บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 สุขสมอีกครา

เมื่อขึ้นคล่อมบนตัวของชายหนุ่มได้ เจียงมู่ตานก็โน้มใบหน้าไปจูบไซ้ซอกคอของเขาทันที นางขบเม้มเบาๆที่ลำคอของเขา อ๋าวเยว่ถึงกับส่งเสียงครางออกมาด้วยความเสียวกระสัน หญิงสาวตรงหน้าเหมือนต้องการหยอกเย้าเขา นางแลบลิ้นเลียลำคอของเขาก่อนจะลากปลายลิ้นโลมเลียลงมาที่เม็ดทับทิมสีแดงที่แข็งเป็นไตทั้งสองข้างบนแผงอกของเขา นางม้วนปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดเลียมันอย่างดูดดื่ม

"ซี๊ด"

อ๋าวเยว่ส่งเสียงครางออกมา เมื่อถูกมือน้อยกุมลำแม่งเอ็นร้อนและชักรูดขึ้นลงอย่างถี่ระรัว ในขณะที่ลิ้นของนางก็โลมเลียไปทั่วทั้งร่างกายของเขา

เจียงมู่ตานเลื่อนใบหน้าลงมาที่หว่างขาของชายหนุ่ม ก่อนจะครอบริมฝีปากกลืนกินท่อนเอ็นลำมังกรของเขาจนมิดลำ หญิงสาวขยับศีรษะขึ้นลงอย่างถี่ระรัว ในขณะที่มือก็สาวชักลำแท่งไม่หยุดไม่หย่อน อ๋าวเยว่ร้องครางไม่หยุด พร้อมกับยื่นมือมากดศีรษะของนางเอาไว้ก่อนจะเด้งเอวสวนขึ้นไปจนเกิดเสียงดังอ๊อกอ๊อก

เจียงมู่ตานเองก็ไม่ยอมแพ้ เขายิ่งเด้งเอวสวนนางก็ยิ่งขยับศีรษะขึ้นลงให้เร็วแรงมากขึ้น เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว นางก็เลื่อนริมปากมาดูดที่ปลายหัวหยักของเขาอย่างแรงพร้อมกับออกแรงสาวชักท่อนลำไผ่ใหญ่ยาวให้เร็วมากยิ่งขึ้น

ร่างของอ๋าวเยว่กระตุกเกร็ง ก่อนจะปล่อยน้ำรักออกมา เจียงมู่ตานรีบกลืนมันลงคอไปอย่างไม่นึกรังเกียจ

ยังไม่ทันที่นางจะได้พักหายใจให้คล่องคอ ก็ถูกเขารวบเอวบางกดลงไปกับเตียงเสียแล้ว เขาโน้มใบหน้าเข้ามาจูบนางอย่างดูดดื่ม มือหนาใหญ่ก็ซุกซนไม่น้อยเลย เขาลูบไล้เรือนกายขาวเนียนของนางอย่างชอบใจ ก่อนจะเลื่อนใบหน้ามาที่หน้าอกหน้าใจที่แสนใหญ่โตของนาง มือสากบีบเคล้นคลึงยอดดอกบัวงามจนเกิดเป็นรอยแดง ในขณะที่ลิ้นก็ตวัดแลบเลียปลายยอดถันสีหวานและดูดดึงขบเม้มมันจนเกิดเสียงดังจ๊วบๆ

"อ๊า"

เจียงมู่ตานเมื่อถูกปลายลิ้นร้ายโลมเลีย นางแอ่นอกให้เขาเชยชมอย่างไม่คิดขัดขืน พร้อมกับส่งเสียงแว่วหวานครางกระเซ่าด้วยความสุขสม

เหล่าสาวใช้ที่เฝ้าอยู่หน้าประตูไม่กล้าแม่แต่จะเข้าไปห้ามปราม เพราะเกรงว่าจะถูกเจ้านายลงโทษ ทำได้เพียงมองไปที่หน้าประตูใหญ่คอยดูต้นทางให้เจ้านาย

อ๋าวเยว่รู้สึกว่าร่างกายนี้ช่างยั่วยวนยิ่งนัก เขาอยากจะทรมาณนางให้มากเสียหน่อย หยอกเย้านางอยู่เช่นนี้ตลอดทั้งคืน

ชายหนุ่มลากเลียปลายลิ้นมาจนถึงหว่างขาของนาง ก่อนจะค่อยๆสอดนื้วร้อนเข้าไปในรูรักของหญิงสาวทีละนิ้ว แล้วจึงค่อยๆขยับเข้าออกช้าๆและเร่งจังหวะให้ถี่ระรัวมากยิ่งขึ้น

"อ๊า อื้อ"

เจียงมู่ตานเริ่มส่งเสียงครางดังมากขึ้น นางเสียวเสียจนร่างกายบิดเร่า สองมือกำผ้าปูเตียงเอาไว้แน่น เมื่อเขาเห็นว่านางใกล้จะสุขสมแล้วก็เร่งจังหวะนิ้วมือให้รัวแรงมากยิ่งขึ้น ในขณะที่ริมฝีปากหนาใหญ่ก็ดูดหน้าอกหน้าใจของนางไม่ยอมหยุด

