ข้าไม่ยอมเป็นรอง (2)
บุรุษคลี่ยิ้ม เดินเข้ามาพยุงสตรีไปยังเตียงนอน ช้อนคางของนางขึ้นก่อนประทับริมฝีปากลงอย่างแผ่วเบา “เจ้างดงามถึงเพียงนี้ จะให้ข้าทอดทิ้งเจ้าได้อย่างไร หากข้าได้แต่งเป็นเขยท่านเจ้าเมืองแล้ว ข้าจะมารับเจ้าไปเป็นอนุภรรยาของข้า”
ม่านฟางหรงก้มหน้ายิ้ม หางตาชำเลืองมองไปด้านนอกประตูที่ตนจงใจเปิดทิ้งไว้ ก่อนเงยหน้าสบตากับบุรุษพร้อมเอ่ยถาม “ท่านหญิงไป่จะยอมหรือเจ้าคะ”
“ไม่ยอมแล้วอย่างไร นางจะทำอะไรข้าได้ แม้ข้าจะแต่งงานกับนางแต่ก็เป็นเพียงเหตุผลทางการเมือง หาได้รู้สึกรักใคร่ในตัวนาง ข้าแสนชิงชังและรังเกียจสตรีเช่นไป่เซียงหวินเป็นที่สุด” มือใหญ่ลูบไปที่ใบหน้างาม และประทับจูบลงอีกครั้ง “นางไม่มีอะไรเทียบเจ้าได้สักนิด เจ้าสิเหมาะสมคู่ควรกับข้า”
ม่านฟางหรงถูกกดลงยังเตียงนอน นางยิ้มอย่างเขินอาย ยกมือขึ้นดันอกของบุรุษไว้ “ท่านแม่ทัพ ควรปิดประตูห้องก่อนนะเจ้าคะ”
แม่ทัพหนุ่มยิ้มพร้อมพยักหน้า “จริงสินะ ข้ามัวแต่หลงในความงามของเจ้าจนลืมสิ้นทุกสิ่งรอบตัว”
ร่างใหญ่รีบลุกขึ้นพลางก้าวยาวๆ มาที่ประตู ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะดึงประตูปิด จมูกพลันได้กลิ่นหอมคุ้นเคย บุรุษยื่นนิ่งอยู่สักครู่ ชั่งใจว่าจะออกมาดูดีหรือไม่ แต่แล้วเขาเพียงยักไหล่และปิดประตูอย่างไม่สนใจ
ไป่เซียงหวินที่แอบอยู่แถวนั้นค่อยๆ เดินออกมาจากมุมมืด นัยน์ตาเต็มไปด้วยความชอกช้ำเหลือคณา น้ำตารินไหลอาบแก้มแดงทั้งสอง ความเจ็บปวดท่วมท้นเต็มหัวใจ นางค่อยพาตัวเองเดินออกลงมายังชั้นล่าง ใบหน้าซีดเซียวราวคนไร้วิญญาณก็ไม่ปาน
ลี่เหลียนที่พลัดหลงกับไป่เซียงหวินหันมาเห็นนางเข้าพอดี สาวใช้รีบวิ่งเขามานายของตนด้วยความเป็นห่วง ทว่าเมื่อเห็นสภาพอิดโรยของไป่เซียงหวิน ลี่เหลียนก็ถึงกลับมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยถามว่าเกิดสิ่งใดขึ้น
“คุณหนู...”
“พาข้าออกไปจากที่นี่”
ไม่ต้องรอให้สั่งซ้ำสอง ลี่เหลียนรีบพยุงไป่เซียงหวินออกมาด้านนอกหอคณิกาโดยเร็ว
เสียงสะอื้นร่ำไห้ดังขึ้นตลอดทาง กระทั่งสตรีหยุดยืนบนสะพานไม้ แววตาล่องลอยมองไปยังสายน้ำเบื้องหน้า ความเสียใจพลันถาโถมเข้าใส่ไม่หยุดยั้ง ทรมานราวถูกแผดเผาจากเพลิงร้อนที่มองไม่เห็น
“ข้าทำสิ่งใดผิดหรือ ขอแค่เศษเสี้ยวความรู้สึกดีๆ ก็ยังไม่ได้...”
ไป่เซียงหวินเอ่ยขึ้นด้วยความน้อยใจ นางไม่เข้าใจว่าตนไม่ดีตรงไหน ไม่เข้าใจว่าทำไมชายที่นางรักถึงกล่าววาจาร้ายกาจเช่นนั้นออกมาได้ นี่เขาไม่เคยสนใจหรือกระทั่งให้เกียรตินางสักนิดเลยหรืออย่างไรกัน
ไป่เซียงหวินปล่อยให้ตัวเองดำดิ่งอยู่กับความผิดหวัง หัวใจของนางราวถูกขยี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้จะให้โอกาสและเชื่อมั่นในตัวจางฮุ่ยเหอสักเพียงใด ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงคำโกหกและใจที่ไม่เคยรักในตัวนาง
ไป่เซียงหวินสูดหายใจลึก ยังรู้สึกถึงหางตาที่ร้อนผ่าวของตน และจมูกที่แสบร้อน ใบหน้าสตรีแดงก่ำซ้ำยังเต็มไปด้วยคราบน้ำตา แต่นัยน์ตากลับสงบนิ่งเยือกเย็นมากกว่าเดิม
“ไหนเมื่อรังเกียจข้า ก็อย่าได้หวังจะแต่งงานกับข้า ข้าจะไม่ยอมเป็นรอง ไม่ยอมเป็นเพียงหุ่นปั้นที่มีเอาไว้ประดับบารมี ไม่ยอมเป็นบันไดให้เขาเหยียบขึ้นเพื่อพาตัวเองสู่ความรุ่งโรจน์อย่างเด็ดขาด”
ลี่เหลียนก้มตัวต่ำ ยื่นมือของตนไปสัมผัสกับมือของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา “ลี่เหลียนเข้าใจและเห็นใจคุณหนูนะเจ้าค่ะ แต่ว่าท่านเจ้าเมืองคงไม่...”
“ข้าจะลอยโคมในงานเทศกาลซีฮัน”
ลี่เหลียนเบิกตากว้างอย่างตกใจ “คุณหนูจะลอยโคมหรือเจ้าคะ!! แต่การลอยโคมมีเพื่อสตรีที่ยังไม่ออกเรือนหรือไร้คู่หมาย หากคุณหนูทำเช่นนี้เท่ากับหักหน้าท่านแม่ทัพนะเจ้าค่ะ”
“นั่นล่ะที่ข้าต้องการ ข้าไป่เซียงหวิน ว่าที่เจ้าเมืองคนต่อไป มีศักดิ์ศรีมากเกินว่าจะโดนกระทำเช่นนี้ หากท่านพ่อไม่ยอมให้ข้าถอดหมั้น ก็สู้ให้แตกหักกันเสียเลยดีกว่า”
น้ำเสียงเจือความโกรธอยู่หลายส่วนทำสาวใช้ข้างกายไม่กล้ากล่าวขัดต่อ
“ส่วนใครจะเก็บโคมของข้าได้ ก็สุดแล้วแต่สวรรค์จะเมตตา หากข้าคนนี้ไม่ไร้ซึ่งวาสนา อาจได้พบคนที่รักข้าจากใจจริง และเมื่อถึงตอนนั้นข้าคนนี้ก็ขอให้คำสัตย์อุทิศทั้งชีวิตเพื่อตอบแทนความรักของเขาผู้นั้นเช่นกัน”
ไป่เซียงหวินยกมือขึ้นพนมแนบอก เงยหน้าอธิษฐานขอความเมตตาจากฟ้าเบื้องบน ขอฟ้าลิขิตและมอบชายที่จงรักภักดีแก่นาง คู่แท้ที่จะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า มิใช่ชายที่เพียบพร้อมแต่ไร้ซึ่งหัวใจเหมือนจางฮุ่ยเหอ!
