บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6

ปทิตตากลับขึ้นมาบนห้องนอนของตนเองหลังคนผีเข้าผีออกเพียงไม่กี่นาที ยังไม่ทันที่จะได้เข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายสมาร์ตโฟนที่วางอยู่บนหัวเตียงก็ดังขึ้น เข้าใจว่าคนที่โทรมาต้องเป็นเพื่อนสนิทของตนจากที่นัดแนะกันไว้ ครั้นพอเห็นเบอร์ไม่คุ้นเคยวงหน้าสวยก็ฉายแววแห่งความแปลกใจพร้อมกับตัดสินใจกดปุ่มรับสาย

“สวัสดีค่ะ” เจ้าของเครื่องกรอกเสียงไปด้วยความสุภาพ

“น้องปาล์มครับ นี่พี่รุตเองนะครับ” ชายหนุ่มปลายตอบกลับมาเสียงหวานเมื่อได้ยินเสียงของคนที่ตั้งใจโทรหา

“พี่รุตหรือคะ?”

“ใช่ครับ พี่ต้องขอโทษน้องปาล์มด้วยที่ละลาบละล้วงไปขอเบอร์น้องปาล์มมาจากริต้า”

ศรุตกล่าวคำขอโทษอย่างเป็นงานเป็นการ เธอไม่ได้โกรธอะไรพี่ชายของเพื่อนเลยสักนิด แค่โทรมาก็รู้แล้วว่าไปได้เบอร์มาจากใคร

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่รุต ปาล์มไม่ได้โกรธพี่รุตค่ะ” หญิงสาวบอกให้อีกฝ่ายได้สบายใจขึ้น

“ขอบคุณครับ ว่าแต่น้องปาล์มกลับถึงบ้านนานหรือยังครับ”

ถ้อยคำถามไถ่ถามที่ได้ยินทำให้เธออดไม่ได้ที่จะนำไปเปรียบเทียบกับใครอีกคนที่มักจะชอบพูดจาห้วนๆ แถมยังทำท่าทางราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออยู่บ่อยๆ ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อรักไปแล้ว ถึงเขาจะมีนิสัยใจคอร้ายกาจแค่ไหนเธอก็เลือกที่จะรักเขา

“นานแล้วค่ะพี่รุต ปาล์มกำลังจะไปอาบน้ำพอดี” ในระหว่างที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่นั้น ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกอย่างรุนแรง เจ้าของห้องมีสีหน้าตื่นตะหนกอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพบว่าคนที่บุกเข้ามาในห้องเป็นใคร

“คุยกับใคร?” ฟรานซิสถามเสียงเข้ม

“พะ...เพื่อนค่ะ” หญิงสาวตอบพลางเอามือบังลำโพงไว้เพราะไม่อยากให้ชายอีกคนได้ยิน แต่คนถามกลับเข้าใจไปอีกทางว่าเธอไม่อยากให้ไอ้คนที่กำลังคุยด้วยเข้าใจผิด ท่าทางมีพิรุธแบบนี้เห็นทีจะไม่ได้คุยกับเพื่อนอย่างที่ปากบอกแน่ๆ

“แน่ใจ?” เขาย้ำคำถามอีกครั้งพลางหรี่ตามองอย่างจับผิดก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปคว้าสมาร์ตโฟนในมือของเด็กขี้โกหกออกมาจนเจ้าของเครื่องร้องออกมาเสียงหลง

“อุ๊ย!”

“นั่นใครพูด” ไม่มีคำทักทายใดๆ นอกจากถ้อยคำที่ถามออกไปราวกับต้องการรู้ว่าไอ้หน้าไหนมันกล้าโทรหาเมียชาวบ้านดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้

“แล้วคุณเป็นใครครับ” ศรุตถามกลับมาด้วยน้ำเสียงแปลกใจเช่นกัน

“กูเป็นผะ...เอ่อ เป็นพี่ชายของผู้หญิงที่มึงกำลังคิดจะโทรมาจีบไง”

ชายหนุ่มเลือดผสมเกือบตอบกลับไอ้คนไม่รู้เรื่องรู้ราวในแบบฉบับของตน พอหันไปเห็นเจ้าของห้องแสดงสีหน้าเป็นเชิงเตือนไม่ให้เขาพูดในสิ่งที่ไม่สมควรออกไปจึงยอมทำตามเป็นครั้งแรก

“คุณเป็นพี่ชายน้องปาล์มเองเหรอครับ สวัสดีครับ...เอ่อ ผมเป็นพี่ชายของริต้าเพื่อนสนิทที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับน้องปาล์มครับ”

และแล้วศรุตก็ถึงบางอ้อเมื่อคนปลายสายแนะนำสถานะของตนกลับมา ซึ่งเขาก็ไม่แปลกใจถ้าพี่ชายจะหวงน้องสาวเพราะตนก็หวงน้องสาวมากเช่นกัน

“กูไม่ได้อยากรู้ ขอเตือนไว้ด้วยความหวังดีนะ ถ้ายังไม่เลิกโทรหาน้องสาวกูกลางค่ำกลางคืนแบบนี้ล่ะก็มึงได้ไม่มีเงาหัวอีกต่อไปแน่”

คนหวงน้องสาวจนออกนอกหน้าเอ่ยเตือนเสียงเข้ม ไม่สนหน้าไหนว่าตนใช้สรรพนามไม่น่าฟังแถมยังส่งท้ายด้วยการกดตัดสายไป ต่อมาสมาร์ตโฟนของน้องสาวกาฝากก็ถูกโยนกระทบเข้ากับฝาผนังท่ามกลางสีหน้าตื่นตะลึงของเจ้าของที่ยืนมองอย่างคนหัวใจสลายยามสูญเสียของรัก

“มือถือของปาล์ม” ร่างบางถลาเข้าไปหาและรีบหยิบขึ้นมาตรวจเช็กสภาพเป็นการใหญ่ พอเห็นว่าไม่เป็นอะไรมากรอยยิ้มหวานก็ผุดขึ้นมาด้วยความดีใจ

“พังหรือเปล่า ถ้าพังจะซื้อให้ใหม่ เปลี่ยนเบอร์ใหม่มันทีเดียวเลย จะได้ไม่ต้องมีไอ้หนุ่มที่ไหนโทรมาหาตอนดึกๆ อีก”

คนบ้าอำนาจสั่งเรื่องอื่นมากกว่าจะสำนึกในสิ่งที่ทำจนถูกตวัดค้อนวงใหญ่เข้าให้โทษฐานที่ทำลายของรักคนอื่น

“ไม่พังค่ะ ยังใช้ได้อยู่ ทำไมคุณต้องทำลายของของปาล์มด้วย”

“แล้วไง? ฉันพอใจ เธอยังมีเรื่องที่ต้องเคลียร์กับฉันนะ มานี่เดี๋ยวนี้เลย” สิ้นเสียงหญิงสาวที่ยังอยู่ในชุดคลุมเพราะเพิ่งขึ้นมาจากสระว่ายน้ำหมาดๆ ก็ถูกฉุดเข้าไปภายในห้องน้ำในขณะที่คนกระทำก็ก็ยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเช่นเดียวกัน

“คุณฟรานซิส! ปล่อยปาล์มนะคะ” หญิงสาวส่งเสียงประท้วงเมื่อถูกเจ้าของเรือนร่างกำยำดันเข้าไปด้านในจนแผ่นหลังกระทบเข้ากับผนังห้องน้ำ มิหนำซ้ำยังพันธนาการร่างเธอเอาไว้ไม่ให้สามารถหนีไปไหนได้

“ไอ้ผู้ชายที่โทรมามันเป็นใคร” ฟรานซิสถามเสียงต่ำ

“พี่รุตก็บอกแล้วนี่คะว่าเขาเป็นพี่ชายของริต้า”

ปทิตตาตอบกลับไปเสียงเบาพลางมองหน้าคนถามด้วยอาการหวาดกลัว เสมือนนักโทษที่กำลังถูกสอบสวนความผิด...แถมยังเป็นความผิดร้ายแรงในสายตาของผู้พิพากษาเสียด้วย

“รู้จักกับมันเมื่อไหร่?” เขายังคงถามต่อโดยไม่มีทีท่าว่าจะยอมเชื่อง่ายๆ

“อะไรนะคะ” คนถูกยัดเยียดความผิดย้ำคำถามอีกครั้งด้วยอาการงงงวย นี่เขาจะซักฟอกเธอให้หมดเปลือกเลยหรือไง

“ตอบ!”

“อะ...เอ่อ วันนี้ค่ะพอดีว่าริต้าพาปาล์มไปรู้จักกับพี่รุตมาเพราะปาล์มผิดนัดริต้าหลายครั้งแล้ว” เธอยอมตอบความจริงแบบไม่มีกั๊กและไม่คิดโกหก ยิ่งทำให้เส้นความหึงหวงขั้นรุนแรงกระตุกขึ้นมาจนถึงขีดสุด

“ใครสั่งให้ไป แล้วทำไมต้องอยากรู้จักกับมันด้วย”

“ก็ปาล์มไม่อยากปฏิเสธน้ำใจของเพื่อนนี่คะ อีกอย่างริต้าก็แค่อยากให้ปาล์มรู้จักกับพี่รุตเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกว่านั้นสักหน่อย” หญิงสาวประท้วงกลับไปด้วยน้ำเสียงอุบอิบ

“แล้วถ้าเพื่อนเธอเกิดอยากจะให้เธอรู้จักกับมันมากกว่านั้นล่ะ เธอจะว่ายังไง” โคแก่จอมหวงถามราวกับต้องการลองเชิงว่าเจ้าหล่อนอยากจะรู้จักคนอื่นนอกจากตนไหม

“ปาล์มไม่ได้ใจง่ายขนาดนั้นนะคะ ถ้าปาล์มจะตกลงคบกันใครปาล์มก็ต้องรักเขาด้วยสิคะ” น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความน้อยใจเพราะคิดว่าอีกฝ่ายดูถูกน้ำใจและเห็นว่าเธอเป็นผู้หญิงใจง่าย

“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนอกจากอยากจะให้รางวัลมากกว่า น่ารักมากเด็กน้อย”

เขาชมเสียงพร่าพลางโน้มใบหน้าเข้าไปหาเด็กน้อยแสนน่ารัก ก่อนจะใช้จมูกโด่งถูไปมากับจมูกเล็กเชิดรั้นด้วยความพอใจกับคำตอบที่ได้รับ หนักเข้าฟันขาวที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบก็ขบลงไปด้วยความหมั่นเขี้ยว

“โอ๊ย! เจ็บนะคะ” แรงขบเม้มที่ไม่แรงแต่ก็ไม่ได้เบาส่งผลให้เจ้าตัวร้องเสียงหลงและไม่ลืมส่งค้อนให้ตัวการ

“หมั่นเขี้ยว อยากน่ารักทำไม”

“คนบ้า! เป็นหมาหรือไง”

“อยากให้เป็นหมาหรือเป็นอะไรล่ะ ฉันเป็นได้หมด ทั้งหมา ทั้งหมี ทั้งผัวหรือว่าเป็น...” ยังไม่ทันที่จะพูดจบดวงตากลมโตก็ช้อนสายตาขึ้นมองก่อนจะร้องห้ามเสียงดังราวกับรู้ว่าเขาจะพูดอะไรต่อไป

“เป็นพี่ชายนั่นแหละค่ะ ดีแล้ว”

“เมื่อไหร่จะเลิกพูดสักทีไอ้คำนี้น่ะ ฉันไม่อยากฟัง” ฟรานซิสเริ่มไม่สบอารมณ์ขึ้นมากับคำตอบดังกล่าว

