6 โมโหหึง
@สามวันต่อมา
เจ้าของใบหน้าหวานแววตาเป็นกังวลพยายามสอดสายตามองหาใครบางคนท่ามกลางความมืดสลัวที่มองเห็นใบหน้าของผู้คนไม่ชัดเจนนัก วิปครีมสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อรวบรวมความกล้า พยายามไม่นึกถึงใบหน้าของชายหนุ่มที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องทำตัวลับๆล่อๆแบบนี้
วันนี้เป็นวันแรกที่เธอกลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากลาหยุดไปสามวันเพื่อหลบหน้ามาเฟียหนุ่ม เพราะการกระทำอุกอาจของเขาในวันนั้นมันลดทอนความเชื่อมั่นในตัวเธอ เธอจึงเลือกที่จะตีตัวออกห่างเพื่อไม่ให้ตัวเองถลำลึกไปมากกว่านี้ แต่ใช่ว่าแวมไพร์จะยอมให้เธอตีตัวออกห่างง่ายๆ
"อย่าตามมาจองเวรจองกรรมฉันเลยนะ เดี๋ยวจะกรวดน้ำทำบุญไปให้" ร่างบางพึมพำกับตัวเองเมื่อส่องดูจนแน่ใจแล้วว่าแวมไพร์ไม่ได้อยู่ที่นี่ นึกอยากย้อนเวลากลับไปเมื่อวันก่อน อยากกลับไปแก้ไขสิ่งที่ทำผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย เธอคิดว่าสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตคือการเดินเข้าไปทักทายแวมไพร์ในวันนั้น
แม้จะหวั่นใจไม่น้อยที่ต้องเดินออกมาจากที่หลบซ่อนที่เปรียบเหมือนเกราะป้องกันภัยจากใครบางคน แต่วิปครีมก็ต้องเดินยิ้มแย้มออกมาทำหน้าที่ของตัวเอง ขณะที่เดินออกมาก็กวาดตามองหาลูกค้าที่น่าสนใจ เมื่อเจอเป้าหมายที่ถูกใจก็ไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปทักทาย
"มาคนเดียวเหรอคะ" ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองเมื่อได้ยินเสียงทักทายของหญิงสาว
"ถ้าบอกว่ามาคนเดียวจะนั่งเป็นเพื่อนเหรอ"
"ถ้าไม่รังเกียจวิปครีมขอนั่งเป็นเพื่อนนะคะ" ร่างบางโปรยเสน่ห์ด้วยการแนะนำตัว แต่ยังไม่ทันจะได้หย่อนตัวนั่งลงข้างๆ ก็โดนชายหนุ่มกระชากแขนเต็มแรง ทำให้เธอเสียหลักล้มลงบนหน้าตักแกร่ง
"อ๊ะ!" วิปครีมทำสีหน้าตกใจอย่างมีจริต ช้อนตามองเจ้าของรอยยิ้มร้ายอย่างเหนียมอาย จากนั้นจึงค่อยๆขยับตัวลงจากหน้าตักแกร่ง
"ไม่คิดว่าที่นี่จะมีของดีขนาดนี้นะ"
"ไม่คิดว่าจะเจอของดีเหมือนกันค่ะ" ร่างบางคลี่ยิ้มหวาน พานทำให้หัวใจแกร่งของชายหนุ่มสั่นไหว ความน่ารักของเธอเป็นเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามได้เป็นอย่างดี
"หนูยังไม่รู้จักชื่อคุณเลยนะคะ"
"เรียกฉันว่าที่รักสิ"
"ถ้าหนูเรียกจนติดปาก คุณจะรับผิดชอบยังไงคะ...ที่รัก" แต่ละถ้อยคำของหญิงสาวสร้างความพึงพอใจให้ชายหนุ่มวัยยี่สิบปลายๆไม่น้อย
พรึ่บ!
"โอ๊ย!" วิปครีมเปล่งเสียงอุทานดังลั่นด้วยความตกใจปนเจ็บปวด เมื่อโดนใครบางคนกระชากแขนอย่างแรงจนเธอลอยละลิ่วไปตามแรงดึง พลันหัวใจดวงน้อยที่เคยสงบก็เต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง เมื่อได้เห็นหน้าเจ้าของการกระทำป่าเถื่อน
"พะ..พี่แวมไพร์" ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจ เพียงแค่เห็นสีหน้าเกรี้ยวกราดของมาเฟียหนุ่มร่างกายก็สั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว
"หนีผัวมาคั่วผู้ชายคนอื่นมันสนุกมากใช่ไหม!"
"นะ..หนูไม่ได้เป็นผู้หญิงของพี่แวมไพร์นะ แล้วพี่แวมไพร์ก็ไม่ใช่ผัวหนูด้วย!"
"ไม่ใช่ผัวจะเอาหัวเข้าไปได้เหรอวะ!"
"..!!!" ไม่ใช่แค่วิปครีมที่ตกใจกับถ้อยคำของแวมไพร์ แต่ผู้คนในผับก็ต่างตกใจไปตามๆกัน
"นี่มันเรื่องอะไรกันวะ!" ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าหล่อเหลากระชากตัวลุกขึ้น มองวิปครีมกับชายหนุ่มผู้มาใหม่ด้วยสายตามึนงง
"จัดการให้เรียบร้อย" แต่แวมไพร์ก็ไม่ได้อธิบายอะไรให้ชายหนุ่มตรงหน้าเข้าใจ เขาเอี้ยวหน้ากลับไปออกคำสั่งกับลูกน้องคนสนิทเตชินและมาวินที่ยืนคุมอยู่ข้างหลัง แล้วลากแขนวิปครีมออกมาจากตรงนั้นทันทีทันใด
"โอ๊ย! มันเจ็บนะ!" ร่างบางโอดครวญด้วยความเจ็บปวดเมื่อโดนฉุดกระชากอย่างไร้ความปรานี ความหวาดกลัวแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง เธอเกลียดชังถ้อยคำหยาบคายและการกระทำป่าเถื่อนของเขา
"โอ๊ย! บอกว่าเจ็บได้ยินไหม!"
"เจ็บซะบ้างก็ดีจะได้ไม่มีแรงไประริกระรี้อ่อยผู้ชายคนอื่น!"
"มันจะมากไปแล้วนะ! หนูจะอ่อยใครยั่วใครมันก็เรื่องของหนู เพราะนี่มันชีวิตของหนู! แล้วเราสองคนก็ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วย!"
"งั้นเหรอ" มาเฟียหนุ่มแค่นหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน หมุนตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว ทำให้วิปครีมที่เดินอยู่ข้างหลังพุ่งชนแผงอกแกร่งเต็มแรงเพราะชะลอฝีเท้าไม่ทัน
"อื้อ!" ในตอนที่เงยหน้ามองค้อนกลับโดนช่วงชิงลมหายใจอย่างอุกอาจ เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาเรียวลิ้นสากก็ดันเข้ามาควานหาความหวานในโพรงปาก การกระทำโจ๋งครึ่มของแวมไพร์เรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนรอบข้างที่ยืนรวมกลุ่มกันอยู่บริเวณหน้าผับ แต่ใช่ว่าเสียงเซ็งแซ่เหล่านั้นจะดึงสติของเขากลับมาได้
"อื้อ!!" กำปั้นหนักๆกระหน่ำฟาดลงบนบ่าแกร่งเต็มแรง แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะเรี่ยวแรงของชายหนุ่มได้ เมื่อหมดหนทางสู้วิปครีมจึงยอมหยุดนิ่ง คิดในใจว่าหากเธอหยุดนิ่ง แวมไพร์ก็คงจะหยุดการกระทำป่าเถื่อน แต่เธอคิดผิด
หน้าอกใหญ่โดนบีบเคล้นอย่างหนักหน่วงจนรู้สึกเจ็บ ก่อนที่แวมไพร์จะสอดมือเข้ามาในเกาะอกสีดำ สะกิดยอดปทุมถันเบาๆจนมันแข็งชัน เมื่อหยอกเย้ากับมันจนพอใจจึงดึงมือออก พร้อมๆกับถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง
"มานี่!"
"ไม่ไป! นี่ปล่อยนะ!" ถ้อยคำห้ามปรามใดๆไม่มีผลต่อการกระทำป่าเถื่อนของชายหนุ่ม แวมไพร์ฉุดกระชากหญิงสาวมายังรถยุโรปคันหรู เหวี่ยงร่างเธอเข้าไปในรถเต็มแรงจนวิปครีมล้มคะมำไปนอนพาดอยู่บนเบาะคนขับ
อาการจุกทำให้เธอไม่สามารถเปิดประตูลงจากรถได้ในตอนที่แวมไพร์เดินอ้อมมาฝั่งคนขับ เมื่อเขาก้าวเข้ามาในรถจึงค่อยๆพยุงตัวลุกขึ้น แต่ก็โดนอุ้มขึ้นมานั่งคร่อมบนหน้าตักอย่างทุลักทุเล
"อย่าทำให้ฉันโมโหมากกว่านี้"
"..." เนื้อตัวสั่นเทิ้มด้วยความหวาดหวั่นกับน้ำเสียงกดต่ำของเขา วิปครีมยอมสงบปากสงบคำ แล้วซบหน้าลงตรงบ่าแกร่ง ขณะเดียวกันก็ครุ่นคิดหาทางออก
"จะพาหนูไปไหนคะ"
"อยากไปนรกหรือสวรรค์ล่ะ"
"..." หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ ร่างบางเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ความหวังที่จะรอดพ้นจากเงื้อมมือของเขาช่างริบหรี่
