ตอนที่ 5
ผ่านไปราวสิบห้านาทีเจ้าของร่างบางก็เดินขึ้นมายังบนสุดที่สร้างไว้เป็นสถานที่สำหรับออกกำลังกายแบบครบครันไม่แพ้ฟิตเนสพร้อมด้วยสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ภายใต้ชุดคลุมมีชุดว่ายน้ำแบบทูพีชสีชมพูหวาน เพียงแค่นี้ดวงตาคมเข้มก็จ้องมองเรือนร่างที่เขาได้ครอบครองเมื่อไม่นานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยไฟพิศวาสแบบปิดไม่มิด
ครั้นพอหญิงสาวเหลือบมาเห็นสายตาร้อนแรงจนแทบจะแผดเผาก็รีบเสมองไปทางอื่นด้วยอาการเขินอายและกลัวจะถูกจับได้ว่ากำลังหวั่นไหว
“ลงมาสิ ยืนโชว์หุ่นอยู่ได้ จะอ่อยฉันหรือไง”
ฟรานซิสถามในขณะที่กำลังลอยคอรออยู่ในสระด้วยกางเกงว่ายน้ำสีดำเพียงตัวเดียวจนเจ้าตัวถึงกับตวัดค้อนวงใหญ่ไปให้ด้วยความไม่พอใจ มือเล็กค่อยๆ ปลดเชือกสีขาวที่พันอยู่รอบเอวคอดออก พยายามก้มหน้าก้มตาไม่สนใจสายตาที่จ้องมาแบบไม่วางตา หลังปลดชุดคลุมออกไปแล้วหญิงสาวก็ยังใช้มันทำหน้าที่ปิดบังเรือนร่างไว้อีกครั้งกับสายตาที่แทบจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว
“อย่ามองสิคะ?”
“มากกว่ามองก็เคยทำมาแล้ว จะอายอะไรอีก” คนหน้าด้านตอบชนิดที่ว่าไม่สะทกสะท้านในขณะที่คนขี้อายแทบจะกรีดร้องออกมากับคำพูดทะลึ่งตึงตังไม่รู้เวล่ำเวลา
“ผีบ้า ผีทะเล” ปทิตตาต่อว่าผีทะเลเสียงอุบอิบในลำคอแต่ก็พอจะทำให้คนถูกด่าได้ยินชัดเจนเต็มสองหู
“ฉันยอมเป็นผี แต่ขอเป็นผีเฝ้าสระว่ายน้ำนะถ้าผู้หญิงในสระจะหุ่นดีแล้วก็น่ากินขนาดนี้” ชายหนุ่มยอมรับในคำ(ด่า)ชมของแม่น้องสาวนอกไส้เสียงหวาน
“คนหื่น” เธอยังคงต่อว่ากลับไปอีกครั้งด้วยความหมั่นไส้ คนอะไรหน้าหนายิ่งกว่าปูนซีเมนต์
“เลิกพูดมากแล้วลงมาสักทีน่า”
“ไม่เอาค่ะ ปาล์มกลัว”
คนกลัวน้ำมาตั้งแต่ไหนแต่ไรบอกเสียงสั่น เธอเคยจมน้ำตั้งแต่เด็กจนฝังใจและไม่กล้าที่จะเฉียดใกล้น้ำอีกเลยหากไม่จำเป็น เหมือนกับเวลานี้ถ้าไม่ถูกคนเจ้าเล่ห์บังคับแถมยังเตรียมชุดไว้ให้เรียบร้อยจ้างให้เธอก็ไม่มีวันยอมลงสระว่ายน้ำที่มีขนาดลึกจนเท้าแตะไม่ถึงพื้นเด็ดขาด
“ถ้าไว้ใจฉันก็รีบลงมาเดี๋ยวนี้” ฟรานซิสสั่งอีกครั้ง
“ไม่ไว้ใจค่ะ แสดงว่าไม่ต้องลงใช่ไหมคะ”
หญิงสาวถามกลับไปด้วยน้ำเสียงยินดีจนคนฟังถึงกับออกอาการเข่นเขี้ยวเมื่อถูกสาวน้อยวัยสิบเก้าตีรวนให้บ้าง
“ลงมาก่อนที่ฉันจะตามไปลากเธอลงมาเอง”
“ลงแล้วค่ะๆ” ปทิตตาตอบเสียงรัวเร็ว ก่อนจะค่อยๆ หย่อนขาลงไปทีละข้าง จู่ๆ ก็ต้องกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อถูกมือหนาคว้าหมับเข้าที่เอวโดยไม่ทันได้ตั้งตัว “กรี๊ดดด!”
“ฉันจะสอนว่ายน้ำ เธอจะได้ว่ายเป็น ไม่ดีหรือไง”
สิ้นเสียงมือหนาก็ลูบไล้ไปบริเวณทรวงอกอวบอิ่มเกินตัวอย่างจงใจ ส่วนมืออีกข้างก็ไม่น้อยหน้ากัน ชาหนุ่มวางลงไปบนเนินสวาทพร้อมกับใช้นิ้วยาวแกร่งของตนบดเบียดลงไปตรงกลางเกสรดอกไม้ คราแรกปทิตตาพยายามผลักไสเจ้าของมือหนาที่กำลังทำตามอำเภอใจ แต่ก็ต้องพ่ายแพ้อย่างราบคาบ ได้แต่ส่งเสียงครวญครางออกมา วงหน้าเรียวสวยแหงนหงายไปด้านหลังซ้ำร้ายยังหลับตาพริ้มรับสัมผัสที่ผู้ชายต้องห้ามเป็นผู้มอบให้
“อย่าค่ะ” เธอร้องห้ามเสียงสั่นพร่าเมื่อรับรู้ว่าชุดว่ายน้ำแบบทูพีชของตนกำลังถูกอีกฝ่ายถอดออกอย่างง่ายดาย เสียงทัดทานของเธอยังช้ากว่าคนเจ้าเล่ห์ด้วยซ้ำไป
ปทิตตาถูกจับหันหลังเข้าหาขอบสระก่อนที่เจ้าของเรือนร่างกำยำจะดำลงไปด้านล่าง ดวงตาคมเข้มมองกลีบกุหลาบแสนหวานซึ่งปกคลุมไปด้วยเส้นไหมที่เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ เท่านั้นก็ทำเอาให้เขาอดใจไม่ไหวตรงเข้าไปลูบไล้ท่อนขาเรียวงาม อาการบิดเร่าที่เห็นทำให้อดคิดไม่ได้ว่าตนเองกลายเป็นคนหื่นกามแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ลิ้นหนาชอนไชเข้าไปดูดชิมความหวานจากเกสรสีสวยที่กำลังท้าสายสายตา
“เอาแขนพักกับขอบสระ แล้วฝึกกางขาใต้น้ำดูสิ” ฟรานซิสโผล่กลับขึ้นมาสั่งเสียงเข้ม ทว่าตอนนี้นักเรียนสาวแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะทำตามคำสั่งของคุณครูจอมหื่นนอกจากพาตัวเองพิงขอบสระเอาไว้และหอบหายใจออกมาเสียงดัง
เมื่อเห็นท่าทางดังกล่าวฟรานซิสก็จัดการอุ้มร่างบางขึ้นนั่งบนขอบสระ โดยให้ขาแช่น้ำเอาไว้ แล้วเคลื่อนใบหน้าเข้าไปจูบบนหน้าผากกลมมน พวงแก้มนวลเนียน ริมฝีปากที่เผยอรับอย่างไม่รู้ตัวพร้อมกับคำชมด้วยน้ำเสียงสั่นไม่แพ้กับเจ้าตัวเมื่อสักครู่
“เธอเก่งมากสาวน้อย เรียนรู้ได้เร็ว หัวไวจริงๆ”
“ปล่อยปาล์มเถอะค่ะคุณฟรานซิส ปาล์มไม่อยากเรียนแล้ว ปาล์มกลัว” หญิงสาวส่งเสียงอ้อนวอนแกมขอร้องออกมาด้วยความกลัวดังที่ปากพูด ครั้งแรกที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาไม่มีอะไรน่าจดจำสักนิด ที่สำคัญเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีก
ในขณะที่ผู้ฝึกสอนหาได้สนใจฟังเสียงห้าม ลิ้นหนาไล่ขึ้นมาขบเม้มบนซอกคอขาวเนียนจนเจ้าของร่างบางถึงกับสะดุ้งและหดคอหนีด้วยความจั๊กจี้บวกความซ่านสยิว ฟรานซิสวกกลับมายังริมฝีปากที่เผยออีกครั้งราวกับรอรับสัมผัสของตน ปทิตตาผวากอดเรือนร่างกำยำเอาไว้พร้อมกับจูบตอบอย่างเคอะเขินแต่ก็ดูน่ารักในสายตาของโคแก่เหลือเกิน
ไม่มีส่วนใดที่ไม่ถูกสัมผัส ลิ้นหนาไล่ต่ำลงมาหลุมสะดือจิ๋วก่อนจะไล้วนอยู่ตรงนั้นท่ามกลางเสียงครวญครางที่ดังไม่หยุด ฝ่ามือเรียวเริ่มไขว่คว้าหาที่ยึดเหนี่ยว ศีรษะทุยถูกดึงทึ้งแต่ก็ไม่ได้สร้างความสะเทือนให้กับชายหนุ่มแต่อย่างใดนอกเสียจากจะยิ่งทำให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านมากขึ้นจนแทบจะอดใจไม่ไหว
คราวนี้ฟรานซิสจัดการดันร่างบางให้ขึ้นมานอนบนพื้นข้างสระจนเจ้าหล่อนผวาเกาะท่อนแขนกำยำเอาไว้แทบไม่ทันแต่ก็ยังยินยอมให้เขาพาไปทุกที่ ร่างหนาดันตัวเองตามขึ้นมาและรีบถอดกางเกงว่ายน้ำออกเปิดเผยเรือนร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยมีดวงตากลมเผลอมองตามไปด้วยความชื่นชม ครั้นพอปะทะเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่เด่นชัดปทิตตาก็ถึงกลับกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบอกชอบใจที่ได้เห็นท่าทางน่ารักน่าใคร่ของน้องสาวนอกไส้ในเวลานี้
“นวดให้หน่อยสิ ฉันสอนเธอจนเมื่อยแล้ว” คนเจ้าเล่ห์บอกนัยน์ตาพราวระยับ
“นะ...นวดตรงไหนคะ?” ปทิตตาถามกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ หมดสิ้นการควบคุม รู้สึกเกลียดตัวเองที่ชอบเผยด้านอ่อนแอให้อีกฝ่ายรังแกอยู่ร่ำไป
“ทุกส่วนในร่างกายนั่นแหละ มันเมื่อยไปหมด สาเหตุมาจากเธอทั้งนั้น รู้หรือเปล่า”
ปทิตตายอมทำตามคำสั่งของคนเผด็จการโดยการนวดให้เขาพร้อมกับหันหน้าไปอีกทาง ใครเล่าจะบ้านวดให้คนที่กำลังเปลือยกายล่อนจ้อนแบบนี้กัน เจ้าตัวคิดด้วยใบหน้าที่แดงซ่านไปถึงใบหู เมื่อเห็นปฏิกิริยาดังกล่าวฟรานซิสก็ส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอด้วยอาการขัดใจก่อนจะจัดการจับมือเรียวให้ลดลงมาอยู่ตรงหน้าขาของตนเอง
“ว้ายย!” นักเรียนหัวอ่อนร้องเสียงหลงเมื่อรู้สึกได้ว่าฝ่ามือกำลังสัมผัสกับอะไรบางอย่างที่ทั้งแข็งขืนและใหญ่โตจนมือเล็กๆ แทบโอบเอาไว้ไม่รอบในเวลาเดียวกัน
“จะโวยวายทำไม ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยสักนิด” สิ้นเสียงคนหื่นก็จัดการจับมือเรียวให้นวดขึ้นลงบริเวณนั้นท่ามกลางสีหน้าเหยเกของตนและสีหน้ากระอักกระอ่วนของเจ้าหล่อนที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะสอนอะไรเธอแบบนี้
“อย่าค่ะ มันน่าเกลียด” เธอส่งเสียงห้ามอีกครั้งหวังให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำดังกล่าวลง
“ออกจะน่ารัก ฉันรับรองว่ามันจะน่ารักสำหรับเธอคนเดียว”
คนหน้ามึนบอกพลางนำพาเธอกระทำสิ่งนั้นต่อไปโดยไม่รู้สึกรู้สาใดๆ นอกจากจะเห็นว่าริมฝีปากหยักสูดปากเบาๆ พร้อมกับส่งเสียงครวญครางไปด้วยราวกับได้รับความสุขอย่างที่ไม่เคยพบพานมาก่อน
“ยังอยากว่ายน้ำเป็นอยู่หรือเปล่า ถ้าอยากต้องให้รางวัลฉันก่อน”
ฟรานซิสจ้องหน้าน้องสาวนอกไส้ด้วยแววตากรุ้มกริ่มไม่น่าไว้ใจนัก
“ไม่อยากค่ะ ปาล์มไม่อยากว่ายแล้ว” หญิงสาวรีบส่ายหน้าปฏิเสธออกไปในทันที
“สายไปแล้วล่ะเด็กน้อย” สิ้นเสียงเรือนร่างกำยำก็พลิกขึ้นมาทาบทับหญิงสาวใต้ร่างที่เบิกตากว้างออกมาด้วยความตกใจเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว ตัวตนที่ปูดนูนรอการปลดปล่อยค่อยๆ ดันเข้าหาเกสรดอกไม้ของคนใต้ร่างช้าๆ แต่ทว่าหนักแน่น ปทิตตาสะดุ้งเบาๆ มือเรียวที่เคยผลักไสราวกับรังเกียจเริ่มเอื้อมมากอดรัดแผ่นหลังกว้างเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่าเขาจะหนีหายไป
“อื้อ...คุณฟรานซิส” ฟรานซิสเริ่มโหมสะโพกเข้าหาความนุ่มนิ่มหอมหวาน เสียงครวญครางที่เธอเคยคิดว่ามันน่าอายดังออกมาไม่รู้ตัว มือหนาบีบเคล้นทรวงอกอิ่มที่สะท้อนขึ้นลงอยู่ด้านหน้าตามแรงอารมณ์ มิหนำซ้ำยังขบเม้มริมฝีปากเรียวบางที่ยังส่งเสียงครวญครางไม่หยุด เสียงร้องแห่งความสุขสมดังระงมจนแทบจะแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร เวลานี้ปทิตตาลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ลืมแม้กระทั่งความถูกต้องที่เคยนึกถึงด้วยเพราะจิตใต้สำนึกที่แอบหลงรักผู้มีสถานภาพเป็นพี่ชายมาโดยตลอดจึงเลือกที่จะยินยอมพร้อมใจให้เขาพาเธอไปแตะสวรรค์อีกเป็นครั้งที่สอง
“เธอมันผู้หญิงร้ายกาจ ฉันแทบคลั่งตายเพราะเธอ” ชายหนุ่มเลือดผสมพึมพำออกมาเสียงดังก่อนจะจัดการห่มสะโพกในตอนท้ายเร็วและแรงขึ้นจนร่างบางถึงกับเผลอแอ่นสะโพกเข้าหาด้วยความลืมตัว
เรือนร่างกำยำกระตุกเกร็งปลดปล่อยธารรักใส่คนใต้ร่างอย่างจงใจ ชายหนุ่มถอนกายออกมานอนข้างๆ น้องสาวนอกสายเลือดที่ตอนนี้ชิงหลับไปบริเวณข้างสระว่ายน้ำด้วยความอ่อนเพลีย มือหนาเอื้อมไปกอดรอบเอวคอดเอาไว้ด้วยความหวงแหน รอยยิ้มจากเสือยิ้มยากผุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เขาคือเจ้าของร่างกายนี้เพียงคนเดียว
ในระหว่างที่นอนกอดร่างบางอยู่นั้น ฟรานซิสสังเกตเห็นไหล่กลมกลึงสั่นไหวตามมาด้วยเสียงสะอึกสะอื้นเบาๆ คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันมุ่น พอชะโงกหน้าเข้าไปก็พบกับวงหน้าเนียนสวยที่บัดนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“ร้องไห้ทำไม หืม!”
ฟรานซิสถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจนคนฟังรู้สึกอบอุ่นไม่น้อย แต่ยังไม่กล้าคิดหวังไปไกลเพราะรู้ดีว่าเขาเกลียดเธอยิ่งกว่าอะไร ที่ถามก็คงจะเป็นเพราะกลัวว่าเธอจะคิดมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
“เปล่าค่ะ”
“ทำไมต้องโกหก หรือว่าเสียใจที่ต้องเสียตัวให้ผัวเป็นครั้งที่สอง”
ชายหนุ่มถามเสียงดังจนเกือบจะเป็นตะคอก
“คุณฟรานซิสไม่ใช่ผะ...เอ่อ ไม่ใช่สามีของปาล์มนะคะ” ปทิตตาปฏิเสธเสียงเบาหวิวจนคนรอฟังคำตอบเริ่มมีอารมณ์ ไม่ใช่ผัวแล้วจะเป็นอะไรไปได้วะ
“ถ้าไม่ใช่ผัวแล้วเรียกว่าอะไร ฮะ! ไหนลองตอบมาซิ”
“คุณฟรานซิสเป็นพี่ชายปาล์มค่ะ” ความจริงแล้วเรื่องราวแบบนี้มันไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก และเธอก็จะไม่มีวันยอมให้มันเกิดขึ้นอีกแล้ว
“เลิกพูดว่าฉันเป็นพี่ชายเธอสักที เมื่อสิบปีก่อนฉันจำได้ว่าฉันเคยบอกเธอไปแล้วว่าฉันไม่ได้ต้องการน้องสาวอย่างเธอ จำเอาไว้ว่าเธอไม่ใช่น้องสาวฉัน และฉันก็ไม่ใช่พี่ชายเธอ”
สิ้นเสียงฟรานซิสก็ลุกเดินจากไปดื้อๆ ไม่มีความอ่อนหวานหลงเหลืออยู่อีก ปล่อยให้น้องสาวนอกไส้นอนจมกับน้ำตาอีกครั้ง เธอเองก็อยากจะบอกเขาเหมือนกันว่าเธอรักเขา รักในแบบคนรัก ไม่ใช่รักแบบพี่ชาย แต่ทุกอย่างมันเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อเธอและเขาได้ชื่อว่าเป็นพี่น้องกัน แม้เขาจะไม่เคยต้องการผู้หญิงคนนี้ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม
