ตอนที่ 4
ฟรานซิสมีอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อกลับมาถึงไม่พบน้องสาวนอกสายเลือด ซึ่งขณะนี้เป็นเวลาสองทุ่มครึ่งแล้ว เห็นทีต้องสั่งให้เอาตารางเรียนมาให้ดูจะได้รู้ว่าวันไหนเลิกกี่โมง ครั้นพออดรนทนไม่ไหว ชายหนุ่มตัดสินใจกดโฟนไปหาหญิงสาวต้นเหตุของอารมณ์ในตอนนี้ทันที
ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด
เสียงสมาร์ตโฟนดังขึ้นในขณะที่เจ้าของกำลังคุยกับเพื่อนในกลุ่ม สายเรียกเข้า ‘คุณฟรานซิส’ รายชื่อที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอทำเอาคิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน แม้จะแปลกใจไม่น้อยแต่หญิงสาวก็ตัดสินใจกดรับสาย
“เลิกเรียนหรือยัง ทำไมยังไม่รีบกลับบ้านอีก?” น้ำเสียงเข้มตะคอกผ่านมาตามสายทันทีที่กดรับ ปทิตตาถึงกับถอนหายใจออกมา เริ่มรู้สึกว่าคนที่บอกว่าเกลียดตนกำลังทำตัวราวกับเป็นผู้ปกครองเข้าไปทุกที
“เลิกนานแล้วค่ะ” หญิงสาวตอบกลับไปเสียงเรียบเพราะไม่อยากมีเรื่อง
“แล้วทำไมไม่รีบกลับบ้าน ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน!”
ปลายสายไม่มีท่าทีว่าจะใช้น้ำเสียงอ่อนลง เพียงแค่คิดว่าเธอไปกับคนอื่นหรือเพื่อนชายในวัยเดียวกัน ต่อมหึงหวงชนิดไม่รู้ตัวก็กระตุกขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ
“ปาล์มมาเดินห้างกับเพื่อนค่ะ คุณฟรานซิสมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“มีแน่ถ้ายังไม่กลับ ว่างมากนักหรือถึงได้เอาเวลาไปเดินห้าง อย่าให้ฉันต้องตามออกไปรับเธอถึงที่” คนเผด็จการสั่งเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะกดปุ่มตัดสายไป
“เอ่อ...ริต้า ปาล์มคงต้องรีบกลับแล้วล่ะ ขอโทษด้วยนะคะพี่รุต”
หญิงสาวตัดสินใจบอกกับเพื่อนเพราะไม่อยากมีปัญหา ไม่ลืมหันไปขอโทษขอโพยชายหนุ่มซึ่งมีสถานะเป็นพี่ชายของเพื่อน ทั้งที่สัญญากันไว้ว่าจะพาเธอไปเลี้ยงข้าวเนื่องในโอกาสได้ทำความรู้จักกัน คำบอกลาดังกล่าวทำเอาคนเพิ่งเจอรักแรกพบอย่างศรุตถึงกับหน้าเจื่อนลงไปทันที
วันนี้น้องสาวของตนพาเพื่อนสนิทที่ดูน่ารักน่าทะนุถนอมในสายตามาทำความรู้จักเนื่องจากที่ผ่านมาต้องเลื่อนนัดกันอยู่หลายครั้ง ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าแม่น้องสาวตัวดีต้องการจับคู่ให้ตนเองและเพื่อน ตอนแรกศรุตก็ทำท่าจะคัดค้าน ทว่าพอได้พบหน้าทำเอาชายหนุ่มวัยสามสิบหลงรักหญิงสาวที่ยังไม่พ้นรั้วมหาวิทยาลัยทันที
