บทย่อ
"แล้วถ้าหนูทำให้พี่แวมไพร์กลับมามีความรู้สึกแบบนั้นกับผู้หญิงคนอื่นได้ล่ะ หนูจะได้รางวัลอะไรเป็นการตอบแทนคะ" เมื่อแวมไพร์ไม่ตอบคำถามวิปครีมจึงเสนอข้อแลกเปลี่ยน ยกมือขึ้นมาลูบไล้กรอบหน้าคมคายเบาๆ "ว่ายังไงคะ อยากให้หนูช่วยไหม" "ฉันให้เวลาเธอหนึ่งเดือน ถ้าเธอทำให้ฉันกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้ฉันจะตอบแทนเธอด้วยของทุกอย่างที่เธอต้องการ" "..." "แต่ถ้าไม่หาย...เตรียมตัวเรียกฉันว่าผัวได้เลย"
บทนำ
'หมอเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมร่างกายของคุณถึงเป็นแบบนี้ ปกติแล้วหากร่างกายอัมพาตช่วงล่างคุณจะไม่สามารถเดินเหินไปไหนได้หรือใช้งานร่างกายส่วนล่างได้เลย แต่ที่แปลกก็คือขาของคุณยังใช้งานได้ตามปกติ ยกเว้นอวัยวะเพศที่ไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า'
'มันจะเป็นไปได้ยังไงวะ ร่างกายของผมยังปกติดี แล้วตรงนั้นมันจะไม่ตอบสนองได้ยังไง'
'หมอเองก็ยังให้คำตอบที่แน่ชัดไม่ได้เหมือนกัน ขอโทษด้วยนะครับ'
'แล้วผมจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม'
'หมอตอบไม่ได้หรอกครับ เพราะอาการของคุณแตกต่างจากเคสอื่นๆ หมอเองก็ไม่เคยเจอปัญหาแบบนี้เลยตั้งแต่รักษาคนไข้มา'
หมายความว่าผมจะไม่มีอารมณ์ทางเพศอีกเลยใช่ไหม'
'หมอเสียใจด้วยนะครับที่ต้องตอบว่าใช่'
"บัดซบเอ้ย!" มาเฟียหนุ่มเจ้าของสีหน้าเคร่งขรึมสบถคำหยาบอย่างไม่สบอารมณ์นักเมื่อหวนนึกถึงบทสนทนาระหว่างตนเองกับนายแพทย์หนุ่มใหญ่เมื่อหลายปีก่อน เพราะประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้เขาสูญเสียสิ่งที่มีค่ามากที่สุดสำหรับลูกผู้ชายไปตลอดกาล มันน่าโมโหที่หมอไม่สามารถอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเขากันแน่
"นายจะกลับเลยหรือเปล่าครับ" เสียงของลูกน้องคนสนิทที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเรียกสติของมาเฟียหนุ่มกลับมา แวมไพร์ยกมือปรามลูกน้องเป็นเชิงว่าอย่าตั้งคำถามในตอนที่เขาอารมณ์คุกรุ่น
"ขอโทษครับ" มาวินก้มศีรษะให้ผู้เป็นนาย แล้วนั่งรอเงียบๆอยู่ข้างๆเพื่อนรักอย่างเตชิน ซึ่งเป็นคนสนิทของมาเฟียหนุ่มเช่นกัน และมีตำแหน่งเป็นถึงมือขวาคนสนิท
"ขออนุญาตนั่งเป็นเพื่อนได้ไหมคะ" แวมไพร์ปรายตามองเจ้าของคำถามอย่างนึกรำคาญ นอกจากเขาจะไม่มีอารมณ์พิศวาสผู้หญิงหากินพวกนี้แล้วยังรู้สึกขยะแขยงท่าทางไร้เดียงสาของพวกหล่อนอีกต่างหาก
"ไม่ตอบแบบนี้นานาถือว่าอนุญาตนะคะ" เมื่อชายหนุ่มไม่ตอบรับคำขอ หญิงสาวจึงขยับตัวเข้ามาหย่อนสะโพกนั่งลงบนหน้าตักแกร่งอย่างถือวิสาสะ
พลั่ก!
"โอ๊ย!!" แต่ร่างของเธอก็ตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรงด้วยฝีมือของคนที่เธออยากทำความรู้จัก หญิงสาวส่งเสียงโอดโอยเรียกร้องความสนใจ ดึงสายตาจากผู้คนในผับหรูให้หันมาจ้องมองเธอและมาเฟียหนุ่มเป็นตาเดียว
"ลากมันออกไป" แวมไพร์ออกคำสั่งเสียงเรียบ ทำให้เตชินกับมาวินต้องรีบพาตัวหญิงสาวออกไปให้พ้นสายตาผู้เป็นนาย
"กรี๊ดดดดดดดดดด! นี่มันอะไรกันเนี่ย! ปล่อยฉันนะ!" มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้มอย่างนึกสมเพช ไม่ได้รู้สึกสงสารเจ้าหล่อนเลยแม้แต่น้อย
"ขอโทษนะคะ" เสียงใสๆ ของใครบางคนดังขึ้นในเวลาต่อมา ในตอนที่แวมไพร์กำลังจะกระดกน้ำสีอำพันลงคอ ทำให้เขาต้องสละเวลาปรายตามองเธอคนนั้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
มาเฟียหนุ่มเพ่งมองรอยยิ้มหวานท่ามกลางความมืดสลัว เสียงเพลงที่ดังกระหึ่มคงดังไม่เท่าเสียงของหัวใจแกร่งที่กำลังเต้นแรงในตอนนี้ แวมไพร์จ้องมองหญิงสาวที่เดินเข้ามาทักทายอย่างไม่ละสายตา ทำให้เธอคนนั้นบิดยิ้มเหนียมอายกับสายตาของเขา
"หนูขออนุญาตนั่งเป็นเพื่อนได้ไหมคะ" คำขอของเธอดึงสติของมาเฟียหนุ่มกลับมาอีกครั้ง เขาพยักหน้าให้เป็นเชิงอนุญาต
"ขอบคุณค่ะ" ร่างบางส่งยิ้มหวาน เดินเข้ามาหย่อนสะโพกนั่งลงข้างๆ พร้อมแนะนำตัว
"หนูชื่อวิปครีมนะคะ คุณชื่ออะไรคะ"
"แวม แวมไพร์"
"แวมไพร์" เจ้าของรอยยิ้มหวานทวนชื่อชายหนุ่มอีกครั้ง แล้วเบียดตัวแนบชิดจนสัมผัสได้ถึงไอความร้อนจากร่างกายของกันและกัน การกระทำของเธอกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างของมาเฟียหนุ่ม
"กลัวโดนแวมไพร์กัดจังเลยค่ะ"
"หึ" แวมไพร์ยกยิ้มมุมปาก ปรายตามองการแต่งกายของหญิงสาวอย่างพิจารณา
"ขายตัวเหรอ" คำถามของชายหนุ่มส่งผลให้มุมปากบางที่กำลังคลี่ยิ้มชะงักค้าง ก่อนที่เธอจะหัวเราะคิกคักอย่างขบขัน
"เปล่าค่ะ หนูมีหน้าที่เอนเตอร์เทนลูกค้าอย่างเดียวค่ะ" ศีรษะทุยเล็กค่อยๆ ซบลงแนบชิดแผงอกแกร่ง ออดอ้อนเพื่อสร้างความพึงพอใจให้ชายหนุ่ม
ความรู้สึกบางอย่างที่เคยหลับใหลมานานหลายปีเหมือนจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาเพราะสัมผัสของเธอ มาเฟียหนุ่มหอบหายใจหนักๆ เมื่อรับรู้ได้ถึงการขยายตัวของอาวุธร้ายที่หลับใหลมานานหลายปี เด็กคนนี้ปลุกมันขึ้นมาด้วยกลิ่นกายและสัมผัสของเธอ
"พี่แวมไพร์มาเที่ยวคนเดียวเหรอคะ" วิปครีมเงยหน้าถามประชิดสันกรามคม เป็นจังหวะเดียวกันกับที่แวมไพร์ก้มหน้าลงมา ส่งผลให้ปลายจมูกเชิดรั้นสัมผัสกับริมฝีปากหนาพอดี
"ทำงานที่นี่นานแล้วเหรอ" แวมไพร์ไม่ได้ตอบคำถาม แต่ตั้งคำถามเสียเอง
"ไม่กี่เดือนเองค่ะ หนูต้องทำงานแล้วก็เรียนไปด้วย" ชายหนุ่มพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ แล้วโน้มใบหน้าลงไปแนบชิดจนริมฝีปากแนบชิดกัน
"อ๊ะๆ แบบนี้มากเกินไปนะคะ" นิ้วชี้เรียวยาวแตะริมฝีปากหนาเบาๆ ในตอนที่มาเฟียหนุ่มกำลังจะประกบจูบเพื่อพิสูจน์ความรู้สึกบางอย่าง
"มีหน้าที่เอนเตอร์เทนลูกค้าไม่ใช่เหรอ ทำหน้าที่ของเธอสิ"
"จูบกับลูกค้าไม่ใช่การเอนเตอร์เทนนะคะ" หญิงสาวคลี่ยิ้มหวาน ส่งสายตาไร้เดียงสาให้ชายหนุ่ม
"แต่ว่าถ้าจะจูบต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ"
"อะไร"
"ขอค่าขนมสักสี่ห้าพันได้ไหมคะ"
"หึ จูบราคาแพงนะ" แวมไพร์แสยะยิ้ม ปัดมือบางออกจากริมฝีปาก แล้วโน้มใบหน้าลงมาประกบจูบทันทีโดยไม่สนใจว่าคนโดนจู่โจมจะพร้อมหรือเปล่า
"อื้อ!" เธอเบิกตาโพล่งด้วยความตกใจกับการกระทำอุกอาจของเขา แต่ก็ตอบรับสัมผัสหนักหน่วงของเรียวลิ้นสากในเวลาต่อมา มาเฟียหนุ่มตะโบมดูดดุนริมฝีปากอวบอิ่มอย่างหนักหน่วงระคนหื่นกระหาย พร้อมลูบไล้ฝ่ามือไปตามเรือนร่างอรชร แต่ก็โดนหญิงสาวจับข้อมือไว้แน่น
เขามีความรู้สึกกับเธอ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว
แวมไพร์ถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งเมื่อรู้ตัวว่ารุนแรงเกินไปจนหญิงสาวเนื้อตัวสั่นเทา แต่ก็ยังยิ้มสู้เมื่อริมฝีปากได้รับอิสระ