บทที่ 3 ร่ำสุรา
อ๋าวเยว่จนปัญญาจะทัดทานเจียงมู่ตาน อีกอย่างตอนนี้ก็มีคนมองพวกเขาอย่างไม่ละสายตา เขาไม่ชอบความวุ่นวายและไม่ต้องการให้ตนเองเป็นจุดสนใจ ชายหนุ่มจึงยอมทำตามที่เจียงมู่ตานต้องการ นั่นก็คือไปดื่มสุราที่จวนตระกูลเจียง
องค์รักษ์ที่ติดตามมาด้วยพยายามส่งสายตาเป็นเชิงบอกว่าทำเช่นนี้คงไม่ดี อีกอย่างหากแม่ทัพใหญ่เจียงอยู่ในจวนด้วย ความจริงอาจจะถูกเปิดเผย แต่อ๋าวเยว่กลับไม่ใส่ใจ เปิดเผยสิดี นางจะได้รู้จักที่ต่ำที่สูง ต่อไปจะได้ไม่กล้ามาตอแยหรือวุ่นวายกับเขาอีก
ที่สำคัญนางจะได้เลิกเข้าใจผิดว่าเขาเป็นชายงามในหอคณิกาชายเสียที
เขาไม่เคยรู้สึกอัปยศอดสูเช่นนี้มาก่อนจนกระทั่งได้มาพบกับเจียงมู่ตาน
เจียงมู่ตานพาอ๋าวเยว่เข้ามาในจวนตระกูลเจียง ที่นางกล้าพาเขาเข้ามาเวลานี้ก็เพราะตอนนี้บิดาของนางไม่ได้อยู่ในจวน กว่าจะกลับมาก็คงเป็นเวลาเย็นย่ำ
หญิงสาวหันไปสั่งให้สาวใช้นำน้ำแกงอย่างดีและสุราชั้นเลิศมา อีกทั้งยังบอกให้ทำอาหารเลิศรสมาหลายจาน เสร็จแล้วก็ให้เอาไปวางไว้ในเรือนของนาง สาวใช้น้อมรับคำ อีกทั้งยังลอบมองอ๋าวเยว่เป็นระยะ และยังมีท่าทีขวยเขินไม่น้อยเลย
เมื่อสั่งการสาวใช้เรียบร้อยแล้ว นางก็เดินเข้ามาหาอ๋าวเยว่ ก่อนจะเอ่ยกับเขา
"ข้าจะพาเจ้าเดินชมภายในจวนตระกูลเจียงของข้า จวนของพวกเราน่ะแม้จะเป็นจวนแม่ทัพ การตกแต่งอาจจะไม่ค่อยประณีตงดงามเท่าจวนอื่น แต่กว้างขวางเป็นอย่างมาก เจ้าดูสิ เรือนนั้นงามมาก ใหญ่โตด้วย เจ้าชอบหรือไม่ หากชอบข้าจะให้สาวใช้ไปทำความสะอาด ไว้รอเจ้าย้ายเข้ามาอยู่แล้ว ข้าจะไปหาเจ้าทุกวัน พวกเราจะนอนชมพระจันทร์ ชมหิ่งห้อย อ่านตำรา ดีดพิณด้วยกัน ดีหรือไม่"
"ไม่ดี"
อ๋าวเยว่ตอบโดยไม่ต้องคิดให้มากความ เจียงมู่ตานทำเหมือนไม่ได้ยินและยังคงพูดต่อไป
"อย่าเพิ่งใจร้อนด่วนปฏิเสธนักสิ เจ้าควรดีใจที่ได้พบเจอคุณหนูอย่างข้า นี่คุณหนูจวนอื่นคงจ่ายให้เจ้าหนักมากสินะ เจ้าจึงไม่ยอมอ่อนให้ข้าเช่นนี้ คิดจะเพิ่มค่าตัวหรือ ได้ ไม่มีปัญหา เจ้ามาอยู่กับเข้าก่อน ข้ารวยกว่าพวกนางอีก ส่วนบิดาข้าน่ะเจ้าไม่ต้องกังวล เจ้าเป็นคนของข้าแล้วต่อไปไม่ต้องกลัวพ่อข้า ให้ตายสิ ยามไม่พอใจหน้าเจ้ายังหล่อเหลามากเลย"
นางยื่นมือมาเชยปลายคางของเขาอย่างถือวิสาสะ องค์รักษ์ถึงกับหน้าถอดสี กลัวว่าฝ่าบาทจะทนไม่ไหวชักมีดขึ้นมาแทงคนเข้า
แต่อ๋าวเยว่กลับไม่ลงมือ เขารู้ว่ายามนี่ไม่อาจลงมือส่งเดชได้ แม่ทัพใหญ่เจียงมีความดีความชอบ หากเขาฆ่านางนั่นไม่เท่ากับว่าสร้างศัตรูหรอกหรือ
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่พูดไม่จา เจียงมู่ตานก็อารมณ์ดียิ่ง นางลากเขาไปที่เรือนของตนโดยไม่สนใจสีหน้าของเขา อีกทั้งยังบอกว่าอยากดื่มสุรากับเขาตามลำพัง ให้สหายของเขารออยู่ที่ศาลารับลม ไม่นานจะพาเขามาส่งคืน
อ๋าวเยว่เองก็อยากรู้เช่นกันว่านางคิดจะทำอะไร หากนางคิดจะลงมือทำร้ายเขาแน่นอนว่าย่อมเป็นเรื่องยาก และเขาเองก็ไม่มีทางยอมให้นางทำร้ายเขาได้โดยง่าย
เขาเดินตามนางเข้ามาในเรือน พบว่าภายในห้องจุดกำยานกลิ่นดอกสาลี่เอาไว้ กลิ่นของมันหอมและทำให้รู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย ภายในห้องตกแต่งได้อย่างดงามไม่น้อยเลย เพียงเท่านี้เขาก็มองออกแล้วว่าแม่ทัพใหญ่เจียงรักและถนอมบุตรสาวมากเพียงใด
ตามใจจนนางเสียคนไปแล้ว!
"นั่งสิ ดื่มน้ำแกงบำรุงก่อนดื่มสุราจะได้ไม่เมา นี่เป็นสูตรของข้า แม่ครัวจวนข้าทำน้ำแกงได้เลิศรสมาก ท่านลองชิมดู"
อ๋าวเยว่ยังคงนั่งเฉยไม่แม้จะยื่นมือมายกถ้วยน้ำแกงขึ้นดื่มตามคำเชิญชวนของนาง เจียงมู่ตานเมื่อเห็นเช่นนั้นจึงเอียงคอมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างหยอกเย้า
"ไม่ต้องกลับ ข้าไม่วางยาพิษเจ้าหรอกน่า ใครจะวางยาพิษคนหล่อได้ลงคอกัน ข้าดื่มให้เจ้าดูก่อนก็ได้"
ว่าแล้วนางก็ยกถ้วยน้ำแกงขึ้นดื่มจนหมด ก่อนจะคะยั้นคะยอเขาให้ดื่มตาม อ๋าวเยว่รำคาญเต็มทน เขาจึงยกถ้วยน้ำแกงขึ้นมาดื่มให้มันจบๆไปเสีย
เจียงมู่ตานยิ้มตาหยี ก่อนจะเทสุราให้เขาและดื่มด้วยกัน อีกทั้งยังให้เขาลองชิมอาหารในจวนนางดู อ๋าวเยว่เอือมระอาเต็มทน อาหารพวกนี้ สุราดีเหล่านี้ ในวังหลวงล้วนมีพร้อมสรรพ เขาได้กินจนเบื่อแล้ว
แต่เพราะนางไม่รู่ว่าเขาเป็นใครจึงคะยั้นคะยอให้เขากินไม่หยุด
หลังจากที่นั่งสนทนาอย่าวไร้สาระกันพอสมควรแล้ว อ๋าวเยว่ก็คิดว่าเขาควรจะกลับเสียที แต่ทว่าอยูาๆ เขาก็รู้สึกร้อนไปทั่วทั้งร่างกาย อาการเหมือนกับคืนนั้นไม่มีผิด
ชายหนุ่มปรายตามองเจียงมู่ด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะเอ่ย
"เจ้าวางยาข้าหรือ!"
เจียงมู่ตานงงงวยถึงขีดสุด นางก็ดื่มน้ำแกงหม้อเดียวกับเขาแต่ไม่เห็นว่าจะเป็นอันใดเลยแม้แต่น้อย
"ข้าไม่ได้วางยาเจ้านะ เหลวไหลสิ้นดี!"
เอ่ยจบนางก็เรียกสาวใช้เข้ามาสอบถามว่าในน้ำแกงใส่สมุนไพรประหลาดใดเข้าไปหรือไม่ สาวใช้รีบเอ่ยตอบว่าน้ำแกงนี้พวกนางคิดว่าคุณหนูจะดื่มคนเดียว ไม่คิดว่จะให้ชายหนุ่มผู้นี้ดื่มด้วยจึงใส่สมุนไพรเพิ่มเข้าไปมากหน่อย สำหรับคุณหนูแล้วน้ำแกงถ้วยนี้เป็นยาบำรุง แต่หากบุรุษดื่มจะออกฤทธิ์กลายเป็นยาปลุกกำหนัด
เจียงมู่ตานถึงกับยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว เดิมทีวันนี้นางแค่อยากชวนเขามาร่ำสุราด้วยกัน แต่ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น นางรีบไล่สาวใช้ออกไปก่อนจะเดินเข้ามาหาอ๋าวเยว่
"อาเยว่ ข้าไม่รู้ว่าน้ำแกงนี้หากบุรุษดื่มเข้าไปจะกลายเป็นยาปลุกกำหนัด เอาอย่างนี้ เจ้าเข้าด้านในก่อน ข้าจะเอาน้ำแข็งมาให้เจ้าแช่ในอ่างอาบน้ำ"
อ๋าวเยว่ส่งเสียงเหอะออกมา ก่อนจะเอ่ย
"ไม่ต้องแช่หรอกน้ำแข็ง"
"หา"
ไม่รอให้นางได้เอ่ยถามอะไร เขาก็อุ้มนางขึ้นพาดบ่า ก่อนจะโยนนางลงไปนอนบนเตียง และโน้มกายเข้ามาคล่อมตัวนางเอาไว้ เจียงมู่ตานจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าตาปริบๆ ก่อนจะเอ่ยถาม
"ไหนท่านบอกว่า ไม่อยากเข้าใกล้ข้า"
"ข้าเลือกได้หรือ!"
เอ่ยจบเขาก็จูบนางอย่างดูดดื่ม เจียงมู่ตานพยายามผลักเขาออกเพราะนางหายใจไม่ออก แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอม เขาดึงทึ้งเสื้อผ้าของนางออก ก่อนจะถอดเสื้อผ้าของตนเองออกด้วยอีกคน
เจียงมู่ตานเริ่มหน้ามืดตาลาย นางมองแผงอกล่ำสันของชายหนุ่มด้วยแววตาหลงใกล ก่อนจะยื่นมือน้อยๆไปลูบที่แผงอกของเขาอย่างชื่นชม นางชอบเขาจริงๆ เกิดมายังไม่เคยพบเจอใครที่ชวนมองขนาดนี้มาก่อนเลย
อ๋าวเยว่ที่ถูกมือขาวนวลเนียนลูบไล้ไปทั่วทั้งร่างกายก็ส่งเสียงครางออกมา มือของนางเหมือนน้ำแข็งที่ทำให้เขารู้สึกเย็นสบายเป็นอย่างมาก
คนทั้งสองสบตากัน ก่อนที่นางจะยื่นมือมาประคองใบหน้าของเขาเอาไว้
"ให้ข้าช่วยเจ้าเถอะ"
เอ่ยจบนางก็เป็นฝ่ายกายพลิกขึ้นมานั่งคล่อมอยู่บนตัวเขา
