บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ถามชื่อแซ่

เมื่อเจียงมู่ตานออกมาจากห้องได้นางก็ตรงไปหามามาผู้ดูแลหอชายงามแห่งนี้ทันที ตอนนี้นางปิดบังใบหน้าสวมชุดเป็นบุรษ จึงต้องดัดเสียงเป็นบุรุษ สอบถามว่าในสุรามียาปลุกกำหนัดหรือไม่ มามายิ้มหวานบอกว่าจะเรียกว่ายาปลุกกำหนัดก็ไม่ถูกต้อง เพราะว่ามันคือสมุนไพรบำรุงกำลัง ดื่มแล้วจะทำให้มีอารมณ์ อาจจะเพราะใส่มากไปสักหน่อยทำให้ออกฤทธิ์แรงเกินไป อีกทั้งยังถามนางว่าคณิกาชายผู้นั้นถูกใจนางหรือไม่

เจียงมู่ตานไม่ตอบแต่กลับเดินจากไปทันที

เท่ากับว่าสุรานั่นไม่มีสิ่งใดผิดปกติ

ด้านอ๋าวเยว่เมื่อแต่งกายเสร็จเรียบร้อยแล้วก็สั่งให้คนไปสืบต้นตอของสุรานั้นแต่กลับไม่พบความปิดปกติอันใดเข่นเดียวกัน

เขายกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว ก่อนหน้านี้เพราะความอยากเที่ยวจึงทำให้พลาดท่า เขาอุตส่าห์ปลอมเป็นชายงามเพื่อมาตรวจดูเรื่องราวทุกอย่างด้วยตนเอง อีกทั้งที่นี่ก็มีคนของเขาแฝงตัวอยู่ทุกที่ในเมืองหลวงมีทหารลับปะปนอยู่ทุกหย่อมหญ้าเพื่อสืบความเป็นไปในเมืองหลวงให้เขาทราบ เพื่อที่เขาจะได้รู้ว่ามีขุนนางชั่วคนไหนคิดคิดบ้าง

เขาพรูลมหายใจออกมา ก่อนจะเร้นกายกลับเข้าวังหลวงในทันที เมื่อกลับมาถึงก็อาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์และพักผ่อน แต่กับนอนไม่หลับเพราะเอาแต่คิดถึงสิ่งที่เขาและสตรีนางนั้นกระทำร่วมกัน

นางแต่งกายเป็นบุรุษได้แนบเนียนไม่น้อยเลย หากไม่ใชเ่พราะดื่มสุราที่มีปัญหาเข้าไปยอมไม่เปิดเผยตัวตนเป็นแน่

"ฝ่าบาท"

เสียงขององค์รักษ์ลับเรียกสติให้เขาละจากความคิดที่ไร้สาระ ชายหนุ่มหันมามององค์รักษ์ของตน ก่อนจะเอ่ย

"สืบได้ความใดบ้าง ตามนางไปทันหรือไม่"

"พ่ะย่ะค่ะ นางเข้าไปในจวนตระกูลเจียง เมื่อนางกลับเข้าจวนก็มีสาวใช้เข้ามาหาซ้ำยังเอ่ยเรียกนางว่าคุณหนู ดูเหมือนสตรีนางนั้นจะเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของแม่ทัพใหญ่เจียง"

"แม่ทัพใหญ่เจียงหรือ"

"พ่ะย่ะค่ะ ได้ยินว่าคุณหนูเจียงผู้นี้เป็นคนรักสนุก นางถึงกับลงทุนปิดหอคณิกาชายเพื่อดูบุรษร่ายรำ แต่กลับไม่เคยซื้อตัวใครมานอนด้วย อีกทั้งยังชอบเข้าไปหาความสำราญที่โรงพนันและร้านสุรา ทำสิ่งที่สตรีทั่วไปไม่กระทำกันพ่ะย่ะค่ะ"

ทำสิ่งที่สตรีทั้วไปไม่กระทำกันอย่างนั่นหรือ เหอะ!

"ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าออกไปเถอะ"

"ให้จับตาดูนางหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"

"ไม่ต้อง นางไม่รู้ว่าข้าเป็นใครย่อมไม่ใช่ปัญหา"

"พ่ะย่ะค่ะ"

เมื่อคนจากไปแล้ว อ๋าวเยว่ก็ทิ้งกายลงนั่งบนเก้าอี้ ก่อนจะครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ดูเหมือนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้จะเป็นเพียงความบังเอิญไม่ได้มีใครคิดจะทำลายเขา

บัลลังก์มังกรเปรียบเสมือนดาบสองคม แม้เขาจะครองราชย์มาหนึ่งปี เหล่าขุนนางดูเหมือนจะสนับสนุนแต่กลับไม่ได้จริงใจอย่างที่คิด มีบางคนที่ลักลอบทำเรื่องไม่ดีลับหลังเขามากมาย แม้เขาจะจัดการลงโทษไปได้ไม่น้อยแล้ว แต่ก็ยังคงไม่อาจวางใจลงได้

ด้านเจียงมู่ตานเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วก็รีบอาบน้ำผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะทิ้งกายลงนอนพัก

เช้าวันต่อมา ในขณะที่นางกำลังลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีบางอย่างกำลังจ้องมองนางอยู่

เมื่อมองให้ชัด เจียงมู่ตานก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย นางลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะอุ้มเจ้าห่านสีขาวตัวใหญ่ขึ้นมากอดเอาไว้

"หมานหมาน เจ้ามาแล้วหรือ เมื่อคืนข้าง่วงนอนมาก ก็เลยไม่อยู่เล่นกับเจ้า เจ้าอย่าโกธรข้าเลยนะ"

เจ้าห่านส่งเสียงร้องออกมาอย่างออดอ้อน เจียงมู่ตานยิ้มหวานก่อนจะอุ้มมันมานั่งกินอาหารด้วย หนึ่งคนหนึ่งห่านกินอาหารร่วมกันอย่างสุขใจ

นางเพิ่งจะตักอาหารเข้าปากได้ไม่กี่คำ ก็ได้ยินเสียงของบิดาเอ่ยขึ้นมา

"มู่ตาน เจ้านี่ช่างดีนักนะ สมบัติข้าวายวอดหมดก็เพราะเจ้าเอาไปเลี้ยงพวกคณิกาชายบัดซบนั่น ข้าจะไปเผาหอคณิกาของพวกมันเสีย"

เจียงมู่ตานถึงกับกลอกตาไปมา นางยกมือขึ้นแคะุหูอีกทั้งยังทำท่าทีว่ารำคาญเสียเต็มประดา

แม่ทัพใหญ่เจียงที่เห็นว่าบุตรสาวไม่มีทีท่าว่าจะสำนึกผิดเลยแท้แต่น้อยก็เริ่มอารมณ์ขึ้น เขาตรงเข้าไปหมายจะฟาดนางสักครั้ง แต่ยังไม่ทันได้เข้าใกล้เจียงมู่ตาน เจ้าห่านสีขาวนามว่าหมานหมานก็กระพือปีกจ้องเขาเขม็ง

แม่ทัพใหญ่เจียงชะงักฝีเท้า ก่อนจะยกมือขึ้นชี้หน้าห่าน

"เจ้าห่านสารเลว เจ้าจะตีข้าหรือ"

ห่านสีขาวส่งเสียงร้องเหมือนไม่ยินยอม แม่ทัพใหญ่เจียงมือสั่นปากสั่น ก่อนจะหันไปเอ่ยกับบุตรสาว

"ครั้งนี้เจ้าเอาเงินไปใช้สิ้นเปลืองข้าจะตัดเบี้ยหวัดเจ้า มู่ตาน เจ้าทำตัวให้เหมือนสตรีทั่วไปบ้างเถอะ แม้แคว้นของเราจะเปิดกว้างแต่ข้าไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่เจ้าเข้าออกหอชายงามเป็นบ้านหลังที่สองเช่นนี้!"

เจียงมู่ตานถอนหายใจออกมา ก่อนจะเอ่ย

"ท่านพ่อ ขามีเรื่องจะสารภาพ"

"เรื่องใด"

"เมื่อคืนข้าไปนอนกับบุรุษคนหนึ่งมา ข้าไม่รู้จักชื่อเขา ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร รู้เพียงว่าเขาเป็นคณิกาชาย แต่ข้าคิดว่าคงไม่มีครั้งที่สองแล้ว ท่านอย่าตีข้าเลย ตีไปก็เอาคืนมาได้ได้ ข้าเสียตัวไปแล้ว"

เอ่ยจบนางก็ทำท่าทีเหมือนเศร้าใจยิ่งนัก แม่ทัพใหญ่เจียงถึงกับแน่นหน้าอก หน้าเริ่มมืด

"เจ้าเสียตัวให้ใครก็ไม่รู้หรือ"

"เจ้าค่ะ แต่หล่อมาก"

นางเอ่ยจบก็ทำท่ายกนิ้วโป้งให้บิดาดู

แม่ทัพใหญ่เจียงกำหมัดแล้ว จะตีบุตรสาวก็ไม่ได้เพราะห่านบัดซบมันจ้องอยู่ เขาจึงเอาโทสะทั้งหมดไปลงกับต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้ด้านหลังจวน ต้นไม้ทั้งหลายต้นถูกฟันทิ้งจนขาดกระจุย

อีกทั้งสองวันต่อมา หอคณิกาชายก็เกิดเพลิงไหม้ แม้ทางการจะจับตัวคนร้ายไม่ได้ แต่เจียงมู่ตานมีหรือจะไม่รู้ว่านี่เป็นฝีมือของบิดาตน

เห้อ สถานที่เที่ยวเล่นถูกทำลายไปอีกหนึ่งแห่งแล้ว

นางยกถ้วยชาขึ้นดื่ม ในใจรู้สึกคิดถึงชายหนุ่มรูปงามคนนั้นยิ่งนัก นางชบเขาจริง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ชอบนางเอาเสียเลย และนางเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นเช่นไรบ้าง หอคณิกาถูกเผาไปแล้วเขาจะไปทำมาหากินที่ไหนนะ

เห้อ อยากอุปถัมภ์เสียจริง

นั่งอยู่แต่ในจวนก็รู้สึกเบื่อหน่าย เจียงมู่ตานจึงอุ้มเจ้าห่านตรงไปที่เรือนใหญ่ พร้อมกับของเงินบิดา แต่บิดาไม่ให้ นางจึงแกล้งบอกว่าผีท่านแม่ยืนอยู่ข้างหลัง เมื่อบิดาหันไปมองนางก็คว้าตั่วเงินหลายพันตำลึงมาถือเอาไว้และวิ่งอุ้มห่านออกจากจวนไปอย่างรวดเร็ว แม่ทัพใหญ่เจียงกระทืบเท้าเร่าๆ รู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ

เวรกรรมอันใดกันเขาจึงมีบุตรสาวบัดซบเช่นนี้!

ชายวัยกลางคนมองไปโดยรอบ ก่อยจะเอ่ยขึ้นมา

"เมียรัก เจ้าตายไปแล้วอย่ามาหาข้านะ ข้ากลัว"

เอ่ยจบเขาก็รีบเดินออกมาจากเรือนใหญ่ มุ่งหน้าไปห้องตำราในทันที

ด้านเจียงมู่ตานนั้น นางอุ้มห่านเดินออกมาจากจวน จวนตระกูลเจียงอยู่ใกล้ตลาด ไม่ต้องใช้รถม้าให้วุ่นวาย นางเดินมาตามทางเรื่อยๆ ไม่ได้พาสาวใช้ติดตามมาด้วยแม้แต่คนเดียว

เหล่าชาวบ้านต่างมองนางด้วยแววตาที่เป็นมิตร เพราะนางไม่ถือตัว เจอใครก็ทักทายไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าหรือเถ้าแก่ ทำให้ผู้คนชอบนางเป็นอย่างมาก แม้ชื่อเสียงนางจะไม่ค่อยดี เพราะชอบเที่ยวเตร่ แต่พวกเขากลับทำเป็นมองข้ามมันไปเสีย

"คุณหนูเจียง วันนี้อยากลองชิมหมั่นโถวหรือไม่"

"ท่านป้า วันนี้ข้าเหมาหมดแเลย ท่านเอาไปแจกเด็กๆนะ"

"จ้า"

แม่ค้าหมั่นโถวพยักหน้ารับด้วยความดีใจ เจียงมู่ตานยิ้มตาหยี ก่อนจะหยิบหมั่นโถวลูกหนึ่งมากินและแบ่งให้เจ้าห่านหมานหมานครึ่งหนึ่ง

เดินอยู่นาน จนกระทั่งมาถึงร้านน้ำชาเล็กๆร้านหนึ่งนางจึงแวะเข้าไป ในขณะที่กำลังจะยกถ้วยชาขึ้นดื่ม สายตาของนางก็เหลือบไปเห็นคนผู้หนึ่งเข้า

นั่นใช่ชายงามในหอคณิกาชายที่หลับนอนกับนางเมื่อหลายคืนก่อนหรือไม่

เจียงมู่ตานจำเขาได้ แม้วันนี้เขาจะแต่งกายดูดีกว่าคืนนั้น แต่นางก็จำเขาได้ เขาหล่อมาก

ดูท่าคงจะมีคนซื้อตัวไปเลี้ยงดูแล้วสินะ เสื้อผ้าที่สวมใส่จึงดูดีไม่น้อยเลย แม้จะดูราบเรียบแต่ฝีเข็มปักกลับละเอียดประณีตเป็นอย่างยิ่ง

อยู่ๆเจียงมู่ตานก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมา นางยกถ้วยชาขึ้นดื่ม ก่อนจะอุ้มห่านเดินตรงไปหาเขา

อ๋าวเยว่ที่กำลังนั่งดื่มชาเมื่อเห็นเจียงมู่ตานก็ถึงกับสะดุ้ง ก่อนหน้านี้เขาออกมาตรวจตราความเป็นไป และแวะที่ร้านน้ำชาเล็กๆแห่งนี่ แม้จะเป็นร้านเล็กๆแต่ชากลับมีรสชาติดีมาก

แต่ใครจะคาดคิดเขาจะพบเจอนางเข้าอีกหน

หญิงสาวอุ้มห่านตัวใหญ่เอาไว้ในอ้อมกอด พร้อมกับส่งยิ้มให้เขา

วันนี้เขามากับองค์รักษ์สองคน ส่วนทหารคนอื่นล้วนแฝงกายอยู่โดยรอบรอเขาเรียกใช้

อ๋าวเยว่ไม่อยากจะมองหน้าเจียงมู่ตาน แม้จะรู้ว่านางมีฐานะเป็นถึงบุตรสาวของแม่ทัพใหญ่เจียงแต่เขาก็ไม่อยากจะมองนาง

"นี่ ข้ายังไม่รู้จักชื่อเจ้าเลย เจ้าชื่ออะไรเหรอ ข้าชื่อเจียงมู่ตานนะ จวนข้าอยู่ไม่ไกลนี่เอง ไปดื่มสุรากันไหม"

อ๋าวเยว่ส่งเสียงเหอะ ก่อนจะเอ่ย

"ดูเหมือนคุณหนูเจียงจะชอบชวนบุรุษไปดื่มสุราบ่อยสินะ เจ้าทำเช่นนี้บิดาเจ้ารู้หรือไม่"

"นี่เจ้ารู้สถานะของข้าแล้วหรือ ก็ดี บิดาข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ที่เก่งมาก อีกทั้งเขารู้แล้วอย่างไร ห้ามข้าได้ที่ไหน"

นางเอ่ยอย่างไม่รู้สึกอันใด อ๋าวเยว่เม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา

"อย่าทำให้ข้าลำบากใจ เจ้าสัญญาแล้วว่าระหว่างพวกเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก"

เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา เจียงมู่ตานที่ได้ยินกลับไม่โกธรและยังยิ้มหวาน ก่อนจะล้วงหยิบตั๋วเงินปึกหนึ่งยัดใส่มือเขา อ๋าวเยว่ถึงกับชะงัก

"เอามาให้ข้าด้วยเหตุใด"

"คราก่อนข้าให้เจ้าแค่ห้าอีแปะเจ้าเลยโกธรข้าสินะ ข้าขอโทษตอนนั้นข้าไม่มีเงินจริงๆ แต่วันนี้ข้ามีแล้ว หนึ่งพันตำลึงข้าให้เจ้าหมดเลย ดูแล้วตอนนี้เจ้าคงมีคุณหนูจากจวนไหนสักจวนซื้อตัวเจ้าไปเลี้ยงดูแล้วสินะ เป็นข้าเองที่ทำให้เจ้าเดือดร้อน นี่หนุ่มหล่อ ข้าจ่ายพันตำลึง ซื้อตัวเจ้า ต่อไปเจ้ามาอยู่กับข้า ข้าจะบอกให้นะตั้งแต่เกิดมาข้าไม่เคยทำเช่นนี้กับบุรษคนไหนเลยนะ เจ้าเป็นคนแรก ภูมิใจหรือไม่สุดหล่อ"

อ๋าวเยว่เริ่มหมดความอดทนแล้ว นี่นางเอะอะก็จะซื้อตัวเขาเหมือนสิ่งของ ช่างเหลวไหลสิ้นดี

ในใจคิดอยากจะเอาดาบบั่นคอนางแต่กลับไม่อาจทำได้

"คุณหนูเจียง อย่ายุ่งกับข้า"

"พันตำลึงไม่พอหรือ เดี๋ยวข้าไปขโมยสมบัติท่านพ่อมาให้ แต่ต้องบอกมาก่อนว่าเจ้าชื่ออะไร"

"ข้าไม่บอก!"

"เช่นนั้นข้าจะตะโกนว่าเจ้าล่วงเกินข้า"

"หุบปาก"

"ข้าจะตะโกนแล้วนะ!"

"เจียงมู่ตาน"

"ข้าจะ..."

"อาเยว่"

"ก็แค่นี้ เล่นตัวจริงเชียว"

เอ่ยจบนางก็ส่งยิ้มหวานให้เขา ก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามกับอาเยว่คนหล่อ นางเดาว่าคงจะเป็นชายงามในหอคณิกาชายที่หนีตายมาพร้อมกับอาเยว่ตอนเกิดเพลิงไหม้เป็นแน่

อ๋าวเยว่จนปัญญาไม่คิดว่านางจะดื้อด้านถึงเพียงนี้

"ข้าจะไปแล้ว"

"ช้าก่อนสิ ยังไม่ได้ตกลงกันเลย เจ้าไปจวนข้าก่อน ดื่มสุราด้วยกันสักจอก"

"ไม่ดื่ม"

"หมานหมาน จัดการ"

อ๋าวเยว่ยังไม่ทันได้เอ่ยตอบโต้ ก็พบว่าห่านสีขาวในอ้อมกอดของเจียงมู่ตานกำลังอ้าปากออก และพุ่งเข้ามาจิกเส้นผมของเขาไม่ยอมปล่อย!

องครักษ์ถึงกับทำหน้าไม่ถูก เจ้านายไม่มีคำสั่งเขาก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ ทั้งในที่ในใจอยากจะตัดคอห่านบัดซบนี่เสียเต็มประดา

"นี่คือการสั่งสอน หากเจ้าไม่เชื่อฟัง ข้าจะให้หมานหมานของข้าตีเจ้าอีกหน!"

ผู้คนหันมามองที่พวกนางเป็นตาเดียว อ๋าวเยว่อับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ถึงกับต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้าตนเอาไว้ แต่เจียงมู่ตานกลับหัวเราะชอบใจและยังบอกให้เจ้าห่านหมานหมานจิกหัวเขาไม่หยุด

บัดซบ! เขาอยากประหารห่านยิ่งนัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel