ตอนที่ 2 มีหน้าที่แค่นั้น 1/2
ตอนที่ 2 มีหน้าที่แค่นั้น 1/2
อีกด้านของหลุยส์
ชายหนุ่มเดินลงจากรถมายังสนามแข่งที่เขากับเพื่อนลงทุนทำด้วยกัน หลุยส์มีเพื่อนสนิทอยู่สองคน มีเพลิงและโซ่ แต่ละคนรู้จักกันมานาน เรียกได้ว่าจำความได้ก็เห็นหน้าพวกมันแล้ว เพราะครอบครัวของเขาสนิทกันนั่นเอง
“พรุ่งนี้พวกไอ้มาตินจะมาใช้สนามนะ เห็นว่ามันไปท้าแข่งกับคู่อริมัน”
“อืม ว่างอยู่ใช่ไหม”
“กูเช็กแล้วว่างอยู่ก็เลยรับคำมันละ” โซ่พูดขึ้น
“คืนนี้พวกมึงจะเอาไง สรุปไปไหม”
“ก็ต้องไปไม่งั้นหูชา กูไม่ชอบเลยไอ้งานสังคมพวกนี้” เพราะในวันนี้พวกเขาทุกคนถูกที่บ้านบังคับให้ออกงาน ส่านงานที่ว่าก็คงไม่พ้นการกุศลที่ต้องพากันไปทั้งครอบครัว
เขาเข้าใจว่าใคร ๆ ก็ต้องการมีหน้ามีตาในสังคมอยู่แล้วรวมถึงพ่อแม่พวกเขาด้วย การที่ทำธุรกิจก็ต้องรู้จักคนให้มากขึ้น
เพราะมันเป็นเรื่องของหน้าตาและความน่าเชื่อถือ อีกอย่างไปออกงานกุศลทำบุญก็เรียกว่าได้หน้าเต็ม ๆ แถมยังได้เจอนักธุรกิจคนอื่น เวลาสนใจร่วมทำธุรกิจด้วยกันก็มักจะใช้โอกาสนี้พูดคุยทำความรู้จักกันก่อนจะไปคุยกันอีกรอบ จุดประสงค์ของการออกงานก็ประมาณนี้แหละ
“ทำเหี้ยอะไรทำไมถึงนั่งเงียบ” หลุยส์ถามอีกคนที่นั่งเขี่ยโทรศัพท์ไปมาอยู่ไม่พูดไม่จาอะไร เพลิงที่ได้ยินอย่างนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา
“คุยกับน้ำค้าง”
“หึ ติดเมียรึไงมึง” โซ่พูดพร้อมหัวเราะในลำคอออกมาเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อน
เมื่อก่อนเพลิงไม่ค่อยสนใจผู้หญิงคนไหน
ชายหนุ่มเป็นคนหวงความโสดมาก แต่ไปไงมาไงไม่รู้จู่ ๆ ก็คบหากับรุ่นน้องสาวอย่างน้ำค้าง
“แฟนไหม?”
“สาบานว่าแค่แฟน กูไม่เชื่อหรอกว่ามึงไม่เจาะไข่แดงน้องมันแล้ว”
“เสือก” สั้น ๆ แต่ได้ใจความ
“สรุปคนนี้แน่ไหม ปกติมึงไม่เห็นอยากมีแฟน ทำไมคนนี้มึงถึงสนใจเป็นพิเศษวะ” พอคุยแล้วเขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าอะไรทำให้เพื่อนเขาสนใจผู้หญิงคนนี้มากกว่าผู้หญิงคนอื่นที่วนเวียนอยู่ข้างกาย
“ก็ไม่มีอะไร รู้จักแล้วก็น่ารักดี ไม่เหมือนใคร” เมื่อก่อนเขาก็เป็นอย่างที่เพื่อนพูดนั่นแหละ
แต่พอได้รู้จักผู้หญิงคนนี้มันก็ทำให้เขาเริ่มชอบนิสัยของเธอ บางครั้งก็ดูโก๊ะ ๆ บ้า ๆ บอ ๆ ไปบ้าง แต่พอได้อยู่ด้วยแล้วก็รู้สึกชีวิตมีสีสันมากขึ้น เพราะปกติแล้วชีวิตของเขาจะจริงจังมากเกินไป เขาต้องเป๊ะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องอะไร พอเป็นแบบนี้มันจึงทำให้เขารู้สึกเหนื่อยกับที่เป็นอยู่ พอมาเจอคนตัวเล็กเขาจึงได้รู้สึกว่าการที่ทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ บางครั้งก็ดีเหมือนกัน
“แล้วมึงล่ะไอ้หลุยส์”
“กูทำไม?” หลุยส์คิ้วขมวดก่อนจะถามเพื่อนออกไป
“สรุปมึงกับน้องลูกปัดนี่คือแค่นั้นหรอวะ”
“จะให้เป็นอะไรมากกว่านั้นล่ะ”
“กูว่าน้องก็น่ารักดีนะเว้ย ทำไมมึงไม่คบหาไปเลยวะ”
“ไม่อะ มึงก็รู้ว่าผู้หญิงที่จะมาเป็นแม่ของลูกกูได้ต้องคู่ควร อีกอย่างกูก็แค่เล่น ๆ กับลูกปัดตั้งแต่แรก ไม่ได้คิดจริงจัง ทุกอย่างมีข้อตกลงของมันตั้งแต่เริ่มต้นอยู่แล้ว”
“จริงดิ เวลากูเห็นมึงกับน้องเขาอยู่ด้วยกันก็เหมือนคนรักกันเลยนะเว้ย”
“ก็แค่เหมือนแต่ไม่ใช่ แต่กูก็ชอบนะกับการที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับผู้หญิงคนนี้ ไม่ต้องกังวลว่าจะมานั่งหึงหวงเพราะเธอไม่มีสิทธิ์นั้น อยากได้ตอนไหนก็ได้ ไม่ต้องไปหาผู้หญิงให้เหนื่อย อีกอย่างสมัยนี้หาคนสดใหม่ยากจะตาย สะอาดหรือเปล่าก็ไม่รู้แต่อย่างน้อยผู้หญิงคนนี้ก็ปลอดภัยสำหรับกู”
“เชี้ย เสือก็ยังเป็นเสือวันยังค่ำ”
“เสือตรงไหน ตอนนี้กูก็แทบไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนไหนเลยนะเว้ยยุ่งแต่กับน้องมันแค่คนเดียว” เรื่องนี้ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่อยู่ในข้อตกลงเหมือนกัน เพราะคนตัวเล็กขอร้องว่าตราบใดที่เขากับเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยกัน เขาห้ามไปมีผู้หญิงคนอื่น มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเขาจึงตอบตกลงไป
“ได้ยินเรื่องมึงแล้วกูปวดหัวแต่เอาเถอะอย่าตกหลุมพรางตัวเองแล้วกัน ไม่ใช่ว่าขุดหลุมเอาไว้แล้วลุกไม่ขึ้น กูไม่ช่วยนะเรื่องนี้”
“หึ ไม่มีวันหรอก ถึงเวลาข้อตกลงกูกับผู้หญิงคนนั้นก็จบลง” หลุยส์พูดอย่างไม่ได้สนใจอะไร เขาคิดว่าความสัมพันธ์ตอนนี้เขากับคนตัวเล็กก็ถือว่าดีแล้ว แล้วมันก็ไม่มีวันมากเกินไปกว่านี้แน่นอน
