ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
เช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ เจ้าของเรือนร่างกำยำตรงเข้ามาภายในห้องอาหารด้านล่าง เวลานี้เหลือเพียงแค่เขาและน้องสาวนอกสายเลือดเพียงลำพังสองคนในบ้าน ไม่ทันไรดวงตาคมเข้มก็เหลือบไปเห็นร่างบางในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ขาสั้นคาดด้วยผ้ากันเปื้อนสีหวานกำลังเดินออกมาจากบริเวณโซนห้องครัวพร้อมกับโถข้าวต้มที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนจมูก ครั้นพอเห็นหน้าเขา เจ้าหล่อนก็รีบก้มหน้าก้มตาหลบราวกับตนนั้นน่ารังเกียจ
“เอ่อ...ทานข้าวต้มกุ้งไหมคะ” ปทิตตาเอ่ยทำลายบรรยากาศอันน่าอึดอัดพร้อมกับวางโถใบใหญ่ไว้บนโต๊ะ ก่อนจะรีบจัดการตักอาหารมื้อเช้าใส่ชามให้ผู้มีสถานะเป็นพี่ชายทันทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้
“เธอตื่นกี่โมง?” ฟรานซิสไม่สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแต่ส่งคำถามกลับไปเสียงเข้ม
“จะ...เจ็ดโมงค่ะ” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น พยายามข่มอารมณ์ไม่พร้อมเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย ยืนก้มหน้าตอบจนคนมองเริ่มมีอารมณ์
“ทำไมต้องหลบหน้าหลบตา ไหนมานี่ซิ”
สิ้นเสียงดังกล่าวเอวคอดก็ถูกดึงเข้าไปหาชนิดไม่ทันตั้งตัวจนถลาลงนั่งบนตักกว้างโดยอัตโนมัติ
“มะ...ไม่ได้หลบค่ะ แต่เราไม่ควรทำแบบนี้นะคะ”
ปทิตตารีบชี้แจงเสียงสั่น
“แบบที่ทำอยู่ตอนนี้ หรือว่าแบบเมื่อคืน หืม...”
คนหื่นถามพลางโน้มใบหน้าเข้ามาสูดดมความหอมจากเรือนผมนุ่มเต็มแรงจนเจ้าตัวถึงกับสะดุ้ง
“ปล่อยปาล์มก่อนค่ะคุณฟรานซิส ปาล์มมีธุระต้องออกไปทำค่ะ”
“ไปไหน?” ชายหนุ่มถามกลับไปทันทีราวกับต้องการรู้ว่าเธอมีธุระสำคัญอะไรนักหนา ทำไมตนจะมองไม่ออกว่าหญิงสาวในอ้อมกอดมีบางอย่างปิดบังอยู่ แล้วเขามันก็เป็นพวกต้องรู้ให้ได้เสียด้วย
“คือว่า...ปาล์มจะออกไปซื้อของค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงเบาหวิว ก้มหน้างุดด้วยกลัวจะถูกจับได้ว่าของที่ต้องการคืออะไร
หลังนอนคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้เธอตัดสินใจกินยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินเนื่องจากเคยศึกษาเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่มีการป้องกันใดๆ คิดถึงทีไรใบหน้าเนียนก็ซับสีเลือดขึ้นมา เพราะไม่ต้องการทำลายอนาคตตนเองในเวลานี้ ที่สำคัญถ้าเกิดเธอท้องขึ้นมาจริงๆ เขาคงไม่ต้องการเลือดเนื้อซึ่งกำเนิดจากน้องสาวกาฝากที่รังเกียจยิ่งกว่าอะไรดี
“ซื้ออะไร มีของจำเป็นอะไรที่เธอต้องซื้อ ทุกอย่างในบ้านป้าสร้อยเป็นคนจัดการอยู่แล้ว”
สิ้นเสียงคิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย มือหนายังไม่ยอมปล่อยง่ายๆ ซ้ำยังรัดแน่นยิ่งกว่าเดิมจนกลายเป็นความอึดอัดแม้ลึกๆ แล้วจะรู้สึกอบอุ่นกับอ้อมกอดนี้อยู่ไม่น้อย
“คือ...เอ่อ” อาการใบ้รับประทานยิ่งทำให้คนมองรู้สึกหงุดหงิด ร่างบางถูกจับให้ลุกขึ้นมาเผชิญหน้าก่อนจะตะคอกถามต่อไปเสียงดัง
“คืออะไร มีอะไรนักหนา”
“ปาล์มจะออกไปซื้อยาคุมฉุกเฉินค่ะ”
ตอบไปแล้วก็แทบอยากจะหนีหายไปจากตรงนี้ให้เร็วๆ นัก เธอไม่ได้ต้องการให้เขามารับรู้เรื่องราวแบบนี้เลยสักนิดเดียว
“ทำไม? กลัวว่าจะท้องกับฉันมากนักหรือไง ฮะ!” คนเอาแต่ใจถามเสียงดัง
“ปาล์มยังเรียนไม่จบค่ะ และที่สำคัญปาล์มเป็นน้องสาวของคุณนะคะ” ปทิตตาย้ำถึงสถานะของตนเองให้ชายหนุ่มได้รับรู้
ทันทีที่ได้ยินทำเอาคนฟังถึงกับเต้นผางขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ใครจะอยากให้เมียตัวเองเปลี่ยนไปเป็นน้องสาวกันวะ ในเมื่อไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแม้แต่นิดเดียว
“ฉันบอกเมื่อไหร่ว่าต้องการนับเธอเป็นน้องสาว น้องสาวนอกไส้อย่างเธอ ฉันไม่เคยต้องการ” พูดจบคนเอาแต่ใจก็ลุกพรวดจนหญิงสาวเกือบเสียหลัก เขายอมรับว่าอารมณ์ขุ่นมัวเพราะคำพูดไม่เข้าหูแต่เช้า
ดวงตากลมโตได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างไปพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ รู้ดีและเจียมตัวอยู่เสมอว่าเขาไม่เคยต้องการน้องสาวอย่างเธอ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะถูกรังเกียจมากขนาดนี้
หญิงสาวคิดด้วยความน้อยใจก่อนจะตัดสินใจทำในสิ่งที่ตั้งใจ ซึ่งจุดหมายปลายทางก็คือร้านขายยาบริเวณหน้าปากซอย
ฟรานซิสเดินกลับเข้ามาในห้องพลางกดสมาร์ตโฟนไปยังคู่ควงสาวด้วยท่าทางกระแทกกระทั้น ความโกรธในตัวผู้หญิงที่เพิ่งตกเป็นเมียไม่กี่ชั่วโมงทำให้ชายหนุ่มอยากลองใจอีกฝ่าย ถ้าเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่น อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะทนได้และยังต้องการสถานะน้องสาวอีกหรือเปล่า
“ว่างหรือเปล่า? มาหาฉันที่บ้าน มีอะไรให้ทำ”
เสียงทุ้มกรอกลงไปตามสายจนคู่ควงสาวเนื้อเต้นด้วยความยินดีที่ถูกโทรมาหาก่อน ทุกครั้งที่ผ่านมาเธอมักเป็นฝ่ายตามตื้อขอให้เขาออกมาเจออยู่ตลอด ยิ่งล่าสุดรู้มาว่าชายหนุ่มที่ใครๆ ต่างก็พร้อมเทหัวใจให้กลับมาดูแลกิจการที่เมืองไทยอย่างไม่มีกำหนด เป็นโอกาสดีที่จะทำคะแนนให้ตนเอง เนื่องจากยังหวังอยู่ลึกๆ ว่าจะได้ยืนเคียงข้างเขาในฐานะภรรยา และต้องทำฝันดังกล่าวเป็นจริงให้ได้
“ได้ค่ะ ถ้าคุณธะ...เอ่อ ถ้าคุณฟรานซิสต้องการ” ปลายสายเกือบหลุดปากเรียกชื่อเล่นเขาอย่างสนิทสนม
“อย่าช้า ใส่ชุดที่เธอคิดว่าเซ็กซี่ที่สุดมา” เขาสั่งพลางนึกไปถึงใบหน้าหญิงสาวอีกคนจนเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“แน่นอนค่ะ ดาวจะแต่งชุดที่สวยที่สุดเลยค่ะ” รรินดาตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มยินดี นี่เขาคงจะมีใจให้เธอแล้วจริงๆ สินะ
“ฉันให้เวลาเธอแค่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง”
สิ้นเสียงมือหนาก็กดปุ่มวางสายไปทันทีท่ามกลางอาการขัดใจของคนฟังที่ได้แต่ส่งเสียงฮึดฮัดคนเดียว ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ผู้ชายที่มีหัวใจเย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็งก็ไม่เคยคิดจะอ่อนหวานสักนิด
