นิยายรักโรแมนติกประธานคนต่ำต้อยนอกใจแก้แค้นโรแมนติกดราม่าเจ้าเล่ห์ความสัมพันธ์ไม่ชัดเจนหักหลัง

ตอนที่ 1 บทนำ 1

เธอเกลียดสายตาคู่นั้น แม้อยู่ภายใต้หมวกฟางสีเหลืองซีด ใบหน้าถูกพันไว้ด้วยผ้าขาวม้าจนถึงจมูก คงจะเหลือเพียงความแจ่มจ้าในดวงตาเพียงเท่านั้น ที่บ่งบอกว่าเขาไม่เหมือนคนอื่น...ไม่ใช่คนงานปรกติ

“ลุงเลือกมะม่วงลูกสวย ๆ ให้เลยนะ จะได้เอาไปทำน้ำปั่นอร่อย ๆ ขายลูกค้า”

คนงานชราที่คุ้นกันมาตั้งแต่เด็ก ยกผลมะม่วงขึ้นอวดอย่างภูมิใจ

“ของดีของสวนเราเชียวนา”

หญิงสาวพยายามสนใจคนยิ้มเผยฟันหลอที่เป็นไปตามวัย

“อยากได้ผลไม้อะไรอีกไหม ลุงจะให้คนไปเก็บให้”

“อย่าเลยค่ะ แค่นี้ก็พอแล้ว เก็บไว้ให้พ่อได้ขายบ้าง”

มะม่วงสีเหลืองอร่าม ผลโต ผิวเต่งตึง แถมยังส่งกลิ่นหอมสดชื่น แค่นี้คงพอทำขนมกับสมูธตี้ขายได้หลายวัน

“พูดถึงเรื่องขาย ปีนี้มะม่วงออกล้นตลาด พ่อบุญเพียรบ่น ๆ อยู่ว่ากำไรหดลงไปเยอะ แย่เลยนะ ยิ่งเศรษฐกิจทรง ๆ ทรุด ๆ แบบนี้”

เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวจริง ๆ คุยเรื่องมะม่วงในสวนอยู่ดี ๆ กลายเป็นยาวถึงเศรษฐกิจประเทศชาติ

“ของออกมาแล้วก็ต้องขายละนะ ไม่งั้นจะโดนฝนเน่าเสียหมด นั่น !”

คนคุยด้วยชี้ไปบนท้องฟ้า เมฆเทาทะมึนลอยมาแต่ไกล

“พูดไม่ทันขาดคำก็มาเสียแล้ว”

แถมไม่มาเดี่ยว ยังพ่วงลมฝนเย็น ๆ พัดต้องผิว

“ลุงช่วยยกมะม่วงไปเก็บนะ”

มือกร้านแดดเหี่ยวย่นกำลังจะจับตะกร้า หากแต่มีเสียงทุ้มดังขึ้นก่อน

“มา...ผมช่วย”

มือภายใต้ถุงมือผ้าสีดำ จับตะกร้าอย่างว่องไว ตัวเขาสูงกว่าทั้งเธอและผู้อาวุโส

“ของแค่นี้ ฉันถือไปเองได้”

เธอเชิดหน้า ไม่สนใจความอารีที่เขามีให้ คงเชื่อใจไม่ได้หรอก ผู้ชายคนนี้นำความเจ็บช้ำมาสู่ครอบครัวเธอ

เขาไม่ตอบโต้อะไร แต่แบกตะกร้าขึ้นบนบ่า ทำเอาเธอต้องแหงนคอเกือบเป็นเส้นตรง

“เอาคืนมานะ”

แต่หญิงสาวหวั่นเสียทีไหน ยังต้านความเอื้ออารีหวังผลของเขาต่อ อีกฝ่ายไม่สน เดินจากสวนมุ่งไปยังบ้าน

“ห้ามไปบ้านฉันเลยนะ คุณไม่มีสิทธิ์ที่นั่น !”

เธอก้าวยาวตามเขา พร้อมส่งเสียงเปร่งปร่า

“ทำไมคนงานถึงไม่มีสิทธิ์ไปบ้านเจ้านาย”

คนแบกตะกร้ามะม่วงคุยกับเธอ ราวมกับไม่ได้มีของหนักอยู่ด้วย

“คุณไม่ใช่คนงานบ้านฉัน กลับบ้านคุณไป !”

คำขับไล่ไสส่งที่เธอบอกเขาเป็นครั้งที่ร้อยเสียแล้วกระมัง แต่เจ้าตัวหาได้สะทกสะท้านไม่ ยังเดินดุ่มให้เธอก้าวตาม

“บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่ให้เรียกคุณ เรียกพี่ว่า...พี่พอล เหมือนเดิมสิ”

บทจะหยุด ร่างสูงก็ยืนนิ่งกึก ทำเอาเธอที่เบรกไม่ทันหน้าคะมำ ชนแผ่นหลังกว้างเข้าเต็ม ๆ

เธอยกมือขึ้นจับจมูกตัวเอง หักไปบ้างหรือเปล่าหนอ ยิ่งพ่อแม่ให้มาน้อย ๆ อยู่ด้วย

“เดินไม่ระวังเลย ต้องให้พี่อุ้มไหม”

คนทำร้ายเธออย่างไม่ตั้งใจเอี้ยวคอมอง ยกคิ้วขึ้น เธอเดาได้ทันทีว่าเจ้าตัวกำลังสนุกอยู่แน่

“อย่ามาแตะตัวฉันนะ”

เธอถอยเท้า รักษาระยะห่างระหว่างกัน

“พี่ขอโทษ...”

เขาหันกายมาเผชิญกับเธอ ทอดเสียงทุ้มอ่อนหวาน ในดวงตายาวรีส่งประกายเว้าวอน

“ฉันยกโทษให้ กลับบ้านคุณไปได้แล้ว”

และชาตินี้อย่าได้มาเจอะเจอกันอีกเลย เข็ดแล้วผู้ชาย เข็ดแล้วความรัก เธอยอมอยู่เป็นสาวโสดดูแลพ่อแม่อยู่อย่างนี้ดีกว่า

“พี่ไม่ได้ต้องการให้ยกโทษ พี่แค่ต้องการโอกาส ให้เรากลับมารักกันอีกครั้ง”

ใบหน้าเธอระเรื่อแดง ปากเม้ม กำมือแน่น ตัวสั่นระริก ต้องเป็นผู้ชายหน้าด้านหน้าทนขนาดไหนกันหนอ ถึงกล้ามาขอโอกาสหลังจากทำครอบครัวคนอื่นเกือบพัง ...ทำเธอเสียน้ำตาไปมากมาย

“ฉันเจ็บแล้วจำ ไม่ยอมโง่ให้โดนหลอกซ้ำสองหรอก”

หากเป็นเธอคนเก่า คงใจอ่อน ใจดีกับเขา แต่เธอในตอนนี้ที่ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากมาย ประสบการณ์สอนเธอให้ตรองคิดว่าอย่าเชื่อคำรักจากเขา หรือถ้าจะให้ดี ...ก็อย่าเชื่อคำรักจากผู้ชายทั้งโลกที่มิใช่บิดา

“พี่ไม่ได้มาหลอก สาบานให้ฟ้าผ่าเลยเอ้า !”

ทันใดนั้นลมก็พัดแรงขึ้น พาก้อนเมฆอุ้มน้ำสีเทาทะมึนให้เคลื่อนปกคลุมทั่วฟ้าเหนือสวน เธอคิดว่าเขาโกหก ดูสิ ! ฟ้าฝนมาโน่นแล้ว อีกเดี๋ยวอาจจะมีฟ้าผ่า เธอไม่ยอมอยู่ร่วมพิสูจน์คำสาบานกับใครแน่

เมื่อพูดแล้วอีกฝ่ายหนึ่งไม่ฟัง ก็เหนื่อยเปล่า มีแต่จะเปลืองน้ำลาย เธอจึงเดินกึ่งวิ่งตามทางกลับไปยังบ้าน ที่เป็นเรือนสวยตั้งอยู่หน้าสวน

“เดี๋ยวก่อน รอพี่ด้วย”

คนแบกของหนักไม่ยอมแพ้ รีบก้าวเท้าตาม ด้วยช่วงขาที่ขาวกว่า จึงมาถึงบ้านในเวลาติด ๆ กัน

“เอามะม่วงวางไว้ในครัว แล้วจะไปไหนก็ไป”

เธอจำใจเปิดประตูหลังบ้านให้ ภายในเป็นครัวไทย มีโต๊ะเตรียมอาหารอยู่ตรงกลาง เขาวางตะกร้าลง มองตามหลังเธอที่เดินลับไปตามทางเดิน อยากเขาไปหา ไปปรับความเข้าใจให้มากกว่านี้ แต่ต้องจำหักห้ามใจ เพราะเขาได้สัญญากับเตี่ยไว้ ว่าขอแค่ได้มาชดใช้ความผิดที่ก่อ โดยมาเป็นคนงานในไร่ ตามง้อให้เธอใจอ่อน โดยไม่ฝืนบังคับเจ้าตัว

ที่เกิดขึ้นในใจตอนนี้มิใช่อารมณ์อยากเอาชนะ แต่รู้สึกบางอย่างในอกหล่นหาย เสี้ยวความสุขสำคัญในชีวิต

เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเจ็บลึกเป็นเช่นไร ยามเธอยิ้มให้คนอื่น แต่เมินเขา แม้แต่รอยยิ้มตามมารยาทก็ไม่มีให้ การเป็นคนไร้ตัวตนในสายตาเธอทำให้เขาเจ็บหนัก

ต้องทำอย่างไรเธอจึงจะยกโทษให้ เตี่ยตอนนี้มองเขาเป็นหมาหัวเน่า ไม่ยอมให้คำปรึกษา

“ลื้อผูกเองก็ต้องเรียนรู้วิธีแก้”

แถมยังห้ามมารดาเขาไม่ให้ช่วยเหลือใด ๆ ทั้งสิ้น แต่คนสนิทแอบเอาข่าวมากระซิบว่าท่านไปไหว้บนบานกับเจ้าแม่ที่นับถือ