บท
ตั้งค่า

บทนำ

เวลาตีสองครึ่ง

ปทิตตาพยายามประคองเรือนกายกำยำขึ้นมายังห้องนอนชั้นบนของคฤหาสน์หรูของตระกูลวัฒนาธนพัฒน์อย่างทุลักทุเล หลังถูกปลุกจากนิทราด้วยเสียงโวยวายที่ดังลั่นไปทั่วบริเวณโถงกว้าง นึกขุ่นเคืองไม่น้อยเพราะถึงอยู่ในห้องนอนส่วนตัวเธอก็ยังได้ยิน กระทั่งเดินลงมาด้านล่างก็พบกับนักธุรกิจหนุ่มลูกชายคนเดียวของผู้มีพระคุณกลับมาในสภาพเมามาย ร้อนจนต้องเข้าไปช่วยดูแลเนื่องจากเป็นเวลานอนแล้ว ที่สำคัญช่วงนี้แม่บ้านสูงวัยเพิ่งขอลากลับบ้านเกิด ส่วนประมุขใหญ่เดินทางไปพักผ่อนกับเพื่อนที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อวานนี้

ฟรานซิส เดวีโน่ (วัฒนาธนพัฒน์) หรือธัน หนุ่มลูกเสี้ยวไทย-อเมริกัน-กรีซ วัย 35 ปี ด้วยความสูงกว่า 191 เซนติเมตร ดวงตาสีเทาควันบุหรี่ เรือนกายกำยำต่างกับผู้ชายเอเชียหลายๆ คนเป็นผลพวงมาจากเชื้อสายของผู้ให้กำเนิดซึ่งเป็นชาวกรีซ เส้นผมดำสนิทรับกับศีรษะทุยได้รูปพอจะทำให้มองออกว่ายังได้รับเค้าความเป็นเอเชียจากมารดา ส่วนเชื้อสายอเมริกันนั้นมาจากผู้เป็นย่า

ฟรานซิสเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศอเมริกาหมาดๆ หลังใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นกว่าสิบปีนับตั้งแต่เดินทางไปเรียนต่อระดับปริญญาโททางด้านบริหาร กระทั่งกลับมาสืบทอดกิจการครอบครัวอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง มิหนำซ้ำยังดีเกินคาดกับธุรกิจหลอดไฟฟ้าที่ขยายสาขาในประเทศไทยและแถบเอเชีย

“เดินดีๆ ค่ะคุณฟรานซิส”

ผู้ทำหน้าที่ประคองคนเมาอดบ่นออกมาไม่ได้ ผิดกับเจ้าตัวที่เวลานี้กำลังส่งสายตาหยาดเยิ้มยิ่งกว่าน้ำผึ้งเดือนห้ามาให้ ปทิตตาถึงกับมึนงงไปชั่วขณะกับท่าทางของคนที่เคยประกาศกร้าวว่าจะไม่มีทางต้อนรับและเห็นเธอเป็นคนในครอบครัวเด็ดขาด

หญิงสาวยังจำภาพที่อีกฝ่ายมองมาด้วยแววตาเกลียดชังนับแต่วันที่ตนก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้ด้วยวัยเพียงเจ็ดปี แม้แต่ชื่อเล่นของเขาเธอยังไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเรียก หากไม่เป็นเพราะความเมตตาของคุณหญิงธนาภาและสามีที่ล่วงลับไปเมื่อสามปีก่อนให้ความเอ็นดูราวกับลูกในไส้ และความเมตตาดังกล่าวคือสาเหตุให้บุตรชายเพียงคนเดียวของบ้านตั้งแง่รังเกียจตั้งแต่ได้รู้ว่าผู้ให้กำเนิดตั้งใจพาน้องสาวนอกสายเลือดเข้ามามาร่วมชายคา

“ฮึ! คิดจะชวนฉันขึ้นห้องหรือยัยเด็กกาฝาก ใจกล้าดีจริงๆ อึกก”

ชายหนุ่มเลือดผสมเย้ยหยันทั้งที่น้ำเสียงอ้อแอ้เต็มที ซึ่งปกติไม่เคยปล่อยให้ตัวเองเมาขนาดนี้ ดวงตาคมเข้มหรี่มองใบหน้าหวานที่อยู่ใกล้แค่คืบที่คนมองเห็นก็สุดจะคาดเดา ทว่าแวบหนึ่งกลับแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์บางอย่าง

คืนนี้เธอไม่รอดมือฉันแน่ แม่กวางน้อย

“ปะ...เปล่าค่ะ ปาล์มหมายความว่าให้คุณฟรานซิสขึ้นไปนอนค่ะ คุณเมามากแล้วนะคะ”

หญิงสาววัยสิบเก้าซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยชั้นปีที่สองด้านบริหาร ด้วยความหวังที่ว่าหลังจากจบการศึกษาจะตอบแทนทำงานในบริษัทของผู้มีพระคุณ เจ้าของเรือนร่างบอบบาง ทว่าหน้าอกอิ่มล้นเกินตัว ดึงดูดให้สายตาคมไล่มองตั้งแต่โครงหน้าเรียวรูปไข่มาถึงปลายจมูกเล็กเชิดรั้นรับกันกับดวงตากลมโตดูบ้องแบ๊วไร้เดียงสา รอยบุ๋มบริเวณข้างแก้มใส แต่อะไรก็ไม่เท่าริมฝีปากบางรูปกระจับน่าจูบที่เห็นทีไรทำเอาเลือดในกายหนุ่มหล่อหาตัวจับยากแล่นพล่านขึ้นมาชนิดไม่ทราบสาเหตุ

“ให้ไปนอนแล้วเธอจะบริการฉันใช่หรือเปล่า หืม?” ฟรานซิสยังถามต่อจนคนฟังชักไม่แน่ใจ

“คุณฟรานซิส นี่ปาล์มเองนะคะ”

เจ้าตัวเพ่งมองใบหน้าแดงก่ำที่อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบด้วยสายตาเป็นห่วงและพยายามบอกกับคนเมาไม่ได้สติให้รับรู้ว่าเธอมีสถานะเป็นน้องสาว แม้จะไม่ใช่น้องสาวที่คลานกันมาก็ตาม

“จะเป็นใครหน้าไหนก็ช่าง ไหนว่าจะพาพาฉันไปนอนไงทูนหัว”

คนเมาลากเสียงยาวก่อนจะส่งเสียงหัวเราะหึๆ ในลำคอ ช่างเป็นโอกาสเหมาะที่ผู้ให้กำเนิดไม่อยู่บ้าน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยยอมรับและเห็นด้วยกับจุดประสงค์ของมารดาซึ่งรับเด็กคนนี้มาเลี้ยงดู

ตอนแรกท่านคิดแค่ว่าตนอิจฉาตามประสาเพราะเป็นลูกชายเพียงคนเดียวมาตลอดจึงไม่อยากถูกแย่งความรัก แต่บัดนี้ฟรานซิสได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่เคยคิดจะยอมรับน้องสาวนอกไส้คนนี้และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

“ถึงแล้วค่ะ ค่อยๆ นะคะ”

มือเล็กเอื้อมไปเปิดประตูบานใหญ่พร้อมกับพาเรือนร่างกำยำไม่ต่างจากยักษ์ปักหลั่นลงไปบนเตียงนอนขนาดคิงไซส์

“เดี๋ยว! มาสนุกกันก่อนสิ อึกก...” สองมือหนาไขว่คว้าแขนเรียวไว้ไม่ให้ลุกหนีไปไหน

“คุณฟรานซิส ปล่อยก่อนค่ะ ปาล์มจะกลับไปนอน” เจ้าตัวพยายามบิดกายหนีพร้อมปฏิเสธเสียงหลง

“ก็นอนด้วยกันที่นี่สิ” คนเมาดึงร่างบางให้ลงมาขนาบด้านข้าง ยิ่งพอเห็นอีกฝ่ายจนมุม เขาก็ยิ่งรุกหนักโดยการพลิกร่างตนเองขึ้นมาพันธนาการแม่กวางน้อย แววตาเต็มไปด้วยอาการตื่นตระหนก

“ระ...เราไม่ได้เป็นอะไรกันนะคะ จะนอนเตียงเดียวกันได้ยังไง”

หญิงสาวแย้ง ยอมรับอย่างไม่อายว่าแอบหลงรักลูกชายคนเดียวของผู้มีพระคุณ ตลอดเวลาที่ผ่านมามักจะติดตามข่าวของอีกฝ่ายผ่านสื่อโซเชียล แม้จะอยู่ไกลกันแค่ไหน หัวใจก็เป็นของผู้ชายคนนี้เสมอ

“ไม่ได้เป็นก็ทำให้เป็นสิ”

สิ้นเสียงใบหน้าคร้ามคมก็ซุกไซ้ลงไปบนซอกคอขาวเนียน ก่อนจะไล่ต่ำลงไปยังเปลือกตาสวยจวบจนถึงริมฝีปากสีหวาน ไม่มีส่วนไหนที่เขาไม่แตะต้อง ทุกซอกทุกมุมบนใบหน้าถูกคนเมา(ดิบ) สำรวจตรวจตราโดยเฉพาะริมฝีปากเล็กที่ถูกดูแลเป็นพิเศษ

ในคราแรกวงหน้าสวยพยายามดิ้นหนีสัมผัสร้ายกาจพัลวัน แต่สุดท้ายก็ยอมโอนอ่อนผ่อนตาม ด้วยชั้นเชิงที่เหนือกว่าบวกกับหัวใจที่อ่อนยวบของตนเอง เธอจูบตอบเขาราวกับโหยหาสัมผัสมาเนิ่นนาน

คนควบคุมเกมเองก็ไม่น้อยหน้า มือขวาเลื่อนไปกอบกุมหน้าอกคัพซีเกินตัวผ่านชุดนอนจนร่างบางสะท้านกับสัมผัสที่ได้รับ คนผ่านประสบการณ์มาโชกโชนอย่างฟรานซิสย่อมรู้ว่าจุดอ่อนผู้หญิงอยู่ตรงไหน นอกจากจะไม่ปัดป้องแล้วแม่น้องสาวนอกไส้คนสวยยังเผลอกอดตอบและใช้มืออีกข้างประคองศีรษะได้รูปตอบรับจูบที่ดูดดื่มดังเช่นคู่รักทำกัน

มือหนาลูบไล้ลงไปถึงบริเวณหน้าท้องแบนราบ ส่วนอีกข้างทำหน้าที่ลูบไล้บนแผ่นหลังนวลเนียน ใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้มมุมปากเมื่อสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายโนบรา คงเพราะเธอเตรียมเข้านอนแล้ว

“ยะ...อย่าค่ะคุณฟรานซิส” เสียงร้องห้ามนั้นสั่นสะท้านทั้งๆ ที่ร่างกายกลับตอบสนองออกไปอย่างลืมตัว

“ห้ามทำไม หืม...ฉันรู้ว่าเธอต้องการ เดี๋ยวสอนให้เอง”

พูดจบกางเกงนอนขายาวที่ไร้สิ่งใดขวางกั้นอีกชิ้นก็ถูกรูดลงมาตามปลีน่องเรียวสวยก่อนจะถูกโยนตามไปที่พื้นอย่างไม่ไยดี ในขณะเจ้าของเรือนกายกำยำก็ผละออกไปปลดเข็มขัดและกางเกงของตนเองออกด้วยความรวดเร็วราวกับไม่อยากปล่อยเวลาให้ผ่านไปแม้สักนาทีเดียว

“คุณฟรานซิส ปะ...ปาล์มกลัว” คนกลัวร้องบอกเสียงสั่นเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นความคับแน่นบริเวณหน้าขาที่ขยายใหญ่จนแทบจะปริออกมา

“กลัวอะไร ไม่ต้องกลัวเด็กน้อย แล้วเธอจะชอบมันมากเลยล่ะ” ฟรานซิสแทบทนไม่ไหวที่จะกระโจนเข้าหาร่างบางราวกับนายพรานที่พร้อมจะผลาญพล่าพรหมจรรย์หญิงสาว

เรียวขางามถูกแยกออกจากกัน ยิ่งได้เห็นกลีบกุหลาบสีหวานสดใหม่ไม่เคยผ่านมือชายใดตรงหน้าก็ทำเอาเขาแทบควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ นิ้วแกร่งสอดแทรกผ่านช่องทางแห่งความคับแน่นท่ามกลางเสียงหวีดร้องของหญิงสาวใต้ร่าง ร่างบางบิดตัวเกร็งด้วยความเสียวซ่านชนิดลืมอายไปชั่วขณะ

“เธอจะมีความสุขกว่านี้อีก เชื่อฉัน” เรือนกายกำยำผละออกไปจัดการกับปราการด่านสุดท้ายของตนเอง จังหวะนั้นที่ดวงตากลมโตเหลือบไปเห็นสิ่งที่ไม่น่ามองอีกครั้ง ครั้งนี้เธอปิดตาลงแน่นราวกับมันคือสิ่งน่ากลัวจนคนมองแหงนหน้าหัวเราะกับความไร้เดียงสาดังกล่าว

“ไม่ต้องตกใจ มันจะไม่ทำร้ายเธอ มีแต่จะทำให้มีความสุข ที่สำคัญฉันไม่ใช่เอเชียเต็มตัว ดังนั้นขนาดอาจจะแตกต่างนิดหน่อย”

บัดนี้ชายหนุ่มแปลงร่างเป็นหมีขาวจอมหื่น โอ้อวดสรรพคุณความเป็นตัวเองอย่างไม่สะทกสะท้านใดๆ แต่คนฟังอยู่กลับหน้าแดงซ่านไม่ต่างจากผลเชอร์รี่

“คนบ้า พูดจาน่าเกลียด”

ชายหนุ่มหาได้สนใจคำกล่าวหานั้นไม่ ตรงกันข้ามดวงตาคมที่ตอนนี้อาบไล้ด้วยไฟพิศวาสเริ่มสำรวจรูปร่างวัยสาวที่ผ่านการดูแลมาเป็นอย่างดี ผิวขาวอมชมพูทั่วเรือนร่าง ผมบ็อบสั้นแผ่สลวยอยู่เต็มหมอนหนุน โดยเฉพาะทรวงอกอิ่มได้รูป ช่างงดงามราวกับรูปปั้นสลัก

ริมฝีปากหยักเลื่อนลงมาขบเม้มทรวงอกอิ่ม จนหญิงสาวใต้ร่างบิดเร่า เผลอแอ่นกายขึ้นรับสัมผัส สองมือดึงทึ้งศีรษะทุยแน่นขึ้น แรงขบเม้มที่สร้างร่องรอยไปทั่วราวกับต้องการตีตราจอง ลามเลียมาถึงแอ่งสะดือเล็ก กลีบกุหลาบแรกแย้มสีสวยที่บรรจงขบเม้มดูดดื่มเอาความหอมหวานจากเกสร สร้างความรัญจวนจนหญิงสาวส่งเสียงครวญไม่หยุดหย่อน

“อ๊ะ...”

“อย่ากลัวเด็กน้อย”

แกนกายแข็งแกร่งหลอมรวมเข้าไปยังช่องทางรักทันทีท่ามกลางเสียงกรีดร้องที่ดังประท้วงและอาการผลักไสตามเข้ามาแทนที่ ใบหน้าคร้ามคมถึงกับบิดเบี้ยวเหยเกเมื่อพบเข้ากับช่องทางรักอันคับแน่นที่ผ่านมันไปได้เพียงแค่ครึ่งทาง

ความต้องการที่ก่อเกิดทำให้หลงลืมไปว่าต้องทะนุถนอมเธอ

“ฮือ...ไม่เอาแล้วค่ะ อย่าทำปาล์มเลยนะคะ”

ความเจ็บปวดราวกับร่างกายจะปริแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ ทำเอาสาวเจ้าน้ำตาไหลพรากลงมาด้วยความเจ็บ ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แม้จะหลงรักผู้ชายที่มีสถานภาพเป็นพี่ชายมากแค่ไหนแต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น

“เชื่อใจฉัน”

ชายหนุ่มเลือดผสมกระซิบชิดริมใบหูเล็ก ซับน้ำตาบนดวงตาคู่สวยและไม่ลืมปลอบประโลมสาวน้อยบริสุทธิ์ด้วยการมอบจูบแสนหวานให้เจ้าตัวหลงลืมและบรรเทาความเจ็บปวดลง รอจังหวะที่จะพาตัวตนเข้าไปจนสุดทางรัก ค่อยๆ โหมสะโพกเข้าหาน้องน้อยชนิดรัวเร็ว ปทุมถันสีทับทิมที่กระเพื่อมไหวตรงหน้าถูกดูดกินไม่ต่างจากทารกหิวนม

“อื้อ...คุณฟรานซิสขา”

ร่างบางตอบรับจังหวะที่กระแทกกระทั้นลงมา สองขาเรียวเกี่ยวกระหวัดรอบเอวสอบแน่น ริมฝีปากส่งเสียงครวญครางหมดสิ้นความอาย

“ปาล์มรักคุณฟรานซิสค่ะ ช่วยปาล์มด้วยนะคะ”

ความรุ่มร้อนในร่างกายส่งผลให้ปทิตตาเป็นฝ่ายเอ่ยปากร้องขอจนรอยยิ้มเหยียดผุดขึ้นบริเวณมุมปาก...ใช่ว่าเธอจะไม่เห็นมัน เพียงแต่เวลานี้แทบจะไม่ได้นึกอะไรอีกนอกจากต้องการให้เขาปลดปล่อยเธอจากความทรมานนี้เสียที

“ได้สิครับ ตามคำขอน้องสาวคนสวย”

ชายผู้ผ่านศึกรักบนเตียงตอบรับคำขอของหญิงสาวใต้ร่างในทันที เสียงครวญครางของทั้งคู่บ่งบอกถึงอารมณ์รักที่แทบจะไม่สนใจใครหน้าไหน แม้แต่สถานะความถูกต้องทางสังคม

ฟรานซิสถอนกายออกพร้อมกับจับร่างบางให้นอนคว่ำหน้าลงก่อนจะบดเบียดแกนกายซึ่งรอการปลดปล่อยเข้าไปอีกครั้ง สะโพกกลมกลึงได้รูปทำเอาชายหนุ่มเผลอรุนแรงเพราะหักห้ามอารมณ์ไม่อยู่ ลีลารักดังกล่าวทำเอาหญิงสาวผู้ไม่เคยผ่านมือชายถึงกับได้เหงื่อไม่ต่างจากคนที่เพิ่งออกกำลังกายมาอย่างหนัก

จะต่างกันเพียงแค่นี่คือการออกกำลังกายบนเตียง

สองมือจิกลงไปบนผ้าปูที่นอนแน่น เวลานี้เธอแทบไม่ได้สนใจเลยว่าตนเองกำลังถูกปล้นความสาวไปอย่างง่ายดาย แม้ว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนที่มอบหัวใจให้ก็ตาม และอีกครั้งที่หญิงสาวถูกผลักให้นอนราบลงไป แขนเรียวผวาขึ้นไปกอดแผ่นหลังกว้าง จิกเล็บลงแน่น ลมหายใจติดขัดแต่ก็ไม่วายส่ายสะโพกตอบ

คราวนี้สะโพกสอบโหมจังหวะในช่วงโค้งสุดท้าย มือหนายกท่อนขาเรียวขึ้นมาพาดบ่าและเคลื่อนไหวเข้าออกรุนแรงและรัวเร็วจนใบหน้าสวยบิดเบี้ยวกับความเสียวซ่านที่ก่อเกิด

“อา...คุณฟรานซิส ปาล์มไม่ไหวแล้วค่ะ”

ปทิตตาพึมพำออกมาเสียงแหบพร่า

“อืม...ฉันก็เหมือนกัน”

ชายหนุ่มคำรามออกมาเสียงดังลั่นพร้อมกับปลดปล่อยสายธารรักขาวขุ่นเข้าสู่ช่องทางคับแน่นเต็มที่จนเธอรู้สึกวูบวาบอยู่ในช่องท้อง กระทั่งร่างกำยำผละออกไปนอนข้างๆ ดวงตากลมโตถึงได้ปรือขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาของคนข้างกายเพียงชั่วครู่ก็หลับลงไปด้วยความอ่อนเพลียเช่นกัน

“Goodnight คนสวยของพี่”

เสียงทุ้มกระซิบบอกพร้อมกับก้มลงจูบหน้าผากนวลเนียนของคนที่หลับตาพริ้ม มือหนาเอื้อมไปกอดเอวคอดกิ่วไร้อาภรณ์ใดๆ เอาไว้อย่างหวงแหน ราวกับเป็นสมบัติล้ำค่าที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก และต้องเป็นเขาเท่านั้นที่มีสิทธิ์ครอบครอง!

ช่วงเวลาเกือบตีสี่ปทิตตารู้สึกตัวอีกครั้งพร้อมกับสมองที่พยายามประมวลผลเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า ครั้นจะขยับกายลุกขึ้นก็ต้องส่งเสียงร้องออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บร้าวไปแทบทั้งตัว

“โอ๊ยย”

“จะรีบลุกทำไม” ฟรานซิสต่อว่าก่อนจะปรี่เข้ามาหาร่างบางที่ล้มลงไปพร้อมกับเรือนร่างที่ยังเปล่าเปลือย

“อุ๊ย!” ปทิตตาส่งเสียงร้องเมื่อเห็นอีกฝ่ายก้าวเข้าหา เธอไม่มีอะไรปกปิดร่างกายเลยแม้แต่ชิ้นเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือห่อไหล่บดบังทรวงอิ่มเอาไว้ มือทั้งสองข้างพยายามเอื้อมไปปิดบังของสงวนด้านล่างด้วยความอาย

“จะปิดไปทำไม คิดเหรอว่าไอ้มือเล็กๆ ของเธอจะปิดอะไรๆ ได้หมด” คนเอาแต่ใจชักสีหน้าไม่พอใจที่เจ้าหล่อนทำเหมือนไม่อยากให้ตนเห็นทั้งๆ ที่เมื่อคืนเห็นจนทะลุปรุโปร่ง

“ห้ามมองนะคะ”

“มีสิทธิ์อะไรมาสั่งสาวน้อย เธอเป็นใคร แล้วฉันเป็นใคร” ชายหนุ่มถามเสียงเข้ม

ปทิตตาถึงกับชะงักไป ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนเขาก็มักจะย้ำฐานะให้รู้ตัว ซึ่งเธอรู้ดีว่าไม่เคยมีค่าอะไรในสายตา แต่ก็อดไม่ไม่ได้ที่จะตอบโต้ออกไปบ้าง

“ปาล์มขอโทษค่ะ ปาล์มทราบดีว่าตัวเองเป็นใคร”

“ดี! กลับห้องเธอไปได้แล้ว ฉันจะนอนต่อ” คำไล่ดังกล่าวทำเอาน้องสาวต่างสายเลือดอึ้งไปทันที ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าเขายังอ่อนโยนกับเธอ ปทิตตาได้แต่คิดด้วยความน้อยใจ

“ค่ะ” เธอตอบพลางลุกขึ้นรวบเสื้อผ้าที่กองอยู่กับพื้นมาไว้ในมือและสวมมันด้วยความรวดเร็ว

ทุกอย่างจบลงแล้ว ก็แค่ความสัมพันธ์ฉาบฉวย จะไปมีความหมายอะไร เธอเป็นแค่เครื่องบำบัดความใคร่เท่านั้น สาวน้อยหน้าหวานพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ปล่อยให้น้ำตาแห่งความอ่อนแอไหลรินลงมาให้อีกฝ่ายต้องสมเพชอีก

“เดี๋ยวก่อน”

เจ้าของเสียงเข้มเอ่ยเรียกในขณะที่ร่างหญิงสาวกำลังก้าวไปถึงหน้าประตู “มีอะไรคะ?”

“หวังว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นคงไม่ทำให้เธอคิดอะไรไปไกลนะ”

คำพูดเตือนสติแต่ฟังแล้วสะเทือนใจจนแทบจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เขาช่างใจร้ายและไม่เคยคิดรักษาน้ำใจกันสักนิด ทุกอย่างเพราะความเมา นั่นคือสิ่งที่เธอจะจดจำไว้

“ทราบแล้วค่ะ” หญิงสาวหันหลังกลับออกไปจากห้อง ในขณะที่ผู้ชายปากร้ายแถมใจดำยิ่งกว่าอีกานอนกอดอกมองตามออกไปด้วยท่าทางสบายอารมณ์และน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด

ประตูห้องนอนซึ่งอยู่อีกฝั่งถูกเปิดออก เจ้าของห้องเดินเข้าไปอย่างหมดเรี่ยวแรง ปทิตตาทิ้งกายลงนั่งบนเตียงกว้าง น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาคู่สวยอย่างไม่ขาดสาย ไม่ได้เสียใจที่ตกเป็นของผู้ชายที่เธอรัก แต่เสียใจที่เขาดูถูกความรักที่มอบให้ บดขยี้แทบไม่มีชิ้นดี แม้รู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้เธอขอเพียงแค่ให้เขาเห็นใจและไม่รังเกียจกันก็พอ

หากเทียบกับผู้หญิงที่รายล้อมรอบกายของผู้มีสถานะเป็นพี่ชาย เธอคงเป็นได้เพียงเด็กกะโปโลคนหนึ่งที่ไม่ได้มีค่า มีความหมายอะไร นอกจากเป็นเพียงแค่กาฝากไร้ค่าที่เขาไม่เคยต้องการ

 

 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel