Chapter 1 การพบเจอที่ตั้งใจ
Chapter 1
การพบเจอที่ตั้งใจ
บ้านไม้หลังเก่าที่ตั้งอยู่ริมสวนอันเงียบสงบของครอบครัวศิริพัฒน์ ที่บ้านของมิรินทร์เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของน้องสาวที่มักจะเล่าเรื่องราวในมหาวิทยาลัยให้ทุกคนฟัง พ่อแม่และน้องสาวของเธอกำลังนั่งล้อมโต๊ะกันรับประทานอาหารค่ำ แสงไฟสีอ่อนจากโคมไฟส่องสว่างให้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่อบอวลในห้อง แต่บรรยากาศที่สุขสันต์นั้นกลับต้องเปลี่ยนไปเมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ชาญชัยผู้เป็นพ่อพยายามเก็บความกังวลใจไว้ภายใน ไม่ให้คนในครอบครัวรู้ถึงปัญหาหนี้สินที่ตามหลอกหลอนเขา
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างรุนแรง เพียงครู่เดียวลูกน้องของธีรติณณ์ ชายที่มีอิทธพลในพื้นที่นี้ พวกเขามาเพื่อทวงหนี้ที่ชาญชัย พ่อของมิรินทร์ได้ยืมไปใช้เพื่อจ่ายค่ารักษาตัวของเขา พุ่งเข้ามาพร้อมกับสีหน้าที่เคร่งขรึม “ชาญชัยอยู่ไหม” หนึ่งในนั้นถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก ชาญชัยลุกขึ้นยืนอย่างช้า ๆ และตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ผมเองครับ”
อีกชายคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมว่า “เรามาทวงหนี้ ให้เวลาถึงแค่พรุ่งนี้ ถ้าไม่ใช่หนี้ให้หมด ครอบครัวนี้จะไม่เหลือใครเลย” เสียงของเขาเย็นยะเยือกและเต็มไปด้วยการข่มขู่
มิรินทร์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พ่อส่วนแม่และน้องสาวกำลังยืนกอดกันตัวสั่นอยู่ข้างหลังเธอกับพ่อ เธอรู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบแน่น เธอคิดหาทางออกแต่มันดูเหมือนจะไม่มีทางใดเลยที่ครอบครัวเธอจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้
คำขู่นี้ไม่ได้เป็นคำขู่จากธีรติณณ์ แต่เป็นสิ่งที่ลูกน้องคิดขึ้นมาเองเพื่อกดดันพวกเขา
มิรินทร์รู้สึกถึงความหวาดกลัวที่แทรกซึมเข้ามาในห้อง เธอหันกลับมามองหน้าพ่อที่นั่งนิ่งอย่างหมดแรง ภาระหนักอึ้งตกอยู่บนบ่าของเธอ
“ผมขอเวลาอีกนิดไม่ได้หรือครับ” ชาญชัยเอ่ยขึ้นมาแล้วก็มองไปที่ใบหน้าของชายกลุ่มนั้นที่สายตาดุดันน่ากลัวมาก ๆ
ชาญชัยพยายามขอเวลามากกว่านี้ แต่ลูกน้องของธีรติณณ์กลับหัวเราะเยาะและยืนกรานคำขู่ของเขา ก่อนจะเดินออกไปจากบ้านทิ้งไว้แต่ความเงียบที่น่ากลัว
มิรินทร์รู้ว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่น เธอต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยครอบครัว เธอต้องคิดหาวิธีแก้ไขสถานการณ์นี้ ก่อนที่มันจะสายเกินไปเพราะเธอรู้ดีว่าครอบครัวของเธอไม่มีเงินมากพอที่จะใช้หนี้ได้ทันเวลา ทางเดียวที่เธอพอจะทำได้คือการไปพบธีรติณณ์ด้วยตัวเอง
วันต่อมามิรินทร์ตัดสินใจไปพบธีรติณณ์ในทันที แม้ว่าเธอจะไม่เคยพบหน้ากันมาก่อนแต่มิรินทร์ก็ได้ยินชื่อเสียงของเขามากพอที่จะรู้ว่าเขานั้นแข็งกร้าวไม่ยอมรับคำขอจากใครง่าย ๆ แต่ครั้งนี้เธอไม่ลองเธอก็ไม่รู้
ค่ำคืนนั้น ที่คาสิโนหรูหราซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีและเสียงเพลงที่ดังก้อง มิรินทร์ก้าวเข้าไปในนั้นด้วยหัวใจที่เต้นระรัว
“ขอพบคุณธีรติณณ์หน่อยค่ะ” มิรินทร์เอ่ยบอกกับพนักงานแล้วก็มองไปตามที่ต่าง ๆ ด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“ได้นัดไว้หรือเปล่าครับ” พนักงานชายหน้าตาเป็นมิตรเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนนุ่ม เหมาะสมกับการทำงานบริการ
“ไม่ค่ะ แต่ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องพูดกับคุณธีรติณณ์ค่ะ” มิรินทร์เอ่ยขึ้นมาแล้วก็มองหน้าของพนักงานคนนั้นพลางทำสายตาอ้อนวอนอยู่ ๆ ก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกว่าให้เธอเข้าไปพบธีรติณณ์
“เชิญด้านนี้ครับ” พนักงานชายผู้นั้นพาเธอไปที่ห้องของธีรติณณ์ เขานั่งอยู่ทีโต๊ะส่วนตัว เขาจ้องมองหญิงสาวที่เดินเข้ามาหา เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางที่จริงจังของมิรินทร์แต่ที่เขาสนใจไปมากกว่าความจริงจัง นั่นก็คือความสวยของมิรินทร์ที่สะกดสายตาของเขาได้เป็นอย่างดี
“สวัสดีค่ะ คุณธีรติณณ์ ฉันชื่อมิรินทร์ ฉันมาที่นี่เพื่อขอทำงานชดใช้หนี้แทนพ่อของฉัน” มิรินทร์พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความกังวล
ธีรติณณ์เลิกคิ้วขึ้นก่อนจะเอ่ยถามเธอขึ้นมา “เธอจะมาขัดดอกอย่างนั้นสิ แล้วทำไมฉันต้องยอมรับข้อเสนของเธอ” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ เพราะเขาไม่เคยให้ใครมาขัดดอกแต่ความมุ่งมั่นในดวงตาของมิรินทร์ทำให้เขารู้สึกท้าทาย
“เพราะฉันไม่มีทางเลือกอื่น และฉันจะทำทุกอย่างที่คุณต้องการ เพื่อช่วยครอบครัวของฉัน” มิรินทร์ตอบกลับด้วยแววตาที่เศร้าและเสียงสั่น ๆ
ธีรติณณ์มองเธออย่างครุ่นคิด เขาอยากให้มิรินทร์อยู่ใกล้ ๆ ใจจะขาดเพราะแค่เขาได้เห็นเธอครั้งแรกหัวใจของเขาก็เต้นแรงขึ้นมาหลังจากที่มันเย็นชาไปนานมากแล้ว
“เธอต้องทำตามที่ฉันสั่งทุกอย่างและต้องย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านของฉัน” มิรินทร์ที่ได้ยินอย่างนั้นก็ไม่ได้รู้สึกตกใจอะไรเพราะเธอก็คิดไว้อยู่แล้วว่ามันต้องเป็นอย่างนี้
มิรินทร์พยักหน้าให้กับเขา เธอรู้ว่าเส้นทางต่อไปนี้จะไม่ง่ายอีกต่อไป แต่มันคือโอกาสเดียวที่เธอจะปกป้องครอบครัวของเธอได้
การเผชิญหน้ากับธีรติณณ์ในคืนนี้คือจุดเริ่มต้นของสิ่งที่มิรินทร์ไม่เคยคาดคิด การเดินทางเต็มไปด้วยอุปสรรคและบทเรียน ชีวิตกำลังรออยู่ตรงหน้า แต่หัวใจที่ไม่ยอมแพ้ เธอจะต่อสู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของครอบครัวและตัวเธอเอง
