บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ชอบกินหัวไก่ต้ม

บทที่ 4 ชอบกินหัวไก่ต้ม

สวีหลงเยียนใบหน้าเขียวคล้ำจ้องมองเฟิ่งฟางเซียนด้วยสายตาชิงชัง นางถึงกับกล้าทำให้เขาอับอายต่อหน้าบ่าวไพร่ถึงขนาดนี้เชียวหรือ

เฟิ่งฟางเซียนเริ่มสัมผัสได้ถึงความแข็งชูชันของแท่งเอ็นอุ่นร้อนในใต้ร่มผ้าของเขา นางรีบปล่อยมือออกทันที ในหัวนึกถึงแต่ภาพที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับนางเมื่อคืน

ไข่ใหญ่มาก!!!

ให้ตายสิ!!! นี่ข้าคิดอะไรเช่นนี้ทุเรศสิ้นดี!!!

เฟิ่งฟางเซียนถอยห่างออกมาจากสวีหลงเยียน นางไม่อยากจะพบเจอหน้าเขาด้วยซ้ำ เขาเป็นฮ่องเต้ที่จิตไม่ปกติ น่ากลัวเกินไปแล้ว

สวีหลงเยียนยกยิ้มมุมปาก เขาก้าวเท้าเข้าไปหาเฟิ่งฟางเซียน ยิ่งนางถอยหนีเขาก็ยิ่งเดินเข้าไปใกล้นางเรื่อย ๆ

"จะเดินตามหม่อมฉันมาทำไมเพคะ?"

"ที่นี่เป็นวังหลวงของข้า ข้าจะเดินไปไหนก็เรื่องของข้า"

"ถอยไปเพคะ หม่อมฉันจะกลับไปถางหญ้าต่อ"

"เจ้ากล้า!!!"

"หากคิดทุบตีหม่อมฉันอีก หม่อมฉันบีบอีกแน่!!! ครั้งนี้รับรองจะดึงให้ไข่ขาดเลยเพคะ!!!"

สวีหลงเยียนกัดฟันกรอด คิดในใจว่าฝากไว้ก่อนเถอะ!!! ก่อนจะเดินกลับตำหนักใหญ่ด้วยความหงุดหงิดใจ

ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางคิดกล้าเหิมเกริมกับเขา!!!

สวีหลงเยียนกลับมานั่งอ่านฎีกาที่เหล่าขุนนางถวายให้เขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ยามนี้ที่เขตชายแดนเกิดภัยแล้งอย่างหนัก ชาวบ้านคิดก่อกบฏปล้นชิงเสบียงจากเหล่าขุนนาง จนเกิดการจลาจลขึ้นมาขนาดย่อม สวีหลงเยียนสั่งให้ โจวอี้ องครักษ์คนสนิทรีบรุดหน้าไปตรวจตราที่เกิดเหตุทันที

ด้านหลินกุ้ยเฟยเองก็รู้สึกร้อนใจไม่น้อย ตั้งแต่นางเข้าวังหลวงมาเป็นพระสนม ฝ่าบาทไม่เคยร่วมหลับนอนกับนางเลยด้วยซ้ำ เขาเพียงแค่ถอดเสื้อผ้าและช่วยตนเองให้นางดู แล้วยังบังคับให้นางส่งเสียงครวญครางพร้อมกับยืนโยกเตียงไปมาเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเขาเพียงเท่านั้น แต่เมื่อคืนกลับมีนางกำนัลน้อยมารายงานต่อนางว่าพบสวีหลงเยียน เดินเปลือยท่อนบนออกมาจากตำหนักเย็นที่เฟิ่งฟางเซียนอาศัยอยู่ นางอยากจะเอ่ยถามให้รู้แล้วรู้รอด แต่ตอนนี้นางไม่อยากจะเคลื่อนไหวเรื่องใดให้มากนัก เพราะสวีหลงเยียนกำลังจับตาดูนางอยู่ทุกฝีก้าว นางจึงทำได้เพียงส่งคนไปลอบสังเกตการณ์ที่ตำหนักเย็นอย่างลับ ๆ

ฟ้าเริ่มมืดแล้ว เฟิ่งฟางเซียนเองก็รู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายไปหมด นางอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ แล้วจึงเดินมาที่โต๊ะอาหาร ป่านนี้หลิวหมัวหมัวคงจัดเตรียมสำรับเย็นไว้ให้นางเรียบร้อยแล้ว

เฟิ่งฟางเซียนเดินออกมาอย่างสบายใจ แต่นางกลับพบว่าสวีหลงเยียนกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้ เขายกขาขึ้นวางพาดบนโต๊ะกินข้าวของนาง จนแทบจะเตะถ้วยชามอาหารของนางให้หกอยู่แล้ว

"ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ"

เฟิ่งฟางเซียนทำความเคารพอย่างไม่เต็มใจเท่าใดนัก จะมาทำไมทุกคืนกันนะ ไม่รู้จักไปหานางสนมคนอื่น ๆ บ้าง!!!

สวีหลงเยียนปรายตามองอาหารบนโต๊ะของนางด้วยความดูแคลน มันมีแต่หัวผักกาดดองเค็ม ผัดผักกาดขาวที่มันเยิ้มจนชวนอาเจียน

"ข้ามาหาเจ้าถึงตำหนัก แต่กลับเตรียมของกินต่ำช้าเช่นนี้รอข้าหรือ!!!"

"ใครจะคิดว่าพระองค์จะเสด็จมาเล่าเพคะ ที่นี่คือตำหนักเย็น ที่พระองค์สั่งกักบริเวณหม่อมฉันอยู่นะเพคะ"

"แล้วยังไง ข้าต้องสนด้วยหรือ?"

เฟิ่งฟางเซียนหลับตาลง พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ยกเท้าขึ้นกระโดดถีบเขา ช่างกวนประสาทและโรคจิตเสียจริง ๆ !!!

สวีหลงเยียนดีดนิ้วมือจนเกิดเสียงดังครั้งหนึ่ง เหล่านางกำนัลก็พากันยกอาหารชั้นดีเข้ามา ทั้งเป็ดไก่ ผลไม้ ต่างวางเรียงรายแทนอาหารที่แสนจะไร้รสชาติของนาง เฟิ่งฟางเซียนขมวดคิ้วมุ่นจ้องมองสวีหลงเยียนด้วยสายตาไม่เข้าใจ

วันนี้เขาจะมาไม้ไหนอีก?

"มานี่!!!"

"เพคะ?"

"มาป้อนหัวไก่ให้ข้า ข้าชอบกินหัวไก่ต้ม"

เฟิ่งฟางเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาดูแคลนคราหนึ่ง เนื้อไก่เนียนนุ่มน่ากินออกปานนั้น แต่เขากลับเลือกกินหัวของมัน น่ากินตรงไหนกัน?

"มานี่!!! ชักช้าข้าจะสั่งโบยเจ้าเสีย!!!"

"เพคะ"

เฟิ่งฟางเซียนเดินเข้าไปใกล้ ๆ เขา นางใช้ตะเกียบพยายามคีบหัวไก่ขึ้นมา แต่มันกลับลื่นเสียจนนางคีบมันขึ้นมาไม่ได้ สวีหลงเยียนที่เห็นเช่นนั้นก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาทันที

"น่ารำคาญ!!! ใช้มือจับสิ ช่างโง่งมยิ่งนัก"

ไม่จับกินเองล่ะคนโรคประสาท!!!

เฟิ่งฟางเซียนทำได้เพียงลอบสบถด่าทอเขาในใจเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง นางยื่นฝ่ามือเรียวงามไปจับหัวไก่ขึ้นมา แต่ทว่าเพราะมันลื่นยิ่งนัก นางจึงพยายามจับมันเอาไว้ จนหัวไก่กระเด็นเข้าไปซุกที่ร่องอกอวบสวยของนาง

ตายแล้ว!!! หัวไก่ติดร่องนม!!!

เฟิ่งฟางเซียนพยายามจะดึงหัวไก่ออกมาจากร่องอกของนาง แต่ความลื่นของมันกลับทำให้มันยัดเข้าไปลึกกว่าเดิม

ปากไก่โผล่ออกมาจากร่องเนินอกอวบอิ่มของนาง ราวกับมันต้องการจะส่งเสียงขันกระต๊าก กระต๊าก!!!

สวีหลงเยียนอ้าปากค้างจ้องมองนางด้วยสายตาที่ตกตะลึงไม่น้อย

หัวไก่ของข้า!!!

"ฝ่าบาทเพคะ!!!"

"ดึงมันออกมาสิ!!!"

"ดึงไม่ออกเพคะมันเข้าไปลึกมากเพคะ!!!"

"หัวไก่ของข้า!!!"

"ขออภัยเพคะฝ่าบาท พระองค์ช่วยใช้ปากกัดและดึงมันออกมาทีเพคะ!!!"

เฟิ่งฟางเซียนกดศีรษะของสวีหลงเยียนแนบมาที่ร่องอกขนาดใหญ่ของนาง เนินอกอวบอิ่มกระทบกับใบหน้าของเขา กลิ่นหอมยั่วยวนผสมผสานกับกลิ่นหัวไก่ต้มช่างเย้ายวนจิตใจเขาไม่น้อย

"ฝ่าบาท อาหาร...."

ขันทีเฒ่ารีบเดินเข้ามาพร้อมกับอาหารที่สั่งจากครัววังหลวงมาเพิ่ม ภาพตรงหน้าคือฝ่าบาทของเขากำลังใช้ปากกัดกินหัวไก่ที่ตรงร่องอกขาวเนียนของเฟิ่งฟางเซียน

"ขออภัยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท กระหม่อมจะไสหัวไปเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ!!!"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel