บท
ตั้งค่า

Chapter 2 ชีวิตบทใหม่

Chapter

2

ชีวิตบทใหม่

หลังจากที่ธีรติณณ์ยอมรับข้อเสนอ มิรินทร์กลับบ้านเพื่อจัดการข้างของและลาครอบครัว เธอรู้สึกใจหายและเศร้าใจที่ต้องลาจากครอบครัวที่รัก แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นใด เธอรู้ดีว่านี่อาจเป็นทางเดียวที่จะช่วยพ่อและครอบครัวของเธอได้ แม้จะยอมทิ้งทุกอย่างที่เธอรักไว้เบื้องหลัง

มิรินทร์กลับไปที่บ้านเพื่อบอกกับครอบครัวว่าในวันพรุ่งนี้เธอจะต้องไปทำงานเพื่อชดใช้หนี้สินทั้งหมดจนกว่าจะครบจำนวนเงินที่พ่อได้ยืมมา

เมื่อกลับถึงบ้าน มิรินทร์บอกกับครอบครัวถึงการตัดสินใจของเธอ เสียงสะอื้นของน้องสาวและสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวลของพ่อกับแม่ทำให้เธอรู้สึกหนักใจมากขึ้น แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

“มินลูกจะต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ” ชาญชัยพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย

“ค่ะพ่อ หนูจะทำให้ดีที่สุด” มิรินทร์ตอบกลับพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อขึ้นในดวงตา

“แม่รักลูกนะมิน แม่จะดูแลพ่อกับน้องให้ดีที่สุด หนูเองก็ดูแลตัวเองให้ดีนะลูก แม่เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเลย ช่วยอะไรลูกไม่ได้จนต้องให้ลูกไปทำงานใช้หนี้อย่างนี้” จันทราเอ่ยขึ้นมาแล้วก็มองหน้าของลูกสาวทั้งน้ำตา

“แม่อย่าคิดอย่างนั้นเลยนะคะ อย่างน้อยเราก็ยังมีลมหายใจอยู่ต่อไปนะคะ มินจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ” มิรินทร์เอ่ยขึ้นมาแล้วก็กอดแม่ของเธอไว้แน่นด้วยความรัก ความห่วงใย

“พี่มินดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ แป้งจะรีบเรียนให้จบจะได้ทำงานหาเงินมาใช้หนี้ช่วยพี่” ปริยาภัทรเอ่ยขึ้นมาก่อนที่จะเข้าไปกอดพี่สาวของเธอไว้แน่นด้วยความเป็นห่วงและคิดถึงเพราะเธอทั้งสองคนเติบโตมาด้วยกันไม่เคยห่างกันเลยสักวัน

“อย่าคิดมากเลย แป้งแค่ตั้งใจเรียนแค่นี้ก็พอแล้ว พี่จะทำหน้าที่ของพี่ให้ดีที่สุด” มิรินทร์เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มที่มอบให้กับน้องสาวของเธอ

หลังจากที่เธอได้พูดคุยกับครอบครัวเธอเก็บข้าวของใส่กระเป๋า เตรียมพร้อมที่จะย้ายไปอยู่ที่ใหม่เพื่อทำงานใช้หนี้ที่พ่อเธอยืมมารักษาตัวเอง ในขณะที่ครอบครัวของเธอเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเธอ แม้จะไม่อยากให้เธอไปแต่ครอบครัวของเธอก็ไม่มีทางเลือก

ในค่ำคืนที่มืดมิด เธอเดินออกจากบ้านไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางที่เต็มไปด้วยสิ่งของจำเป็น มิรินทร์มองย้อนกลับไปที่บ้านเพื่อเติบโตมา พลางสัญญากับตัวเองว่าจะกลับมาอีกครั้งในวันที่ทุกอย่างดีขึ้น

ด้วยความหวังและความกล้าหาญที่เต็มเปี่ยม มิรินทร์เดินทางไปยังบ้านของธีรติณณ์ เธอไม่รู้ว่าจะต้องเผชิญกับอะไรในอนาคต แต่เธอพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว

มิรินทร์มาถึงที่บ้านของธีรติณณ์ด้วยรถของลูกน้องที่ธีรติณณ์ให้พาเธอไปที่บ้านเพื่อบอกกับครอบครัว

มิรินทร์จ้องมองบ้านหลังใหญ่ที่ไม่รู้จะเกิดอีกกี่ชาติเธอถึงจะมีโอกาศได้อยู่บ้านหลังใหญ่อย่างนี้ แม้บ้านจะหลังใหญ่แค่ไหนแต่บ้านหลังนี้กับเงียบจนเธอเองรู้สึกประหลาดใจ ช่างแตกต่างจากบ้านหลังเล็ก ๆ ของเธอที่เต็มไปด้วยความสุขและความอบอุ่นที่ยากจะอธิบายให้ใครเข้าใจ

มิรินทร์เดินเข้ามาในบ้านใหญ่ตามหลังลูกน้องของธีรติณณ์ ยิ่งเดินเข้าไปในบ้านเธอก็ยิ่งรับรู้ได้ถึงความเยือกเย็นและเงียบสงบ

“บ้านหลังนี้ทำไมมันน่ากลัวอย่างนี้เนี่ย แน่ใจนะว่าไม่มีผี” มิรินทร์เอ่ยขึ้นมาและทันใดนั้นเอง ธีรติณณ์ก็พูดขึ้นมาจากข้างหลังของเธอ

“บ้านหลังนี้มีผีนะ ผีจับหัวอยู่ข้างหลังเธอนี่ไง” ธีรติณณ์เอ่ยขึ้นมาแล้วก็หัวเราะขึ้นมาเบา ๆ

“กรี๊ด!!!” มิรินกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจที่อยู่ ๆ ธีรติณณ์เดินมาจากด้านหลังของเธอ

“ทะลึ่ง!!!” หลังจากกรีดร้องออกมา มิรินทร์ก็อุทานขึ้นมาในทันที

“ทะลึ่งอะไรของคุณ ผมก็คิดว่าผมพูดว่าบ้านหลังนี้มีแค่ผีจับหัวแล้วมันทะลึ่งตรงไหน” ธีรติณณ์เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะให้กับมิรินทร์ทำให้เธอหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันที

ธีรติณณ์สั่งให้ลูกน้องของเขาออกไปได้เพื่อที่เขาจะได้ทำข้อตกลงระหว่างเขากับเธอ

“ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจและข้อตกลงระหว่างเรา” ธีรติณณ์เดินไปตรงหน้าของมิรินทร์แล้วจ้องมองเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

“เลิกจ้องฉันสักทีเถอะจะคุยข้อตกลงอะไรก็รีบพูดมา ตอนนี้ฉันเหนื่อย ฉันง่วงไม่ไหวแล้ว” มิรินทร์เอ่ยขึ้นมาคล้ายกับว่าเธอรำคาญธีรติณณ์ที่เริ่มมองเธอด้วยสายตาที่กรุ้มกริ่ม

“อย่ามาขึ้นเสียงเหมือนรำคาญได้มั้ย คุณลืมไปแล้วหรือไง ว่าคุณคือลูกหนี้ที่จะมาขัดดอกใช้หนี้ เพราะฉะนั้นแล้วคุณไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรทั้งนั้น” ธีรติณณ์มองหน้าของเธอก่อนที่จะจับข้อมือของเธอไว้แน่น

“นี่ปล่อยฉันนะ ฉันเดินเองได้” มิรินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ตกใจเมื่อเขาจับข้อมือของเธอแล้วดึงให้เธอเดินไปกับเขา

“เดินเองได้แต่ตอนนี้ผมเป็นเจ้าชีวิตของคุณ ไม่ว่าผมจะทำอะไรกับคุณย่อมทำได้ทุกอย่าง” ธีรติณณ์พูดจบเขาก็จับข้อมือของมิรินทร์เดินขึ้นไปชั้นบน

“โอ๊ย!!! อย่าดึงแรงได้มั้ยฉันเจ็บนะ”

“แค่นี้ก็เจ็บแล้วหรือไง ถ้ารุนแรงกว่านี้จะไม่ร้องลั่นบ้านเลยหรือไง” ธีรติณณ์เอ่ยขึ้นมาแล้วก็มองหน้าของมิรินทร์อย่างบ่งบอกว่าเขาหมายถึงอะไร

“เจ็บก็ต้องร้องไม่ถูกหรือไง เพราะฉะนั้นแล้วคุณก็อย่าทำฉันเจ็บสิ” มิรินทร์อธิบายเหตุผลตามความเป็นจริง

“ไม่รู้สิ ว่าจะเจ็บหรือไม่เจ็บแต่ดูแล้วคุณต้องเจ็บแน่ ๆ เผื่อใจไว้ได้เลย” ธีรติณณ์พูดไปพร้อมกับเดินจนมาหยุดที่หน้าห้อง ๆ หนึ่ง เขาหยุดเดินแต่ไมยอมปล่อยข้อมือของเธอให้เป็นอิสระ

ธีรติณณ์เปิดประตูเข้าไปก็เจอกับห้องขนาดใหญ่ และน่าจะใหญ่กว่าบ้านของเธอทั้งหลังเสียด้วยซ้ำ

“ห้องนอนของคุณ” ธีรติณณ์เอ่ยขึ้นมาแล้วก็มองหน้าของมิรินทร์ก่อนที่จะปล่อยข้อมือของเธอให้เป็นอิสระแล้วเขาก็เดินไปล็อกประตูห้องทันที

“ห้องนอนของฉันแล้วทำไมมีของใช้ของคุณเต็มห้องนี้ไปหมด” มิรินทร์เอ่ยถามก่อนที่จะมองหน้าของเธอพร้อมกับส่งสายตากรุ้มกริ่มให้เธออีกครั้งและไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไรแล้ว ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเจอกันเพียงไม่กี่ชั่วโมง

“ก็ห้องของคุณกับผม หรือเรียกง่าย ๆ ว่าห้องนอนของเรา” ธีรติณณ์เอ่ยขึ้นมาทำให้มิรินทร์จ้องมองหน้าของธีรติณณ์อย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel