4 ผู้ชนะ
4
ผู้ชนะ
นักศึกษาฝึกงานสิบคนที่มาจากห้ามหาวิทยาลัย ทุกคนล้วนเป็นผู้หญิงด้วยกันทั้งหมด วันนี้เป็นวันที่ทุกคนมาฝึกงานเป็นวันแรก ทุกคนที่มาก็ตื่นเต้นเพราะยังไม่คุ้นชินสถานที่หรือแม้แต่ผู้คนที่อยู่ในบริษัทแห่งนี้
“น้อง ๆ ทุกคนเลยนะคะ ตามพี่ไปที่ห้องประชุมเพราะวันนี้บอสมีเรื่องที่อยากให้ทุกคนได้ทำค่ะ” พี่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นพนักงานที่นี่เอ่ยขึ้นมา
“มาวันแรกก็ไปที่ห้องประชุมเลยหรอเนี่ย ที่นี่น่าจะกฎเยอะเหมือนกันนะเนี่ย” ชญาภรณ์กระซิบกับจิดาภาแต่สายตาก็มองไปข้างหน้าและฟังที่พี่คนนั้นพูด
นักศึกษาฝึกงานทุกคนต่างเดินไปตามพี่คนนั้นเพื่อไปยังห้องประชุม ยังไม่มีใครรู้ว่าจะต้องไปเจอกับอะไรที่ห้องประชุม
“น้อง ๆ มากันครบแล้วใช่มั้ย ทั้งหมดมี 10 คนนะคะ ถ้ามากันครบทุกคนแล้ว พี่วาวแจกข้อสอบได้ค่ะ”
“ข้อสอบ มาฝึกงานทำไมต้องได้สอบด้วยเนี่ย ไม่ได้อ่านหนังสือมาด้วยแล้วจะต้องสอบวิชาไหนล่ะเนี่ย” เสียงของนักศึกษาฝึกงานหลายคนต่างพูดขึ้นมาด้วยความสงสัย
“น้อง ๆ ไม่ต้องกังวลไปการสอบในครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับคะแนนการเรียนใด ๆ ทั้งสิ้น มันเป็นการสอบที่จะบอกว่าน้อง ๆ จะได้ไปฝึกงานที่ส่วนไหนของบริษัทเท่านั้นเอง”
เมื่อได้ยินดังนั้นนักศึกษาทุกคนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก จิดาภากับชญาภรณ์เองก็เช่นกันทั้งสองก็รู้สึกโล่งเหมือนกับเพื่อนคนอื่น ๆ
“ทุกคนได้ข้อสอบกันแล้วใช่มั้ยคะ ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มทำข้อสอบกันได้เลยนะคะ”
จิดาภากับชญาภรณ์รีบเปิดดูข้อสอบก็ไม่ได้กังวลใจอะไรเพราะมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเรียน นักศึกษาคนอื่นเองก็เช่นกัน
เวลาผ่านไปไม่ถึงสามสิบนาที นักศึกษาหลายคนก็เริ่มทยอยส่งกระดาษคำตอบแล้ว จิดาภาเป็นคนสุดท้ายที่ส่งกระดาษคำตอบในครั้งนี้
“นี่ขนมผิงแกจริงจังมากเลยนะเนี่ย ส่งช้าเป็นคนสุดท้ายด้วย” ชญาภรณ์แซวเพื่อนของเธอแล้วก็ยิ้ม ๆ
“เป็นยังไงบ้างข้อสอบทำได้กันหรือเปล่า วันนี้ตอนบ่ายก็ได้จะได้รู้แล้วว่าใครจะได้ไปฝึกงานที่แผนกไหน แต่ที่สำคัญที่สุดในการสอบครั้งนี้จะมีหนึ่งคนที่จะได้ไปทำงานเป็นเลขาของท่านประธานและจะได้รับเงินเดือนจนกว่าจะฝึกงานจบ และถ้าทำงานดีอาจจะได้รับบรรจุให้เป็นพนักงานประจำทันทีที่เรียนจบ”
“เลขาของบอสอย่างนั้นหรอ อยากเป็นเลขาจัง ได้ยินมาว่าบอสที่นี่หล่อมาก ๆ เลยนะ” นักศึกษาหญิงคนหนึ่งพูดขึ้นมากับเพื่อนของเธอ แล้วก็เริ่มมีเสียงพูดดังขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องที่อยากทำงานตำแหน่งเลขา
“ถ้ารู้อย่างนี้ฉันตั้งใจทำข้อสอบก็คงดี อยากเป็นเลขาของบอสจังเลย” นักศึกษาคนหนึ่งพูดขึ้นมาอีกคน
“ทำไมต้องอยากเป็นกันขนาดนั้นด้วย ยังไงก็ต้องทำงานอยู่ดีป่ะ” จิดาภาพูดกับชญาภรณ์ซึ่งเพื่อนของเธอก็เห็นด้วยเพราะเธอเองก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรกับตำแหน่งเลขา
“สงสัยอยากอยู่ใกล้ท่านประธานสุดหล่อหรือเปล่า เห็นบอกว่าบอสที่นี่หล่อมากนะ” ชญาภรณ์พูดออกมาอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้จิดาภาอยากได้ตำแหน่งนี้อยู่ดี
“ก็ช่างเถอะไม่สนใจหรอก ตอนนี้พี่เขาให้เรานั่งรอ เราก็ต้องนั่งรอเท่านั้น” จิดาภาหยิบมือถือขึ้นมาเล่นตามสบายใจของเธอ เพื่อนคนอื่น ๆ ก็เช่นกัน
เมื่อถึงเวลาบ่ายโมง หลังจากที่ทุกคนได้ไปทานข้าวกลางวันที่โรงอาหารของบริษัทที่มีข้าวกลางวันให้ทานฟรีอย่างนี้ทุกวัน
“เอาล่ะทุกคน หลังจากที่เราได้สอบไปแล้วเมื่อช่วงเช้า ตอนนี้คะแนนได้ออกเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ เดี๋ยวพี่จะเป็นคนบอกคะแนนและงานที่ทุกคนต้องรับผิดชอบ แต่มีรางวัลเดียวที่จะได้ทำงานกับบอสนะคะ ตำแหน่งเลขานุการ ซึ่งคนนั้นคือคนที่สอบได้คะแนนมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 คนนั้นทำคะแนนได้ 47 คะแนนจาก 50 คะแนน คนนั้นก็คือ นางสาว จิดาภา ค่ะ”
เมื่อได้ยินชื่อทุกคนต่างก็อยากรู้ว่าใครคือจิดาภาแต่คนที่รู้มีสองคนก็คือเจ้าตัวและเพื่อนของเธอนั่นเอง
“ขนมผิงแกได้เป็นเลขาของบอส” ชญาภรณ์ไม่รู้จะดีใจกับเพื่อนหรือต้องยังไงดี เพราะหน้าตาของเพื่อนตอนนี้ไม่ได้มีท่าทางดีใจเลยสักนิด
“ไหนใครคือนางสาว จิดาภา ยกมือขึ้นหน่อยค่ะ พี่จะได้ให้ไปเรียนรู้งานกับพี่วาว”
“หนูเองค่ะ” จิดาภายกมือขึ้นพร้อมกับบอกว่าเธอเองคือ นางสาว จิดาภาที่สอบได้คะแนนมากที่สุดและจะได้เป็นเลขานุการของตุลา
“โอเค เดินไปหาพี่วาวที่อยู่ด้านนั้น ส่วนทุกคนที่เหลือก็นั่งตรงนี้แหละเดี๋ยวมีพี่ ๆ มาบอกว่าทุกคนจะได้ไปประจำการที่ไหน”
หลังจากที่ทุกคนได้รับหน้าที่ของตัวเอง พี่ ๆ ที่บริษัทก็ให้กลับบ้านก่อนเวลาเพราะวันนี้เป็นวันแรกแค่มารับทราบหน้าที่และเรียนรู้งานเล็กน้อยเท่านั้น พรุ่งนี้คือวันเริ่มงานวันแรกของทุกคน
หลังจากได้เวลาเลิกกลับบ้าน จิดาภาก็ชวนเพื่อนของเธอไปนั่งกินชาบูที่ห้างแห่งหนึ่งแก้เครียด
“ทำไมฉันต้องได้เป็นเลขาด้วย ฉันไม่อยากทำงานนี้เลย ฉันอยากเป็นเด็กฝึกงานธรรมดา ๆ เท่านั้นเองนะ” จิดาภาพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของเพื่อนแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“นี่แกจะคิดมากไปทำไมเนี่ย คนอื่นเขาอยากทำหน้าที่เลขากันทั้งนั้น ทำไมแกไม่อยากทำว่ะ” ชญาภรณ์เอ่ยถามเพื่อนด้วยความสงสัย
“ก็ฉันอยากทำงานง่าย ๆ ที่ไม่ต้องไปอยู่ใกล้กับประธานขนาดนั้น” จิดาภาบอกกับเพื่อนแล้วก็ทำหน้าหงอย ๆ แต่ก็คีบหมูเข้าปากไม่หยุด
“ก็ลองทำไปก่อน ไม่มีอะไรยากหรอกแค่นั่งหน้าห้องของท่านประธาน” ชญาภรณ์พูดขึ้นพร้อมกับเอามือแตะที่ไหล่ของเพื่อนเพื่อให้กำลังใจเพื่อนของเธอ
“ก็คงต้องทำใจแหละ ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องทำตามคำสั่งอยู่แล้ว เราไม่มีสิทธิ์ขัดขืนอยู่แล้วนี่นา” จิดาภาแม้จะเครียดแต่เรื่องกินก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ เพราะเธอยังกินอร่อยเหมือนเดิม
“นี่แกเครียดยังไงเนี่ย กินเก่งเหลือเกินนะ” ชญาภรณ์เอ่ยแซวเพื่อนของเธอ
“เรื่องกินเรื่องใหญ่ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องกินให้เยอะเพื่อใช้พลังและสมองในการทำงาน” จิดาภาพูดจบก็คีบซูชิเข้าปากของเธอแล้วก็เคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างน่าอร่อย