“ทำไมรีบกลับล่ะครับน้องปาล์ม”
“นั่นสิปาล์ม ริต้ายังไม่ได้พาปาล์มไปเดินซื้อของเลยนะ” ศรุตาถามบ้างที่จู่ๆ เพื่อนสนิทมีท่าทางรีบร้อนอย่างเห็นได้ชัด
“คือว่าพี่ชายปาล์มโทรมาตามจ้ะริต้า” ปทิตตาตอบด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก เธอยังไม่เคยบอกให้เพื่อนสนิทได้รับรู้ว่าตนเองมีพี่ชาย
“ถ้างั้นปาล์มก็รีบกลับเถอะ ไว้วันหลังเราค่อยมาเจอกันก็ได้ ว่าแต่อย่าลืมพาพี่ชายปาล์มมารู้จักริต้าบ้างนะ ริต้าอยากเห็นพี่ชายปาล์ม มีน้องสาวสวยเลยหวงมากใช่ม้า”
หญิงสาวกระเซ้าเพื่อน แต่คนฟังกลับรู้สึกเสียวสันหลังมากกว่าจะหัวเราะตาม ไม่รู้ว่ากลับไปต้องเจอกับอะไรบ้าง
“จ้ะ ยังไงต้องขอโทษริต้ากับพี่รุตอีกครั้งนะคะ” ปทิตตากล่าวด้วยน้ำเสียงเกรงอกเกรงใจ
“ไม่เป็นไร ไว้วันหลังเจอกันก็ไม่สายหรอก จริงไหมคะพี่รุต” ศรุตาหันไปถามพี่ชายอย่างขอความเห็นเธอพอจะมองออกว่าพี่ชายสุดที่รักสนใจเพื่อนตนอยู่ไม่น้อย
“ใช่ครับ ให้พี่ไปส่งน้องปาล์มที่บ้านไหมครับ” ศรุตขันอาสา
“ไม่เป็นไรค่ะ ปาล์มขับรถมาเอง อีกอย่างปาล์มกลัวถูกดุด้วย”
เพียงแค่จินตนาการถึงใบหน้าถมึงทึงด้วยอารมณ์โกรธของคนเอาแต่ใจก็ทำให้ปทิตตารีบปฏิเสธความหวังดีออกไปเพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาตามมา
“กลับบ้านดีๆ ล่ะปาล์ม ไว้เดี๋ยวริต้าโทรหานะ”
“อื้ม” หญิงสาวบอกลาเพื่อนอีกครั้งก่อนจะรีบตรงไปยังลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า
ตั้งแต่ชายผู้มีสถานะเป็นพี่ชายกลับมาจากอเมริกาคราวนี้ก็ดูจะเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตของเธอมากกว่าเมื่อก่อน ทั้งที่เคยประกาศว่าไม่ต้องการน้องสาวนอกไส้อย่างตนด้วยซ้ำ ยิ่งคิดก็ยิ่งหาสาเหตุไม่ได้นอกจากจะก้มหน้ายอมรับชะตากรรมในเมื่อเธอเพียงเป็นแค่กาฝากที่อาศัยบ้านของเขาซุกหัวนอน...เท่านั้น
“ถ้าฉันไม่โทรไปตามเธอก็ไม่คิดจะกลับใช่ไหม?” ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาภายในคฤหาสน์ ดวงตากลมก็พบเจอกับเจ้าของเรือนร่างกำยำซึ่งนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาหรูบริเวณกลางห้องโถง มิหนำซ้ำยังจ้องมาทางเธอด้วยสีหน้าไม่พอใจชัดเจนและซักไซ้ราวกับผู้พิพากษา
“ปาล์มไปกับเพื่อน ทำไมคุณฟรานซิสต้องโวยวายด้วยคะ” คนถูกกล่าวหาว่าผิดตอบกลับไปเสียงเบา เธอไม่ได้อยากจะเถียงเพราะรู้ดีว่าผลลัพธ์ที่ตามมาคืออะไร แต่จากคำกล่าวหาทำให้อดไม่ได้ที่จะปกป้องตัวเองทุกครั้ง
“ที่ฉันโทรตามก็เพราะว่าเธอเป็นเด็กในบ้านหรอกนะ อีกอย่างแม่ไม่อยู่เท่ากับว่าตอนนี้ฉันคือผู้ปกครองของเธอ” คนขี้หวงแต่ไม่ยอมรับความจริงเริ่มอ้างสิทธิของตนเองท่ามกลางความไม่เข้าใจของอีกฝ่าย
“แต่คุณแม่ไม่เคยตามปาล์มเลยนะคะ ไม่ว่าปาล์มจะไปกับใคร”
“นั่นแม่...ไม่ใช่ฉัน อย่าให้ฉันรู้ว่าเลิกเรียนแล้วแต่ยังเอาเวลาไปเดินห้างต่ออีกนะ ไม่งั้นฉันตามไปลากตัวเธอถึงที่แน่”
คำสั่งเด็ดขาดมาพร้อมกับสีหน้าตื่นตะลึง รู้สึกว่าเขากำลังจำกัดสิทธิของเธอมากเกินไปทั้งที่เธอโตพอแล้ว ริมฝีปากเล็กเม้มเข้าหากันแน่นก่อนจะสะบัดหน้าหนีบอกให้รู้ว่ากำลังไม่พอใจกับสั่งบ้าๆ เช่นเดียวกัน ซึ่งคนเห็นก็ไม่มีท่าทีสะทกสะท้าน แถมยังส่งเสียงเรียกเด็กหัวรั้นดังลั่นอีกครั้ง
“หยุด! ฉันยังไม่ได้สั่งให้เธอไป”
“มีอะไรคะ?” ปทิตตาหันกลับไปถามด้วยท่าทางอ่อนใจ เธอไม่อยากเถียงด้วยอีกแล้ว
“เปลี่ยนชุดว่ายน้ำแล้วไปเจอฉันที่สระ ฉันให้เวลาเธอสิบห้านาที”
คำสั่งดังกล่าวทำเอาหญิงสาวอ้าปากค้างอีกครั้ง นี่เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือไงจู่ๆ ถึงชวนออกไปว่ายน้ำ ที่สำคัญเธออยากมีเวลาส่วนตัวทำรายงานมากกว่า
“แต่นี่สามทุ่มครึ่งแล้วนะคะ ปาล์มจะทบทวนบทเรียน คงไม่มีเวลาไปว่ายน้ำ เชิญคุณฟรานซิสตามสบาย ที่สำคัญปาล์มว่ายน้ำไม่เป็นด้วยค่ะ”
“อย่าคิดขัดคำสั่งฉัน แค่ว่ายน้ำไม่ได้ใช้เวลานานนักหรอก ชั่วโมงเดียวเท่านั้น ถ้าว่ายไม่เป็นฉันจะสอนให้” ฟรานซิสตัดบทเสร็จสรรพอย่างคนแต่ใจและไม่ชอบถูกใครขัดใจ
“ยังไงปาล์มก็ไม่ว่ายค่ะ” เธอปฏิเสธเสียงแข็ง
“ถ้าไม่ว่ายก็เตรียมตัวตอบคำถามแม่ได้เลยว่าเธอนอนกับฉันไปกี่ครั้ง” ทันทีที่พูดจบวงหน้าเรียวก็หันขวับไปมองผู้ชายเจ้าเล่ห์ด้วยความแค้นเคือง คนทุเรศ
“ทำไมคุณฟรานซิสต้องขู่ปาล์มด้วย”
“แล้วทำไมเธอถึงชอบให้ฉันขู่ ทำไมไม่เชื่อฟังแล้วทำตามอย่างว่าง่ายล่ะ?” คนบ้าอำนาจเลือกที่จะไม่ตอบและถามกลับไปด้วยน้ำเสียงยียวน นึกชอบใจที่ได้เห็นเด็กดื้อตรงหน้าโกรธจนหน้าดำหน้าแดง
“ก็ได้ค่ะ ชีวิตปาล์มตอนนี้อยู่ในกำมือของคุณแล้วนี่คะ จะทำอะไรกับปาล์มก็เชิญ” เธอตอกกลับไปด้วยความโกรธจัดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ไม่มีวันยอมให้เขานำเรื่องนี้ไปฟ้องผู้มีพระคุณให้ท่านต้องทุกข์ใจเด็ดขาด แม้ว่าความทุกข์จะตกอยู่ที่ตนเพียงฝ่ายเดียวก็ตาม
