บทที่5
สี่เดือนต่อมา
เรียนให้จบภายในสี่ปีที่ว่ายากแล้ว การหางานทำหลังเรียนจบกลับเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า มันทำให้พลอยขวัญตัดสินใจตอบรับทันทีเมื่อได้รับโทรศัพท์จากทางรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่ตัดสินใจรับเธอเข้าทำงานในตำแหน่งรีเซฟชั่น แน่นอนว่าหญิงสาวไม่มีทางเลือกมากนักแม้ว่างานใหม่หลังเรียนจบจะทำให้เธอต้องย้ายตัวเองมาอยู่ที่เชียงราย แต่นั่นกลับไม่ใช่ปัญหาสำคัญอะไรสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวที่ไร้ญาติ ขาดมิตร ใช้ชีวิตตัวคนเดียว
หญิงสาวเคยมีทุกอย่างพร้อมไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่และ ยาย แต่ความไม่แน่นอนของชีวิตก็ทำให้เธอต้องสูญเสียทุกคนไปด้วยอุบัติเหตุด้วยวัยเพียงสิบสี่ ความสูญเสียในครั้งนั้นทำให้เธอต้องย้ายไปอยู่กับญาติห่างๆ ของพ่อและแม่หลายต่อหลายคนคน จนสุดท้ายจึงตัดสินใจที่จะอยู่คนเดียว เพราะไม่อยากเป็นภาระของใคร
ส่วนฟ้าลดานั้นก็บินไปเรียนต่อที่อังกฤษกับแฟนหนุ่มทันทีที่เรียนจบ ตลอดสี่เดือนที่ผ่านมาเธอไม่เคยได้รับข่าวคราวจากเพื่อนรักอีกเลย แม้แต่ใครบางคนที่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่อาจลบภาพของเขาไปจากใจได้เลยก็เงียบหายไป นับตั้งแต่วันนั้นที่เธอบอกปัดความรับผิดชอบจากเขา เธอก็ไม่เคยเจอรเมศอีกเลย รู้มาจากเพื่อนอีกทีว่าเขากลับต่างจังหวัดเพื่อไปสานต่อธุรกิจของครอบครัว นอกเหนือจากนั้นเธอก็ไม่รู้อะไรที่เกี่ยวข้องกับเขาอีกเลย ซึ่งแบบนั้นมันคงดีที่สุดสำหรับเธอแล้วจริงๆ
หญิงสาวเดินทางมาถึงรีสอร์ท ทับตะวัน ในช่วงสายของวันตามแผนที่ที่ได้รับจากดวงเดือน ซึ่งเป็นคนโทรไปบอกข่าวดีกับเธอด้วยตัวเอง
“ไม่ต้องเกร็งนะคะน้องพลอย เจ้านายของเราใจดี ท่านคงแค่อยากทักทายเราเฉยๆ” เหมือนดวงเดือนจะมองออกว่าหญิงสาวข้างกายมีท่าทีแปลกไปเมื่อรู้ว่าเจ้านายอยากสัมภาษณ์เล็กๆน้อยๆก่อนเริ่มงานจริงพรุ่งนี้
“ค่ะพี่เดือน” พลอยขวัญตอบรับพร้อมรอยยิ้ม แม้ความจริงจะยังรู้สึกประหม่าไม่น้อยเพราะเธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้องถูกเจ้านายสัมภาษณ์จึงไม่ได้เตรียมตัวมา แต่เมื่อดวงเดือนยืนยันแบบนั้นเธอก็ค่อยรู้สึกโล่งอก
กระทั่งเมื่อมาถึงห้องๆ หนึ่งดวงเดือนก็เคาะประตูห้องก่อนที่จะเดินนำเธอเข้าไปด้านใน พลอยขวัญสูดลมหายใจเข้าคล้ายว่าจะให้กำลังตัวเองก่อนจะเดินตามอีกคนเข้าไป ทว่าภาพแรกที่ได้เห็นกลับทำให้เธอก้าวขาไม่ออกไปชั่วขณะ จนต้องหลับตาลงพร้อมภาวนาให้ภาพตรงหน้าเป็นเพียงภาพหลอนที่เธอมักจะสร้างขึ้นบ่อยๆ ยามเมื่อเผลอคิดถึงใครบางคนขึ้นมา
เขาไม่ควรมาอยู่ที่นี่!
“นี่คุณปราบจ๊ะน้องพลอย ลูกชายของคุณเขมกับคุณเอกท่าน เจ้านายสุดหล่อของพวกเรา คุณปราบคะนี่น้องพลอยค่ะ พนักงานใหม่ที่เดือนเล่าให้ฟังไงคะ” ทว่าคำบอกเล่าของดวงเดือนกลับเป็นคำตอบที่จริงเสียยิ่งกว่าจริง มันทำให้พลอยขวัญต้องค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างคนหมดทางเลือก และก็เป็นเขาจริงๆ ที่กำลังยืนอยู่ตรงเบื้องหน้าของเธอในตอนนี้
“สะ…สวัสดีค่ะคุณปราบ” แม้จะพยายามบอกตัวเองให้ทำตัวเป็นปกติ แต่มันก็ยากเย็นเหลือเกินที่จะทำมันได้สำเร็จอย่างที่ใจต้องการ ต่างจากอีกคนที่ยังคงวางตัวเย็นชาใส่ ไม่ได้มีท่าทีตกใจที่ได้เจอเธอเลยสักนิด
“ขอเราอยู่กันตามลำพังสักครู่ได้ไหมครับคุณเดือน” เป็นรเมศที่เอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม สายตาที่ใช้มองคนตรงหน้าดูห่างเหินจนคนมองเจ็บปวด
“ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นพี่ออกไปรอข้างนอกนะคะน้องพลอย” พลอยขวัญทำได้เพียงพยักหน้าตอบกลับไป อย่างคนไม่มีทางเลือก
อันที่จริงเธอไม่อยากอยู่กับเขาตามลำพังเลยสักนิด เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเขา หรือเขาจะพูดอะไรกับเธอ
“อันที่จริงรีสอร์ทของผมไม่ได้ขาดแคลนพนักงานจนถึงขั้นต้องรับเพิ่ม แต่เพราะรายชื่อของคุณถูกส่งตรงมาถึงผม ผมถึงต้องรับไว้เอาบุญ” คำพูดนั้นกัดกินใจคนฟังจนหน้าชาเมื่อได้ยิน แต่ถึงอย่างนั้นพลอยขวัญก็ยังเชิดหน้าขึ้น จะไม่ยอมให้เขาได้รู้ว่าเธอกำลังเจ็บกับคำพูดของเขาอยู่
“ถ้าคุณปราบลำบากใจดิฉันไม่ขอรับงานนี้ก็ได้ค่ะ ขอโทษที่ทำให้ต้องเสียเวลานะคะ” พลอยขวัญเอ่ยขึ้นเสียงแข็งพร้อมหมุนตัวเตรียมจะเดินออกไปจากห้องไปให้ไกลจากคนใจร้ายที่ดูถูกกันเหลือเกินแล้วไม่กลับมาอีก อันที่จริงหากรู้สักนิดว่าที่นี่เป็นที่ของเขา เธอคงไม่มาตั้งแต่แรก
“ผมพูดตอนไหนว่าลำบากใจ!” แต่เหมือนรเมศจะไม่ยอมปล่อยกันไปง่ายๆ เขาตวาดพร้อมกระชากต้นแขนของเธอเอาไว้อย่างรุนแรง รู้สึกใจหายที่อีกคนทำท่าจะเดินหนี ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะไม่มีวันยอมให้เธอทำมัน
“ฉันไม่ขอรับงานนี้ค่ะ กรุณาปล่อย!”
คนทุกคนล้วนมีศักดิ์ศรีอยู่ในตัว เมื่อเขาไม่ต้องการที่จะรับพนักงานเพิ่มอยู่แล้วเธอก็จะไม่ขอรับงานนี้ จะไม่ทนอยู่ให้เขาว่าเอาได้อีก
“ที่นี่ไม่ใช่สนามเด็กเล่นที่คุณคิดจะเข้าก็เข้า คิดจะออกก็ออกไปง่ายๆ อีกอย่างผมให้คนใส่ชื่อคุณเข้าไปในตารางงานเรียบร้อยแล้ว อย่าทำให้ทุกคนต้องเสียเวลาไปกับการเอาแต่ใจตัวเองของคุณ! อยู่ที่นี่เราทำงานกันอย่างเป็นระบบ อยู่กันแบบครอบครัว หวังว่าคุณจะไม่สร้างความวุ่นวาย” รเมศพูดรัวเร็วก่อนจะเป็นฝ่ายเดินออกไปจากห้องราวกับจะไม่ต้องการฟังคำปฏิเสธของอีกคนก็ไม่ปาน เขาลงทุนไปมากเพื่อให้เธอมาที่นี่
เพราะฉะนั้นอย่าฝันว่าเขาจะปล่อยเธอไป มันคงไม่มีวันนั้นแน่!
