ตอนที่ 2 มีหน้าที่แค่นั้น 2/2
ตอนที่ 2 มีหน้าที่แค่นั้น 2/2
ณ งานการกุศล
หลังจากช่วงบ่ายที่แยกย้ายกันกลับ ชายหนุ่มก็กลับมาที่บ้านใหญ่ เขามาแต่งตัวที่นี่ก่อนจะออกงานกับบิดาอย่างท่านอนันต์ ในตอนนี้เขาเหลือแค่บิดาเพียงเท่านั้น เพราะแม่ของเขาเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อนด้วยโรคส่วนตัว ในตอนนั้นหลุยส์จำได้ไม่เคยลืมว่าความเจ็บปวดเป็นยังไง
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเขากับผู้เป็นพ่อก็ไม่ได้มีอะไรหรอก ก็เหมือนทั่วไป ที่ผ่านมาพ่อของเขาก็รักษาสัญญาพอสมควร ก็คือการไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้ามาในบ้าน ยกเว้นแต่มีข้างนอก
เรื่องนั้นเขาจะไม่ไปยุ่งแต่ห้ามเอามาแทนที่มารดาของเขาเด็ดขาด
ส่วนเขาก็เรียนรู้ธุรกิจของครอบครัว เริ่มทำงานในบริษัทตั้งแต่ยังเรียนอยู่ปี 1 ที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยทำให้พ่อต้องผิดหวังเลยสักครั้ง มันเหนื่อยเขายอมรับ แต่เขาก็ทำมันได้เป็นอย่างดีเพราะรู้ว่ามันเป็นหน้าที่ของเขา
“วันนี้คุณเกษมก็มาร่วมงานด้วย เรื่องที่ดินที่พ่อต้องการสร้างสาขาใหม่ อย่าลืมทำมันให้สำเร็จด้วยล่ะ”
“ครับ” เขาพยักหน้ารับรู้ ไม่ว่ายังไงเขาก็จะใช้โอกาสนี้ทำให้ท่านเกษมใจอ่อนขายที่ดินผืนนั้นให้กับเขาให้ได้
“ดีมาก พ่อรู้ว่าแกจะไม่ทำให้พ่อผิดหวัง จะรอฟังข่าวดีแล้วกันนะ”
“ครับพ่อ” หลุยส์รับคำก่อนที่เขากับบิดาจะเดินเข้าไปในงาน
งานในวันนี้นับว่าจัดใหญ่อยู่เหมือนกัน
มีนักธุรกิจหลายคนที่มาร่วมงานแถมยังมีการประมูลเครื่องเพชรเพื่อนำเงินไปบริจาคให้กับมูลนิธิอีกด้วย ทุกครั้งทางครอบครัวเขาก็จะได้มาชิ้นสองชิ้นตลอด ถ้ามารดาของเขายังอยู่คงถูกใจไม่น้อยเลย
“สวัสดีครับท่านเกษม” หลุยส์ที่เห็นเป้าหมายก็รีบเดินเข้าไปทักทายทันทีพร้อมกับผู้เป็นบิดาที่ทักทายชายวัยกลางคนตรงหน้าเหมือนกัน
“สวัสดีหลานหลุยส์โตแล้วหล่อมาก ๆ เลย หน้าตาเหมือนคุณอนันต์ทุกอย่างจริง ๆ”ท่านอนันต์ยิ้มรับ ก่อนจะมองผู้หญิงรุ่นลูกอีกคนที่ยืนอยู่ข้างกายของท่านเกษม
“นั่นคงเป็นหนูแก้วใช่ไหมครับ”
“
ใช่ แก้วขวัญลูกสาวของผมเอง นี่ผมยังเสียใจอยู่นะที่หลานหลุยส์น่าจะเกิดเร็วสักห้าหกปี ไม่งั้นคงได้เป็นลูกเขยผมแล้ว”
“คุณพ่อขาอย่าพูดแบบนี้สิคะเดี๋ยวคุณคมสันก็น้อยใจหรอก” คมสันก็คือคู่หมั้นของเธอนั่นเอง เธอไม่ชอบที่บิดาชอบพูดแบบนี้อยู่เรื่อย อีกอย่างนึงเธอก็ไม่ได้ชอบพออะไรกับผู้ชายคนตรงหน้าเลยสักนิด ถึงแม้อีกฝ่ายจะอายุมากกว่านี้อย่างที่บิดาเธอต้องการก็เถอะ
“พ่อรู้แล้ว พ่อก็พูดเล่นไปงั้นแหละ” ใช่ว่าลูกเขยคนปัจจุบันจะไม่ถูกใจแต่ถ้าเทียบแล้วยังไงผู้ชายคนตรงหน้าก็ดีกว่า
ถ้าหากได้ดองกันก็คงจะดี
หลุยส์ยิ้มให้เพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกไป ก่อนที่บิดาของเขาจะขอตัวไปทักทายนักธุรกิจคนอื่น นั่นจึงทำให้ชายหนุ่มพูดคุยกับท่านเกษมต่อ
“ผมยังพูดคำเดิมนะครับท่าน ที่ดินผืนนั้นถ้าท่านมีข้อเสนออะไรเพิ่มเติมบอกผมได้เลย ผมพร้อมที่จะตกลงกับท่านครับ”
“ฮาฮ่า อาชอบนะหัวธุรกิจของหลานน่ะ แต่ข้อเสนอของอามันก็มากอยู่นะ”
“มากขนาดไหนหรอครับ” หลุยส์ยังคงพูดต่อ ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องได้ที่ดินผืนนั้นแน่นอน ไม่มีอะไรเกินกว่าความสามารถของเขาหรอก
“ก็ไม่อะไรมากหรอก แต่อามีหลานสาวคนนึง แค่ อยากให้หลานหลุยส์ทำความรู้จักเอาไว้หน่อย”
ชายหนุ่มเข้าใจในความหมายของชายตรงหน้าดี
“ผมไม่เคยเอาเรื่องส่วนตัวมายุ่งกับเรื่องธุรกิจ หวังว่าท่านจะทราบ”
“ก็แค่เรียนรู้ไปก่อน ชอบไม่ชอบอาก็ไม่ว่าอะไร อาขอแค่นี้ ถ้าทำได้อย่าว่าแต่ที่ดินผืนนี้เลย ผืนที่หลานหลุยส์อยากได้ก็คงพูดคุยกันไม่ยากเย็นอะไร” เพราะชายวัยกลางคนตรงหน้าเป็นถึงเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ แถมมีที่ดินมากมาย ใครต่อใครก็อยากได้ เขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่มีเงินอย่างเดียวก็ไม่สามารถซื้อได้ ผู้ชายคนนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย เห็นทีข้อเสนอที่อีกฝ่ายให้มาก็ไม่ได้เสียหายอะไร
“ผมก็อยากจะรู้จริง ๆ ว่าหลานสาวคุณอาจะคู่ควรกับผมหรือเปล่า”
คำพูดตรง ๆ ของหลุยส์ทำเอาชายวัยกลางคนหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“ไม่ทำความรู้จักกันก็คงไม่รู้จริงไหม”
“จริงครับ” ท่านเกษมยกมือขึ้นมาจับบ่าของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างพอใจกับคำตอบที่ได้รับมา เพราะจากท่าทางของอีกฝ่ายมันก็ทำให้เขาเข้าใจในทันทีว่าอีกคนก็เห็นด้วยกับข้อตกลงของเขาแล้ว อย่างที่เขาบอก ถึงแม้ลูกสาวจะไม่ได้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ แต่เขาก็ยังหวังว่าจะได้ดองกับครอบครัวนี้อยู่เหมือนกัน ในเมื่อมีหลานสาวอีกคน จะเป็นอะไรไปถ้าหากอยากให้คนทั้งสองทำความรู้จักกัน