“ก็เรื่องจริงนี่คะ” หญิงสาวยังคงยืนยันต่อไปโดยไม่กลัวเกรงต่อชะตากรรมของตนเอง

“ฉันจะยอมเป็นหมีให้เธอแล้วกัน” ชายหนุ่มเลือดผสมสรุปเอาเองเสร็จสรรพเพราะคิดว่านอกจากหมาที่ตัวเขาไม่อยากจะเป็นและผัวที่ดูเธอจะไม่ยอมรับจึงทำให้ตัดสินใจเองว่าจะขอเป็นหมีถึงแม้จะดูหน่อมแน้มไปหน่อยก็...ช่างหัวมันเถอะ

“หมีขั้วโลกน่ะหรือคะ” ปทิตตาเป็นฝ่ายตั้งฉายาให้เองเนื่องจากดูแล้วว่าหมีชนิดนี้น่าจะเหมาะกับเขาที่สุด ทั้งอึดและทนทานแถมยังตัวใหญ่โตเหมาะสมจริงๆ

“ก็ได้ ฉันเป็นหมีขั้วโลก ส่วนเธอก็เป็นแม่กระต่ายป่านะเด็กน้อย”

สิ้นเสียงพ่อหมีขั้วโลกก็จัดการแหวกชุดคลุมอาบน้ำออกพร้อมใช้ริมฝีปากหยักซุกไซ้ลงบนเนินอกอวบอิ่มของกระต่ายสาว ขบเม้มลงไปเบาๆ จนเกิดรอยแดงเสมือนเป็นสัญลักษณ์ในการแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามใครหน้าไหนคิดมาซ้ำรอยตนเป็นอันขาด

“ยะ...อย่าค่ะคุณฟรานซิส ปาล์มว่าเราเลิกเล่นดีกว่าค่ะ”

ปทิตตาร้องห้ามเสียงสั่นเพราะไม่อยากให้สิ่งที่ไม่ต้องการให้สิ่งที่ไม่ถูกต้องเกิดขึ้นอีก ถ้าวันหนึ่งคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่บุญธรรมกลับมาแล้วเธอจะมองหน้าท่านติดได้อย่างไร

“ถ้าอยากให้เลิกก็ต้องตามใจหมีตัวนี้ก่อนสิกระต่ายน้อยคนสวย”

“ตามใจอะไรคะ” หญิงสาวถามออกไปเสียงเนือยๆ ไม่ว่ายังไงก็พ่ายแพ้ให้ผู้ชายคนนี้อยู่ดี

“เลือกเอาว่าจะอาบน้ำให้ฉันหรือว่าจะให้ฉันอาบน้ำให้เธอ” สิ้นเสียงดวงตากลมโตก็เบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ ข้อเสนอที่ดูแล้วคนที่เสียเปรียบจะเป็นเธอมากกว่า ส่วนเขาน่ะได้เปรียบไปเต็มๆ

“ไม่เลือกสักข้อเลยค่ะ ปาล์มอาบน้ำเองได้ คุณฟรานซิสก็เหมือนกัน ขึ้นมาก่อนปาล์มตั้งนานทำไมยังไม่อาบน้ำอีกล่ะคะ?”

หญิงสาวเผลอทำเสียงดุพร้อมสำรวจร่างกายของอีกฝ่ายที่มีเพียงผ้าขนหนูพันกายผืนเดียว เพิ่งจะสังเกตเห็นตอนนี้ ตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาในห้อง วงหน้าสวยแดงก่ำหลังสายตาไล่ขึ้นมาปะทะกับแผงอกกำยำที่อยู่ห่างไม่ถึงคืบ

“ฉันรอฟังเธออยู่ไงว่าเธอจะอาบน้ำเมื่อไหร่ จะได้เข้ามาอาบพร้อมกัน ไม่เปลืองทรัพยากรน้ำดีด้วย” คนเจ้าเล่ห์บอกนัยน์ตาพราว

“จริงๆ แล้วคุณฟรานซิสไม่ควรเข้ามาในห้องปาล์มแบบนี้นะคะ อีกอย่างปาล์มจำได้ว่าล็อกประตูห้องไว้”

“แปลกอะไร กุญแจมี” คำตอบดังกล่าวทำเอาหญิงสาวถึงบางอ้อ

“เอากุญแจห้องปาล์มมาจากไหนคะ?”

“อย่าลืมสิว่าฉันเป็นเจ้าของบ้าน เรื่องกุญแจน่ะจิ๊บจ๊อย ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันมีแค่ห้องเธอห้องเดียว ไม่ได้พกเยอะให้หนักกระเป๋า” เสียงนุ่มทุ้มกระซิบบอกชิดริมใบหูเล็กแต่คนฟังกลับช็อกกับเล่ห์เหลี่ยมของเจ้าตัว

“คุณฟรานซิสเก็บกุญแจห้องปาล์มไว้ทำไมคะ ยังไงก็ควรให้เวลาส่วนตัวกันบ้าง ปาล์มทราบดีค่ะว่าคุณเกลียดขี้หน้าปาล์ม แต่ก็ไม่ควรจำกัดสิทธิกันแบบนี้”

ปทิตตาพรั่งพรูความน้อยใจเพราะคิดว่าเขาต้องการหาเรื่องมาเล่นงานตนมากกว่า ครั้นพอได้ยินถ้อยคำตัดพ้อยิ่งทำให้คนฟังหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อไหร่แม่ตัวดีจะยอมเข้าใจสักทีว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้นเพราะอะไร

“เลิกพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว ที่ฉันถามเธอตอนนี้คือจะอาบน้ำให้ฉันหรือว่าจะให้ฉันอาบน้ำให้เธอ...หืม”

ชายหนุ่มย้ำในสิ่งที่ต้องการอีกครั้งและจ้องวงหน้าสวยอย่างรอคำตอบ ไม่ว่าเธอจะเลือกข้อไหนเขาก็ยอมรับได้หมด

“ปาล์มเลือกข้อแรกค่ะ” เธอหลับตาและกลั้นใจตอบออกไป

“ข้อแรก แสดงว่าเธอจะให้ฉันอาบน้ำให้ใช่ไหม?” ฟรานซิสย้ำราวกับต้องการจะแกล้ง

“คุณฟรานซิสก็รู้อยู่แล้วนี่คะ ทำไมต้องถามอีก”

ปทิตตาย่นจมูกใส่คนเผด็จการ เธอไม่กล้าพอที่จะอาบน้ำให้เขาเนื่องจากกลัวจะเห็นอะไรเข้า แต่ใช่ว่าสิ่งที่เธอเลือกจะดีตามไปด้วย จะทำยังไงได้ในเมื่อเป็นการเสียเปรียบทุกทาง คนได้เปรียบนั่นมันเขาต่างหาก หญิงสาวจะไม่ยอมไปถูกอะไรต่อมิอะไรในร่างกายของอีกฝ่ายเด็ดขาด จะคิดเสียว่าเขาอยากแกล้งและเธอก็ไม่มีทางเลือก อีกทั้งยังกลัวว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะรู้ถึงหูประมุขของบ้านหากไม่ยอมทำตามความต้องการของเขา

“เดี๋ยวฉันช่วยถอดชุดให้เอง” พูดจบคนหื่นก็เอื้อมมือมาปลดชุดคลุมอาบน้ำออกเป็นอันดับแรก เล่นเอาร่างบางสั่นสะท้านด้วยความอาย นอกจากเขาจะไม่ปลดออกไปให้เสร็จๆ แล้วยังกลับไล่สายตาไปมาบนเรือนร่างขาวละออราวกับจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว

“ปาล์มถอดเองได้ค่ะ” หญิงสาวห้ามเสียงสั่นเมื่อเจอกับมือหนาที่ไม่อยู่สุขและกำลังไต่ไปมาตามเรือนร่างแทบจะทุกซอกทุกมุม

“ฉันเป็นคนอาบให้เธอ ฉันก็ต้องเป็นคนถอดสิ” คนถูกขัดใจทำเสียงเจ้าเล่ห์และไม่ยอมง่ายๆ

“แต่....”

“ไม่มีแต่ หยุดพูดเพราะทุกอย่างเธอเลือกเอง อย่าลืมสิว่าฉันให้โอกาสเธอเลือกแล้วนะ” สิ้นเสียงคนหน้ามึนก็จัดการเกี่ยวสายบิกินี่ที่ปกปิดทรวงอกอิ่มทั้งสองข้างออก ในขณะที่เจ้าหล่อนได้แต่หลับตาปี๋ด้วยความกลัวว่าจะถูกคนหื่นรังแกเอาอีก

“เธอสวยจริงๆ ฉันรอเวลานี้มาตั้งนาน” ฟรานซิสชมเสียงพร่าจนลืมนึกไปว่ากำลังพูดอะไรออกไปเพราะมัวแต่ลุ่มหลงกับทรวงอกอิ่มเกินตัว ฉับพลันความรู้สึกหวงของรักก็บังเกิดขึ้นมาอีกระลอก

“จำเอาไว้ว่าฉันมีสิทธิ์แตะต้องเธอได้เพียงคนเดียว ถ้าเธอกล้าให้ไอ้หน้าไหนมาทับรอยฉัน ทั้งเธอและมันได้สิ้นชื่อไปพร้อมกันแน่”

คนเอาแต่ใจสั่งเสร็จก็จัดการกับบิกินี่ชิ้นสุดท้ายที่ปกปิดของรักของหวงที่สุดในชีวิตผู้หญิงออกไปอย่างง่ายดาย ไม่ลืมบอกให้รู้ว่าถึงถูกใจมากเท่าไหร่เธอก็ไม่รอดหากคิดคบชู้สู่ชายหรือมีใครอื่นนอกจากตน

“คุณฟรานซิสก็รู้ว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ยังไงเราสองคนก็คือพี่น้องกัน”

“เธอจะเลิกพูดไอ้คำว่าพี่น้องเส็งเคร็งอะไรนี่สักห้านาทีได้ไหม ฉันเบื่อจะฟังเต็มทน” ชายหนุ่มขัดใจเมื่อถูกย้ำถึงสถานะเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่เคยคิดจะนับ รู้แค่ว่าเกลียดที่จะได้ยินมันที่สุด

ดวงตาคมไล่ไปทั่วเรือนร่างเปลือยเปล่าตรงหน้าช้าๆ จนเจ้าตัวอดไม่ได้ที่จะบิดกายหนี

“อาบพร้อมกันเลยดีกว่า” สิ้นเสียงคนหน้าด้านก็ทำท่าจะถอดชุดคลุมของตนเองออกตามไปด้วย

“อย่าค่ะ คุณฟรานซิสกลับไปอาบที่ห้องเถอะนะคะ”

หญิงสาวรีบร้องห้ามเสียงหลงเมื่อเห็นว่าเขาทำท่าจะถอดสิ่งที่ปกปิดร่างกายอย่างไม่คิดอายฟ้าดิน อย่างน้อยก็น่าจะเห็นใจเธอบ้าง ใจอยากให้ประมุขของบ้านเดินทางกลับเสียที ตั้งแต่ท่านไม่อยู่เธอก็ถูกรังแก(ทางร่างกาย)มาโดยตลอด

“ฉันอาบให้เธอต่อก็ได้” คนหื่นยอมละมือแล้วหันไปเปิดฝักบัว พาตนเองและเจ้าของร่างบางเข้าใกล้น้ำที่กำลังไหลลงมาเป็นสายไหลจนเปียกชุ่มโดยเฉพาะเรือนร่างที่ไม่มีอะไรปกปิดอยู่ตรงหน้ายามมีน้ำเกาะพราวไปทั่วเรือนร่างมันช่างน่าดูในสายตาของเขาเสียจริง

“ปาล์มอยากอาบเองค่ะ” ปทิตตาตัดสินใจบอกถึงความต้องการของตนเองและหวังว่าอีกฝ่ายจะยอมอ่อนให้เธอสักครั้ง

“ขอฉันถูสบู่ให้เธอหน่อยได้ไหมคนสวย ตามใจกันหน่อยสิ”

ชายหนุ่มไม่รอให้เธอได้ตอบรับหรือปฏิเสธ มือหนาหันไปคว้าสบู่เหลวมาบีบใส่มือก่อนจับร่างบางให้หันหน้าเข้าหากำแพง ขณะที่ตนเองทำตัวราวกับผู้ปกครองโดยการบรรจงถูสบู่ลงไปบนแผ่นหลังนวลลออไร้ไฝฝ้าและเม็ดสิวให้เห็นอย่างอ้อยอิ่ง

เมื่อถูกแรงสัมผัสที่แม้คนทำจะมีรูปร่างใหญ่โตแค่ไหนก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกเจ็บนอกจากจะเป็นความรู้สึกร้อนๆ ในกายยามที่อีกฝ่ายไล่ฝ่ามือลงไปยังเรียวขาแล้ววกกลับมายังบั้นท้ายงอนงามพร้อมกับเคล้นคลึงเบาๆ ด้วยอาการหมั่นเขี้ยว

“อุ๊ย! ทะลึ่ง” เจ้าของเสียงหวานประท้วงหลังถูกละล้าบละล้วงเกินกว่าการถูสบู่อย่างที่ควรจะเป็น

“ก็เธอน่ารักจนฉันอดใจไม่ไหว” คนหื่นรำพันพร้อมก่นด่าตัวเองในใจไปด้วย ไม่รู้ว่าเขากลายเป็นคนแบบนี้ไปได้ยังไง ทุกครั้งยามเห็นน้องสาวนอกไส้ทำเอาเขาอยากจะพาเธอขึ้นเตียงอยู่ตลอดเวลา ปกติไม่ได้เป็นคนเซ็กส์จัดขนาดนั้นนี่หว่า...

อืม สงสัยจะเป็นเฉพาะกับเธอแค่คนเดียวนั่นล่ะ

“พอแล้วค่ะ ปาล์มขออาบเองบ้างนะคะ” หญิงสาวทวงสิทธิ์ความชอบธรรมด้วยกลัวว่าทุกอย่างจะกลายเป็นเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมและเธอไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว

“ตกลง ฉันไม่แกล้งเธอแล้วก็ได้ ไว้วันหลังเธอมาอาบให้ฉันบ้างนะ ต้องแบบทุกซอกทุกมุมไม่ใช่เฉพาะแค่ถูหลังเหมือนที่ฉันทำให้เธอเมื่อกี้นี้”

ถึงแม้จะยอมจำนนแต่คนหื่นไม่เลือกที่ก็ยังคงบอกราวกับเป็นเรื่องธรรมดาจนคนฟังอดคิดไม่ได้ว่าเขายังมียางอายหลงเหลืออยู่ในตัวบ้างไหม

“ปาล์มจะเข้านอนแล้ว คุณฟรานซิสรีบกลับห้องเถอะค่ะ” วงหน้าสวยแดงจนเป็นลูกตำลึงกับคำขอตรงๆ จนต้องรีบออกปากไล่ให้เข้าออกไปสักที

“นอนหลับฝันดี ฝันถึงฉันแค่คนเดียวนะเด็กดี” สิ้นเสียงริมฝีปากหยักก็กดจูบหนักๆ ลงมาบนหน้าผากกลมกลึงและยอมผละไปท่ามกลางความโล่งอกที่สามารถรอดพ้นจากคนหื่นได้ในที่สุด

ทีนี้ก็ต้องหันมาจัดการการความรู้สึกของตัวเองว่าจะสามารถข่มตาหลับลงได้ยังไงในคืนนี้ ภาพของชายหนุ่มที่แอบหลงรักมักจะวนเวียนเข้ามาอยู่ในหัวสมองตลอดเวลา แม้ว่าเขาจะใจร้ายหรือเห็นเธอเป็นเพียงของเล่นและข่มเหงเธอยังไง หญิงสาวก็รับได้เพราะคิดเสมอว่าเขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่รักและอยู่ในหัวใจมาตลอด

 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel