บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 เลขาฯ คนใหม่

รถยุโรปคันหรูจอดเทียบที่บริษัทของปริญ เมื่อรถหยุดอยู่กับที่ลูกน้องที่ยืนอยู่ก็รีบเดินมาเปิดประตูให้เขาทันที พนักงานที่อยู่บริเวณนั้นต่างพากันก้มหัวโค้งคำนับ เขาพยักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปด้านในโดยไม่ได้มองผู้ใดเลยแม้แต่คนเดียว นิ้วเรียวกดปุ่มลิฟต์สำหรับผู้บริหาร เมื่อประตูลิฟต์ถูกเปิดออกเขาก็ก้าวเท้าเดินเข้าไปด้านในทันทีพร้อมกับลูกน้องคนสนิท

ลิฟต์เลื่อนขึ้นมาถึงชั้นบนสูงสุด ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก เขาก็เดินก้าวขาออกมาด้านนอกทันที ก่อนเข้าห้องไปเขาเหลือบไปมองโต๊ะทำงานของเลขาฯ สาวจอมเฉิ่มที่เคยนั่งอยู่ประจำ ก็อดคิดถึงไม่ได้และคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงกับเธอต่อดี

กายสูงเดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ ปริญหย่อนก้นนั่งลงแล้วเอาหลังพิงพนักเก้าอี้ทำงาน ก่อนที่จะหันหน้าออกไปทางด้านนอกกระจกบานใส มองออกไปอย่างไร้จุดหมายราวกับว่ามีเรื่องให้คิดหนัก

“กชมนไม่อยู่ ตอนนี้มึงมาช่วยกูทำงานก่อนนะเพทาย”

เขาเอ่ยขึ้นกับเพทายลูกน้องมือขวาเสียงเรียบ

“ห๊ะ!! ให้ผมช่วยนายทำงาน แล้วคุณกชมนล่ะครับนาย”

“กูจะให้ลายาวจนกว่ากูจะแน่ใจว่าเธอไม่คิดเอาเรื่องของกูไปบอกตำรวจ”

“แล้วนายจะเชื่อใจได้ยังไง?”

“............”

คำถามนี้ทำให้ปริญนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ใช่เขาจะเชื่อใจเธอได้อย่างไรว่ากชมนจะไม่เอาเรื่องของเขาไปบอกตำรวจ ถ้าเกิดเขาปล่อยตัวเธอมาแล้ว ถึงแม้ว่าปริญจะมีเส้นสายใหญ่โตคอยหนุนหลังอยู่บ้าง แต่ก็ยังมีตำรวจน้ำดีบางคนคอยจ้องเล่นงานเขาอยู่เหมือนกัน งานนี้เขาเลยไม่อยากที่จะเสี่ยงให้มากนัก แต่จะให้เขาฆ่ากชมนเลยคงจะใจร้ายเกินไป เขาก็เป็นคนคนหนึ่งที่มีหัวใจ ไม่ใช่คนเลวทรามต่ำช้าอะไรขนาดนั้น

“กูมีวิธีของกูก็แล้วกัน มึงทำตามที่กูสั่งก็พอ”

ปริญเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แววตาเย็นชาไร้ความรู้สึกจ้องมองไปตรงหน้าอย่างยากที่จะคาดเดา

“นายครับ ผมทำงานแทนคุณกชมนไม่ได้หรอกครับ นายคิดอะไรอยู่”

“แล้วมึงจะให้ใครมาทำงานกับกูไอ้เพทาย นอกจากกชมนแล้ว ใครจะมาทำงานให้กูได้..กูไม่ไว้ใจ”

เพทายถึงกับหน้าเจื่อนทันที ใช่สินอกจากกชมนแล้ว ใครจะกล้าทำงานกับปริญ เจ้านายจอมเผด็จการคนนี้ คนที่ไม่มีใครกล้าเข้าหา

"เอ่อ...แล้วผมต้องทำยังไงบ้างครับนาย นายสอนผมแล้วกันครับ"

น้ำเสียงอ้อมแอ้ม พูดขึ้นไม่เต็มเสียงนัก เพทายคิ้วยู่เข้าหากันอย่างห้ามไม่ได้ เขาจะทำอย่างไรล่ะทีนี้ ไหนจะงานที่โกดัง ในจะงานที่บริษัท เดิมทีก็แทบจะไม่มีเวลาได้พักแล้ว แบบนี้ไม่ต้องขยับตัวไปไหนเลยสินะ

"ออกไปก่อน เดี๋ยวกูขอคิดก่อนว่าจะเอาไงดี ให้กูมานั่งเสียเวลาสอนมึงเนี่ย กูปวดหัวตายห่ากันพอดี"

"ครับนาย"

สิ้นคำสั่งเพทายก็โค้งตัวให้ปริญแล้วหันหลังเดินออกไปจากห้องทันที เขานั่งอยู่สักพักก็หันกลับมาโฟกัสกับเอกสารที่กองอยู่ตรงหน้า ค่อย ๆ อ่านมันทีละแฟ้มอย่างละเอียดก่อนที่จะเซ็นอนุมัติ ปริญเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบมาก ผิดนิดเดียวก็ไม่ได้ แถมยังเนี้ยบจัด เรื่องความดุเป็นที่หนึ่ง จึงไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าหาประธานคนนี้เท่าไรนัก

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูจากด้านนอกดังขึ้น ปริญที่กำลังนั่งทำงานอยู่ละสายตาขึ้นมา ก่อนที่จะอนุญาตให้คนด้านนอกเข้ามาด้านใน ผู้หญิงสาวสวยรูปร่างเพรียวบางราวกับนางแบบ อกเป็นอก นมเป็นม เอวคอดกิ่วรับกับสะโพกที่ผึ่งผายได้รูป ยืนยิ้มช้อนสายตามองเขาอย่างหยาดเยิ้ม หล่อนมาพร้อมกับเพทาย

“นายครับเอ่อ...พอดีว่าผมบอกคุณพาขวัญแล้วแต่ว่าเธอไม่ฟังจะเข้ามาท่าเดียวเลย”

ปริญไล่สายตามองผู้หญิงสวยที่อยู่ตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า พลางทำสีหน้าเย็นชาเรียบเฉยไม่ได้ยิ้มตอบกลับหล่อนเลยแม้แต่นิดเดียว

“มาทำอะไร?”

พาขวัญหน้าเจื่อนทันทีที่ได้ยินผู้ชายที่ตัวเองต้องการจะอ่อยพูดขึ้นแบบนี้

“ขวัญก็มาหาคุณไงคะปริญ ตอนนี้ไม่มีเลขาฯ ใช่ไหม ให้ขวัญเป็นเลขาฯ ให้นะคะ”

“คุณรู้ได้ยังไง?"

ปริญเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้ม สายตายังคงมองยิ่งสาวด้วยความขัดใจกับกิริยาท่าทางที่หล่อนมีต่อเขา คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปม สายตาวาวโรจน์จ้องมองคนตรงหน้า

"ก็เห็นลูกน้องคุณเดินบ่นอยู่หน้าห้องเมื่อกี้นี้นี่คะ หรือว่าไม่จริงคะ"

ปริญตวัดหางตาไปมองเพทายเชิงตำหนิ ที่กล้าบ่นเขาลับหลัง เพทายถึงกับหน้าเจื่อนทันที ที่ได้ยินพาขวัญเอ่ยออกไปแบบนั้น เขาไม่คิดว่าเธอจะเดินมาหาพอดี พาขวัญเป็นพนักงานคนนึงในบริษัทนี้ แม่ของเธอเป็นเพื่อนสนิทของแม่ปริญ เลยฝากฝังให้ทำงานที่นี่หวังว่าจะให้มาเป็นเลขาฯ ปริญตั้งแต่แรก

แต่คนเรื่องมากไม่ยอมใครง่าย ๆ อย่างปริญมีหรือจะยอม เขาเลยส่งพาขวัญไปทำงานที่แผนกการเงินแทน อย่างน้อยก็ไม่ได้ผิดคำพูดกับมารดาว่าจะรับผู้หญิงคนนี้มาทำงานในบริษัท

เพทายเดินอ้อมมาด้านหลังของปริญแล้วโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้าง ๆ กกหูของนายหนุ่ม

"นายครับให้คุณพาขวัญช่วยทำงานแทนคุณกชมนแก้ขัดไปก่อนดีไหมครับ อย่างน้อยก็ดีกว่าให้ผมทำนะครับ"

เสียงของเพทายเอ่ยออกมาให้ได้ยินกันแค่สองคน ปริญเหลือบหางตาไปมองลูกน้องตัวเอง แล้วชั่งใจอยู่สักพักว่าจะเอายังไงดี แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อไม่มีใครทำงานให้เขาก็ต้องเอาคนนี้ไปก่อน

“ไปหาโต๊ะมาให้เธอ ห้ามใช้โต๊ะของกชมน”

“เธอมาเป็นเลขาฯ ฉันแค่ชั่วคราวเท่านั้นเข้าใจไหม”

“ค่ะปริญ”

"ฉันไม่ได้สนิทกับเธอขนาดนั้น เรียกท่านประธานห้ามเรียกชื่อเฉย ๆ เข้าใจไหม!!"

"ค่ะท่านประธาน"

พาขวัญก้มหน้าหลุบต่ำ เมื่อได้ยินเสียงก้องกังวานของชายหนุ่ม ที่แลดูไม่ค่อยสบอารมณ์ในตัวเธอสักเท่าไร แอบรู้สึกไม่พอใจกับคำว่าเลขาฯ ชั่วคราว หล่อนอยากที่จะเป็นเลขาฯ ของเขาตลอดไปต่างหากล่ะ

“ไปทำงานสิมัวรออะไร”

“ค่ะท่านประธาน”

พาขวัญรีบหันหลังแล้วเดินออกมาจากห้องปริญทันทีเมื่อถูกเขาไล่ออกมา

“คอยดูเถอะ...ถ้าได้ขึ้นเตียงกับฉันเมื่อไร จะเอาให้หลงจนโงหัวไม่ขึ้นเลย ชิ!!”

หล่อนเอ่ยพึมพำอยู่คนเดียว แต่คำพูดนั้นดันลอยไปเข้าหูของเพทายที่เดินออกจากห้องตามเธอมาติด ๆ

“คิดจะทำอะไร ผมเตือนด้วยความหวังดี อย่ายุ่งกับนายดีกว่า อย่าหาเรื่องใส่ตัว”

เพทายกระตุกยิ้มมุมปากเบา ๆ มองพาขวัญตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า พลางคิดในใจว่านายจะรอดพ้นเงื้อมมือของผู้หญิงคนนี้หรือเปล่าเนี่ย

แอร๊ดดดดด~~

เสียงประตูเปิดออกไร้การเคาะเพื่อขออนุญาต พาขวัญเดินเข้ามาพร้อมแก้วกาแฟ หล่อนค่อย ๆ วางกาแฟไว้ที่โต๊ะทำงานของปริญ แล้วเดินไปทางด้านหลังของปริญ มือเล็กถือวิสาสะจับที่บ่าแกร่งนวดเบา ๆ เพื่อหวังให้ปริญผ่อนคลาย

“เดี๋ยวขวัญนวดให้นะคะ จะได้ผ่อนคลาย”

หญิงสาวยื่นหน้ามากระซิบข้าง ๆ กกหูของปริญ ตอนนี้มือเขากำปากกาแท่งหรูจนเห็นเส้นเลือดปูดนูน ปริญวางปากกาลงแล้วหันหน้าไปทางหล่อน มือหนายกขึ้นมาบีบเข้าที่คอระหงอย่างแรงจนหน้าหล่อนแดงก่ำ

พาขวัญพยายามแกะมือใหญ่ ที่กำต้นคอของตัวเองเอาไว้ออกแต่พยายามเท่าไรก็ไร้ผล ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของหล่อนกำลังจะหมดลง ปริญจึงคลายมือออกเพื่อปลดปล่อยหล่อนจากพันธนาการ หญิงสาวรีบเอามือจับคอตัวเองอย่างไว หน้าตาหล่อนตอนนี้แดงก่ำไปหมด

แคร่ก แคร่ก แคร่ก

“มือไม่มีรึไงทำไมไม่เคาะประตู แล้วฉันบอกเธอรึยังว่าให้มานวดให้ฉัน...ออกไป!!”

คนตัวเล็กรีบลนลานวิ่งออกไปจากห้องทำงานของปริญทันที หล่อนไม่คิดว่าปริญจะเป็นคนโมโหร้ายได้ขนาดนี้ แต่พาขวัญก็ยังไม่ละความพยายามง่าย ๆ แน่ ถ้ายังไม่ได้ตัวปริญมาครอบครอง ในเมื่อหล่อนมีโอกาสได้มานั่งเป็นถึงเลขาฯ ของท่านประธาน หล่อนจะต้องใช้โอกาสนี้จับเขาให้อยู่หมัดให้ได้แน่นอน

“ไอ้บ้าเอ๊ย เล่นซะเกือบตาย คอยดูเถอะคนอย่างอีพาขวัญไม่หยุดแค่นี้แน่”

หล่อนเดินไปกระแทกก้นลงที่เก้าอี้ทำงานตัวนิ่มอย่างแรง การทำงานวัน ๆ หนึ่งของเลขาฯ คนใหม่ ไม่ได้ช่วยให้ปริญทำงานได้อย่างราบรื่นเลยแม้แต่น้อย กับสร้างปัญหาให้เขาเพิ่มอีก

เอกสารบางอย่างที่จะต้องตรวจเช็คให้ละเอียดก่อนที่จะส่งมาให้เขาอนุมัติ ก็ไม่ได้มีการตรวจเช็คอะไร แม้แต่คำผิดบนหัวข้อโครงการ เธอยังไม่สังเกตเห็นมันเลยเสียด้วยซ้ำ บรรดาหัวหน้าแผนกทั้งหลายต่างพากันบ่นอุบถึงการทำงานของเลขาฯ คนใหม่ ที่ไม่สามารถประสานงานให้พวกเขาได้อย่างราบรื่นเหมือนตอนที่กชมนทำ ตอนนี้ทุกคนเฝ้ารอการกลับมาของกชมน

นี่ก็ผ่านไปเดือนนึงแล้วเธอยังไม่กลับมาทำงานเลย สร้างความหนักอกหนักใจให้กับหัวหน้าแผนกที่จะต้องคอยดิลงานกับเลขาฯ คนใหม่ เพื่อส่งเอกสารไปให้ท่านประธานอนุมัติ รวมถึงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่กชมนเคยทำได้ พาขวัญกับผลักภาระมาให้พวกเขา ไม่ยอมช่วยเหลือหรือให้ความร่วมมือเหมือนกชมนเลยแม้แต่นิดเดียว

“เมื่อไรน้องมนจะกลับมาเนอะ ยัยพาขวัญทำงานไม่ได้เรื่องเลย ท่านประธานให้มาเป็นเลขาฯ ได้ยังไง”

เสียงหัวหน้าแผนกบัญชีเอ่ยขึ้น พูดคุยกับหัวหน้าแผนกคนอื่น ๆ

“จริงมีแต่ความเอ็กซ์เซ็กซี่ นี่น้องมนหายไปไหนเนี่ย ทำไมลานานจังไม่ใช่ลาออกไปแล้วเหรอ ถ้าเป็นแบบนี้แย่แน่ ๆ”

พนักงานสาวเอ่ยขึ้นสมทบ ก่อนที่จะทำสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด เพราะตอนกชมนอยู่เวลามีปัญหาอะไรเธอจะเป็นคนออกหน้าแทนพวกเขาตลอด เพื่อลดแรงปะทะกับท่านประธานจอมโหด

“หรือท่านประธานจะชอบเลขาฯ แบบยัยพาขวัญ”

“จริงด้วย”

แต่ทุกการสนทนาก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อปริญเดินผ่านมา สายตาคมกริบราวกับใบมีดจ้องมองมายังพวกเขา รังสีอำมหิตแผ่ซ่านไปรอบตัวปริญ เหล่าบรรดาพนักงานต่างพากันแยกย้ายออกไปจากตรงนั้นทันทีราวกับผึ้งแตกรัง ปริญถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะเดินตรงไปที่ลิฟต์ผู้บริหาร แล้วกดปุ่มลงไปชั้นล่าง โดยมีเพทายเดินตามมาอยู่ข้างกายเขาด้วย

“เลขาฯ ที่มึงบอกว่าใช้แก้ขับไปก่อน มึงรู้ไหมว่าทำกูปวดหัวทุกวัน กูอยากจะบ้าตาย”

“ก็มันไม่รู้จะหาใครมาแล้วครับนาย ไม่มีใครกล้ามาเป็นเลขาฯ ให้นาย นอกจากยัยพาขวัญนั่น”

เพทายเอ่ยขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ปริญถึงกับถลึงตามองลูกน้องตัวเอง สายตาคาดโทษจ้องมองเพทายอยู่อย่างนั้น จนเขาถึงกับต้องยืนตัวลีบไม่กล้าแม้แต่จะขยับเขยื่อน

"กูไม่ไหวแล้วกับเลขาฯ คนนี้"

เสียงบ่นอุบของนายหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างหัวเสีย เพทายถึงกับรอบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาจะทำอย่างไรได้ในเมื่อปริญไม่ยอมให้กชมนกลับมาทำงานเสียที

"นายก็ให้คุณกชมนกลับมาทำงานสักทีสิครับ"

"กูยังไม่ไว้ใจ"

"ถ้าอย่างนั้นนายก็อยู่กับเลขาฯ คนสวยของนายไปแบบนี้แหละครับ หึ ๆ ๆ"

เสียงหัวเราะเบา ๆ ของเพทายทำเอาปริญถึงกับหันขวับไปมองหน้าลูกน้องคนสนิท เพทายลืมตัวว่าตอนนี้กำลังคุยกับเจ้านายอยู่ ความจริงปริญใช่ว่าจะถือตัว แต่เวลาโมโหเขาน่ากลัวยิ่งกว่าพายุทอร์นาโดเสียอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel