2.คำขอที่บ้ามาก
เรเนียครุ่นคิดย้อนกลับไปกลับมาว่าเรื่องราวมันผิดพลาดที่ตรงไหนกันนะ เราก็รักกันอยู่ดีๆ ไม่ใช่รึไง เมื่อคืนเรายังคงนอนกอดแอบอิงและแนบชิด ทั้งเธอและเขา เราต่างมีช่วงเวลาที่ดีด้วยกันแท้ๆ เธอไม่เคยทำให้เขาเสียใจและเขาเองก็ไม่เคยทำให้เธอร้องไห้หรือว่าผิดหวังไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน
เรารักกันมากมายเสียจน เรเนียเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป..
แล้วนี่มันอะไรกัน สมองของเธอคล้ายกับว่ากำลังเบลอไปชั่วขณะ เธอมองเขาด้วยแววตาที่ตัดพ้อ
“คุณแลคตันกลับไปก่อนก็ได้ครับ ขอบคุณที่เสียเวลาแต่เอาไว้ผมจะติดต่อกลับไปนะครับ”
แลคตันก้มหน้าลง เขาไม่แม้แต่จะมองความขัดแย้งของคู่สามีภรรยาที่กำลังจะทำการหย่าร้างกันเลย นี่ไม่ใช่ครอบครัวแรกสักหน่อยที่เขาทำเรื่องหย่าร้างให้เพราะอย่างนั้น เขาเข้าใจว่ากับบางคน คำว่าหย่ามันหนักหนามากจริงๆ
“ช่วยบอกหน่อยได้ไหมคะ ว่าทำไมคุณถึงต้องการหย่ากับฉัน? เอมิล..ฉันทำอะไรผิดอย่างนั้นหรือคะ ทั้งๆ ที่ก่อนจะลงจากรถม้าเราก็ยังคงบอกรักและโอบกอดกันเอาไว้ แล้วทำไมคุณถึงได้..”
“เพราะผมไม่ได้รักคุณแล้วครับ ขออภัยที่ต้องตอบตามตรงแต่ผมยังคงยืนยันถึงเรื่องการหย่าของเราอยู่ดี”
ไม่ได้รักอะไรกันวะ! คนที่ไม่ได้รักไม่มีทางจะมองเธอด้วยแววตาที่แสนอบอุ่นแบบนั้นแน่นอน
ดวงตาเรียวขุ่นหมองลงมากกว่าเดิมเมื่อเธอได้ยินคำว่าไม่ได้รักจากเขา มันราวกับว่าเธอถูกผลักไสให้ไปยืนอยู่ที่มุมห้องเพียงคนเดียว จะถอยหนีไปทางไหนก็ไม่ได้
“เราจะอยู่ทรมานกันไปทำไมครับ ในเมื่อผมไม่ได้รักคุณแล้ว..เรเนียเรามาหย่ากันให้มันจบเรื่องเถอะ”
น้ำเสียงที่ไร้เยื่อใยของเขาเสียดแทงเข้ามาในใจ ปลายคิ้วของเธอลู่ลงพร้อมกับหยาดน้ำตาแห่งความน้อยเนื้อต่ำใจที่รินไหลลงมาเงียบๆ
ไม่เชื่อ!..เธอไม่เชื่อว่าเขาไม่ได้รักเธอ ไม่เชื่ออย่างเด็ดขาด ไม่มีวันเชื่ออย่างแน่นอน..
หากผู้คนจะก่นด่าพร้อมกล่าวหาว่าเธอคือคนโง่ที่ไม่ยอมรับความจริง เรเนียก็จะยินยอมรับทุกคำกล่าวหานั้น ยินยอมเป็นคนโง่หากว่ามันทำให้เขา..เปลี่ยนใจ
เธอเดินเข้าไปหาเขา ฝ่ามือทั้งสองข้างของเรเนียกอบกุมใบหน้าที่แสนคุ้นเคยนั้นเอาไว้ ตลอดระยะเวลาแปดปีเต็มที่เธอมองใบหน้านั้นตอนก่อนนอน และตอนตื่นขึ้นมา เธอเห็นเขาเป็นคนแรกและคนสุดท้ายของวันอยู่เสมอ
เขาทำให้เธอเชื่อถือในความรักและคำว่าตลอดไป เขาทำให้เธอเชื่อมั่นว่ามันมีอยู่จริง..แต่ในยามนี้เขากำลังทำให้เธอเจ็บเสียจนร่างกายของเรเนียสั่นไหวไปหมด เธอรู้สึกคล้ายกับว่ามีมีดกำลังกรีดแทงเข้าไปในหัวใจ มันเป็นความเจ็บปวดที่บาดลึกเข้าไปจนถึงชั้นกระดูก
หัวใจของเธอคล้ายกำลังถูกโบยตีและมันเจ็บปวด ทรมาน รวดร้าวเกินกว่าที่จะขยับริมฝีปากเพื่ออ้อนวอนร้องขอชีวิต
ริมฝีปากที่สั่นเทาของเธอแนบชิดลงไปบนริมฝีปากที่เรียบเฉยของเขา..นี่เป็นจูบที่เจ็บปวดมากที่สุดสำหรับเรเนีย เพราะมันคือจูบที่เกิดจากความพยายามอยู่ฝ่ายเดียว เธอพยายามจูบเขาแต่ทว่าเขากลับไม่ได้จูบตอบเหมือนอย่างเคย..
แววตาของเอมิลเรียบเฉยและไม่แสดงสิ่งใดออกมานอกจากความเย็นชา..เขามองเธอด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ราวกับว่าเรื่องของเรามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่ก็..ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมามันคือสิ่งหลอกลวง
เธอกลั้นหายใจพร้อมกับกัดกรามแน่น ในอกยิ่งรู้สึกเหมือนกำลังถูกบดขยี้..
“เอมิล..ทำไม..?”
“เรเนีย นี่มันไร้ประโยชน์..ผมเขียนชื่อตัวเองลงบนใบหย่าแล้ว คุณเองก็เขียนชื่อตัวเองลงไปเถอะ พรุ่งนี้คุณแลคตันจะมารับใบหย่าของเราไปทำเรื่องให้มันเสร็จสมบูรณ์ แน่นอนว่าบ้านหรือว่าอะไรก็ตามที่มันคือทรัพย์สินของผม มันจะเปลี่ยนเป็นชื่อของคุณในทันที”
นี่เขาคิดว่าเธอต้องการของพวกนั้นงั้นเหรอ?
“เอมิล ได้โปรด..ฉันอยู่ไม่ได้แน่ๆ หากไม่มีคุณ..เราอยู่ด้วยกันมานานขนาดนั้นแล้วอยู่ๆ จะให้ฉันอยู่โดยที่ไม่มีคุณ ฉันจะทำได้อย่างไรกัน”
เธอร้องขอและอ้อนวอนเขาราวกับคนโง่ เสียงของเรเนียแหบแห้งเพราะเธอร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
“ผมตัดสินใจแล้วครับ..ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนความคิดของผมได้หรอกเรเนีย”
ความรู้สึกภายในมันรวดร้าวทรมานเจียนตาย ราวกับถูกเข็มแหลมทิ่มแทงในใจ คำพูดอันแสนเย็นชาของเขาเสียบค้างอยู่ในส่วนลึก และเธอไม่รู้วิธีที่จะดึงมันออกมา
ทั้งน้ำเสียงและแววตาของเขามันแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการมีเธออยู่ในชีวิตอีกแล้ว ต่อให้เธอพยายามมากแค่ไหนหรือว่าร้องขอมากเท่าใด มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรขึ้นมาจริงๆ อย่างที่เขาว่า
“..นอนกับฉันอีกครั้งสิ แล้วฉันจะหย่าให้”
เธอร้องขอสิ่งที่บ้าที่สุดในชีวิตออกมา โดยที่แววตาของเรเนียจับจ้องไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มที่กำลังจะเป็นอดีตสามี
“หากว่านั่นคือสิ่งที่คุณต้องการเพื่อแลกกับการหย่าของเรา..เช่นนั้นผมก็ยินดี”
เราบอกลากันผ่านการกระทำที่แสนเร่าร้อน การทำรักครั้งนี้ไม่ได้แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา แต่ทว่าทุกสัมผัสและทุกการเคลื่อนไหวของเขา มันกลับฝังลึกลงไปบนหัวใจของเธอราวกับว่าเธอตั้งใจจะจดจำทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเอาไว้อย่างไม่มีวันลืมเลือน
ไม่ว่าจะพยายามหายใจออกมากเท่าไหร่ ความร้อนที่ระบายไปก็ยังคงช้ากว่าความร้อนในร่างกายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอเผลอจิกนิ้วลงบนแผ่นหลังกำยำ เรเนียรู้แน่ว่าจะต้องเป็นรอยเล็บ แต่ทว่าในตอนนี้เธอรู้เพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือต้องการหาทางระบายความอึดอัดที่รุ่มร้อนนี้ออกไปให้ได้
ใบหน้าของเอมิลในยามที่เขาขบฟันแน่น นั้นมันเห็นสันกรามที่นูนขึ้นมาอย่างเด่นชัด เขากำลังพยายามข่มอารมณ์ดิบเถื่อนเพื่อไม่ให้มันพลุ่งพล่านใส่เธอมากเกินไป
ใบหน้าหวานส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่ ขณะที่เขากระแทกกระทั้นเธอไม่หยุดยั้ง
เสียงครางหวานๆ ของเรเนีย พานให้ร่างกายของเขายิ่งตื่นตัวขึ้นมา
สัมผัสอันเกิดจากความรู้สึกซึ่งประสานเป็นหนึ่งเดียวกันนั้นสร้างความสุขสมได้อย่างล้นหลาม
ขอโทษนะเรเนีย..ขอโทษจริงๆ
สัญญาณแห่งความปริ่มเปรมเอ่อท้นขึ้นมาในร่างกาย หากเลือกได้เอมิลก็อยากจะอยู่ท่ามกลางความสุขอันแสนหอมหวานและทรมานนี้ตลอดไป
แต่เพราะว่าเขาไม่มีทางเลือก เขาจุมพิตลงไปที่ข้างเปลือบตาก่อนจะปลดปล่อยออกมาในจุดที่ลึกที่สุดของร่างกายเรเนีย
เธอหอบหายใจอย่างรุนแรง ร่างกายราวกับว่าจะหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ และทำท่าว่าจะแหลกยับลงไปด้วยความร้อนของอีกฝ่าย เขาไม่เคยรุนแรงขนาดนี้มาก่อนเลย หรือเป็นเพราะว่านี่คือครั้งสุดท้ายที่เขาจะสัมผัสเธอกันนะ เขาถึงได้กระทำรุนแรงเช่นนี้
“...”
ความลังเลเกิดขึ้นมาในใจของเอมิล เพราะร่างกายที่หอมหวานของเรเนีย มันจึงน่าเสียดายมากเกินไปหากว่าเขาจะใช้ร่างกายบอกลาเธอเพียงแค่ครั้งเดียวน่ะ