เจียงมู่ตานร่างกายกระตุกเกร็งหลายครั้ง น้ำหวานสีใสไหลออกมาจากรู้สวยจนเปียกชุ่มไปทั่วทั้งมือของเขา ชายหนุ่มยกมือขึ้นมาก่อนจะใช้ปากดูดน้ำหวานจากนิ้วมือของตนอย่างเอร็ดอร่อย

ไม่รอให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ เขาแทรกกายเขามาที่หว่างขาของนาง ก่อนจะบดเบียดท่อนเอ็นลำมังกรเข้ามาจนมิดลำ เจียงมู่ตานเบ้หน้าเพราะรู้สึกคับแน่นและเสียวกระสัน

อ๋าวเยว่ค่อยๆขยับร่างกายช้าๆก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วยิ่งขึ้น เขารู้สึกสบายตัวเป็นอย่างมาก

เขาจับเรียวขางามของนางแยกออกจากกันจนกว้าง ก่อนจะขยับสะโพกสอบกระแทกกระทั้นเข้าออกไม่หยุดจนเกิดเสียงดังลามก เจียงมู่ตานเสียวจนร้องครางออกมาไม่หยุด มันลึกมาก ลึกเสียจนนางจุกท้องน้อยจนหายใจไม่ออก

"ซี๊ด แน่น"

"อ๊า เสียว"

คนทั้งสองส่งเสียงครางออกมาไม่หยุด เตียงไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าดตามจังหวที่พวกเขาขยับร่างกาย

อ๋าวเยว่ประคองร่างบางให้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง เจียงมู่ตานยื่นสองแขนไปโอบรอบลำคอของเขาอย่างไม่ขัดขืน ก่อนที่คนทั้งสองจะจูบกันอย่างดูดดื่ม ชายหนุ่มนอนราบลงไปบนเตียง โดยให้หญิงสาวนั่งคล่อมอยู่บนกาย เจียงมู่ตานเองก็รู้งาน นางขยับท่าทางให้เข้าที่ ก่อนจะเริ่มร่อนเอวขยับขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ ท่าทางของนางงดงามราวกับวิหกกำลังถลาเล่นลม เสียงครางก็เหมือนกับเสียงพิณที่แสนไพเราะ นั่นยิ่งทำให้อ๋าวเยว่สติล่องลอยเสียวสะท้านจะไม่อาจยับยั้งชั่งใจได้อีกต่อ

เขายื่นสองมือไปจับรั้งเอวบางของนางเอาไว้ ก่อนจะเด้งเอวกระแทกขึ้นไป เจียงมู่ตานทั้งจุกทั้งเสียว จึงส่งเสียงร้องครางลั่นห้องจนเสียงดังไปถึงข้างนอก

ร่างบางกระตุกเกร็ง นางแตะแดนสวรรค์อีกแล้ว นางเริ่มหายใจเหนื่อยหอบเพราะความสุขสมที่มากจนแทบล้นทะลัก

อ๋าวเยว่พลิกร่างของเจียงมู่ตานให้หันหลังและนั่งคุกเข่าโน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมกับเยียดขาข้างหนึ่งมาข้างหลัง ก่อนที่เขาจะคุกเข้าคล่อมขาข้างที่นางเหยียดเอาไว้และบดเบียดความเป็นชายเข้าไปในช่องทางรักของนางจนมิดด้าม

เขายกมือขึ้นฟาดบั้นท้ายของนางจนเกิดรอยแดง ในขณะที่เอวหนาใหญ่กระแทกกระทั้นเข้าออกไม่หยุด เจียงมู่ตานเสียวสะท้านจนอยากกรีดร้องออกมา ร่างของนางขยับขึ้นลงเป็นจังหวะเร็วแรง เขาทำนางเสียวสะท้านเสียจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว

"โอว"

"อร๊าย"

เจียงมู่ตานเสร็จสมอารมณ์หมายอีกรอบแล้ว ยามนี้นางเริ่มอ่อนแรงอยากจะผลักเขาออก แต่คนตรงหน้าดูเหมือนจะมีเรี่ยวแรงมหาศาลไม่ยอมปล่อยให้นางหลุดออกไปจากพันธนาการของเขาได้

อ๋าวเยว่พลิกร่างบางให้นอนหงายบนเตียง ก่อนและดันท่อนเนื้อท่อนเอ็นใหญ่ยาวเข้ามาอีกหน เขาจับรั้งเอวบางของนางเอาไว้ ก่อนจะเพิ่มแรงกระแทกกระทั้นเข้าสุดลำออกสุดลำอย่างไม่ออมแรง

"อ๊า ไม่ไหวแล้ว อื้อ"

"โอว จะเสร็จแล้ว"

เจียงมู่ตานร้องครวญครางแว่วหวานด้วยความสุขสม ร่างบางกระตุกถี่ๆ หลายครั้ง ในขณะที่อ๋าวเยว่ก็ร่างกายกระตุกเกร็ง เขาปล่อยน้ำรักเข้าไปในรูสวยของนางจนชุ่มฉ่ำ ก่อนจะทิ้งกายลงนอนข้างกายของนางพลางหายใจเหนื่อยหอบ

กิจกรรมแห่งความเสียวสยิวผ่านไปรวดเร็วนัก เจียงมู่ตานยกมือขึ้นเช็ดบนหน้าของตน พลางมองไปทางชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างกาย

เขาเองก็เสียวแทบบ้าเช่นกัน ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาก่อนจะเอ่ยกับนางโดยที่ไม่ยอมมองหน้าอีกฝ่าย

"สาแก่ใจเจ้าแล้วหรือยัง"

เจียงมู่ตานหันไปมองเขา ก่อนจะยิ้มตาหยี

"สาแก่ใจมากเลย"

นางเอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้านทำเอาอ๋าวเยว่ถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก คนทั้งสองรีบสวมใส่เสื้อผ้า เขาเองก็ไม่อยากอยู่ที่นานนัก เพราะเกรงว่ามันอาจจะมีครั้งที่สามตามมา ในขณะที่กำลังจะก้าวออกจากเรือนของนาง เจียงมู่ตานก็คว้ามือของเขาเอาไว้ เมื่อเขาหันกลับไปมองก็พบว่านางเอาตั๋วเงินปึกหนึ่งยัดใส่มือของเขา อ๋าวเยว่พยายามจะคืนให้แต่นางกลับไม่ยอม

"ข้าไม่ต้องการ"

"เอาไปเถอะน่า วันนี้ลำบากเจ้าอีกแล้ว ข้าเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น เอาเป็นว่านี่คือค่าตัวของเจ้า ครั้งนี้ข้าเพิ่มเงินให้ หากเจ้าร้อนเงินก็มาหาข้าได้ทุกเมื่อ ไม่ต้องเอาตัวมาบำเรอข้าก็ได้ ข้ายินดีช่วย"

เอ่ยจบนางก็เดินกลับเข้าไปในห้องพลางร้องเพลงอย่างอารมณ์ดี

เมื่อออกมาจากจวนตระกูลเจียง องค์รักษ์ก็มองเห็นรอยแดงที่ลำคอของเจ้านายตน แต่กลับไม่กล้าเอ่ยปากถาม อ๋าวเยว่ที่เห็นว่าองค์รักษ์ข้างกายเอาแต่มองเขาไม่หยุด จึงเอ่ยถามอย่างไม่ชอบใจ

"มองอันใดนักหนา"

องค์รักษ์ยิ้มแห้งก่อนจะขยับเข้ามาใกล้และกระซิบถามเขา

"ฝ่าบาท ท่านถูกคุณหนูเจียงทำมิดีมิร้ายอีกแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ"

อ๋าวเยว่ถึงกับเอ่ยวาจาใดไม่ออก เขามององค์รักษ์ด้วยแววตาเย็นชา จนคนถูกมองขนลุกขนชัน

"คนเช่นข้า นางสามารถทำมิดีมิร้ายได้หรือ!"

"พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมผิดไปแล้ว"

"เหอะ"

เอ่ยจบอ๋าวเยว่ก็รีบกลับวังหลวงในทันที เมื่อกลับมาถึงเขายังคงได้กลิ่นหอมอ่อนจากกายของนาง จิตใจของชายหนุ่มเริ่มสั่นไหวขึ้นมา

ในขณะที่จิตใจของเขาไม่ค่อยสงบ ก็มีขันทีเข้ามารายงานว่า ไทเฮาต้องการพบเขา

เมื่อเข้ามาที่ตำหนักของไทเฮาก็พบว่าตอนนี้เสด็จพ่อของเขาก็อยู่ด้วย

อวิ๋นไทเฮาคือมารดาเแท้ๆของเขา หลังจากเสด็จพ่อมอบบัลลังก์ให้กับเขา สองสามีภรรยาก็ใช้ชีวิตด้วยกันอย่างสุขสงบ

อวิ๋นไทเฮาที่เห็นว่าลูกชายมาแล้ว ก็รีบสั่งให้คนยกชาชั้นดีเข้ามา ก่อนจะเอ่ยกับลูกชาย

"อาเยว่ เจ้ามาพอดีเลย แม่กำลังปรึกษากับเสด็จพ่อของเจ้าว่าจะจัดงานชมบุปผา เชิญเหล่าคุณหนูจากตระกูลใหญ่มาร่วมงาน อีกทั้งยังถือโอกาศนี้เลือกฮองเอาและพระสนมให้เจ้าด้วย"

อ๋าวเยว่เพียงยิ้งเล็กน้อย อย่างไรเรื่องนี้ขาย่อมหนีไม่พ้น ฮ่องเต้มีภาระหน้าที่ที่ควรทำ การแต่งตั้งฮองเฮาและสนมก็ถือเป็นภาระหน้าที่หนึ่งเช่นเดียวกัน

อยู่ๆเขาก็คิดเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้

งานชมบุปผาครั้งนี้ แน่นอนว่าเจียงมู่ตานจะต้องมาร่วมงานด้วย หากนางรู้ว่าเขาเป็นฮ่องเต้นางจะทำหน้าเช่นไรกันนะ?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel