ตอนที่2 ไม่หวนกลับ
รสชาติความแค้นมันขม แต่รสชาติการแก้แค้นมักหอมหวาน
และก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ตาม…
ในบริเวณสุสานที่เงียบสงบ เหมาะแก่การหลับใหลอย่างไม่มีวันหวนกลับ ยิ่งเป็นเวลาเย็นย่ำก็ยิ่งดูวังเวงและหดหู่ใจ โดยเฉพาะคนเป็นญาติที่ต้องเผชิญกับผู้เป็นที่รักยามเหลือไว้เพียงชื่อ
ดอกลิลลี่สีขาวแทนความหมายของรักบริสุทธิ์ หรือจะบอกให้รู้ว่าดีใจกับการมีเธออยู่ในชีวิต แม้ตอนนี้เธอจะจากไปตลอดกาลก็ยังคงอยู่ในใจและความทรงจำตลอดไป ถูกวางไว้แท่นสุสานหน้ารูปของหญิงสาวที่งดงามดั่งภาพวาดจับต้องไม่ได้
ใช่ ตอนนี้และตลอดไปข้างหน้า เขาจับต้องเธอไม่ได้อีกตลอดกาล
“บ้านใหม่หลับสบายไหม” น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงความอบอุ่นอ่อนโยนเอ่ยถามออกมา ดวงตาล้ำลึกแต่สะท้อนความเศร้าหมองสบกับดวงตาคู่งามในรูปเบื้องหน้า
เป็นชายชาตรีวัยสามสิบเอ็ดปี แข็งแกร่งดั่งหินผา แต่กลับอ่อนไหวทุกคราเมื่อหวนนึกถึงทุกเรื่องราวระหว่างเรา
“แต่มันจะดีกว่านี้หากเราได้อยู่บ้านหลังเดียวกันเหมือนที่ผ่านมา” บ้านของเขาที่มีเธอ เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ร่องรอยของความสุขที่เกิดจากความรักที่มีต่อกันมายาวนาน
แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า ไร้เงาของเธอ ไร้ทุกอย่างที่เป็นเธอนอกจากความทรงจำที่แสนเจ็บปวดไว้ให้กับเขา
“พี่คิดถึงขวัญนะ”
ขวัญ หรือ ของขวัญ ชื่อของเธอ สิ่งมีชีวิตที่เป็นดั่งชื่อ ของขวัญสำหรับผู้ชายอย่างเขาที่ได้รักและครอบครอง
อีกไม่นานเลยจริงๆ อีกแค่ไม่กี่เดือนที่ประตูวิวาห์รออยู่เบื้องหน้าให้เขาจับจูงเธอเดินเข้าไป เป็นสามีภรรยาอย่างสมบูรณ์
แต่ก็ถูกพรากไปจากเดนมนุษย์ และสวะเห็นแก่ตัว...
“ขวัญจะไม่ตายฟรี กี่ชีวิตที่ทำให้ขวัญเจ็บปวด มันจะต้องเจ็บปวดกว่าขวัญอย่างเทียบไม่ได้” คำสัญญาเอ่ยขึ้นต่อหน้าหลุมศพของเธอ เขาในฐานะว่าที่สามีและคนรัก จะเป็นคนสะสางทุกอย่างเพื่อเธอเอง
แม้จะต้องลงมือพรากกี่ชีวิตก็ตาม
“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ” เสียงของเรย์มือขวาเดินเข้ามารายงานงานที่ลูกน้องจัดการให้เจ้านายรับรู้
เจ้าของร่างสูงหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซนติเมตร ชายหนุ่มลูกเสี้ยวในชุดสีดำทั้งตัว หลับตาลงระบายลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา
แต่ทันทีที่เปลือกตาเปิดขึ้นอีกครั้ง สายตาที่เคยอ่อนวูบก่อนหน้า แปรเปลี่ยนเหลือไว้เพียงความเย็นชาไร้หัวใจราวกับคนละคน
“พักผ่อนนะ” พูดกับสายลมต่อหน้าหลุมศพหญิงสาวที่รักอีกครั้ง หมุนกายเดินตรงไปที่รถยนต์ของตัวเอง มีลูกน้องคอยทำหน้าที่ขับรถให้ ก่อนจะตรงกลับไปยังคฤหาสน์หรูของเขา
สถานที่ชำระแค้น
ทันทีที่ก้าวลงมาถึงโถงทางเดินของชั้นใต้ดินในคฤหาสน์หรู ก็ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วสายหนึ่งดังขึ้นเหมือนไม่รู้ชะตากรรม
ปกติเขาใช้สถานที่แห่งนี้เก็บของสะสมที่ไม่ควรให้ใครได้พบเห็น มีห้องนั่งเล่นอยู่ร่วมด้วยหากอยากปลีกตัวจากความวุ่นวาย ไม่เคยคิดใช้สถานที่แห่งนี้ให้แปดเปื้อนเลยแม้แต่น้อย
แต่ครั้งนี้ถือเป็นกรณีพิเศษที่เขาจะมอบให้กับคนเห็นแก่ตัว
ปัง!
ผลักประตูห้องกระแทกกับผนังเสียงดัง ร่างบางและร่างเล็กที่พื้นสะดุ้งดึงกันกอดตัวกลมมองมายังบุคคลมาใหม่ และเธอก็ไม่รอรีบกระถดตัวถอยหนี
“คุณเป็นใคร” ข้าวหอมมองร่างสูงใหญ่ของชายตรงหน้า เอ่ยถามออกมาอย่างไม่เข้าใจและไม่เคยรู้จัก
เมื่อคืนเธอไม่คิดว่าจังหวะที่ตัวเองจะข่มตาหลับลงได้ กลายเป็นจังหวะที่เธอจะถูกลอบทำร้าย ตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในสถานที่ไม่คุ้นเคย ยังดีที่ลูกชายอยู่ข้างกาย หลับสนิทไร้ร่องรอยบาดเจ็บ
แล้วทำไมเขาถึงได้จับตัวเธอกับลูกมาที่แห่งนี้ การปฏิบัติที่ได้รับก็รู้แล้วว่าไม่ใช่เรื่องดี
เธอไม่เคยสร้างเรื่องหรือทำร้ายใคร
จะมีก็แต่...
“เด็กนี่สินะ ที่ทำให้เธอระยำผลักคนรักของฉันไปสู่ความตาย!”
“!!!” ร่างบางผงะกับคำพูดของอีกฝ่ายอย่างเข้าใจได้ทันที
สายตาที่เขาจับจ้องมายังลูกชายของเธอทำให้รับรู้ถึงสัญญาณอันตราย
เธอรีบกอดลูกชายวัยขวบเศษไว้แน่น ถอยหนีจนแผ่นหลังชนกับผนังห้องด้วยความหวาดกลัว
แต่มันไม่มีทางให้เธอหนีไปไหนได้นอกจากประตูที่เขายืนอยู่ใกล้และต้องผ่านไป
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่คิดจะทำร้ายใคร” เธอส่ายหัวเป็นพัลวันกับสิ่งที่ตัวเองพลาดพลั้งอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ไม่เลยจริงๆ
“คำพูดของเธอมันไร้ความหมายตั้งแต่วินาทีที่คนรักของฉัน จากโลกนี้ไป!” น้ำเสียงเขาเยือกเย็นจนเธอสะท้านไปทั้งร่าง มันสั่นเกร็งขึ้นอย่างง่ายดาย
“ฉันขอโทษ” เธอรู้ว่าคำขอโทษอาจไม่สามารถทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ แต่เธอขอโทษจริงๆ รู้สึกผิดจริงๆ
แต่คนที่เป็นฝ่ายสูญเสีย มันกลับเป็นเพียงลมปากที่เขาไม่แยแสเลยสักนิด
“สิ่งเดียวที่จะชดเชยชีวิตของคนรักฉันได้ ก็คือชีวิตคนทำผิด...”
“หรือไม่ ก็คนที่มันรัก”
“มะ...ไม่นะ” สายตาที่จับจ้องเธอเบนไปยังร่างเล็กในอ้อมกอดแทน
กระทั่งคำพิพากษาดังขึ้น
“เอาตัวเด็กนี่ไป!”
