3 เลขาคนใหม่
3
เลขาคนใหม่
จิดาภาที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตรู่เธอรู้สึกตื่นเต้นที่จะต้องไปฝึกงานเป็นวันแรก เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับสร้อยจันทร์ที่ตอนนี้กำลังเตรียมของใส่บาตรในตอนเช้า ซึ่งสร้อยจันทร์ก็ทำอย่างนี้เป็นประจำทุกวัน
“ขนมผิงวันนี้ตื่นแต่เช้าเป็นพิเศษเลย” สร้อยจันทร์ที่กำลังนั่งจัดดอกไม้ที่จะใช้ถวายพระ เธอช่างเป็นหญิงสาวที่อ่อนช้อยงดงามเหมือนชื่อของเธอที่อ่อนหวาน นุ่มนวลเหลือเกิน
“พอดีฉันตื่นเต้นที่จะได้ไปฝึกงานวันแรกฉันก็เลยตื่นแต่เช้าเพราะนอนไม่ค่อยหลับด้วย” จิดาภาบอกกับสร้อยจันทร์ยิ้ม ๆ ก่อนจะเดินไปนั่งข้าง ๆ เธอ
“ถ้าอย่างนั้นมาใส่บาตรด้วยกันมั้ย เผื่อจิตใจจะได้สงบขึ้นมาบ้าง” สร้อยจันทร์บอกกับเธอพร้อมกับสอนให้เธอจัดดอกไม้เพื่อนำไปถวายพระ
จิดาภาที่ได้เตรียมดอกไม้ ช่วยสร้อยจันทร์แล้วยังได้ใส่บาตรเธอก็รู้สึกได้ว่าจิตใจของเธอมันนิ่งสงบขึ้นกว่าเดิมอยู่เหมือนกัน
“ทำบุญ ใส่บาตรมันก็ดีเหมือนกันนะ รู้สึกจิตใจสงบไม่ว้าวุ่น” จิดาภาเอ่ยขึ้นมาอย่างนั้น สร้อยจันทร์ก็ยิ้ม ๆ เพราะเธอสามารถทำให้เพื่อนของเธอรู้สึกดีขึ้นมาได้
“ถ้าอย่างนั้นก็มาใส่บาตรด้วยกันบ่อย ๆ นะ กินข้าวเช้าด้วยกันใหม่ ฉันทำข้าวต้มกุ้งไว้” สร้อยจันทร์เป็นหญิงสาวที่เรียบร้อยเพรียบพร้อมมาก จนบางทีจิดาภารู้สึกเลยว่าเธอเองช่างไม่มีความเป็นผู้หญิงเลยสักนิดถ้าเปรียบเทียบกับสร้อยจันทร์
“ขอบคุณนะ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาฉันยังไม่เคยได้ทานข้าวเช้ากับเธอเลย เพราะฉันตื่นสายไม่เคยทันเธอเลยสักครั้ง”
“ไม่เป็นไร วันนี้ถือเป็นวันดีที่เราจะได้กินข้าวเช้าด้วยกัน ก่อนที่เธอจะไปฝึกงานวันแรก”
“จริงด้วย วันนี้ต้องเป็นวันที่ดีมาก ๆ แน่ ๆ เลย” จิดาภาพูดขึ้นมาพร้อมกับมองหน้าของเธอยิ้ม ๆ
สร้อยจันทร์ตักข้าวต้มกุ้งร้อน ๆ มาวางที่โต๊ะกินข้าวตรงหน้าของเธอ กลิ่นกระเทียมเจียวหอม ๆ สัมผัสโดนกับซุปร้อน ๆ กุ้งตัวโต ๆ มันทำให้เธอกลืนน้ำลายทันที เพราะมันน่ากิน น่าอร่อยมาก ๆ
“หอมจังเลย ใครได้เธอเป็นแฟนนี่ต้องโชคดีมากแน่ ๆ” จิดาภาอดคิดไม่ได้ว่าคนที่ได้เธอเป็นแฟนต้องมีความสุขมากแน่ ๆ ที่ได้แฟนน่ารักขนาดนี้
“ก็พูดเกินไป” สร้อยจันทร์ยิ้มเขิน ๆ ที่อยู่ ๆ ก็โดนชมต่อหน้าอย่างนี้
“ก็พูดเรื่องจริงนี่นา ถ้าขนมผิงเก่งได้สักครึ่งของสร้อยจันทร์ก็คงดี”
“เราสองคนก็ต่างเก่งไปกันคนละแบบนะ อย่าด้อยค่าตัวเองสิ” สร้อยจันทร์นั่งลงตรงข้ามกับเธอพร้อมกับตักข้าวต้มขึ้นมาแล้วก็เป่า ๆ หลายทีก่อนที่จะเอาเข้าปากเพราะมันร้อนมาก ๆ
ในขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งทานข้าวด้วยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงกริ่งดังมาจากหน้าบ้าน เมื่อจิดาภามองออกไปก็เห็นเป็นรถเพื่อนของเธอ
จิดาภาวิ่งไปเปิดประตูบ้านให้เพื่อนพร้อมกับชวนเพื่อนเข้าบ้านเพราะมันยังเช้ามาก ๆ
“ทำไมแกถึงได้มาแต่เช้าอย่างนี้เนี่ย” จิดาภาเองก็งงว่าทำไมชญาภรณ์ถึงได้มาแต่เช้าอย่างนี้
“ก็ฉันตื่นเต้น ไม่เคยฝึกงานกลัวจะโดนไล่ออกตั้งแต่วันแรกอ่ะ” จิดาภาที่ได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะเพื่อนทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้เพื่อนเลยสักนิด
“ว่าแต่กลิ่นอะไรหอม ๆ อ่ะ แกทำข้าวเช้ากินเองอย่างนั้นหรอ” “ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อยพอดี สร้อยจันทร์ทำไว้ก็เลยชวนกินแกไปกินด้วยกันมั้ย”
“ก็ดีเลย ท้องร้องพอดีเลย” ชญาภรณ์เดินเข้าไปในบ้านก็เห็นสร้อยจันทร์นั่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าว
เธอไม่เคยเจอสร้อยจันทร์เลยสักครั้ง เพราะเธอก็ไม่ได้เข้ามาในบ้านของจิดาภาบ่อยสักเท่าไร
“สวัสดีค่ะ” ชญาภรณ์เอ่ยทักทายสร้อยจันทร์เพราะเธอรู้สึกว่าสร้อยจันทร์มีบุคลิกที่น่านับถือมาก ๆ
“ไม่ต้องไหว้หรอกค่ะ เราน่าจะอายุเท่ากัน” สร้อยจันทร์พูดขึ้นยิ้ม ๆ เพราะต้องกลั้นขำให้กับเธอ
“อย่าไปสนใจเลยสร้อยจันทร์เพื่อนฉันคนนี้ไม่ค่อยเต็ม” จิดาภาพูดขึ้นมาแล้วก็หัวเราะออกมา
“นี่แกจะบ้าหรือไงถึงได้มาว่าเพื่อนอย่างนี้เนี่ย” ชญาภรณ์เดินไปตีที่หลังของเพื่อนอย่างแรง
“สร้อยจันทร์ขอข้าวต้มให้เพื่อนเราอีกถ้วยนะ” จิดาภาพูดขึ้นมาสร้อยจันทร์ก็พยักหน้าพร้อมกับลุกจากเก้าอี้
“ไม่ต้อง ๆ สร้อยจันทร์เดี๋ยวผิงไปตักให้เพื่อนเองสร้อยจันทร์กินไปเถอะ”
“นั่งก่อนสิ” สร้อยจันทร์บอกกับชญาภรณ์ยิ้ม ๆ อย่างเป็นมิตร เธอนึกแปลกใจว่าทำไมสองคนนี้อยู่บ้านด้วยกันแต่ทำไมนิสัยไม่ได้เหมือนกันเลยสักนิดเดียว
หลังจากที่ทั้งสามทานข้าวเช้าด้วยกันเสร็จก็ต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ สร้อยจันทร์ก็ไปเรียนตามปกติ ส่วนสองสาวเพื่อนซี้ก็ไปฝึกงานตามระเบียบ
ตุลาที่เข้ามาที่บริษัทก็ได้รับข่าวว่าเลขาของเขาลาออกกระทันหันเพราะต้องกลับไปที่ต่างจังหวัดเพื่อดูแลแม่ที่กำลังป่วยหนัก ทำให้ตอนนี้เขาขาดเลขาส่วนตัวของเขา
“บอสคะ วันนี้จะมีนักศึกษามาฝึกงานสิบคนนะคะ จากทั้งหมดห้ามหาวิทยาลัย ส่วนหน้าที่ต่าง ๆ ที่จะให้ทำนั้นพี่แจ๋มได้แบ่งหน้าที่ไว้ทั้งหมดแล้วค่ะ” พนักงานสาวใหญ่ของบริษัทที่ทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายบุคคลได้มารายงานเรื่องนักศึกษาฝึกงานกับตุลา
“ถ้าอย่างนั้น ผมขอคนหนึ่งมาเป็นเลขาของผมได้มั้ย” ตุลาพูดขึ้นมาทำให้เธอไม่เข้าใจว่าเขาจะเอาเด็กฝึกงานมาทำงานเป็นเลขาของเขา
“แล้วบอสอยากได้คนไหนคะ”
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงผมมีวิธีเลือกของผมแต่ตอนนี้ไปเตรียมห้องประชุมให้ผมก่อน ผมจะใช้เป็นที่คัดเลือกเลขาคนใหม่” ตุลาพูดจบเธอคนนั้นก็รีบไปสั่งให้คนจัดห้องประชุมตามที่ตุลาสั่งทันที
